Gate of God - ตอนที่ 488
Gate of God ตอนที่ 488 เฉลิมฉลอง
…
ร่างทั้งสองร่างยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์
หลังจากกินและดื่มเรียบร้อยฟาง เจิ้งจือ ก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ สิ่งที่เขายังไม่ได้ทำตอนนี้คือหลับพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม…
เขายังคงเลือกที่จะนั่งพักอยู่กับฉือ กูเหยียน
ไม่มีเหตุผลพิเศษอาจจะเป็นเพราะเขาอยากขอบคุณนางที่ช่วยเขามาตลอด
ตอนนี้ไม่มีอันตรายใดๆแล้วอาจจะมีแค่เพียงเสียงของสัตว์ร้ายที่ดังขึ้นมาบ้างขณะที่พวกเรากำลังกินขนมกันอยู่ พวกเขาสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งๆที่มีกองทัพปีศาจล้อมรอบอยู่
มันเป็นค่ำคืนที่ดวงจันทร์สวยเป็นอย่างมาก
เขานอนเอนกายลงบนเก้าอี้และพาดขาไว้บนโต๊ะมือหนึ่งของเขาถือถั่วอยู่เต็มกำมือ
”เจ้ามีแผนอะไรหลังจากกลับไปเมืองหลวง?”ฉือ กูเหยียน แปลกใจที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ผ่อนคลายมาก
”ข้าคงไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือก่อน”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง ฉือ กูเหยียน
ตอนนี้นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินพร้อมกับลายดอกไม้ปักอยู่ที่หน้าอกของนาง
ฟางเจิ้งจือ ต้องยอมรับว่านางมีเสน่ห์มาก
เสียที่นางหยิ่งยโสเกินไปหน่อย
”แล้วไงต่อ?”ฉือ กูเหยียน ยังคงกดดัน ฟาง เจิ้งจือ
”ข้าคงจะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆ”
”และ?”
”แต่งงาน… เอ่อหาคนใช้สักร้อยคน”
”ร้อย?!”
”ใช่”
”ร้อยพองั้นรึ?”
”ฮ่าฮ่า…แค่นี้ข้าก็ต้องจ่ายค่าจ้างพวกเขามากเกินไปแล้ว”
”อืมมันเป็นเรื่องจริง”ฉือ กูเหยียน พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ฟางเจิ้งจือ เองก็เงียบ เขายังกินถั่วต่อไป แต่เขาพบว่ามันไม่อร่อยเหมือนเดิมแล้ว
คืนนี้อากาศหนาวเย็นมาก
มันเกือบจะถึงฤดูหนาวแล้ว
หลังจากนั้นสักครู่…
ฉือกูเหยียน ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
”เมื่อเจ้ากลับไปข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิคงมอบตำแหน่งรัฐมนตรีกรมพิธีการให้เจ้า เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
”งั้นข้าก็คงรับละมั้ง”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”การคัดเลือกผู้เข้าร่วมศาลาเต๋าสวรรจะเริ่มในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเจ้าจะเข้าร่วมไหม?” เสียงของนางนั้นสงบ แต่สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ว่าทำไมนางถึงถามและเขาก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว
ปัญหาเดียวคือ…
เขาจะสามารถทำได้หรือไม่?
มันดูเหมือนจะเร็วเกินไป…
ค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงบยิ่งนัก
ฟางเจิ้งจือ แหงนหน้าขึ้นและหลับตาลง
ฉือกูเหยียน ไม่ได้กดดันต่อ นางนั่งเงียบๆและมองดวงดาวบนท้องฟ้า
มันเป็นคืนที่เงียบสงบจริงๆ…
ห่างออกไปยังมีร่างหนึ่งยืนเงียบๆ…
นางสวมชุดหนังสีดำตัดกับผิวที่เปล่งประกายของนาง
นางยืนมองร่างทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยกันภายใต้แสงดวงจันทร์
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทและหัวหน้าถิ่นฐานกำลังรอท่านอยู่” ใครบางคนกระซิบข้างๆนางอย่างเคารพ
”ข้าเข้าใจแล้วมีการเคลื่อนไหวจากปีศาจหรือไม่?”
”ยังไม่ขอรับ”
”อืมถ่ายทอดคำสั่งของข้า หน่วยหมาปาเขาเงินจะช่วยป้องกันเนินเขาเหล็กด้วย จะต้องไม่มีจุดไหนที่ปีศาจเล็ดรอดเข้ามาได้! ใครที่ไม่เชื่อฟังให้ลงโทษซะ!”
”รับทราบ!”เสียงตอบกลับดังขึ้น ก่อนที่เขาจะหายไป
นางยังคงมองร่างทั้งสองอยู่อีกสักพักหนึ่งดวงตาของนางเผยความรู้สึกบางอย่างออกมา ก่อนที่นางจะจากไป
…
ยามรุ่งสางฉือ กูเหยียน ได้จากไปพร้อมกับ ปิง หยาง
กองทัพปีศาจยังคงตั้งทัพอยู่ที่ด้านนอกของเนินเขาเหล็กพวกเขายังคงฝึกซ้อมรบ แต่ไม่มีที่ท่าว่าจะโจมตี
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ว่างมาก เขาจึงเดินไปนั่งที่กำแพงเนินเขาเหล็ก
มักจะมีร่างหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของกระโจมปีศาจเสมอนางสวมชุดสีดำ
สามวันต่อมากองทัพปีศาจก็ได้ถอนทัพไป
สงครามแดนใต้ได้จบลงแล้ว
ในฐานะผู้บัญชาการซิง หยวนกัว ได้ตรงกับไปที่เมืองหลวงทันที ซิง ฉิงซุย และหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา รวมถึงทหารทั้งหมดก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…
องค์รัชทาทหลิน เทียนหลง ยังไม่ได้กลับไปทันที
ผู้เข้าสอบทุกคนก็เช่นกันพวกเขายังคงรองานเลี้ยงฉลองอยู่ที่แดนใต้
ในฐานะที่พวกเขามีส่วนร่วมในชัยชนะครั้งยิ่งใหญ๋…
ฟางเจิ้งจือ เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาตามเหล่าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้กลับไปที่เมืองภูเขาเซียนเพื่อร่วมฉลอง
ในเวลาเดียวกันที่เมืองหลวงของอาณาจักรเซี่ยก็มีการเฉลิมฉลองเช่นกกัน
ข่าวสงครามได้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแดนใต้ทำให้ทุกคนแทบบ้าคลั่ง
”เจ้าได้ยินไหม?ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับเซียน!”
”แน่นอนข้าต้องได้ยินอยู่แล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงาม!”
“มันน่าเสียดาย ที่นี่เป็นจุดจบของเส้นทางผู้ฝึกตนของเขา”
”แล้วยังไง?การมีส่วนร่วมในการต่อสู้นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับวางวัลเป็นอย่างมาก! ต่อให้เขาไม่ใช้ผู้ฝึกตนแล้ว เขาก็ยังถือเป็นคนสำคัญของอาณาจักรอยู่ดี! สิ่งที่เขาทำนั้นมีคุณค่าเป็นอย่างมาก!”
แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องพูดถึงฟาง เจิ้งจือ …
…
ในห้องบัลลังก์…
เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งรวมถึงองค์จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ตอนนี้พวกเขากำลังยินดีเป็นอย่างมาก
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม…
มันเป็นไปในทางที่ดีกว่าที่เขาคิดมากแม้ว่าพวกเขาจะพบกับความสูญเสียไปบ้าง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นกลับคุ้มค่าเป็นอย่างมาก องค์จักรพรรดิทรงยินดีเป็นอย่างมาก
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทเป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะในครั้งนี้ ตอนนี้เขาได้เจรจากับแดนใต้อยู่ ในความเห็นของข้า… ”
”คาดว่าซิง เฮ่า จะเดินทางมาถึงเมื่อไร?” องค์จักรพรรดิถามขึ้นมา พร้อมกับโบกมือให้เจ้าหน้าที่คนนั้นหยุดพูด
”ฝ่าบาทมีรายงานว่าเขาได้เดินทางออกมาจากดินแดนภูเขาทางใต้แล้ว เขาน่าจะมาถึงอีกห้าวันข้างหน้า” เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งก้าวขึ้นมาข้างหน้า ก่อนจะยิ้มเยาะเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้า
องค์รัชทายาท?
แน่นอนว่าเขาต้องมีส่วนร่วมในสงครามแดนใต้ในฐานหัวหน้าผู้คุมสอบ เขาก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะ
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ… การมีส่วนร่วมของเขานั้นเล็กน้อยมาก
”ตกลงคำสั่งของข้ามีดังนี้ บอก ซิง หยวนกัว ว่าไม่ต้องรีบ ให้เขาดูแลตัวเองด้วย ทุกเมืองจะจัดการต้อนรับเขา แล้วอย่าลืมให้รางวัลกับกองทัพด้วย” องค์จักรพรรดิพยักหน้า
”รับทราบฝ่าบาท!”
”ใช่แล้วฟาง เจิ้งจือ ยังอยู่ที่แดนใต้ใช่ไหม?” องค์จักรพรรดิเหมือนจะนึกเรื่องบางอย่างได้
”ฝ่าบาทฟาง เจิ้งจือ กำลังเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของดินแดนภูเขาทางใต้อยู่ เขาหน้าจะอยู่ที่นั่นอีกหนึ่งอาทิตย์ เขาน่าจะกลับมาพร้อมกับองค์รัชทายาท..” เจ้าหน้าที่ตอบ
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างมองหน้ากันพวกเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น…
พูดถึงฟาง เจิ้งจือ หลังจาก ซิง หยวนกัว…
นั่นหมายความว่าคุณค่าของเขาตอนนี้มากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสี่แล้ว
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้คัดค้านอะไร
อายุสิบหกปี…
เขาเป็นชายรุ่นเยาว์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตอนนี้แล้วและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สงครามครั้งนี้ชนะ
การต่อสู้กับคังหยางในกลืนกินโลก
เรื่องนี้จะทำให้เขาโด่งดังไปทั่วอาณาจักร…
แม้เขาอาจจะไม่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์หรืออะไรก็ตามอีกต่อไป…มันก็ไม่สำคัญแล้ว
”ตกลงนี่คือคำสั่งของข้า ฟาง เจิ้งจือ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของรัฐมนตรีกรมพิธีการ เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสามชั่วคราว รวมถึงเป็นตัวแทนของรัฐมนตรีกรมพิธีการและช่วยเรื่องการเจรจากับดินแดนภูเขาทางใต้” องค์จักรพรรดิออกคำสั่ง
”รับทราบฝ่าบาท!” เจ้าหน้าที่ทั้งหมดตอบทันที
ไม่มีใครกล้ายกความจริงเรื่องที่พลังของฟาง เจิ้งจือ ถูกทำลายไปจนหมดแล้วมาพูด แม้แต่รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายยู่ ยี่ปิง ยังทำได้แค่หลับตา และพยายามรักษาความสงบเอาไว้
พวกเขาทั้งหมดได้ยินคำว่า”ชั่วคราว”
เจ้าหน้าที่ระดับสาม?ชั่วคราว?
เขาได้รับการเลื่อนขั้นทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้กลับมาที่เมืองหลวงแล้วรางวัลที่เขาจะได้รับหลังจากกลับมาที่เมืองหลวงละ? ไม่มีใครคาดเดาได้แม้แต่น้อย