Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 750 ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน
- Home
- All Mangas
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 750 ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน
ตอนที่ 750 ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน
สามวันผ่านไป
แผนกซีรีส์
ทีมงานผู้ผลิตซีรีส์เรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอเปิดประชุม ในเวลานี้สีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก
โปรดิวเซอร์ส่ายหน้า
“เพิ่งเห็นว่าคะแนนของผู้ชมในเว็บไซต์สตาร์เน็ตลดลงอีกหนึ่งจุด แถมปริมาณการกดรับชมวีดิโอในสองวันนี้ก็ลดลงเรื่อยๆ ”
“งานรีเมกนี่มันกับดักครั้งใหญ่จริงๆ ”
“ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่สู้พวกเราผลิตซีรีส์ขึ้นมาเอง อย่างน้อยผู้ชมคงไม่ถึงขั้นคุ้นเคยกันเนื้อเรื่องขนาดนี้”
“บางทีถ้าปรับแก้พล็อตเรื่องอาจมีความหวังอยู่ บ้าง”
“แน่นอนผมรู้ว่าแก้พล็อตเรื่องแล้วอาจมีความหวัง แต่คำถามคือจะแก้ยังไง พวกเราใช่ว่าจะไม่ได้ใส่ตัวละครใหม่เข้าไป”
“น่าเสียดาย นักแสดงดีขนาดนี้ คอสตูมเมกอัปพร็อปก็ทำถึง!”
“เงินทุนมหาศาลแบบนี้จะเสียเปล่า”
ทุกคนรู้สึกจนใจ
ผู้กำกับถอนหายใจ “อาจารย์นักเขียนบทเตรียมเขียนให้จบภายในห้าตอนเถอะ นับว่าเป็นการหยุดความเสียหายให้ทันท่วงที”
“อย่าเพิ่ง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากหน้าประตู
ทุกคนหันไปมอง และพากันเอ่ยขึ้น
“หัวหน้าจ้าว!”
จ้าวเจวี๋ยพักหน้า
เธอเพิ่งกลับมาจากห้องทำงานของหลินเยวียน พร้อมกับบทใหม่ในมือ “ลองดูบทนี้…”
ทุกคนจ้องมองบทในมือของจ้าวเจวี๋ย
จ้าวเจวี๋ยอธิบาย ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้บอกทุกคนเรื่องที่เธอไปขอความช่วยเหลือจากเซี่ยนอวี๋ เพราะเธอไม่มั่นใจว่าทางเซี่ยนอวี๋จะทำได้หรือไม่ ตอนนี้ทำสำเร็จแล้วเธอจึงกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา นับว่าเป็นการปลอบขวัญกำลังพล
เมื่อทุกคนฟังจบต่างก็มีสีหน้าแปลกพิลึก
“คุณหมายถึงคุณไปหาอาจารย์เซี่ยนอวี๋เพื่อให้เขาช่วยเขียนบทหลังจากนี้ของหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ แต่อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่มีแรงบันดาลใจชั่วคราว จึงไหว้วานให้ฉู่ขวงที่เป็นเพื่อนสนิทช่วยเขียนบทตอนต่อๆ ไปของซีรีส์…”
ชื่อเสียงของคนประหนึ่งร่มเงาของต้นไม้ใหญ่
ฉู่ขวงหรือเซี่ยนอวี๋ ไม่ว่าใครจะเขียนบทก็ล้วนมากพอที่ทีมงานจะให้ความสำคัญ!
สีหน้าของทุกคนจริงจังขึ้นมา
แววตาสิ้นหวังของพวกเขา แลดูคาดหวังขึ้นมาหลายส่วน
บางทีเรื่องนี้อาจมีความหวังก็ได้?
ถึงอย่างไรคนที่ออกโรงคือฉู่ขวงเชียวนะ!
พวกเขาพิมพ์บทซีรีส์ออกมาสิบกว่าชุดและแจกจ่าย
รวมไปถึงนักเขียนบทอีกหลายคนก็ได้รับบทซีรีส์เช่นเดียวกัน
ทุกวันนี้ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีรีส์มักมีนักเขียนบทมากกว่าหนึ่งคน
ประจวบเหมาะกับจ้าวเจวี๋ยเองก็อยากฟังความคิดเห็นซึ่งนักเขียนบทดั้งเดิมมีต่อบทที่ฉู่ขวงปรับแก้
ไม่ทันไร
ห้องก็เงียบลง
ทุกคนกำลังอ่านบท
จ้าวเจวี๋ยไม่ได้อ่าน เธอเพิ่งมาดูแลแผนกซีรีส์ อยู่ในระดับผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ ไม่ได้มีแนวคิดใดเกี่ยวกับบทซีรีส์
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
จู่ๆ นักเขียนบทคนหนึ่งก็กระโดดโหยง และโพล่งออกมาว่า
“เชี่ยย!”
จ้าวเจวี๋ยตกใจจนสะดุ้ง
เกิดอะไรขึ้น
ทันใดนั้น
นักเขียนบทอีกหลายคนซึ่งอยู่ด้านข้างใบหน้าแดงก่ำ
“เจ้าแก่ฉู่ขวงร้ายมาก!”
“นี่คือฝีมือเจ้าแก่ฉู่ขวง”
“นอกจากเขาก็ไม่มีใครกล้าเขียนแบบนี้แล้ว!”
“ถ่ายทำแบบนี้ผู้ชมก็ลุกฮือน่ะสิ!”
“การปรับแก้ครั้งใหญ่นี้รุนแรงมากนะ คนดูได้ด่าพวกเราตายเลย!”
“…”
จ้าวเจวี๋ยสีหน้าตกใจ
เรื่องราวหลังจากนี้อุกอาจมาก?
เธอมองไปยังผู้กำกับ “ในนั้นเขียนว่ายังไง”
ผู้กำกับไม่ตอบ
ในขณะนั้นจ้าวเจวี๋ยถึงสังเกตเห็นว่าผู้กำกับซึ่งถือบทอยู่นั้นคล้ายกับกำลังตกตะลึง มองบทซีรีส์อย่างนิ่งอึ้งอยู่เช่นนั้น
“สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นคะ”
จ้าวเจวี๋ยรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกชอบกล
ในที่สุด
ผู้กำกับก็เงยหน้าขึ้น มองไปยังจ้าวเจวี๋ยด้วยสีหน้าที่ยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย
“ตายแล้ว”
“ตายอะไร”
“ผู้หญิงคนนี้ฆ่ายับ…”
“ฉันฟังไม่เข้าใจ ขอถามประโยคเดียว ถ่ายทำได้ไหม!”
จ้าวเจวี๋ยร้อนรน!
ผู้กำกับลังเลอยู่นาน ทันใดนั้นก็กัดฟันพูดขึ้น
“แม่*เอ๊ย!”
“ผู้กำกับ!”
ทุกคนสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “บทนี่…”
“พยายามทั้งที่รู้ว่าไม่มีความหวัง!”
ผู้กำกับถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ส่งบทให้นักแสดง พรุ่งนี้ถ่ายทำตอนต่อไป ไม่ต้องใช้บทก่อนหน้านี้ ใช้บทที่ฉู่ขวงเขียนแทน!”
……
ในวันนี้
เมื่อเหล่านักแสดงอ่านบทตอนต่อไปของหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอจบ ในหมู่ทีมงานก็เกิดความโกลาหลตั้งแต่เช้าตรู่!
“ฉันตายแล้ว?”
“ผมก็ตายเหมือนกัน”
“บังเอิญมาก เราตายกันหมด?”
“ตัวเอกชายอันดับสามก็เหมือนจะตายแล้วเหมือนกัน!”
“พล็อตนี้ไม่เหมือนต้นฉบับแฮะ!”
“อาจารย์นักเขียนบท คุณมีความแค้นกับต้นฉบับหรือเปล่า?”
“ถ้าถ่ายทำไปตามนี้ผู้ชมจะไม่ด่าเราฉ่ำเลยเหรอ?”
นักแสดงล้วนตะลึงงัน
หลังจากได้รับบทมาอ่าน หลายคนคิดว่าตนเองตาลาย อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าจะยืนยันว่าตนเองถูกตัวละครหญิงซึ่งโผล่มาอย่างกะทันหันปลิดชีพเสียแล้ว ต้องเข้าใจว่าพวกเขาทุกคนล้วนเป็นตัวละครสำคัญจากงานต้นฉบับ โดยพื้นฐานแล้วจะมีชีวิตอยู่กันอย่างสามัคคีไปจนจบ ผู้ชมจึงมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งต่อตัวละครเหล่านี้!
น่าเสียดายที่ความคิดเห็นของพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้กำกับได้
ถ่ายทำ
ตัดต่อ
ออกอากาศ
การทำงานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์บนบลูสตาร์มีประสิทธิภาพสูงมาก ผ่านไปไม่นาน เรื่องราวก็ปรากฏแก่สายตาของผู้ชม
……
ในบ้าน
แม่นั่งอยู่ที่โซฟาเพื่อนรอเรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอออกอากาศ ถึงแม้ปากจะบอกว่าเทซีรีส์เรื่องนี้แล้ว แต่แม่ก็คล้ายกับว่ายังไม่หมดความอดทนเสียทีเดียว ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นผลงานที่ผลิตโดยบริษัทของลูกชาย
“ดูซีรีส์กำลังภายในเรื่องนี้อีกแล้ว”
พี่สาวเอ่ยขึ้นขณะกำลังถ่ายเซลฟีอยู่ที่ริมระเบียง
“อื้อ”
แม่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
น้องสาวกำลังนั่งกินผลไม้กับแม่อยู่บนโซฟา สายตากลับไม่ได้จับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ เธอไม่สนใจซีรีส์กำลังภายใจ
หลินเยวียนกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้อง
เขารู้ว่าบริษัทได้ถ่ายทำตามบทที่เขามอบให้ แต่เขากลับไม่มั่นใจว่าการปรับแก้ของเขาจะทำให้ชาวเน็ตซื้อได้หรือไม่ อย่างไร เสียสถานการณ์ในครั้งนี้ก็ค่อนข้างพิเศษ
ถ้าผู้ชมซื้อ ก็จะมีการประกาศว่าผู้เขียนบทตอนต่อไปคือฉู่ขวง
ถ้าผู้ชมไม่ซื้อ ก็ทำทีเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างมากก็เพียงแค่บังคับโครงเรื่องให้กลับสู่เส้นทางเดิม
ในเวลานี้
ซีรีส์ออกอากาศแล้ว
และขณะที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศ
ชาวเน็ตจำนวนมากซึ่งติดตามซีรีส์เรื่องนี้ต่างคลิกเข้ามายังแพลตฟอร์มวิดีโอ มีการพูดคุยซึ่งมาพร้อมกับคอมเมนต์กระสุนเพียงเล็กน้อย
‘ตามตอนที่ 13 ด้วยความลำบากใจ’
‘ไม่มีซีรีส์อะไรจะดูแล้วจริงๆ ทำได้แค่ดูเรื่องนี้ ทำไมฉันถึงต้องชอบหยางเสี่ยวฝานขนาดนี้ด้วย’
‘ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับการดูฆ่าเวลา’
‘เคยดูฉบับรีเมกมาเจ็ดแปดรอบแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดเนื้อเรื่องตรงไหนไป มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าหน้าและหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น’
‘แรงจูงใจเดียวที่ทำให้ฉันดูต่อไปคือเบ้าหน้าฟ้าประธานของฉินเทียนเกอ’
‘ฉินเทียนเกอเวอร์ชันนี้หล่อจริง’
‘พล็อตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ ผมน่าจะใกล้เทซีรีส์แล้ว’
‘ไม่น่าสนใจเลยจริงๆ ผมกดข้ามๆๆ ’
……
ท่ามกลางการสนทนา ตอนที่ 13 ก็ออกอากาศ
ฉินเทียนเกอซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเอกชายได้บังเอิญช่วยเหลือหญิงสาวงามสะคราญคนหนึ่งซึ่งตกทุกข์ได้ยาก
ท่ามกลางแสงจันทร์
ฉินเทียนเกออุ้มหญิงสาวกระโดดข้ามกำแพง
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาและเย็นชา แววตาสะท้อนแสงดาวพร่างพราย ราวกลับเสียสติไปก็มิปาน
“ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน ผู้มีพระคุณมีนามว่าอะไรหรือ?”
“ดูแลตัวเองด้วย”
หลังจากแตะถึงพื้น หญิงสาวชวนคุย แต่ฉินเทียนเกอกลับยังคงเย็นชาดังเคย
แม้ว่าเขาจะทำความดีด้วยจิตใจที่อบอุ่นก็ตาม
ก่อนคำพูดจะจบลง ชายคนนั้นได้จากไปเสียแล้ว ทิ้งให้หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังของเขาอย่างเหม่อลอยเพียงลำพัง
……
ชาวเน็ตประหลาดใจ
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร’
‘เจียงอวี้เยี่ยน?’
‘ไม่รู้จักแฮะ’
‘ในต้นฉบับมีด้วยหรือ?’
‘เหมือนว่าจะเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาใหม่’
‘นักแสดงหญิงคนนี้สวยมาก’
‘นางเอกมาดูเร็ว มีคนจะแย่งฉินเทียนเกอแล้ว!’
‘ฮ่าๆๆ ฉินเทียนเกอเดินไปไหนก็ครองใจสาวๆ ได้’
‘รู้สึกว่านักแสดงหญิงคนนี้สวยไม่เป็นรองนางเอกเลย’
……
ผู้ชมก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเช่นกัน
การรีเมกซีรีส์กำลังภายในมักเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามา แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นไปตามงานต้นฉบับ โครงเรื่องที่ซึ่งสร้างขึ้นใหม่นี้โดยมากไม่ได้สำหลักสำคัญอะไร
อย่างไรก็ตาม ไม่นานผู้ชมก็พบว่า
ตัวละครหญิงคนนี้มีแอร์ไทม์เยอะเหลือเกิน
นางลายเป็นบุตรีนอกสมรสของวายร้ายคนหนึ่ง มาพร้อมกับของแทนใจเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันกับบิดาของตน ด้วยความบังเอิญ จึงได้รับความช่วงเหลือจากฉินเทียนเกอ
เอ๊ะ?
ยังไม่ต้องบอกว่าฉินเทียนเกอในต้นฉบับเคยช่วยหญิงสาวคนนี้หรือไม่
ตัวร้ายชื่อเซินถูไห่คนนี้ในต้นฉบับไม่มีลูกสาวด้วยซ้ำไป…
การเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งใหญ่มาก
ผู้ชมเองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเช่นกัน
ต้องเข้าใจว่าเซินถูไห่ คือหัวโจกวายร้ายในช่วงต้นและกลางในนิยาย
บิดาและมารดาของตัวเอกทั้งสองเซินถูไห่สังหาร
การปรากฏตัวของตัวละครนี้ได้เชื่อมโยงฉากต่างๆ ในเรื่องเข้าหากัน
และในเวลานี้ฉินเทียนเกอไม่รู้ว่าตนเองช่วยบุตรสาวของศัตรูไว้
แน่นอนว่าตัวละครใหม่เจียงอวี้เยี่ยนคนนี้ไม่ได้ล่วงรู้ถึงความแค้นของคนรุ่นก่อน
นางตามหาเซินถูไห่จนพบ
ใช้หลักฐานเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก
และยังเปลี่ยนชื่อของเจียงอวี้เยี่ยนเปลี่ยนชื่อเป็นเซินถูอวี้เยี่ยนตามคำขอของบิดา
เจียงเป็นนามสกุลฝั่งแม่ของนาง
ท้ายที่สุดแล้วนางยังคงต้องการใช้แซ่ของพ่อ
……
ในบ้าน
แม่กล่าวกลั้วหัวเราะ
“ผู้หญิงคนนี้สวยมาก!”
“สวยเท่าหนูหรือเปล่า?”
พี่สาวขยับเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ไปเลย”
แม่ไม่สนใจเธอ
พี่สาวเบ้ปาก
น้องสาวคล้ายกับว่าเงยหน้ามองโทรทัศน์ด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน
……
ในขณะนี้เจียงอวี้เยี่ยนเข้าสู่สกุลเซินถูแล้ว
แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า เซินถูไห่จะยังมีภรรยาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นนายหญิงแห่งสกุลเซินไห่
“นี่คือลูกสาวของข้า เซินถูอวี้เยี่ยน”
เจียงอวี้เยี่ยนบอกกับเจียงอวี้เยี่ยนด้วยรอยยิ้ม “เรียกท่านแม่”
“ท่านแม่…”
เจียงอวี้เยี่ยนเอ่ยอย่างขวยเขิน
นายหญิงคลี่ยิ้ม ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงเต็มแรง
“เรียกอะไรนะ”
เจียงอวี้เยี่ยนถูกตบหน้าจนตะลึงงัน
เซินถูไห่หน้าถอดสี แต่เขากลับไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“ฮูหยิน…”
เจียงอวี้เยี่ยนไม่ใช่คนโง่เขลา เธอกุมใบหน้า เปลี่ยนคำพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“เจ้าชื่อว่าอะไร”
“ข้าน้อย…ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน”
เพี้ยะ
นายหญิงตบเธออีกครั้ง แววตาเย็นเยียบ “นับแต่นี้ ชื่อของเจ้าคือโก่วเอ๋อร์[1] สาวใช้ชั้นต่ำที่สุดในสกุลเซินถู”
……
พี่สาวรู้สึกโมโห “ร้ายเกินไปแล้วไหม!”
น้องสาวนึกสงสัย “ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”
ต้องบอกว่า
เจียงอวี้เยี่ยนรูปโฉมงดงามน่ามองราวกับบุปผาสีขาวดอกเล็ก ให้ความรู้สึกน่าเห็นอกเห็นใจ
เธอตัวสั่นหลังจากถูกตบ ท่าทางหวาดกลัว แม้แต่เด็กผู้หญิงยังสงสารเมื่อได้เห็น
“ลูกนอกสมรสของเซินถูไห่ ผู้หญิงคนนั้นคือแม่เลี้ยง”
แม่อธิบาย พลางกล่าวเสริม “นี่ก็คือเหตุผลที่พวกลูกไม่มีพ่อเลี้ยง”
พี่สาวสับสน “เซินถูไห่ไปมีภรรยาเพิ่มขึ้นมาได้ไง แถมยังมีลูกนอกสมรสอีก?”
น้องสาวครุ่นคิด “เป็นตัวละครที่คนเขียนบทใส่เพิ่มขึ้นมา”
หยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอไม่ใช่เรื่องราวที่แปลกใหม่สำหรับทุกคน ผลงานชิ้นนี้หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทุกคนสามารถมองออกถึงตัวละครและเรื่องราวที่ผิดแปลกไปจากต้นฉบับเล็กน้อย
เรื่องราวหลังจากนั้นวนเวียนอยู่รอบเจียงอวี้เยี่ยน
และจากการแนะนำในเรื่องราวต่อจากนั้น ทุกคนจึงได้รู้ว่าเพราะเหตุใดเซินถูไห่ถึงได้ยำเกรงภรรยาของตนถึงเพียงนั้น ลูกนอกสมรสถูกทำรายเช่นนี้ยังไม่กล้าส่งเสียง
ปรากฏว่าภรรยาของเขาเป็นบุตรบุญธรรมของขันทีระดับสูงในวังหลวง
ขันทีระดับสูงคนนี้มีอำนาจมาก ตำแหน่งของเซินถูไห่ อีกฝ่ายก็เป็นผู้มอบให้
“เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปมาก”
พี่สาวคล้ายกับจะสนใจเพิ่มขึ้น นั่งบนโซฟาโดยไม่ขยับไปไหนด้วยซ้ำ
น้องสาวก็ดูโทรทัศน์เช่นเดียวกัน
แม้แต่หลินเยวียนยังดูซีรีส์อยู่ในห้องกับหนานจี๋
เอาเถอะ
เขายอมรับว่าตนเองมีเจตนาไม่ดี ไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่ชื่อ และให้สตรีคนนี้ใช้ชื่อว่าเจียงอวี้เยี่ยน
ก็ใครให้เจียงอวี้เยี่ยนในซีรีส์เรื่องนี้ของหวังจิงได้รับการขนานนามจากผู้ชมว่า ‘จักรพรรดินีเยี่ยน’ กันล่ะ
“หลังจากนี้จะเป็นเรื่องราวของการเติบโตของจักรพรรดินีเยี่ยนแล้ว”