Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 747 ต่อจากนี้เขียนเรื่องอะไรดี
- Home
- All Mangas
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 747 ต่อจากนี้เขียนเรื่องอะไรดี
ตอนที่ 747 ต่อจากนี้เขียนเรื่องอะไรดี
หลายวันผ่านไป
จู่ๆ เหอต้าจวิ้นก็ได้รับข่าวปู้ลั่วการ์ตูน “เงินทุนมีจำกัด ดังนั้นทางบริษัทจึงตัดสินใจลดต้นทุนการผลิตแอนิเมชันเรื่องหัวใจบาสเกตบอล โดยลดเงินทุนจากเดิมครึ่งหนึ่ง…”
“ทำไม!”
เหอต้าจวิ้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และต้องการพูดคุยกับหลิงคงต่อหน้า เนื่องจากหลิงคงรับปากกับเขาไว้แล้ว ว่าจะใช้มาตรฐานสูงสุดในอุตสาหกรรมในการผลิตหัวใจบาสเกตบอล ปรากฏว่าตอนนี้เงินทุนกลับถูกตัดทอนลงครึ่งหนึ่งอย่างกะทันหัน
เรื่องนี้มีผลกระทบอย่างมาก!
ผลกระทบที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ กราฟฟิกของเรื่องหัวใจบาสเกตบอลจะมีความประณีตซับซ้อนน้อยกว่าตอนก่อนๆ มาก หลายคนที่คิดซึ่งติดตามน่าจะเคยมีความรู้สึกที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือตัวละครในแอนิเมชันวาดไปเรื่อยๆ จะยิ่งเละเทะ อันที่จริงเป็นปัญหาจากเงินทุน ผลงานที่เสียงตอบรับไม่ดีนัก โดยทั่วไปจะไม่ถึงขั้นถูกตัดตอน แต่การผลิตในช่วงหลังจะยิ่งสุกเอาเผากินมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดที่เห็นได้ชัดคือ
ยิ่งลงทุนมากเท่าไหร่ ความประณีตในกระบวนการผลิตผลงานยิ่งเพิ่มมากขึ้น หัวใจบาสเกตบอลเดิมทีก็เทียบกับผลงานเรื่องนั้นของอิ่งจือไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหากงบประมาณลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้เอฟเฟ็กต์ภาพไม่ดีเท่าตอนแรกๆ นั่นจะยิ่งไม่มีทางแข่งขันกับอีกฝ่ายได้เลย!
……
หลิงคงไม่สนใจเหอต้าจวิ้น
เหอต้าจวิ้นสูญเสียมูลค่าในการใช้งานไปแล้ว
ในครั้งนี้ ปู้ลั่วการ์ตูนพ่ายแพ้อย่างย่อยยับด้วยน้ำมือของอิ่งจืออีกครั้ง
ถ้าหากเหอต้าจวิ้นมีอุปนิสัยเหมือนกับอิ่งจือ ในเวลานี้เขาคงขบคิดว่าจะยกเลิกสัญญากับปู้ลั่วการ์ตูนแล้ว ทว่าความน่ากระอักกระอ่วนใจก็คือ ต่อให้เหอต้าจวิ้นยกเลิกสัญญากับปู้ลั่ว เขาก็ไม่มีที่ไปแล้ว
ในอุตสาหกรรมการ์ตูน เว็บไซต์การ์ตูนเพียงสองแห่งที่สามารถจ่ายค่าตัวนักเขียนระดับเขาได้ นั่นคือเหลียนเหมิงและปู้ลั่ว!
เว็บไซต์อื่นไม่ได้เรื่องไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง
เหลียนเหมิงไม่รับเขาหรอก!
เหอต้าจวิ้นค่อยๆ นึกออกว่าทำไมเบื้องบนถึงตัดงบประมาณของเขาออก แต่เดิมหัวใจบาสเกตบอลมีแนวโน้มในทางที่ดีมาก ถ้าไม่มีอิ่งจือ แอนิเมชันเรื่องนี้น่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
แต่ไม่ว่าเรื่องใดก็หวั่นเกรงการเปรียบเทียบ!
คนที่เคยดูสแลมดังก์จะมีมาตรฐานที่สูงขึ้น เมื่อมาดูผลงานของเหอต้าจวิ้น อาจรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนอยู่บ้าง กอปรกับความขัดแย้งระหว่างเหอต้าจวิ้นกับอิ่งจือ ความแตกต่างของผลงานทั้งสองชิ้นนี้จึงยิ่งเด่นชัดยิ่งขึ้น
“มันจบแล้ว…”
เหอต้าจวิ้นท้อแท้จนไม่อยากวาดต่อไปแล้ว
แรงกระแทกในครั้งนี้ยากเกินกว่าจะรับไหว
ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ละก็ เขาจะไม่มีวันเชื่อลมปากของหลิงคง และไปชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนกีฬาอะไรนั่นกับอิ่งจือหรอก
ตอนนี้เขาถูกตอกตะปูตรึงกับเสาแห่งความอัปยศโดยสมบูรณ์
ภาพจำเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้กับทุกคน ก็คือประโยคซึ่งกลายเป็นที่ถูกเยาะเย้ยอย่างแพร่หลาย
‘ไม่มีใครเข้าใจการ์ตูนบาสเกตบอลได้ดีกว่าผมอีกแล้ว’
ระดับความนิยมของมุกนี้ตามหลัง ‘อาจารย์อันไซ ผมอยากเล่นบาสครับ’ จากสแลมดังก์มาติดๆ
ความแตกต่างอยู่ที่
มุกแรกถูกเยาะเย้ย มุกหลังได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมายว่าคลาสสิก
แพ้ทั้งแข่งเดียวและแข่งทีม
ด้วยเหตุนี้ อาชีพการงานของเหอต้าจวิ้นจะแย่ลงไปอีก
เว้นแต่ว่าเขาจะพัฒนาระดับฝีมืออย่างก้าวกระโดด และผลิตผลงานซึ่งทัดเทียมหรือเหนือกว่าสแลมดังก์ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เหอต้าจวิ้นรู้ว่าเขาไม่มีโอกาสแล้ว
นั่นคือผลงานที่ทำให้เหอต้าจวิ้นรู้สึกสิ้นหวังหลังจากอ่านจบ
หลังจากอ่านตอนล่าสุดของสแลมดังก์ เหอต้าจวิ้นก็เริ่มสงสัยในชีวิตขึ้นมา ถึงขั้นเกิดความคิดว่าจะแขวนพู่กันอีกด้วย
เหอต้าจวิ้นหนาวเหน็บขึ้นมาแล้ว
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อเทียบกับความผิดหวังของเหอต้าจวิ้น กระแสความร้อนแรงของสแลมดังก์กลับทบทวีขึ้นเรื่อยๆ
ความนิยมของแอนิเมชันเรื่องนี้มีอิทธิพลต่อโลกแห่งความเป็นจริงในทุกด้าน!
……
ในสนามกีฬาแห่งหนึ่ง
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนัดกันเล่นบาสเกตบอล เมื่อมาถึงสนามกลับพบว่าสนามบาสเก็ตบอลนั้นเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
ทันใดนั้นทุกคนสบตากัน
พวกเขาทำได้เพียงหาสนามอื่น แต่เมื่อหาไปเรื่อยๆ กลับพบว่าสนามอื่นๆ ล้วนเกิดผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
สนามบาสทุกแห่งอัดแน่นไปด้วยผู้คน!
ถ้าไม่ใช่ผู้มีใจรักในบาสเกตบอลและรู้สึกคันไม้คันมือหลังจากได้ดูสแลมดังก์
ก็เป็นหน้าใหม่ซึ่งเริ่มหันมาสนใจบาสเกตบอลหลังจากได้ดูแอนิเมชันเรื่องนี้
“บ้าน่ะ!”
“ไม่มีที่เลย!”
“สแลมดังก์ของเทพอิ่งดังเกินไปแล้ว ต่อไปจะต้องมาเร็วหน่อย จะได้จองพื้นที่ในสนามบาสทัน!”
“เมื่อก่อนสนามบาสร้างมาก!”
“จำนวนแฟนบาสเกตบอลกำลังจะตามแฟนฟุตบอลทันแล้ว!”
“เทียบกับฟุตบอลไม่ได้หรอก แต่ทันทีที่สแลมดังก์ออกมา จำนวนแฟนบาสก็เพิ่มขึ้นมากเลยละ”
“นึกไม่ถึงว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะส่งอิทธิพลกับโลกความเป็นจริงได้”
“ช่างเถอะ ไว้ค่อยนัดกันวันอื่น”
“ฉันกลับไปอ่านการ์ตูนแล้ว เมื่อวานสแลมดังก์อัปเดตเพิ่มนิดหน่อย”
……
ในร้านค้าแห่งหนึ่ง
ยอดขายชุดกีฬาและรองเท้ากีฬาซึ่งเกี่ยวข้องกับบาสเกตบอลพุ่งสูงขึ้นมาฉับพลัน
“ผมขอเบอร์สิบ!”
“ฉันขอเบอร์สิบด้วย!”
“เบอร์สิบคือหมายเลขของซากุรางิ ผมชอบเบอร์สิบเอ็ด!”
“เบอร์สิบเอ็ด? นายคิดว่าตัวเองเป็นรุคาวา?”
“ในฐานะเซนเตอร์ ผมเลือกเสื้อบาสเบอร์สี่ของกอริ!”
“ผมขอเบอร์สิบสี่”
“ทำไมถึงเบอร์สิบสี่ล่ะ”
“มิสึอิสวมเสื้อเบอร์สิบสี่ คนที่ผมชอบที่สุดคือมิสึอิ!”
“อ้อ มิสึอินี่เอง งั้นฉันขอเบอร์สิบสี่ด้วย!”
……
ในชั้นเรียนบาสเกตบอล
เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่รับสมัครนักเรียนเป็นต้องตกตะลึง รู้สึกเหมือนจู่ๆ ก็มีคนสมัครเรียนบาสเกตบอลขึ้นมามากถนัดตา!
“ผมจะสมัคร!”
“ฉันก็เหมือนกัน!”
“ผมอยากเรียนบาส!”
“ทุกคนเล่นบาสกันเก่งมาก ช่วยพาผมไปด้วย!”
“ผมเรียนท่าสแลมดังก์ได้ไหมครับ?”
“เรียนแล้วจะดังก์ลูกได้เลยไหม”
“ผมก็อยากเรียน ผมไม่กลัวความลำบาก เสี่ยวเหม่ยชอบสแลมดังก์ ผมจะทำให้เสี่ยวเหม่ยเห็นท่วงท่าที่แข็งแกร่งของผมในสนาม!”
……
ไม่เพียงชั้นเรียนบาสเกตบอล
ในการฝึกซ้อมของทีมบาสเกตบอลโรงเรียนใหญ่ๆ หลายแห่ง มีจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในนั้นโดยมากเป็นผู้ชาย
ทว่าสิ่งที่ทำให้นักบาสเกตบอลโรงเรียนเหล่านี้ตื่นเต้นมากที่สุดก็คือ มีผู้หญิงมาดูมากขึ้น!
เมื่อในหมู่พวกเขามีคนชู้ตลูกลงห่วง เสียงเชียร์จากผู้ชมจะดังขึ้น!
ถึงขั้นที่มีคนจะโกนว่า ‘รุคาวา’ หรืออะไรทำนองนั้นด้วยซ้ำไป
และเรื่องนี้ช่วยยกระดับผลลัพธ์ในการฝึกซ้อมของทีมบาสเกตบอลขึ้นไม่รู้กี่เท่า ทุกคนต่างมีพลังเต็มเปี่ยม!
บาสเกตบอลโด่งดังขึ้นมาฉับพลัน!
ทั้งหมดล้วนเป็นอิทธิพลจากสแลมดังก์!
……
เมื่ออิทธพลของสแลมดังก์แทรกซึมสู่ความเป็นจริง หลินเยวียนก็สัมผสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน เขาได้ยินพนักงานงานใน บริษัทนัดกันไปเล่นบาสเกตบอลหลังเลิกงาน
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงประเด็นถกเถียงมากมายบนโลกออนไลน์
“ประมาณนี้แหละครับ”
หลินเยวียนเรียกซุนจื้อเสียงมา “เนื้อหาหลังจากนี้คุณมาวาดแล้วกันครับ ผมจะเตรียมโครงเรื่องกับสตอรีบอร์ดให้”
ซุนจื้อเสียงตื่นเต้น!
เมื่อเป็นเช่นนี้
ทุกคนในสตูดิโอของอิ่งจือจึงมีการ์ตูนที่ตนเองรับผิดชอบ ส่วนหลินเยวียนก็กับมาเป็นเถ้าแก่ว่างงานต่อไป
ใช่แล้ว
การรับสมัครผู้ช่วยของแต่ละคนก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยมากเป็นคนที่หลัวเวยคัดเลือกมา และฝีมือของทุกคนยอดเยี่ยมมาก
จินมู่เช่าสตูดิโอสำหรับทุกคนในละแวกใกล้เคียง
หลังจากนี้หลินเยวียนเพียงแค่สื่อสารกับนักวาดหลักเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องพบหน้ากับผู้ช่วยใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตนของอิ่งจือถูกเปิดเผย
แน่นอน
หลินเยวียนไม่ได้เป็นเถ้าแก่ว่างงานเสียทีเดียว ในทุกๆ วันเขาจะติดตามเนื้อหาที่อัปเดตใหม่ของนักวาดหลัก มีจุดใดไม่เหมาะสมก็จะให้ทุกคนปรับแก้ ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้น เขาจะจับคนนั้นมาอบรมเป็นพิเศษ ประสิทธิภาพที่ได้จากเอฟเฟ็กต์อาจารย์ยังคงสูงมาก
เปิดการ์ตูนห้าเรื่อง!
หลินเยวียนรู้สึกว่าแตะถึงขีดจำกัดแล้ว
แม้ว่าในอนาคตจะมีการ์ตูนเรื่องใหม่ ก็ต้องเก็บไว้คุยกันทีหลัง เหตุผลหนึ่งคือนักวาดหลักมีกำลังไม่พอ อีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อไม่ให้สะเทือนโลกไปมากกว่านี้ เพราะฝีมือของอิ่งจือก็เก่งเกินมนุษย์มากพอแล้ว!
ควรวางอิ่งจือไว้ก่อน
ช่วงนี้อิ่งจือและฉู่ขวงออกหน้ามามาก หลินเยวียนคิดว่าฉู่ขวงชักจะอยากแสดงฝีมือบ้างแล้ว
ต่อจากนี้เขียนเรื่องอะไรดี