Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 654 ท่าเต้น 45 องศา
การฝึกซ้อมจะจัดขึ้นอย่างเป็นความลับ รายละเอียดการแสดงไม่สามารถเปิดเผยล่วงหน้าได้
ในระหว่างกระบวนการนี้ หลินเยวียนไม่เพียงฝึกซ้อมบทเพลง แต่ยังผลิตรองเท้าพิเศษสำหรับการแสดงของเขาด้วย…
เขาจะแสดงการท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วงของไมเคิล แจ็กสันในคอนเสิร์ต
ไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายสถานะของไมเคิล แจ็กสันในอุตสาหกรรมบันเทิงให้มากความ
บุคคลระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง
และท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วงของบุคคลระดับแนวหน้าท่านนี้ คือท่าเต้นที่ผู้คนมากมายคุ้นเคย
ในนั้น
ไมเคิล แจ็กสันมีท่าเต้นหนึ่งที่ยอดเยี่ยมมาก!
เขาสามารถเต้นท่าเอียง 45 องศาได้จริง!
ท่าเต้นนี้สะเทือนโลกเมื่อเปิดตัวครั้งแรก ผู้คนมากมายล้วนตั้งคำถามว่า
เขาทำได้อย่างไร
เซอร์ ไอแซ็ก นิวตันแทบเปิดโลงศพออกมาสู้แล้ว!
สิ่งที่สามารถบอกทุกคนได้คือ
ถึงแม้เขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก แต่มนุษย์ธรรมดาจะเอียงได้ 45 องศาโดยไม่ต้องพึ่งพาแรงพยุงจากภายนอก สิ่งที่ฝ่าฝืนแรงโน้มถ่วงของโลกพรรค์นี้ล้วนเป็นไปไม่ได้
อธิบายให้ทุกคนฟังด้วยอารมณ์ขันเล็กน้อย
แม้แต่ไมเคิล แจ็กสันก็ยังมีช่วงเวลาที่ใช้สูตรโกงบ้าง
ความลับอยู่ในรองเท้า
นั่นคือรองเท้าคู่พิเศษของเขา
บริเวณส้นรองเท้ามีส่วนที่ยุบลงไป ใช้สำหรับยึดกับพื้นโดยเฉพาะ
หลังจากยึดกับพื้น คนเราจะไม่ล้มลงไปแม้จะเอียง 45 องศา
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต จำเป็นต้องใช้เวลาในการหาตำแหน่งที่แม่นยำ พร้อมทั้งเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว เพราะฉันเมื่อนั้นไมเคิล แจ็กสันต้องกำลังหาตำแหน่ง เขาต้องใช้เอฟเฟ็กต์แสงและรูปแบบการแสดงอื่นๆ ซึ่งแทรกเข้ามาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชม ผู้แสดงสามารถทำอย่างอื่นภายใต้การปกปิดเช่นนี้ได้
แน่นอนว่าสามารถปรับแต่งตำแหน่งได้โดยตรง และออกแบบการแสดงเพื่อให้เหมาะสมกับตนเองได้
สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องมีคนควบคุมอยู่เบื้องหลัง จึงจะสามารถเชื่อมต่อการแสดงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ไมเคิลแจ็กสัน ยังยื่นขอสิทธิบัตรเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ถ้ามีใครคิดว่าแค่มีรองเท้าคู่นี้ก็สามารถเต้นท่านี่ได้ ก็ออกจะไร้เดียงสาเกินไป
ทว่ามีรองเท้าอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
เมื่อจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายเอียงไปข้างหน้า จุดรับแรงทั้งหมดจะไปอยู่บริเวณเอว!
ผู้แสดงจำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อหลังที่แข็งแรง
นอกจากนั้นยังต้องมีความแข็งแรงของขาสูงมาก
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลียนแบบโดยไม่ผ่านการฝึกฝน แม้แต่ไมเคิล แจ็กสันก็เคยทำผิดพลาดระหว่างที่แสดงในคอนเสิร์ต
หลินเยวียนโชคดีที่มีระบบ ถ้าไม่มีระบบ เขาไม่มีทางทำท่านี้ได้
ต่อให้รู้หลักการก็ไม่เป็นผล
สำหรับหลินเยวียน นี่ก็เหมือนมายากลที่เขามอบให้กับผู้ชม
หลังจากไขปริศนาของมายากลได้แล้ว อาจรู้สึกว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ในครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นมายากลนี้กับตา พวกเขาย่อมสัมผัสได้ถึงความตกตะลึงเพราะการรับรู้ที่เคยมีนั้นกลับตาลบัตร!
เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะนึกหลักการนี้ออกในทันที
แน่นอน
นี่เป็นหนึ่งในเซอร์ไพร์สเล็กๆ น้อยๆ ที่หลินเยวียนเตรียมไว้สำหรับคอนเสิร์ต
การกำเนิดขึ้นของท่าเต้นมูนวอล์ก นั้นลำบากยากเข็ญกว่าการเอียง 45 องศา เพราะการเอียง 45 องศานี้อาศัยอุปกรณ์ ส่วนมูนวอล์กนั้นต้องอาศัยเทคนิคล้วนๆ
ปัจจุบันบลูสตาร์ยังไม่มีท่าเต้นรูปแบบนี้
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่หลินเยวียนอุตส่าห์เตรียมเพลงใหม่สำหรับการเต้นในครั้งนี้ด้วย และเป็นผลงานของไมเคิล แจ็กสันเอง!
……
ขณะที่หลินเยวียนกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับคอนเสิร์ต
หลายวันต่อจากนั้น ซีรีส์เรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ออกอากาศในอัตราหนึ่งตอนต่อวัน
เมื่อซีรีส์ออกอากาศจนถึงตอนที่สาม
ซุนหงอคงอาละวาดวังสวรรค์นั้นระเบิดไปทั่วทั้งโลกออนไลน์!
สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เต็มอิ่มจุใจ!
ในทุกๆ ฉาก ทุกคนจะได้ยินเสียงของเงินทุนกำลังเผาไหม้!
ฟ้าดินแตกสลาย!
สิ้นแสงสุริยันจันทรา!
ทุกฉากการต่อสู้ล้วนงดงามตระการตา!
แม้ว่าจะเป็นสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ของตัวละครสมทบ ทว่าทางทีมโพรดักชันก็ไม่ขี้เกียจแม้แต่น้อย ใสเอฟเฟ็กต์ฟ้าผ่าฟ้าร้องเข้ามาอย่างเต็มที่!
ขณะที่อ่านนิยายเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ฉากของการอาละวาดวังสวรรค์ซึ่งผู้คนต่างจินตนาการถึงนับครั้งไม่ถ้วน ได้รับการถ่ายทอดและเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แบบผ่านซีรีส์เรื่องนี้
กระแสความนิยมของซีรีส์เรื่องนี้ได้แผ่ขยายไปทั้งห้าทวีป!
ทุกตรอกซอกซอย ผู้คนต่างพูดคุยกัน
แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด หัวข้อสนทนาขณะเปิดแผงขายของในตอนเช้าของพวกเขายังหนีไม่พ้นซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งออกอากาศในคืนก่อนหน้า!
“ฉันคือซุนหงอคง!”
“เจอกระบองซุนหงอคงหน่อยเป็นไง!”
แม้แต่เด็กนักเรียน เนื้อหาในการเล่นสนุกยังเปลี่ยนจากนิทานจำพวกสโนว์ไวท์ เป็นบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ในทุกๆ วัน เหล่าเด็กเกเรทั้งหลายจะทะเลาะกันว่าใครจะรับบทเป็นซุนหงอคง
พวกเขาสนุกกับการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของซุนหงอคง โดยไม่ได้รู้สึกถึงความเบียวแม้แต่น้อย
“โฮ!”
เด็กชายตัวน้อยคำรามเสียงต่ำในลำคอ มือเล็กเกาใบหน้า ราวกับบนใบหน้ามีขนลิงรูปลูกท้อ
ยังมีเด็กชายอีกคนหนึ่งใช้มือขวาจับหูซ้าย ทำท่าทางทอดมองไปไกล
มีเด็กชายคนหนึ่งหยิบกิ่งไม้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกระบองทองคำ กระโดดไปมา สุดท้ายแล้วก็ถูกแม่ใช้ไม้เรียวตีก้น…
สิ่งที่เด็กๆ กำลังเลียนแบบคือท่าทางคลาสสิกของซุนหงอคง
ทุกครัวเรือนบนบลูสตาร์ล้วนมีคอมพิวเตอร์
หลายคนสามารถตามซีรีส์ได้บนอินเทอร์เน็ต
ถ้าหากไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่รับชมได้เพียงในโทรทัศน์เท่านั้น การออกอากาศสดของซีรีส์เรื่องนี้อาจสร้างปรากฏการณ์ถนนร้างไร้ผู้คนเฉกเช่นในความทรงจำของคนบนโลกก็เป็นได้
สิ่งที่ควรเอ่ยถึงคือ…
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเวอร์ชันของหลินเยวียน กับเวอร์ชันของซีซีทีวีตรงที่เวอร์ชันของหลินเยวียนมีความเป็นระบบมากกว่า
ค่าพลังการต่อสู้ในต้นฉบับนั้นไม่มีระบบ
พลังของซุนหงอคงนั้นจู่ๆ ก็แข็งแกร่ง จู่ๆ ก็อ่อนแอ
ท้ายที่สุดแล้ว ประเด็นสำคัญของซีรีส์นั้นไม่ได้อยู่ที่ซุนหงอคงจะทรงพลังแค่ไหน
หลินเยวียนติดตามค่าพลังในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เพราะฉะนั้นเขาจึงจัดทำตารางสถิติของตัวละครในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ไม่ว่าจะค่าพลังสูงหรือต่ำล้วนต้องปฏิบัติตามการออกแบบค่าพลังในระยะแรกอย่างเคร่งครัด
ต่อให้ซุนหงอคงเผชิญหน้ากับปีศาจที่ไม่อาจเอาชนะได้ หลินเยวียนก็มีเหตุผลมาอธิบาย
แน่นอน
ในระยะแรก ซุนหงอคงไม่มีคู่ต่อสู้เลย ถึงแม้ซุนหงอคงจะอาละวาดวังสวรรค์ แต่เขาไม่ได้มีแผนให้เง็กเซียนฮ่องเต้ตกใจจนมุดหลบใต้โต๊ะ
นั่นไม่สอดคล้องกับต้นฉบับ
ในต้นฉบับ ซุนหงอคงไม่ได้ทำให้ทั้งสวรรค์ตัวสั่น บอกได้เพียงว่าเทพเซียนส่วนใหญ่เมื่อเห็นวานรตัวนี้จะรู้สึกหวั่นเกรง
คิดจะทะลวงสวรรค์
ต่อให้ซุนหงอคงกับเทพเอ้อร์หลางร่วมมือกันก็ไม่ไหว
ในการออกแบบของหลินเยวียน เง็กเซียนฮ่องเต้นั้นทรงพลังทะลุปรอท
แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าวานร แต่เง็กเซียนฮ่องเต้กลับไม่อนาทรร้อนใจ
ส่วนไท่ซั่งเหล่าจวิน…
หลินเยวียนยังออกแบบให้เขาดูลึกลับและคาดเดาไม่ได้มากขึ้น
ดังเช่นฉากซุนหงอคงในเบ้าหลอมแปดทิศ หลินเยวียนใช้บางฉากเพื่อบอกเป็นนัยว่าไท่ซั่งเหล่าจวินมีเจตนาอันลึกซึ้ง และวัตถุประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อสังหารซุนหงอคง
นอกจากนี้
ซุนหงอคงเผชิญหน้ากับสวรรค์ หลินเยวียนยังให้แอร์ไทม์กับพระอาจารย์ผู่ถี โดยที่พระอาจารย์ผู่ถีลอบช่วยเหลือซุนหงอคง
นั่นทำให้พระยูไลต้องออกโรง
ความช่วยเหลือของพระอาจารย์ผู่ถีนั้นไม่ปรากฏในเวอร์ชันของซีซีทีวี แต่ในการเดินทางสู่ประจิมทิศเวอร์ชันอนิเมชัน พระอาจารย์ผู้ถี่ลอบช่วยเหลือซุนหงอคง
หลินเยวียนรู้สึกว่าจุดนี้เวอร์ชันอนิเมชันออกแบบได้ดี ดังนั้นจึงนำมาประยุกต์ใช้
กล่าวโดยสรุปคือ
นี่คือซีรีส์ที่เด็กๆ ดูแล้วชื่นชอบ ผู้ใหญ่ดูแล้วก็ไม่รู้สึกว่าไร้เดียงสา แต่กลับทำให้ได้แง่คิดด้วยซ้ำไป
การอุปมาหลายอย่าง หลินเยวียนล้วนใส่เข้ามาหมด
ไม่จำเป็นต้องเน้นย้ำ หลินเยวียนก็เชื่อว่าผู้ชมสามารถเข้าใจได้ ถึงอย่างไรผู้ชมโลกนี้ก็มีความคิดเป็นเลิศ
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น
ในระหว่างการออกอากาศ ขณะที่ทุกคนกำลังพร่ำเพ้อถึงสเปเชียลเอฟเฟ็กต์และพล็อตเรื่องอันสดใหม่ ผู้คนมากมายต่างก็พูดคุยถึงฉากซึ่งแฝงความนัยเหล่านั้น ก่อนจะขนลุกซู่ไปตามๆ กัน
ซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกลายเป็นกระแสซึ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่!
และในเวลานี้
พวกเขาไม่ได้ลืม…
ว่าคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋จะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่วัน!
บนโลกออนไลน์
ขณะที่ผู้คนมากมายกำลังถกเถียงกันอย่างคึกคักเกี่ยวกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มพูดคุยกันถึงคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋ซึ่งจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า