Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 653 ความคืบหน้าหนึ่งในสาม
- Home
- All Mangas
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 653 ความคืบหน้าหนึ่งในสาม
เหล่าโจวให้สัมภาษณ์ และเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น สตาร์ไลท์ก่อตั้งแผนกโทรทัศน์ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ก่อนหน้านี้ สตาร์ไลท์มีเพียงแผนกภาพยนตร์ ไม่ได้มีแผนสำหรับอุตสาหกรรมโทรทัศน์
และหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋ ต่อให้มีเพียงไม่กี่คำ ก็ไม่อาจห้ามทุกคนจากการคาดเดาอันบ้าคลั่งได้
ตัวอย่างเช่น ทำไมเซี่ยนอวี๋ต้องต่อสู้อยู่อย่างหนักหน่วงเพื่อผลิตเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ…
‘พูดถึงการต่อยอดอะไรผมก็เชื่อ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดอย่างแน่นอน มีอีกเหตุผลสำคัญที่หัวหน้าคนนี้ไม่ได้บอกทุกคน นั่นคือผู้เขียนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศคือฉู่ขวง’
ใช่แล้ว
กลุ่มคนผู้อยากรู้อยากเห็นล้วนคิดว่านี่เป็นเครื่องยืนยันได้ถึงมิตรภาพของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง
เขาเขาลงทุนเล่นใหญ่เช่นนี้ ทั้งยังเรียกนักแสดงรางวัลมาแสดง ทั้งยังทำเพลงประกอบภาพยนตร์ระดับแนวหน้าด้วยตนเอง เหตุผลส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าผู้เขียนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศคือฉู่ขวง
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ดีเหลือเกิน!
สามารถกล่าวได้ว่าเป็นคู่ฟ้าประทานในใจของสาววาย!
ถึงอย่างไรเซี่ยนอวี๋ก็ไม่เคยรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับบทของตน ทั้งในและนอกวงการต่างรู้ว่าเมื่อเซี่ยนอวี๋ผลิตภาพยนตร์ เขามักประหยัดค่าสเปเชียลเอฟเฟ็กต์เสมอ
‘นี่ไม่ใช่ท่าทีที่มีต่อแฟนหรอกหรือ? ’
มีคนเอ่ยอย่างเห็นด้วย ‘ผมยินดีกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อให้แฟนได้กินอาหารฉู่โจวที่เธอชอบที่สุด ส่วนเซี่ยนอวี๋ยอมประหยัดเงินทุนในการสร้างหนังของตัวเอง เพื่อทำให้นิยายของฉู่ขวงกลายเป็นซีรีส์ที่ดีที่สุด!’
คำพูดนี้มีตลาดมากทีเดียว
แฟนคลับทั้งของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงชิปกันขึ้นมาแล้ว
ใช้คำพูดสะท้อนใจของชาวเน็ตท่านหนึ่งคือ ‘เป็นอีกวันหนึ่งที่ไม่มีใครเล่นกับอิ่งจือ’
สรุปแล้ว
นี่คือความปีติยินดีของแฟนคลับความบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศที่เซี่ยนอวี๋ผลิตนั้นสอดคล้องกับจินตนาการที่ทุกคนมีต่อนิยายเรื่องนี้!
ถึงขั้นทำได้เกินกว่าที่คาดหวังด้วยซ้ำไป!
แต่สำหรับแฟนบรรพกาล นี่กลับเป็นค่ำคืนอันทรมาน
แค่เห็นก็รู้แล้ว
บรรพกาลถูกบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกำราบอีกครั้ง
แฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่ได้เยาะเย้ยแฟนคลับบรรพกาลอีกต่อไป เพราะว่าไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ซีรีส์ของทั้งสองฝั่งไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
ครั้งนี้ถูกกำราบระดับสูงสุด!
โลกเทพปกรณัมของบลูสตาร์เปลี่ยนไปแล้ว
นับจากนี้ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเป็นเทพปกรณัมอันดับหนึ่งของบลูสตาร์!
บรรพกาลทำได้เพียงขยับไปด้านข้าง!
แฟนคลับตัวยงคนหนึ่งของบรรพกาลยิ้มขมขื่น ‘พวกเขาครื้นเครงที่สุด ส่วนพวกเขาไม่มีอะไรเลย…’
‘ใครว่าล่ะ!’
ไม่ทันไรก็มีแฟนคลับบรรพกาลเข้ามาแสดงความคิดเห็น ‘พวกเราก็เข้าร่วมความครื้นเครงนี้ได้เหมือนกัน!’
แฟนคลับบรรพกาลกลุ่มนี้อธิบายให้ทุกคนฟัง
อะไรคือความแข็งแกร่งอันไม่ผันแปร!
อะไรคือความภักดีอันแน่วแน่!
พวกเขาจับมือกันกบฏอย่างมีความสุข
กระแสแห่งการกบฏนี้แผ่ขยายจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงแฟนบรรพกาลเพียงไม่กี่คนซึ่งได้รับแรงกดกันจากภายในและการประณาม เพราะเอ่ยปากชื่นชมซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศว่าใจกว้างจริงๆ …
ต่อมาจึงพัฒนากลายเป็นแฟนคลับบรรพกาลมากมายแอบดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
และฟางเส้นสุดท้ายคือการที่มีแฟนคลับบรรพกาลตัดคลิปสั้นจากวิดีโอประกอบเพลงเปิดซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งเป็นฉากต่อสู้ระหว่างซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลาง
‘นี่แหละคือเทพเอ้อร์หลางในใจของฉัน!’
ในคลิปนี้ ซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลางนั้นต่อสู้กันอย่างดุเดือด และสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ทำให้ผู้ชมต่างตกตะลึงเพราะความสมจริง!
ความดื้อรั้นของวานร!
ความกล้าหาญของหยางเจี่ยน!
ตัวละครทั้งสองนี้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในการต่อสู้!
น่าขันเสียจริง
เทพเอ้อร์หลางในซีรีส์บรรพกาล ถูกข่มด้วยภาพลักษณ์ของเทพเอ้อร์หลางในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ จนแฟนบรรพกาลถึงขั้นคิดว่าเทพเอ้อร์หลางใจบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเท่กว่า?
แฟนบรรพกาลคนหนึ่งซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักเขียนบทแทบร้องไห้แล้ว
“นี่มันต่างอะไรกับการที่ภรรยาให้ผมสวมชุดสไปเดอร์แมนแล้วมีอะไรกันรึ!”
แบบนี้!
นี่มันเรียกว่าการบังคับจับคู่กันต่อหน้าต่อตา!
และเมื่อเที่ยงคืนผ่านไป ในเมษายนก็มาถึงในที่สุด
ชาวเน็ตไม่แปลกใจที่ได้เห็นสดับเสียงวังเมฆาอยู่บนแอปพลิเคชันฟังเพลงรายใหญ่
พรึบๆๆ !
ยอดดาวน์โหลดเพลงนี้พุ่งสูงขึ้นทันที!
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในวงการเพลงที่คนดนตรีซึ่งจับตามองได้เกิดขึ้นแล้ว
เดือนเมษายน เซี่ยนอวี๋ไม่ได้ขาดเรียน!
เขาใช้เพลงประกอบซีรีส์ ปล่อยเพลงของตนในเดือนเมษายน!
นอกจากนั้น ยังไม่ได้ปล่อยมาแค่เพลงเดียว!
นอกจากสดับเสียงวังเมฆา เพลงประกอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศยังล้างบางไปถึงอันดับสองบนการจัดอันดับเพลง!
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘ใคร่ขอถามเส้นทางอยู่หนใด’ !
ในฐานะเพลงประกอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ อันที่จริงใคร่ขอถามเส้นทางอยู่หนใดไม่นับว่าเป็นเพลงที่เหมาะสมกับการไต่ชาร์ตเพลง
พูดเรื่องดนตรี…
เมื่อทุกคนดูซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจบ เพลงที่สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งที่สุดคือสดับเสียงวังเมฆา
เรื่องนี้สามารถเห็นได้จากการสนทนา
เนื่องจากบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้ก่อให้เกิดประเด็นสนทนามากมาย และเรียกความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน
เมื่อเทียบกันแล้ว ไม่มีใครพูดถึงเพลงใคร่ขอถามเส้นทางอยู่หนใดมากนัก
แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งความนิยมของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้!
ต้นทุนการผลิตตอนแรกนั้นสูงมาก จนหลายคนคิดว่ากำลังดูภาพยนตร์ ไม่ใช่ซีรีส์ เมื่อฟังพร้อมกับเพลงประกอบ ทุกคนจึงรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมออกไป และอยู่ฟังเพลงต่อจนจบ
เมื่อรวมกับพล็อตเรื่อง ขับให้รสชาติของเพลงนี้ออกมา
‘เจ้าแบกภาระ ข้าจูงอาชา ต้อนรับอรุณรุ่งร่ำลาสายัณห์ ย่ำความลำบากเป็นเส้นทาง มีชัยเหนืออุปสรรคออกเดินและออกเดิน ลาลาลาลาลาลาลาลาลาลา แต่ละฤดูกาลผันเปลี่ยน แต่ละเหตุการณ์ทุกข์สุขระคน ใคร่ขอถามเส้นทางอยู่หนใด? ถนนอยู่ใต้เท้าข้านี่เอง’
เนื้อเพลงอันเรียบง่าย พรรณาถึงการเดินทางของอาจารย์และลูกศิษย์โดยตรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาแฟนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เพลงนี้ถูกจริตพวกเขาจริงๆ
เนื่องจากเหตุผลนี้เอง
เพลงนี้ถูกส่งขึ้นไปยังอันอับสองของยอดดาวน์โหลดบนชาร์ตเพลง เป็นรองเพียงสดับเสียงวังเมฆา!
อันที่จริงมีหลายเพลงเป็นเช่นนี้
เมื่อหยิบออกมาเพียงลำพัง มักไม่มีอะไรพิเศษ
แต่ถ้าหากใช้เป็นเพลงประกอบซีรีส์ เนื้อเพลงสอดคล้องกับพล็อตเรื่อง และเติมเต็มผลลัพธ์ได้ทันที!
สำหรับคนดนตรีในฤดูกาลเพลงเดือนเมษายน นี่คือการโจมตีที่เหี้ยมโหด!
“เซี่ยนอวี๋กินเนื้อแล้ว ไม่คิดจะเหลือน้ำแกงให้พวกเราเลยใช่ไหม!”
อันที่จริงหลังจากได้ฟังสดับเสียงวังเมฆา ทุกคนก็รู้แล้วว่าตำแหน่งแชมป์ในการจัดอันดับเดือนเมษายนจะมงลงที่ใคร
ถึงแม้สภาพจิตใจจะย่ำแย่ แต่หลายคนยังคงมีความคิดอยากคว้าอันดับสองให้อยู่หมัด
ปรากฏว่าเพลงใคร่ขอถามเส้นทางอยู่หนใดโผล่มา
มิหนำซ้ำยังเป็นเพลงประกอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ทั้งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษใน ตัวเอง แต่เพียงแค่อาศัยกระแสของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ กก็สามารถบุกขึ้นไปคว้าอันดับสองได้ทันที!
ทีนี้ก็หมดกัน
ฤดูกาลเพลงเดือนเมษายน คนดนตรีคนอื่นๆ ทำได้เพียงชิงอันดับที่สามแล้ว
ทันใดนั้นเอง
บุคลากรในวงการดนตรีคนกรีดร้องเสียงแหลม “เซี่ยนอวี๋คว้าอันดับหนึ่งมาสี่เดือนแล้ว เขาคงไม่ได้คิดจะคว้าแชมป์สิบสองสมัยหรอกใช่ไหม?”
แชมป์สิบสองสมัย!?
ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง
ไม่มีใครนึกถึงเรื่องนี้ในตอนแรก
เพราะบลูสตาร์ไม่มีคนคว้าแชมป์สิบสองสมัยมานานแล้ว
ถึงแม้นี่คือวิธีสู่การเป็นพ่อเพลง ทว่าเส้นทางในการก้าวขึ้นเป็นพ่อเพลงมีสามเส้นทาน นี่คือเส้นทางที่ยากที่สุด!
และเมื่อเซี่ยนอวี๋ก้าวขึ้นบัลลังก์แชมป์ในเดือนเมษายน ต่อให้ทุกคนไม่อยากคิดไปทางนี้ ก็ทำไม่ได้แล้ว!
‘ไม่มั้ง’
‘นี่เพิ่งจะเมษา ถ้าอยากคว้าแชมป์สิบสองสมัยจริง ก็ยังต้องคว้าแชมป์อีกแปดเดือนนะ’
‘แบบนี้ใครจะไหว?’
‘โดยเฉพาะในมหาสงครามเทพเซียนเดือนธันวา…’
‘ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ฉินฉีฉู่เยี่ยนหานมาแข่งกันในฤดูกาลเพลงเดียว ถ้าเซี่ยนอวี๋อยากเป็นพ่อเพลง พ่อเพลงคนอื่นจะนิ่งดูดายได้หรือ?’
‘ก็จริง’
‘เซี่ยนอวี๋น่าจะไม่ได้มีแผนนี้’
‘เขาอยากเป็นพ่อเพลง วิธีที่ง่ายที่สุดน่าจะเป็นการปั้นราชาราชินีเพลง ถึงยังไงเขาก็เชี่ยวชาญด้านการปั้นศิลปิน’
‘จังหวะนี้น่ากลัวแล้วนะ’
‘สังเกตการณ์ต่อไปอีกสักเดือน ถ้าเดือนพฤษภาเซี่ยนอวี๋ยังคิดจะคว้าแชมป์อีก แปลว่าเขาอาจมีเจตนาแบบนั้นจริง’
‘…’
เป็นครั้งแรกที่วงการเพลงนึกโยงไปว่าเซี่ยนอวี๋อาจหมายคว้าแชมป์สิบสองสมัย แต่ขณะเดียวกันทุกคนก็ไม่อยากเชื่อ
แต่ละทวีปบนบลูสตาร์ผนวกรวมไปเรื่อยๆ
การแข่งขันบนชาร์ตเพลงยิ่งดุเดือดมากขึ้น
ไม่มีใครเดินบนเส้นทางนี้มานานแล้ว
การคว้าตำแหน่งพ่อเพลงจากการคว้าแชมป์สิบสองสมัยนั้นมีอุปสรรคมากมายระหว่างทาง
ไม่เพียงมหาสงครามเทพเซียนซึ่งเปิดฉากปะทะรอบทิศกันในช่วงปลายปี
ระหว่างนั้นยังมีการจงใจซุ่มโจมตีจากพ่อเพลงคนอื่นๆ
นี่คือกฎลับของบลูสตาร์
นักประพันธ์เพลงคนใดที่คิดจะคว้าแชมป์สิบสองสมัย ท้ายที่สุดแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีสารพัดรูปแบบ
ในวงการเพลงอยากรอดูเดือนหน้า
ส่วนหลินเยวียนกลับไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตอีก
คว้าแชมป์ฤดูกาลเพลงเดือนเมษายนได้อย่างราบรื่น
ความคืบหน้าของแชมป์สิบสองสมัย สำเร็จไปแล้วหนึ่งในสาม
เขาเริ่มเตรียมพร้อมกับคอนเสิร์ตในเดือนนี้อย่างจริงจัง
กำหนดเพลงเรียบร้อยแล้ว
แม้แต่เพลงสำรอง หลินเยวียนก็เตรียมไว้มากมาย
เขากำลังจะเริ่มต้นฝึกซ้อมการแสดงบนเวทีก่อนถึงวันคอนเสิร์ตแล้ว