Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที 484
บทที่ 484 ออกเดินทาง !
สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้แค่มองที่อื่นด้วยความไม่เต็มใจ
ตอนนี้เป่ยเฟิงฟื้นตัวมาได้ 50 % แต่ 50 % ของเขามันราวกับติดอยู่คอขวดที่แม้แต่พลังแห่งชีวิตของแท่นบูชาก็ช่วยไม่ได้
ไม่ใช่ว่าแท่นบูชาไม่สามารถช่วยเขาฟื้นตัวได้ แต่เพราะเป่ยเฟิงไม่สามารถดูดซับพลังชีวิตจำนวนมากได้อีกต่อไป ทุกพลังแห่งชีวิตมันราวกับถูกค่ายกลกักเอาไว้
ไม่ว่าเขาจะหมุนเวียนพลังไปมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถดูดซับพลังแห่งชีวิตจากแท่นบูชา 5 สีได้
“นี้มันเหมือนกับมอบภรรยาให้ศัตรูและเสียทหารไป 1 คน ! ไอ้พลังบัดซบเอ้ย มันเป็นความผิดของแก !” เป่ยเฟิงสาปแช่งด้วยความโกรธ
พลังบัดซบนับวันยิ่งทำให้เขาอันตรายมากขึ้น เพียงแค่พลังที่เล็ดลอดออกมาก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก แต่ในตอนนี้เขาสามารถควบคุมพลังชั่วร้ายได้แล้ว !
จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเจอกับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่ไม่ชอบพลังแห่งความชั่วร้าย ? เขาจะต้องตายหรือไม่ก็ถูกพลังแห่งความชั่วร้ายยึดร่างอีกครั้งงั้นรึ ?
ทั้งกลุ่มเดินทางต่อไป ในไม่ช้าก็ผ่านไป 3 วัน สิ่งก่อสร้างนี้มันทอดยาวไปไกลสุดขอบฟ้าทำให้พวกเขาเดินต่อไปได้เรื่อย ๆ
ระลอกคลื่นพลังกระจายออกมาจากโครงสร้างตลอดเวลา ดูเหมือนสิ่งที่ใช้สร้างมันจะเป็นของชั้นยอด และในไม่ช้าพวกเขาก็เดินออกมาจากแท่นบูชาและพบกับสิ่งประดิษฐ์ขนาดใหญ่ !!
รถม้ากว่าร้อยคันจอดเรียงราย และรถม้าแต่ละคันก็มีทรงสี่เหลี่ยมเหมือนตู้ แต่ละอันมีความสูงกว่าพันจาง นอกจากนี้ยังมีหัวของสัตว์แปลก ๆ วางอยู่บนหัวรถม้า และหากมองดี ๆ จะเห็นว่ามันเหมือนกับเป็นมังกรวารี !
เมื่อพวกเขาเดินไปที่รถม้าพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่อยู่ข้างใน !
แต่ไม่ใช่ว่ารถม้าแต่ละคันจะมีสัตว์ประดับอยู่ตรงหัวรถ จากจำนวนรถทั้งหมดมันมีเพียง 4 คันเท่านั้น แม้ว่าหัวนั่นจะเหมือนสัตว์ที่ตายไปแล้ว แต่มันก็ไม่เน่าเปื่อยแม้แต่น้อย เลือดและเนื้อของมันยังคงมีอยู่พร้อมกับบาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงหัวมัน
“สัตว์แปลก ๆ พวกนี้น่าจะมีพลังสูงมาก แต่ถ้ามองดี ๆ จะเหมือนกับมันเพิ่งผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มาและถูกสังหารในการต่อสู้นั้น” บางคนกล่าวขึ้นหลังจากตรวจสอบรถม้าด้วยความระมัดระวัง
พวกเขาพูดได้เลยว่าสัตว์ที่ใช้ลากรถม้ามันทรงพลังมาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดว่ามีพลังระดับเท่าไหร่
“แก๊ง !”
หวังวูหยูไม่ได้พูดอะไร เขาใช้เล็บสีดำยาวครึ่งเมตรแทงไปที่สัตว์ตัวหนึ่ง !
เสียงสะท้อนราวกับเหล็กปะทะเหล็กดังขึ้น มือของหวังวูหยูสั่นเล็กน้อยจากนั้นเล็บสีดำของเขาก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ และสัตว์ตัวนั้นก็ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย
มันไม่มีแม้แต่ร่องรอยใด ๆ ราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ค้อนทำลายนภา !”
ลิงน้ำปลดปล่อยพลังจากนั้นเกราะสีเงินก็ปรากฏบนร่างของมัน ในไม่ช้าความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นไปยังระดับหลุดพ้น กล้ามเนื้อของมันพองจนน่ากลัว จากนั้นมันก็ทุบไปยังรถม้า !
“ปัง !”
เสียงกระแทกพร้อมกับลิงน้ำที่ถอยหลังออกมาด้วยท่าทางมึนงง แรงกระแทกดูเหมือนจะถูกดูดเข้าไปโดยรถ นอกจากเสียงแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี้มันอะไรกัน ?” มีบางคนถามด้วยความสับสน ยิ่งรู้จักสิ่งใดมากเท่าไหร่ ความสำคัญก็น้อยลงเท่านั้น ทุกคนในที่นี่ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังในโลก แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นตรงหน้ามันทำให้พวกเขาสงสัยในชีวิตพวกเขา
ดวงตาของหลิงวู่เปล่งประกายก่อนจะพูดขึ้น “ข้าคิดว่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราต้องมาที่นี่ ! ไม่ใช่แค่นั้น ดูเหมือนสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้จะมีไว้เดินทางไปซักที่ !”
“หมายความว่ายังไงกัน ?” ลิงน้ำถามด้วยความสับสน
“ในสมัยโบราณ เส้นทางที่รถม้าของจักรพรรดิและองค์ชายที่มีไว้เดินทางไกลนั้นเรียกว่าถนน ! และด้วยความสามารถของราชวงศ์ฉินมันยากมากที่เราจะคาดเดาได้ว่าสัตว์ระดับไหนกันที่ลากรถม้า นอกจากนี้ “การเดินทาง” ของจักรพรรดิเจ้าไม่คิดหรอว่ามันไม่ได้บ่งบอกว่าใช้เดินทางบนโลกเล็ก ๆ ใบนี้ ?”
“พวกเราที่อยู่ที่นี่มีพลังระดับสวรรค์ พวกเราสามารถบินในอากาศได้ ส่วนระดับหลุดพ้นเองก็ไม่สามารถอยู่ในอวกาศได้นาน แต่ก็ไม่มีปัญหาหากจะอยู่ที่นั้นหลายวัน จริงไหม ? ถ้าอย่างนั้นหากเป็นสิ่งที่มีพลังเหนือระดับหลุดพ้นละ ?”
“ที่ข้าคิดก็คือ หลังจากราชวงศ์ฉินได้รวม 6 รัฐแล้ว รถเหล่านี้มีไว้ทำอะไร ? เป็นไปได้ไหมว่ามันมีไว้เที่ยวรอบโลก ? บางทีมีเพียงระดับหลุดพ้นเท่านั้นถึงจะขึ้นได้โดยไม่สนใจว่าต้องจ่ายเท่าใด ส่วนเวลาที่ใช้บินรอบโลกหลายรอบ อย่าว่าแต่วันเดียวเลย ต่อให้ไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็อาจจะไปเที่ยวรอบโลกได้หลายรอบ !”
ดวงตาของหลิงวู่เปล่งประกายก่อนจะอธิบายที่เขาคิด
“เจ้ากำลังจะบอกว่า รถเหล่านี้อาจจะมีไว้เพื่อใช้เดินทางระหว่างดวงดาว ?”
ปีศาจแห่งภัยพิบัติที่ไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียวตั้งแต่ต้น กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ใช่ !”
หลิงวู่พยักหน้า
เคอร์เบอรอสมองไปที่ทุกคนและพูดด้วยเสียงเย็นชา “แต่สัตว์ที่ใช้ลากรถมันตายไปแล้ว แกจะไปหาสัตว์ตัวไหนมาลากมันไป ?”
ทันทีที่มันพูดจบ ทุกคนก็หันไปมองเคอร์เบอรอสทันที
“บัดซบ แกมองข้าทำไม ? นายท่านหมาผู้นี้แค่พูดให้คิดเท่านั้น !”
เมื่อเห็นคนจำนวนมากมองมัน เคอร์เบอรอสก็รีบวิ่งหนีและไปแอบด้านหลังเป่ยเฟิง
ใบหน้าของหลิงวู่เปลี่ยนเป็นสีดำพร้อมกับริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย ตอนนี้เขาอยากจะบีบคอเจ้าสิ่งมีชีวิตป่าเถื่อนตรงนี้ให้ตายด้วยมือเขาจริง ๆ !
“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม นี้คือโอกาสสุดท้ายแล้ว ข้าจะลองขึ้นไปดู”
หลิงวู่เค้นเสียงและมองเคอร์เบอรอสก่อนจะก้าวขึ้นไปในรถ
คนที่อยู่รอบ ๆ เองก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกัดฟันและเดินตามเขาไป
ไป๋เซียงหันกลับไปถาม “เจ้านาย เราต้องไปด้วยไหม ?”
“ลองเข้าไปดู”
เป่ยเฟิงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินไปที่รถ ตอนนี้พวกเขาเหมือนเป็ดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้มันก็ไม่มีหนทางให้ถอยกลับเช่นกัน
เส้นทางที่อยู่ข้างหลังเต็มไปด้วยความมืดมิด มันไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ แม้แต่พลังจิตของเขาเองก็ไม่สามารถแผ่กระจายออกไปในความมืดนั่นได้
เป่ยเฟิงไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ เป็นเหมือนเขาหรือไม่ หรือบางทีพวกเขาอาจจะรู้แล้วแต่แค่ไม่พูดออกมา ไม่ว่ายังไงรถม้าเหล่านี้ก็คือความหวังสุดท้ายและความหวังเดียวของพวกเขา
มีสัตว์อสูรหลายตัวที่ยืนอยู่รอบ ๆ นอกเหนือจากผู้ฝึกตนกว่า 10 คนที่อยู่บนรถม้าแล้ว ยังมีสัตว์อสูรกว่า 30 ตัวที่เลือกจะเดินตามหลิงวู่เข้าไป
ด้านนอกรถมันดูใหญ่โต แต่เมื่อเข้ามาข้างในมันกลับเล็กราวกับเป็นมิติที่แยกออกไป !
รอบ ๆ มิติแห่งนี้เต็มไปด้วยดินสีดำ ที่ปลายขอบฟ้ามีลูกไฟสีส้มคล้ายดวงอาทิตย์ มีพืชจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนดินสีดำ แต่ตอนนี้พวกมันแห้งเหี่ยวไปหมดแล้ว
“นั่นมันดอกไม้แห่งพระเจ้าโลหิต ! เป็นไปได้ยังไงกัน นี้มันดอกไม้แห่งพระเจ้าโลหิตที่มีอายุกว่า 500 ปี ข้าเพิ่งจะเคยเห็นมันนี่แหละ !”
“ดอกไม้แห่งพระเจ้าโลหิตอะไรกัน ? ดูนี่ อะโคไนต์ ! สวรรค์ รถม้าคันนี้มันยังไงกัน ?”
กลุ่มผู้ฝึกตนตื่นเต้นมาก พวกเขามองสวนสมุนไพรจิตวิญญาณอันล้ำค่าตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น เพียงแค่ก้าวออกไปไม่กี่ก้าวพวกเขาก็ค้นพบสมุนไพรจิตวิญญาณจำนวนมาก หากอยู่โลกภายนอกมันคือสมบัติชั้นยอด ! นี้มันราวกับรางวัลที่มอบให้หลังจากฝ่าฝันอุปสรรคมาได้ !
ทั้งกลุ่มเดินไปช้า ๆ พวกเขามองหาสมุนไพรที่สามารถถอนออกมาได้ แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ไม่เห็นสมุนไพรจิตวิญญาณใด ๆ ที่ยังมีพลังชีวิตหลงเหลือซักอัน
“นั่นอะไร ? เหรียญเสือ ?”
คิ้วของลิงน้ำขมวดแน่นจากนั้นก็หยิบเหรียญขนาดใหญ่ขึ้นมา เหรียญนี้มันมีรูปหัวเสืออยู่
ลิงน้ำตรวจสอบมันอย่างรอบคอบแต่ก็ไม่พบอะไร มันดูธรรมดามาก สุดท้ายมันก็โยนทิ้งไป
เป่ยเฟิงเดินไปเก็บมันขึ้นมา
ก่อนที่เขาจะตอบสนองได้ทัน ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งเข้าไปในหัวของเขา !
“หืม ?”
เป่ยเฟิงส่ายหัวด้วยความสับสน เขาตรวจสอบร่างกายด้วยพลังจิตแต่เขาก็ไม่รู้ว่าเหรียญหายไปไหน
หากไม่ใช่ว่ามีบางอย่างอยูในหัวเขา เขาคงไม่เชื่อว่าเมื่อครู่จะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เขาก็ยังหาร่องรอยของเหรียญนั้นไม่ได้เลย
นอกรถม้า สัตว์แปลก ๆ บางอย่างขยับหนวดไปมาพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา
ฉีสีดำไหลออกมาจากรูจมูกของมัน สัตว์ตัวนี้ดูคล้ายมังกรวารีมาก และดูเหมือนมันจะเฝ้ารอคอยอยู่ข้างนอกมานาน !
“โฮก !”
“กร๊าซ !”
สัตว์อสูรกว่าร้อยตัวที่อยู่ด้านนอกไม่มีตัวใดที่อ่อนแอ แต่ในเวลานี้พวกมันเริ่มกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและความเจ็บปวด !
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ ฉีสีดำก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากสัตว์อสูรที่สภาพของมันในตอนนี้ราวกับได้ตายไปแล้ว !
หลังจากนั้นฉีสีดำก็ม้วนรวมกันก่อนจะพุ่งไปหาสัตว์แปลก ๆ ตัวนั้น
หลังจากนั้นสัตว์ตัวนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหว ! ในไม่ช้าตัวของมันค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เลือดและฉีของมันปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟ ในไม่ช้าพื้นที่ทั้งหมดรอบตัวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด !
เปลวไฟสีแดงเลือดปรากฏบนร่างของมันราวกับเลือดและฉีของมันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ !
รถม้าสั่นอย่างแรง จากนั้นสัตว์ตัวนั้นก็ลากรถม้าขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะฉีกกระชากท้องฟ้าตรงหน้า !
“ฉับ !”
เสียงเหมือนผ้าถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นช่องว่างมิติขนาดใหญ่ก็เปิดออก !
ร่างของสัตว์ตัวนั้นส่ายไปมาก่อนจะบินเข้าไปในรอยแยกมิติ !
ภายในรถ เป่ยเฟิงและคนที่เหลือรู้สึกเบื่อมาก พวกเขายังคงเดินต่อไปข้างหน้าด้วยความเบื่อหน่าย
หลังจากนั้นภาพตรงหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป ตรงหน้าพวกเขาคือสัตว์อสูรตัวโตกว่า 10 จาง มันมีเขาและมีปีกเหมือนค้างคาวอยู่บนหลังของมัน
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกระดูกที่สวมเกราะอยู่รอบ ๆ จำนวนมาก และส่วนใหญ่มันคือกระดูกของมนุษย์ !
ทุกคนรู้สึกตกใจ แต่หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยคำถามจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้มันใช่ตัวที่โจมตีรถม้าหรือเปล่า ? จากลักษณะท่าทางของมันดูเหมือนพวกมันตายไปแล้ว
แรงกดดันแปลก ๆ ลอยอยู่รอบ ๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ
หนึ่งในสัตว์อสูรก้าวออกไปข้างหน้า จากนั้นก็โจมตีออกไป ในขณะเดียวกันเลือดสีดำจำนวนมากก็ปรากฏจากที่ใดไม่ทราบก่อนจะพุ่งเข้าไปให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจนทำให้มันดูเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง !
แรงกดดันที่มันปลดปล่อยออกมาในตอนนี้มันทำให้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยเหงื่อ
แต่เหตุการณ์แปลก ๆ นี้กินเวลาชั่วครู่ก่อนจะหายไป
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะรีบออกมาจากตรงนั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มันได้ตายไปนานหลายปี แต่เลือดที่เหลืออยู่ในมิตินั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจ
หากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ มันสามารถฆ่าทุกคนได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องสงสัย !
“ชั้วะ !”
เสียงเบา ๆ ดังขึ้น จากนั้นทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบ
“นี้ข้าฝันไปงั้นรึ ?”
สัตว์อสูรที่เหมือนลิงขยี้ตาพร้อมกับปากที่เปิดกว้าง
“อู๊ด อู๊ด สวยมาก !”
สัตว์อสูรเหมือนหมูเองก็ใช้จมูกของมันฟุดฟิดก่อนจะพูดขึ้น
“นี้คืออวกาศ !”
“นี้เป็นของจริงใช่ไหม มันไม่ใช่ฉากที่อยู่บนรถม้าหรอกนะ ?” บางคนถามด้วยความสับสน พวกเขาไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองออกมาจากโลกใบเก่าแล้ว
ณ ตอนนี้ ดาวเคราะห์สีสันสดใสจำนวนมากเปล่งประกายอยู่รอบ ๆ ทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจและสับสน มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าดาวเคราะห์ที่เปล่งประกายอยู่ตรงนี้มันใช่ของจริงหรือไม่ ?