cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

Doombringer the 5th - ตอนที่ 140

  1. Home
  2. All Mangas
  3. Doombringer the 5th
  4. ตอนที่ 140
Prev
Next

Ch.140 – งานประมูลแห่งความมืด (1)

Translator : YoyoTanya / Author

Ch. 136

งานประมูลแห่งความมืด (1)

 

Part 1

 

จุดประสงค์ของซาลในการเข้าร่วมงานประมูล ไม่ใช่เพื่อซื้อสินค้าหายาก แต่เป็นการรวบรวมชื่อเสียง

ตามที่โทร่าบอก งานประมูลแห่งความมืดนี้เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจนมีการบันทึกภาพและถ่ายทอดสดไปยังผู้ใช้ศาสตร์มืดกลุ่มต่าง ๆ ด้วย นี่จึงเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการสร้างชื่อให้เป็นที่ประจักษ์ในกลุ่มผู้ใช้ศาสตร์มืด

สำหรับโลกใหม่ซึ่งเป็นโลกแห่งการผจญภัย ค่าของคนจะวัดกันที่ความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งจะนำมาซึ่งชื่อเสียง ชื่อเสียงทำให้เกิดการยอมรับ และการยอมรับจะนำไปสู่สัมพันธภาพ

การแสดงฝีมือในงานประมูลจึงถือเป็นโอกาสในการสร้างการยอมรับและหาพันธมิตร

โทร่าใช้แผงควบคุมสามมิติที่ปรากฏขึ้นมาบนโต๊ะทำการลงทะเบียนให้กับซาล ในขณะเดียวกันเธอก็อธิบายพื้นฐานของการประมูลให้เขาฟังไปด้วย

“การประมูลในแต่ละวันจะแบ่งออกเป็นสองรอบด้วยกัน คือรอบเที่ยงกับรอบหกโมงเย็น ผู้ที่ต้องการจะเข้าร่วมการประมูลต้องกรอกแบบฟอร์มและยื่นเรื่องเพื่อขอเข้าร่วมก่อนจะถึงเวลาประมูลสองชั่วโมง นี่ก็เพื่อไม่ให้มีการรั่วไหลของรายการสินค้าซึ่งจะทำให้เกิดการทุจริตในการประมูลได้ ตอนนี้ยังไม่เลยกำหนดของการยื่นเรื่องเพื่อเข้าร่วมการประมูลในรอบหกโมงเย็น ต้องนับว่านายน่ะโชคดีเลยล่ะ โฮก~”

“ต้องยื่นก่อนสองชั่วโมงงั้นเหรอ.. นับว่าทันฉิวเฉียดเลยนะครับเนี่ย แล้วการประมูลรอบที่สองของวันแบบนี้จะมีของดี ๆ เหลืออยู่บ้างมั้ยนะ”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก โฮก~ โดยปกติแล้วการประมูลรอบสองของวันแรก กับการประมูลรอบแรกของวันสุดท้ายน่ะมักจะมีของดีมาลงประมูลเสมอ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ดึงดูดลูกค้าดี ๆ ได้ค่อนข้างมากไงล่ะ”

“เอ๋? ยังไงเหรอครับคุณโทร่า?”

“นิทรรศการหนังสือแห่งความมืดน่ะจะจัดติดต่อกันเป็นเวลาสามวัน ทำให้ผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการมักจะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน กลุ่มแรกคือพวกที่รีบมาตั้งแต่วันแรก และกลับไปในวันที่สอง อีกกลุ่มคือคนที่รีบมากันในวันที่สอง และกลับไปในวันที่สาม คนที่อยู่แช่ตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายน่ะไม่ค่อยมีหรอกนะ คนที่มาในวันสุดท้ายก็ไม่ค่อยมีเช่นกัน

ถึงแม้ในงานประมูลจะมีหนังสือหายากมาขาย แต่เพราะไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่ามันจะเป็นหนังสืออะไรบ้าง และตนเองจะชนะการประมูลรึไม่ คนทั่วไปจึงมักจะไปหาซื้อหนังสือภายในงานก่อน เพราะมันเป็นวิธีที่แน่นอนกว่า ยิ่งถ้ารีบไปหาซะแต่เนิ่น ๆ อาจเจอหนังสือที่มีระดับ A หรือระดับ S โดยไม่ต้องเข้าร่วมงานประมูลเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้การประมูลรอบเที่ยงของวันแรกจึงมีคนเข้าร่วมไม่เยอะนัก

เพราะฉะนั้น การประมูลรอบค่ำของวันแรกจึงเป็นหนึ่งในรอบประมูลที่มีคนเข้าร่วมเยอะที่สุด เพราะผู้ร่วมงานส่วนใหญ่จะเดินดูของในงานกันเรียบร้อยแล้ว และหันมาให้ความสนใจกับการประมูลแทนไงล่ะ”

“แบบนี้นี่เอง… แล้ววันที่สองเนี่ย ทำไมคนถึงน้อยกว่ารอบเย็นของวันแรกล่ะครับ?”

“อย่างที่บอกไปว่าผู้ร่วมงานส่วนใหญ่มักจะค้างที่งานแค่คืนเดียว พอเข้าวันที่สองคนจึงเริ่มทยอยกันออกจากงาน แม้วันที่สองจะมีคนกลุ่มใหม่เข้ามาเสริม แต่จำนวนของผู้ที่มาวันที่สองก็ยังน้อยกว่าผู้ที่มาวันแรกอยู่ดี การประมูลทั้งรอบเที่ยงและรอบเย็นของวันที่สองจึงไม่ค่อยคึกคักนัก

สำหรับวันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้ายของนิทรรศการ ในช่วงเย็นจะมีการลดกระหน่ำของบูธจัดแสดงและร้านค้าต่าง ๆ เพื่อระบายสินค้าก่อนเลิกงาน แถมยังมักจะมีการควักเอาสินค้าเด็ดที่เก็บไว้ออกมาขายเพื่อดึงดูดลูกค้าอีกด้วย ความสนใจของผู้ร่วมงานจึงไปอยู่ที่ร้านค้าภายในงานมากกว่าการประมูล ดังนั้นการประมูลในช่วงเย็นจึงค่อนข้างเงียบเหงา ส่งผลให้การประมูลช่วงเที่ยงกลายเป็นเหมือนโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ขายและผู้ประมูล มันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งรอบการประมูลที่คึกคักที่สุดไปโดยปริยาย”

“เข้าใจล่ะ แปลว่ารอบเย็นของวันนี้ก็อาจมีหนังสือที่หายากที่สุดมาลงประมูลด้วยสินะครับ?”

“ตามปกติก็เป็นงั้นแหละ เพราะการประมูลรอบนี้มักจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่ารอบเช้าของวันที่สาม อีกอย่างคือเพราะเป็นวันแรกทำให้ทุกคนยังมีเงินเต็มกระเป๋ากันอยู่ ถ้าจะขายสินค้าให้ได้ราคาสูง ๆ ก็ควรจะต้องนำมาประมูลในวันนี้เท่านั้น… อ้อ ของที่เอามาลงประมูลกันน่ะมันไม่ใช่ว่าจะมีแต่หนังสือหรอกนะ โฮก~”

“เอ๋? มีของอย่างอื่นนอกจากหนังสือด้วยเหรอครับ?”

“มีสิ แต่มันก็เป็นของที่เกี่ยวกับหนังสือนั่นแหละ เช่นแผนที่ดันเจี้ยนที่มีหนังสือหายากเก็บซ่อนอยู่ หรือชุดถอดรหัสสำหรับใช้อ่านหนังสือที่ยังไม่มีใครแปลได้ อะไรทำนองนี้น่ะ เอ้า วางมือลงบนนี้ซะ แค่นี้ก็เรียบร้อยละ”

โทร่าสร้างวงเวทเล็ก ๆ ขึ้นมาบนโต๊ะและบอกให้ซาลวางมือของเขาลงไปบนนั้น มันเป็นขั้นตอนสำหรับการประทับลายมือเพื่อลงทะเบียน ซึ่งซาลก็ทำตามอย่างว่าง่าย การลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการประมูลของเขาจึงเป็นอันเสร็จสมบูรณ์

“เอาล่ะ ทีนี้ก็มาถึงรายละเอียดเรื่องกฎของการประมูลล่ะนะ ในการเสนอราคาแต่ละครั้ง ต้องบวกราคาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ของราคาตั้งต้น จึงจะนับเป็นการเสนอราคาที่ถูกต้อง เช่นหากของมีราคาตั้งต้น 100 โกลด์ การเสนอราคาครั้งแรกก็ต้องไม่น้อยกว่า 110 โกลด์ หรือเมื่อมีการสู้ราคากันไปจนถึง 200 โกลด์แล้ว หากจะเสนอราคาเพิ่มก็ต้องให้ราคาไม่ต่ำกว่า 210 โกลด์ แบบนี้เป็นต้น

หากการแข่งราคาดำเนินไปจนราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเป็นสามเท่าของราคาตั้งต้น ผู้เข้าร่วมการประมูลที่ยังไม่เคยเสนอราคาเลยสักครั้งจะถูกตัดสิทธิ์ในการเสนอราคาโดยอัตโนมัติ เพราะถือว่าไม่ได้ให้ความสนใจกับสินค้าชิ้นนี้ เช่นถ้าสินค้ามีราคาเริ่มต้นที่ 100 โกลด์ เมื่อราคาประมูลเพิ่มขึ้นถึง 300 โกลด์ คนที่ไม่เคยเสนอราคาเลยก็จะไม่มีสิทธิ์เสนอราคาอีก นี่เป็นหนึ่งในมาตรการสำหรับป้องกันพวกที่ชอบซุ่มดูการแข่งราคาเพื่อฉวยโอกาสในภายหลัง จริง ๆ มันก็ช่วยได้ไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ประมูลรู้ได้คร่าว ๆ ว่ามีคู่แข่งที่แท้จริงอยู่กี่คน จะได้ประเมินสถานการณ์และวางแผนได้อย่างถูกต้อง

หากไม่มีใครเสนอราคาที่มากกว่าเป็นเวลาสิบวินาที ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูลและได้สินค้าไป เว้นแต่จะมีคน ‘ย้ำราคา’ ที่ต่ำกว่า ก็จะเป็นการเปิดการประลองอย่างที่ได้เห็นไปก่อนหน้านี้ อันนี้ฉันคงไม่อธิบายเพิ่มล่ะนะ ความจริงกฎนี้ยังมีเงื่อนไขยิบย่อยอีกไม่น้อยเพื่อรองรับในกรณีต่าง ๆ แต่ตอนนี้แค่ทำความเข้าใจคอนเซปต์หลักของมันก็พอแล้วล่ะ ถ้ายังมีอะไรสงสัยก็ลองอ่านเอาจากคู่มือการประมูลนี่ละกัน โฮก~”

เมื่ออธิบายจบ โทร่าก็นำหนังสือคู่มือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากช่องมิติส่วนบุคคลและส่งมันให้กับซาล

“ขอบคุณมากครับ เอาไว้ผมจะอ่านดู ตอนนี้ขั้นตอนการลงทะเบียนคงเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะครับ ถ้างั้นผมขอตัวไปเดินดูรอบ ๆ หน่อยก็แล้วกัน”

“ไม่ได้หรอก”

“เอ๋?”

“หลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องอยู่แต่ในห้องรับรองจนกว่าจะถึงเวลาเริ่มประมูล เพื่อป้องกันการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างผู้เข้าร่วมประมูล ดังนั้นนายต้องอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะจบการประมูลไงล่ะ”

โทร่ากล่าวพลางแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้ซาลเพิ่งจะรู้ตัวว่านี่เป็นความจงใจของอีกฝ่ายที่ปกปิดเรื่องนี้ไว้จนกระทั่งถึงตอนนี้

“หมายความว่า ผมจะออกไปไหนไม่ได้จนกว่าการประมูลจะจบลงงั้นเหรอครับ?”

“ถูกต้อง ทันทีที่การลงทะเบียนเสร็จสิ้น ห้องนี้จะถูกล็อกไว้จนจบการประมูล ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้า-ออกได้ ส่วนเรื่องห้องน้ำก็ไม่ต้องห่วงเพราะประตูด้านข้างนี่มีห้องน้ำส่วนตัวสำหรับให้ผู้ร่วมประมูลสามารถใช้ได้อยู่น่ะ โฮก~”

“อืม.. ผมน่ะไม่เป็นไรหรอกนะครับ แล้วคุณโทร่าล่ะครับ?”

“หืม? ฉันทำไมเหรอ?”

“ก็ถ้าห้องนี้ถูกล็อกไปแล้ว คุณโทร่าก็ออกไปไหนไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ?”

“เอ๊ะ?”

ทันใดนั้นดวงตาของโทร่าก็เบิกโพลงขึ้น เพราะเพิ่งจะรู้ถึงความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของตนเอง

 

——————————————————————————–

 

Part 2

 

อีกด้านหนึ่ง ในห้องพักอันโอ่โถงบนโรงแรมหรูบริเวณย่านที่พักของชั้นหก แบล็คโรสซึ่งเพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมอากาล่อนก็กำลังเดินวนไปเวียนมาอยู่ภายในห้อง พลางครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง

“ถึงอายุจะห่างกันมาก และเค้าหน้าจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างก็นับว่าใกล้เคียงกันอยู่… อีกอย่างคือ คนที่กล้าอ้างตัวว่าเป็นลูกชายของคุณแซนโดรน่ะในโลกนี้คงมีไม่กี่คนหรอก.. ไม่สิ น่าจะมีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ…”

แบล็คโรสพึมพำกับตัวเองในระหว่างครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แต่อย่างไรซะทุกอย่างก็เป็นแค่ทฤษฎีและข้อสันนิษฐาน เธอจึงยังไม่คิดที่จะด่วนสรุป

ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ก่อนจะมีหญิงสาวผมสีน้ำตาลคนหนึ่งเปิดประตูและเดินเข้ามา เธอเป็นคนของฝ่ายจัดงานซึ่งอยู่ใต้สังกัดของอากาล่อนและเป็นสมาชิกของกลุ่มแซนโดรโฮลิกด้วย แบล็คโรสจึงไหว้วานให้อีกฝ่ายช่วยใช้เส้นสายของเจ้าหน้าที่ในการหาข่าวให้

เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงแล้ว แบล็คโรสจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงอันสุภาพ

“เป็นยังไงบ้างคะ? ได้ข้อมูลอะไรมาบ้างรึเปล่า?”

“ค่ะ ฉันลองสอบถามจากคนของฝ่ายอื่น ๆ มาแล้ว ถึงพวกเขาจะไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่ก็ยังทำให้รู้เรื่องน่าสนใจหลายอย่างทีเดียว ดูเหมือนผู้ชายที่ชื่อแร็กน่าน่ะจะเข้างานมาแบบไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ ทำให้ฝ่ายเฝ้าระวังต้องจับตาดูเขาเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังก่อเรื่องไม่หยุดหย่อน โดยการส่งลูกสมุนออกไปก่อกวนตามที่ต่าง ๆ จนเจ้าหน้าที่ของงานต้องหัวหมุนกันเป็นแถบ ๆ ตอนนี้เขาก็เลยถูกกักบริเวณอยู่ที่ชั้นแปดของงานค่ะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของหญิงสาว แบล็คโรสก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะสงบท่าทีลงและเอ่ยคำถามอีกครั้ง

“ส่งลูกสมุนออกไปก่อกวนเหรอคะ? เป็นลูกสมุนแบบไหน? ใช่สมุนอัญเชิญรึเปล่า?”

“รายละเอียดเรื่องนี้ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ  เพราะผู้ดูแลฝ่ายอื่น ๆ ไม่ยอมบอกอะไรมากนัก แต่เห็นว่าเป็นของที่คล้าย ๆ กับสมุนรับใช้น่ะค่ะ”

“สมุนรับใช้เหรอคะ…”

แบล็คโรสนิ่งเงียบไปอีกครั้งหลังจากได้ฟังข้อมูลจากหญิงสาว เธอเริ่มจะแน่ใจแล้วว่าแร็กน่าคนนี้เป็นคนที่เธอรู้จัก

“สมุนรับใช้ มันก็คือสมุนอัญเชิญในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นแหละ คนที่เชี่ยวชาญวิชาแขนงนี้  แถมยังเข้างานมาแบบไม่ถูกต้อง แล้วยังก่อเรื่องได้ไม่หยุดหย่อนอีก คงไม่น่าจะเป็นคนอื่นไปได้แล้วล่ะนะ…”

หลังจากได้ข้อสรุป แบล็คโรสก็เผยรอยยิ้มอันสดใสออกมาที่มุมปาก แววตาที่เคยเย็นชาของเธอก็ดูอ่อนโยนลงเหมือนกับเธอกำลังหวนนึกถึงวันเก่า ๆ ทำให้หญิงสาวที่เข้ามาแจ้งข่าวต้องรู้สึกประหลาดใจ เพราะโดยปกติแล้วรองหัวหน้าของกลุ่มแซนโดรโฮลิกคนนี้จะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมาให้ใครเห็นนัก

แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มและแววตานั้นก็จางหายไป ราวกับเธอเพิ่งจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“แย่จริง… เราไม่เคยนึกถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อนก็เลยได้ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการปกปิดตัวเองเลยสักนิด… ถึงจะอยู่ในร่างนี้ก็เถอะ แต่เด็กคนนั้นต้องมองออกแน่ โดยเฉพาะยิ่งได้คุยกันไปตั้งขนาดนั้นแล้วนี่นา…”

แบล็คโรสรู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ถูกฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวจริงได้ก่อน เธอเคยคิดมาบ้างว่าถ้าได้พบอีกฝ่ายโดยบังเอิญจะแอบแกล้งเขาอย่างไรดี แต่ถ้าตัวตนของเธอถูกฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ไปแล้ว ทุกอย่างก็เป็นต้องล้มเลิก

“ไม่สิ… ถึงเด็กคนนั้นจะรู้ว่าเราเป็นใครแล้วก็จริง แต่เขายังไม่รู้ว่าเรารู้นี่นา.. ถ้างั้น...”

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แบล็คโรสก็เผยรอยยิ้มอันขี้เล่นออกมา ก่อนจะหันไปถามหญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ยังยืนรออยู่ใกล้ ๆ

“ตอนนี้คนที่ชื่อแร็กน่าน่ะเขาถูกกักบริเวณอยู่ที่ชั้นแปดสินะคะ? แล้วเขาจะเข้าร่วมการประมูลด้วยรึเปล่า?”

“เอ่อ.. ก็น่าจะนะคะ เห็นว่าคุณโทร่าที่คอยเฝ้าคุมเขาอยู่ได้พาเขาเข้าไปในห้องรับรองสำหรับผู้เข้าร่วมการประมูล แปลว่าก็น่าจะยอมให้เขาเข้าร่วมการประมูลด้วยนั่นแหละค่ะ”

การนำตัวปัญหาไปกักบริเวณไว้ที่ชั้นแปดซึ่งเป็นโซนงานประมูลถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ค่อยปกติอยู่แล้ว เพราะหากจะทำการคุมเข้มกันจริง ๆ ก็ควรพาไปกักบริเวณไว้ที่ชั้นเก้าซึ่งเป็นกองอำนวยการของฝ่ายจัดงานมากกว่า แบล็คโรสจึงคิดว่าการที่ฝ่ายจัดงานนำตัวแร็กน่าไปที่ชั้นแปด คงเป็นการกักบริเวณแค่ในนามเท่านั้น

“แบบนี้แปลว่าน่าจะอนุญาตให้เข้าร่วมการประมูลได้สินะ ปัญหาคือเด็กคนนั้นจะเข้าร่วมการประมูลระดับไหนนี่สิ… ปีนี้เขาควรจะมีอายุเท่าไหร่น้อ? สิบเอ็ด.. หรือสิบสองปี? ด้วยขีดจำกัดด้านอายุและร่างกาย ต่อให้ฝึกหนักแค่ไหนก็ไม่น่ามีฝีมือเกินระดับ 7 หรือ 8 ไปได้.. แต่ร่างที่เขาใช้ในตอนนี้ก็ไม่ใช่ร่างจริงอยู่แล้ว และเวทอัญเชิญของเด็กคนนั้นก็ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกฎพื้นฐานของเวทอัญเชิญทั่วไป เมื่อสองปีก่อนเขาก็มีสมุนระดับ 7 ในครอบครองแล้ว.. ไม่สิ ถ้าแค่การโจมตีก็มีถึงระดับ SS ด้วยซ้ำ… ด้วยคุณสมบัตินี้การจะร่วมงานประมูลระดับ A ก็ไม่ใช่เรื่องเกินตัวอะไร ส่วนงานประมูลระดับ S ถึงจะเสี่ยงไปสักหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้… และด้วยนิสัยของเด็กคนนั้น เขาก็น่าจะ…”

หลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานจนได้ข้อสรุป แบล็คโรสก็หันกลับไปพูดกับหญิงสาวผมสีน้ำตาลอีกครั้ง

“ตอนนี้คุณอากาล่อนกำลังล้มป่วยอยู่ ทางฝ่ายดูแลการประมูลคงกำลังต้องการคนมาทำหน้าที่ดูแลการประมูลระดับ S แทนสินะคะ?”

“อ้อ ใช่แล้วค่ะ ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่มีปัญหา แต่ทางเราก็กำลังคิดว่าควรจะให้สมาชิกระดับสูงหรือผู้อาวุโสท่านอื่นมาเตรียมพร้อมไว้เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า”

“ถ้าไม่รังเกียจละก็ ฉันจะช่วยเป็นผู้ดูแลการประมูลให้ก็ได้นะคะ”

“เอ๋!? จริงเหรอคะ!? ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะสิคะ! พวกเรากำลังกังวลอยู่เลยว่าถ้าไปขอความช่วยเหลือจากคนของฝ่ายอื่นหรือผู้อาวุโสท่านอื่น คุณอากาล่อนจะไม่พอใจเอา ในกลุ่มของเราก็ไม่มีใครมีฝีมือในระดับที่สามารถโค่นนักผจญภัยระดับ S ได้ชัวร์ ๆ เลยสักคนด้วย  แต่ถ้าเป็นคุณแบล็คโรสละก็ ทุกอย่างก็จะลงตัวพอดีเลยค่ะ!”

หญิงสาวผมสีน้ำตาลกล่าวพูดด้วยท่าทางยินดีจนออกนอกหน้า เพราะนี่เป็นปัญหาที่เธอกำลังกังวลอยู่พอดี ในกลุ่มผู้ติดตามของอากาล่อนมีคนที่มีฝีมือระดับ S อยู่หลายคน ทว่าแต่ละคนก็ยังอยู่ในช่วงต้นของระดับ S เท่านั้น จึงไม่มีความมั่นใจสักเท่าไหร่ว่าจะสามารถทำหน้าที่แทนอากาล่อนในการควบคุมการประมูลระดับ S ได้

ตามปกติพวกเขาก็ควรจะขอกำลังสนับสนุนจากฝ่ายอื่นหรือผู้อาวุโสท่านอื่น แต่ทุกคนรู้ดีว่าการทำแบบนั้นจะทำให้อากาล่อนผู้มีนิสัยจริงจังและดื้อดึงไม่พอใจนัก เพราะเท่ากับเป็นการบกพร่องในหน้าที่ที่กลุ่มของเขาได้รับมอบหมาย

ด้วยเหตุนี้ เมื่อแบล็คโรสออกปากอาสาจะทำหน้าที่ให้ หญิงสาวผมสีน้ำตาลจึงรู้สึกยินดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะแม้จะไม่ใช่คนในกลุ่มของอากาล่อน แต่ด้วยฐานะของรองหัวหน้าและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแซนโดรโฮลิก ทำให้อากาล่อนไม่ได้มองแบล็คโรสเป็นคนอื่นคนไกลนัก อีกทั้งเธอยังเคยได้ยินมาว่าแบล็คโรสผู้นี้สามารถต่อสู้กับอากาล่อนที่อยู่ระดับ SS ได้อย่างสูสีทีเดียว เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบจนหาใครมาแทนไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ขัดข้อง แบล็คโรสส่งยิ้มละไมให้กับอีกฝ่ายเป็นเชิงแสดงไมตรี แต่ความจริงแล้วมันเป็นรอยยิ้มซึ่งเกิดจากความพึงพอใจที่แผนของเธอดำเนินไปอย่างไม่มีปัญหามากกว่า

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ”

 

——————————————————————————–

 

Part 3

 

ที่ห้องรับรองของผู้เข้าร่วมการประมูล

โทร่าจงใจจะแกล้งซาลให้ติดแหงกอยู่ในห้องรับรองจึงไม่ได้บอกกับเขาเรื่องที่ห้องจะถูกปิดหลังจากลงทะเบียน แต่ตัวเธอเองกลับลืมไปว่าควรจะออกมาจากห้องก่อนแล้วให้ซาลทำการลงทะเบียนด้วยตัวเอง ทำให้เธอต้องพลอยติดแหงกอยู่ในห้องนั้นไปด้วย

แม้โทร่าจะพยายามติดต่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลการประมูลเพื่อขอออกจากห้อง แต่เพราะกฎของงานประมูลนั้นค่อนข้างเข้มงวด คำขอของเธอจึงถูกปฏิเสธ

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น โทร่าจึงได้แต่แต่ผุดลุกผุดนั่งอยู่บนโซฟาของตัวเองด้วยความหงุดหงิดตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมงนี้ ในขณะที่ซาลเอนกายอ่านหนังสือด้วยท่าทางสบาย ๆ ราวกับไม่รู้สึกอะไรกับพฤติกรรมอันชวนรำคาญของอีกฝ่ายเลย

ความจริงแล้วเขากลับรู้สึกขบขันกับท่าทางกระวนกระวายเหมือนลิงที่ถูกขังอยู่ในกรงของโทร่ามากกว่า แต่ก็พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า เพราะไม่อยากทำให้ฝ่ายตรงข้ามหงุดหงิดมากขึ้น

เมื่อเหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนจะเริ่มการประมูล ก็มีคำประกาศจากฝ่ายดูแลการประมูลดังเข้ามาในห้อง มันเป็นข้อความที่ส่งถึงผู้เข้าร่วมการประมูลทุกคน

“อีกสิบนาทีการประมูลจะเริ่มแล้วนะคะ ขอให้ทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมด้วยค่ะ”

เมื่อได้ยินคำประกาศ ซาลก็พับปิดหนังสือลงและลุกขึ้นมานั่งตัวตรงอีกครั้ง ส่วนโทร่าก็แสดงสีหน้าโล่งใจออกมาและกลับมานั่งบนโซฟาดี ๆ เช่นกัน

“จะว่าไปแล้ว คุณโทร่าอธิบายแค่กฎของการประมูลให้ผมฟังเองนี่ครับ แล้วกฎของการต่อสู้ล่ะครับ มีอะไรที่ผมควรรู้รึเปล่า?”

“อืม… ก็ไม่น่าจะมีนะ การต่อสู้ในลานประมูลน่ะ อนุญาตให้ใช้วิชาได้ทุกรูปแบบนั่นแหละ เว้นก็แต่… อ้อ การนำคนอื่นเข้าไปในลานประมูลไม่ว่าจะด้วยการอัญเชิญหรือการเปิดเกทน่ะเป็นสิ่งต้องห้ามนะ ผู้ประมูลต้องทำการต่อสู้ด้วยฝีมือของตัวเองเท่านั้น”

“หืม? แบบนี้คนที่ถนัดวิชาสายเวทอัญเชิญก็เสียเปรียบแย่น่ะสิครับ”

“ถ้าเป็นแค่ร่างอัญเชิญเสมือนหรือตัวตนที่เก็บไว้ในช่องมิติส่วนบุคคลแล้วทำการอัญเชิญออกมาก็ไม่มีปัญหา เพราะนั่นถือว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัวของนักเวทอัญเชิญ แต่ถ้าทำการอัญเชิญตัวตนหรือบุคคลจากภายนอกเข้าไปในลานประมูลจะถือเป็นการผิดกฎที่ให้ผู้เข้าประมูลต้องสู้ด้วยความสามารถของตนเอง ซึ่งในลานประมูลก็มีขอบเขตเวทมนตร์สำหรับป้องกันการอัญเชิญตัวตนภายนอกผ่านเกทหรือเวทอัญเชิญเอาไว้แล้วล่ะนะ ถึงคิดจะทำก็ทำไม่ได้หรอก โฮก~”

“อ้อ ถ้างั้นก็คงไม่มีปัญหาหรอกมั้งครับ ยังไงซะสมุนอัญเชิญของผมก็เป็นสมุนอัญเชิญที่อยู่ในช่องมิติอยู่แล้วล่ะ”

ซาลกล่าวตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้ความกังวล ในขณะที่โทร่าหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะยังไม่ปักใจเชื่อว่าอีกฝ่ายมีสมุนอัญเชิญระดับ S เก็บไว้ในช่องมิติจริง ๆ มันเป็นอะไรที่ขัดกับทฤษฎีพลังที่เธอรู้มา อีกทั้งสมุนของแร็กน่ายังดูมีชีวิตจิตใจราวกับไม่ใช่สมุนอัญเชิญ เธอจึงคิดว่าพวกมันอาจเป็นตัวตนที่ถูกอัญเชิญมาจากที่อื่นด้วยวิธีการบางอย่างมากกว่า

แต่อย่างไรซะ ลานประมูลก็มีขอบเขตป้องกันการอัญเชิญจากภายนอกอยู่ ดังนั้นความสามารถของแร็กน่าจะเป็นของจริงหรือไม่ อีกไม่นานเธอก็คงจะได้รู้

ไม่นานนัก ฝาผนังด้านหนึ่งของห้องรับรองก็สว่างขึ้น และกลายสภาพเป็นหน้าจอเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่ฉายภาพลานกว้างซึ่งมีวงเวทขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบสามสิบเมตรปรากฏอยู่ มันก็คือลานประมูลแห่งความมืดนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งของผนัง มีหน้าจอเวทมนตร์เล็ก ๆ ซึ่งแสดงภาพของผู้คนมากหน้าหลายตาอยู่ภายใน บริเวณใต้ขอบล่างของหน้าจอยังมีตัวเลขโรมันกำกับอยู่ด้วย เป็นเลข I (หนึ่ง) ถึง XXXVIII (สามสิบแปด) แปลว่าผู้เข้าร่วมการประมูลในรอบนี้มีทั้งสิ้น 38 คนด้วยกัน

ในระหว่างนั้นซาลก็เหลือบไปเห็นตัวเลขที่อยู่เหนือหน้าจอเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่ดูราวกับเป็นหน้าต่างของห้อง และพบว่ามีเลข IX (เก้า) กำกับอยู่ด้วย นี่คือหมายเลขของเขาในการประมูลนั่นเอง

เมื่อหน้าจอของผู้เข้าร่วมการประมูลทุกคนปรากฏขึ้นมาอย่างครบถ้วน วงเวทบนลานกว้างก็ฉายภาพหนังสือปกแข็งเล่มหนึ่งขึ้นมา ปกของหนังสือเล่มนี้ทำมาจากหนังของสัตว์เลื้อยคลานที่มีเกล็ดแข็งสีเขียวเข้ม สันของมันก็ทำจากโลหะสีเทาหม่น จนให้ความรู้สึกราวกับเป็นชิ้นส่วนของชุดเกราะมากกว่าจะเป็นหนังสือ

“นี่คือ ‘เอเมอรัลด์ดราโกโนมิค่อน’ (Emerald Dragonomicon) เป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาระดับสูงสุดของ ‘เชปชิฟเตอร์’ ซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่เล่ม หากฝึกฝนวิชาในตำราเล่มนี้จะทำให้สามารถแปลงร่างเป็นมังกรมรกต (Emerald Dragon) ได้ จัดเป็นตำราที่ผู้ฝึกฝนวิชาสายนี้ต้องการมากที่สุดเล่มหนึ่งเลยทีเดียว

เอเมอรัลด์ดราโกโนมิค่อนเล่มนี้มีราคาเปิดประมูลอยู่ที่ 500 โกลด์ เชิญเสนอราคาได้ครับ”

ทันทีที่ผู้ประมูลประกาศเริ่มการเสนอราคา  เหล่าผู้ประมูลก็แย่งกันเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง จนในเวลาไม่ถึงนาที ราคาของเอเมอรัลด์ดราโกโนมิค่อนก็พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 โกลด์ แล้ว

“เห~ แค่ของชิ้นแรกก็ยังมีราคาเริ่มต้นที่ 500 โกลด์เลยเหรอครับเนี่ย? แต่วิชาเฉพาะทางอย่างเชปชิฟเตอร์ก็ยังมีคนแย่งกันซื้อมากขนาดนี้ทีเดียว ผิดคาดจริง ๆ ”

‘เชปชิฟเตอร์’ (Shapeshifter) เป็นวิชาสายแปลงกายซึ่งทำให้ผู้ฝึกสามารถจำแลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตได้เกือบทุกชนิด ในช่วงต้น เชปชิฟเตอร์จะแปลงกายเป็นสัตว์หรือมอนสเตอร์ระดับต่ำได้เท่านั้น และต้องมีการฝึกฝนเป็นเวลานานกว่าจะเพิ่มระดับขั้นของร่างที่แปลงกายได้ อีกทั้งการจะแปลงร่างเป็นมอนสเตอร์แต่ละชนิดก็ต้องอาศัยตำราเฉพาะทางที่มีคนทำการศึกษาวิจัยมาแล้ว ไม่เช่นนั้นก็ต้องทำการค้นคว้าด้วยตัวเอง มันจึงเป็นคลาสที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก แต่หากฝึกฝนถึงระดับสูง เชปชิฟเตอร์จะสามารถแปลงร่างเป็นตัวตนอันทรงพลังอย่าง แมนติคอร์, เบฮีมอธ, หรือมังกรได้เลยทีเดียว ทำให้นี่เป็นอีกคลาสที่แม้จะได้รับความนิยมน้อย แต่ผู้เชี่ยวชาญของคลาสนี้จะถือว่าเป็นนักผจญภัยระดับสูงที่ดูถูกไม่ได้

“ถึงจะไม่ได้เอาไปใช้เอง แต่มันก็เอาไปขายต่อได้ไม่ใช่รึไงเล่า? นี่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การประมูลรอบนี้ได้รับความนิยมด้วย เพราะของดี ๆ ที่ประมูลได้มาในวันนี้ก็จะเอาไปขายในงานได้ในวันถัดไปไงล่ะ โฮก~ ว่าแต่นายไม่สนใจเรอะ? ถ้าราคามันขึ้นไปถึง 1,500 นายจะไม่มีสิทธิ์ยื่นราคาแล้วนะ”

“ผมไม่ค่อยสนใจวิชาด้านนี้เท่าไหร่น่ะครับ แล้วก็ขี้เกียจวุ่นวายกับการเอาไปขายต่อด้วย ขอเลือกประมูลแต่ของที่อยากได้จริง ๆ จะดีกว่า”

ความจริงคือตัวซาลเองก็มีสมุนอัญเชิญที่เป็นมังกรอยู่แล้ว และเขายังสามารถสลับจิตเพื่อควบคุมร่างของสมุนอัญเชิญได้ตามใจชอบ ทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการแปลงร่างของเชปชิฟเตอร์เลย อีกทั้งตำราที่อยู่ในการประมูลยังจำกัดแค่การแปลงร่างเป็นเอมเมอรัลด์ดราก้อนอีกต่างหาก ทำให้เขาไม่เห็นถึงความจำเป็นของมันแม้แต่น้อย

ในที่สุดการประมูลเอเมอรัลด์ดราโกโนมิค่อนจบลงที่ราคา 1,250 โกลด์ โดยไม่มีใครทำการย้ำราคา อาจเพราะมีแต่คนที่คิดจะซื้อมันไปทำกำไร จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องทุ่มเทขนาดลงไปต่อสู้ เพราะยังมีของอีกหลายชิ้นที่ยังรอการประมูลอยู่อีก

ของที่ถูกนำมาประมูลส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือ รองลงมาคือแผนที่ดันเจี้ยนซึ่งมีหนังสือหายากเก็บซ่อนอยู่ดังที่โทร่าบอก แต่ก็ไม่มีชิ้นไหนที่ถูกใจซาลเป็นพิเศษ เขาจึงได้แต่สังเกตการณ์งานประมูลอยู่เงียบ ๆ ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมง โดยไม่ได้เสนอราคาให้กับของชิ้นไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้โทร่าเริ่มรู้สึกหงุดหงิด

“นี่ นายคิดจะประมูลกะเขาบ้างมั้ยเนี่ย? เห็นนั่งดูอย่างเดียวเลยนี่ ใกล้จะถึงของชิ้นสุดท้ายแล้วนา”

“จะถึงชิ้นสุดท้ายแล้วเหรอครับ? อืม~”

แม้จะมีของน่าสนใจอยู่หลายชิ้น แต่ก็ไม่มีชิ้นไหนที่ทำให้ซาลรู้สึกอยากได้เป็นพิเศษ ถึงกระนั้นเขาก็เตรียมตัวที่จะเข้าร่วมทันทีหากการประมูลเริ่มดุเดือดขึ้น แต่ตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ของเกือบยี่สิบชิ้นถูกประมูลออกไปนี้กลับไม่มีช่วงเวลาแบบนั้นเลย

และนั่นก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกจนทำให้ซาลอดรู้สึกสงสัยไม่ได้

สินค้ายี่สิบชิ้นที่ผ่านไปนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของหายากและมีมูลค่าสูง ทว่าการประมูลกลับไม่ดุเดือดอย่างที่ควรจะเป็น ผู้ร่วมประมูลทุกคนต่างก็ใช้แค่การแข่งราคาในการตัดสินแพ้ชนะ แต่ราคาที่ขายออกก็ไม่จัดว่าสูงมากนัก ส่วนใหญ่จะจบโดยราคายังขึ้นไปไม่ถึงสามเท่าของราคาเริ่มต้นด้วยซ้ำ ทั้งยังไม่มีการย้ำราคากันเลยสักครั้ง ทำให้การประมูลดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนผิดสังเกต

ซาลรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนกำลังออมกำลังกันเอาไว้เพื่อรอสินค้าที่อยู่ท้ายรายการซะมากกว่า

แม้โทร่าจะบอกกับเขาว่าข้อมูลรายการสินค้าที่นำมาประมูลนั้นจะถูกปกปิดเป็นความลับไม่ให้ผู้เข้าประมูลล่วงรู้ได้ก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เข้าร่วมการประมูลจะไม่มีช่องทางอื่นในการรู้ข้อมูลเหล่านี้ พวกเขาอาจใช้การสืบข่าวจากภายนอก, ใช้การติดสินบนเจ้าหน้าที่, หรือใช้เส้นสายอื่น ๆ เพื่อให้รู้ว่ามีของอะไรจะมาลงประมูลบ้างก็ได้

และอีกกรณีหนึ่งคือ หากเจ้าของสินค้าเป็นผู้จงใจส่งข่าวให้ผู้เข้าร่วมประมูลทุกคนได้รู้ซะเอง เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุด จะได้ขายสินค้าออกในราคาที่สูงมาก ๆ ล่ะ?

หากเป็นการประมูลระดับ A ลงไป คงไม่ค่อยมีเจ้าของสินค้าที่คิดจะใช้วิธีนี้นัก เพราะมันเสี่ยงต่อการที่จะถูกพวกนักผจญภัยระดับสูงแฝงตัวลงมาใช้กำลังประมูลของไปในราคาถูก แต่ถ้าเป็นการประมูลระดับ S ซึ่งทุกคนมีฝีมือใกล้เคียงกันอยู่แล้ว การปล่อยข่าวสินค้าของตัวเองออกไปก็จะไม่ใช่การชักศึกเข้าบ้าน แต่เป็นการโฆษณาดี ๆ นี่เอง

และดูจากท่าทีของผู้เข้าร่วมประมูลซึ่งต่างก็ออมทั้งเงินและกำลังเอาไว้โดยไม่ทุ่มกับสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งอย่างเต็มที่ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า พวกเขากำลังรอสินค้าชิ้นเดียวกันอยู่

สิ่งนี้ทำให้ซาลรู้สึกสงสัยว่า สินค้าแบบไหนกันนะที่ดึงดูดความต้องการของผู้คนได้มากขนาดนี้

ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ ภาพเสมือนของสินค้าชิ้นสุดท้ายในการประมูลครั้งนี้ก็ปรากฏขึ้นเหนือวงเวทในลานประมูล ทำให้ดวงตาของซาลต้องเบิกโพลงขึ้นด้วยความประหลาดใจ

เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่เหนือวงเวทของลานประมูลไม่ใช่หนังสือ ไม่ใช่แผนที่ ไม่ใช่อุปกรณ์หรืออาติแฟคใด ๆ เช่นเดียวกับสินค้าชิ้นที่ผ่านมา

แต่มันกลับเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 140"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved