Commanding Wind and Cloud - ตอนที่ 107
ตอนที่ 107 : เงาไรจุดจบ
“งั้นเจ้าก็ใช้มัน” เบลคขว้างค้อนไปให้เฉินจิ้นในขณะเหลือบตาสังเกตเฉินจิ้นทุกการเคลื่อนไหว
เฉินจิ้นก้มดึงด้ามค้อนสี่ร้อยปอนด์ เขารู้สึกถึงน้ำหนักของมันทันที แต่มันก็ไม่ได้หนักเท่าที่เขาคาดไว้
กายาเมฆาวายุทองคำได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายเฉินจิ้นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้ามาฝึกที่นี้มานาน แต่การฝึกซ้อมที่เขาทำในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นทรมารกว่าฝึกที่นี้นับพันเท่า สภาพและความสามารถทั้งหมดในร่างกายเฉินจิ้นได้รับการพัฒนาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ความรู้สึกประหลาดใจกระพริบผ่านดวงตาของเบลค
“ รอ….” เบลคหันกลับมาขณะเดินไปที่ชั้นว่างค้อนด้านหลัง เขามองไปรอบๆ ในบรรดาค้อนเหล่านี้เขาหยิบค้อนที่มีขนาดใหญ่กว่าอันที่เฉินจิ้นถืออยู่ในมืออย่างชัดเจน “ ใช้อันนี้” เบลคพูดพร้อมส่งมันให้เฉินจิ้น
“ หือ?” เฉินจิ้นตกตะลึง แต่เขาก็รีบจับค้อนทันทีและรู้สึกว่าไหล่ของเขาหดลงไปทันที หลังจากพลังงานนักรบของเขาไหลเข้าไปในแขน ค้อนที่มีน้ำหนักประมาณ650ปอนด์ก็เบาขึ้นอีกครั้ง
เบลคดูเหมือนจะมั่นใจมากในค้อนที่เขาเลือกแต่ก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งกับสิ่งที่เห็น “ มันยังเบาอยู่หรือ?” เขาคิด
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าแก่ๆของเบลคขณะที่เดินไปหาค้อนหนัก1,000ปอนด์อย่างช้าๆ เขาวางทั่งแปดอันไวรอบๆตัวพร้อมโยนเหล็กดิบแปดชิ้นเข้าไปในเต่าหลอม
หลังจากสูบลมจนเกิดเสียงคำราม เบลครีบขว้างเหล็กดิบร้อนแปดชิ้นลงบนทั่งแปดอันพร้อมที่คีบเหล็กและค้อน1000ปอนด์ก็ส่องประกายเหมือนดาวตก ประกายไฟอันสวยงามพุ่งขึ้นไปในอากาศทันทีที่ค้อนกระแทกกับเหล็กดิบ เบลคก็รีบตีไปยังทั่งอีกอันหนึ่ง การเคลื่อนไหวของค้อน1000ปอนด์รวมถึงการยกขึ้น การตีลงและการดึงกลับทั้งหมดนั้นดูไหลลื่นอย่างธรรมชาติ
เฉินจิ้นเปิดตากว้างขณะจ้องมองที่เท้าของเบลค เขาอยากรู้ว่าเขาเคลื่อนไหวแบบนี้ได้อย่างไง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเบลคเคลื่อนไหวแบบไหนไปบ่าง เขาให้ความสำคัญกับการขยับเท้าของเบลคมากยิ่งขึ้น
เสียงที่เกิดจากการกะทบกันของโลหะเสมือนฟ้าร้องดังกึกก้องในร้านช่างเหล็กตีเหล็กอย่างต่อเนื่อง เบลคเคลื่อนไหวเร็วขึ้นๆ
เฉินจิ้นค่อยๆรู้สึกว่าดวงตาของเขาไม่สามารถติดตามความเร็วของเบลคได้! ในโรงหลอมเหล็กมีร่างของเบลคปรากฎขึ้นมาแปดคน! ทุกๆ ร่างดูเหมือนจะแวปไปมา เฉินจิ้นไม่สามารถบอกได้ว่าร่างใดเป็นเบลคตัวจริง
“ เป็นไปไม่ได้!” เฉินจิ้นเหล่ตาขณะเพ่งเล็งไปที่เท้าของเบลคแล้วเริ่มให้ความสนใจกับภาพรวมทั้งหมดที่เบลคทำ เขาก็คิดไม่ออกว่าเบลคขยับเท้ารูปแบบไหน
เหวี่ยงครั้งที่ 1 …ครั้งที่10…ครั้งที่100…
จำนวนเงาเริ่มลดจำนวนลงจนกระทั่งเบลคหยุด รอยยิ้มอ้ายๆปรากฏบนใบหน้าเฉินจิ้น ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาเข้าใจการเคลื่อนไหวของเบลค โดยดูที่เท้า แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาต้องมองทุการกระทำทุกการเคลื่อนเพื่อที่จะเข้าใจ
วิธีที่เบลคเคลื่อนไหวนั้นแปลกมาก เขาไม่ได้ใช้เท้าเลย อาจกล่าวได้ว่าทุกกล้ามเนื้อและข้อต่อในร่างกายเคลื่อนไหวทั้งหมด มันเป็นการเคลื่อนไหวที่พิเศษมากราวกับว่ากล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายเบลคเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง
เฉินจิ้นสูดอากาศในโรงตีเหล็กขณะที่คิดเกี่ยวกับเทคนิคการเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาดนี้ “ ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้ นอกเหนือจากตอนตีเหล็ก ถ้าข้าใช้มันในการต่อสู้ มันสามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของข้าได้อีกมากแน่”
“เจ้าเข้าใจไหม?” เบลคขว้างค้อนลงพื้นในขณะหยิบท่อสูบบุหรี่ออกมาพร้อมมองไปที่เฉินจิ้น
“ ข้าคิดว่า ข้าเข้าใจนิดหน่อย” เฉินจิ้นมองเบลคอย่างสงสัย “ เบลคดูไม่เหนื่อยเลยหลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงแบบนี้ เขาทำได้อย่างไร” เขาคิด
“ ในฐานะปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก กลั่นเหล็กบริสุทธิ์สองสามชิ้นแล้วเอาไปตีขึ้นรูปเป็นอาวุธนักรบถือว่าเป็นทักษะระดับต่ำมากและไม่มีประสิทธิภาพ” เบลคชี้ไปที่เหล็กบริสุทธิ์แปดชิ้นที่ยังหมุนอยู่บนทั่งทั้งแปด เขากล่าว“ อุณหภูมิของเหล็กที่ตีคนละเวลาต่างกันความร้อนที่ได้ก็แตกต่างกันและถ้าเหล็กบริสุทธิ์ถูกหลอมในเวลาที่ต่างกัน ระหว่างนั้นจะเกิดความแตกต่างเล็กน้อย แม้ว่าคนอื่นจะไม่สามารถบอกความแตกต่างแบบนี้ได้ แต่ระดับปรมาจารย์คนอื่นๆ สามารถมองเห็นความแตกต่างได้อย่างง่ายดาย “
สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นคำถามในใจเฉินจิ้นมานานแล้ว เขาเพิ่งจะได้รับรู้ความจริงจากการฟังคำพูดของเบลค ถ้าเขามีความรู้นี้ก่อนที่จะสร้างดาบเชียงดาว เขาจะสร้างดาบที่ดียิ่งกว่า นั่นคือเหตุผล! เหล็กบริสุทธิ์ที่ตีในเวลาต่างกันจะเกิดความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่มันก็ยากที่จะบอกเพราะเขายังไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้
เบลคชี้ไปที่เหล็กบริสุทธิ์บนทั่งพร้อมพูดว่า“ แม้ว่าเหล็กบริสุทธิ์เหล่านี้จะไม่ได้ถูกหลอมในเวลาเดียวกัน แต่ก็ถูกสร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน การรวมกันจะดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเหล็กบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ถูกกลั่นพร้อมกัน“
เฉินจิ้นพยักหน้าเขารู้สึกเหมือนเบลคกำลังเปิดประตูบานใหม่ในใจเขา
“ เมื่อเจ้าเข้าใจว่าข้าเคลื่อนไหวอย่างไร เจ้าจะรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป” เบลคมือขวยหลัง หันหลังเดินออกไปที่ประตูหลัง
“โอ้ใช่! เจ้าไม่ห้ามใช้พลังงานนักรบ “เบลคดูดบุหรี่เล็กน้อยขณะเดินผ่านประตูไปพร้อมทิ่งคำพูดไว้ “ เมื่อเจ้าเหนื่อยจนยกค้อนไม่ขึ้น เจ้าถึงค่อยใช้พลังงานนักรบกับวิชา[หลอมลมหายใจ]”
เฉินจิ้นยิ้มอย่างขมขื่น “ ระดับความยากเพิ่มเอาๆ!” เขาคิด
เฉินจิ้นดึงพลังงานนักรบทั้งหมดกลับมาและรู้สึกถึงความหนักของค้อนในมือ เขาเดินไปที่เต่าหลอมและยกค้อนขึ้นขณะพยายามนึกถึงวิธีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายอย่างไร เขาพยายามเลียนแบบ ควบคุมและบิดกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเขา แต่เขากลับพบว่ามันไม่ง่ายเลย
เพียงแค่พยายามควบคุมกล้ามเนื้อให้เคลื่อนไหวทั้งร่างนั้นเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่ให้อยู่ในระดับเดียวกับเบลคนั้นยากกว่า ในตอนแรกเฉินจิ้นพยามขยับกล้ามเนื้อข้างหนึ่งแต่กลับลืมควบคุมกล้ามเนื้ออีกข้างให้หยุดเคลื่อนไหว
หนึ่งนาที…สิบนาที…ครึ่งชั่วโมง…หนึ่งชั่วโมง…
เฉินจิ้นไม่สามารถควบคุมและขยับกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงกัดริมฝีปากปากและสาบแช่งในใจ “ บัดสบ! หากข้าไม่สามารถควบคุมร่างกายของข้าได้ทั้งหมด งันข้าจะเริ่มต้นด้วยครึ่งร่างก่อน “
ครึ่งร่างกายของเขาก็ยังครบคลุมได้ไม่ดี! เฉินจิ้นหลับตาและคิดถึงอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับเร็วที่กล้ามเนื้อของเบลคเคลื่อนไหวและเขาค่อยๆ วิเคราะห์ความเร็วการเคลื่อนไหว สัดส่วนและผลกระทบของกล้ามเนื้อแต่ละอันเมื่อมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาพบว่ามีกล้ามเนื้อบางส่วนที่มีความสำคัญมากกว่าสวนอื่นและเป็นแหล่งศูนย์กลางการเคลื่อนไหว
“ งั้นลองควบคุมกล้ามเนื้อเหล่านี้ก่อน…” เฉินจิ้นยกค้อนขึ้นอีกครั้งแล้วทุบลงบนเหล็กดิบชิ้นแรกในทั่งแรก หลังจากนั้นเท้าของเขาประสานกับกล้ามเนื้อศูนย์กลางและร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาเรียนรู้วิธีการเทเลพอตตัวเขาก็ไปถึงทั่งที่สองทันที ปัง! ก่อนที่เขาจะทุบค้อนลงเหล็กดิบที่สองร่างกายของเขาสูญเสียความสมดุลและเหวี่ยงตัวลมลงบนพื้น
เฉินจิ้นที่กำลังนอนอยู่บนพื้นขณะอายจนหน้าแดง เขานึกถึงความรู้สึกทั้งหมดตอนล้มลง เขารู้สึกเหมือนว่าสะดุดตัวเองขณะเดิน เห็นได้ชัดว่าเขาทำผิดขั้นตอน
“ นี่…” เฉินจิ้นลุกขึ้นและปัดฝุ่นออกจากร่างกาย เขาเกาหัวอย่างอายๆเมื่อเขาเห็นเบลคนั่งอยู่ที่มุมห้องขณะกำลังยิ้ม “ นี่ยากกว่าเทคนิคขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]” เขากล่าว
“ ขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]?” เบลคก้มลงคิดอย่างถี่ถ้วนขณะพยักหน้าแล้วพูดว่า“ โอเค พยามต่อไปพร้อมกับใช้ขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]ไปด้วย”
เฉินจิ้นทันใดนั้นรู้สึกเหมือนว่าจะเป็นลม เขาอยากตบหน้าตัวเองจริงๆ “ ไม่น่าเพอพูดไปเลย ข้ายังเรียนทักษะนี้ไม่เสร็จยังต้องฝึกขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]พร้อมไปด้วย?”
เขาต้องฝึกทักษะ[การตี18ใบมีด]พร้อมกับตีเหล็ก
เมื่อมีการตีครั้งแรก มีครั้งสอง 5 10 50 100 1000 …
หลังจากสามชั่วโมงผ่านไป เฉินจิ้นเริ่มตั้งคำถามว่าเขาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้การตีเหล็กหรือเขาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้วิธีเดิน เขาจะล้มลงกับพื้นทุกครั้งที่ขยับ!
สี่ชั่วโมง … ในที่สุดรอยยิ้มเริ่มปรากฎบนใบหน้าของเขา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างธรรมชาติเหมือนเบลคและเขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วเท่ากับครั้งแรกที่ดูเหมือนวาป
“ ดิ๊ง….ผู้เล่นเฉินจิ้นได้เรียนรู้พื้นฐานเทคนิค [เงาไรจุดจบ]”
เสียงระบบแจ้งเตือนดังขึ้นในหูเฉินจิ้น
สิบชั่วโมง…สิบสี่ชั่วโมง…สิบห้าชั่วโมง…สิบหกชั่วโมง…
ค้อนหนึ่ง…ค้อนสอง…ค้อนสิบ…
หากไม่ได้ใช้พลังงานนักรบถึงแม้ว่าทักษะขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากด้วยการใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่ก็ยังห่างไกลจากมาตรฐานที่ยอมรับได้ในสายตาของเบลค
เฉินจิ้นเชื่อว่าถ้าเขาใช้พลังงานนักรบ ทักษะขั้นสองของ[การตี18ใบมีด]จะเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นมากกว่านี้ แต่เนื่องจากเบลคบอกให้เขาไม่ใช้มันแล้วเขาก็จะไม่ใช้มัน!
เมื่อพลังในร่างกายของเขาหมด…เขาถึงจะใช้พลังงานนักรบ! เมื่อพลังงานนักรบของเขาหมดลง … ก็จะใช้ทักษะ[หลอมลมหายใจ] …
หลังจากสิบหกชั่วโมง เฉินจิ้นนอนแพ่หลาอยู่บนพื้นพร้อมกับกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ภายใต้แรงกดดันจากทั้ง[การตี18ใบมีด]และ[เงาไรจุดจบ] เขาเหนื่อยมาก ถึงกับต้องคลานไปบ่อน้ำพุในสวนหลังบ้านแต่เขาก็ไม่มีพลังเหลือทำเช่นนั้น
เบลคหยิบเฉินจิ้นจากพื้น(อย่างกะขยะ)แล้วว่างเฉินจิ้นไว้บนไหล่แล้วเดินเข้าไปในสวนหลังบ้านแล้วโยนเฉินจิ้นลงน้ำพุร้อน ผงคล้ายความเมื่อยล้าลึกลับเริ่มสลายความเหนื่อยล้าอย่างบ้าคลั่งในร่างกาย
“ดิ๊ง…ผู้เล่นเฉินจิ้นเวลาออนไลน์ของคุณวันนี้หมดแล้ว กรุณาเตรียมตัวออกจากโลกไรจุดจบ…”
เฉินจิ้นลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปจากในเสื้อผ้าของเขา
พลังวิญญาณจำนวนมหาศาลพุ่งไปมาในถ้ำ ดึงดูดความสนใจของเฉินจิ้นทันที
กลอเรีย! นางกำลังถือคริสตัลสีดำชิ้นหนึ่งไว้แน่น สายน้ำแห่งพลังวิญญาณได้สกัดพลังเวทย์ออกจากคริสตัลสีดำ