Commanding Wind and Cloud - ตอนที่ 105
ตอนที่ 105 : ปราบสัตว์อสูรด้วยพลังที่ท่วมท้น
ดาบเชียงดาวกำลังส่องแสงเย็นยะเยือกพร้อมจิตสังหารไรขีดกำกัด ลิงหนังเขียวสามแขนรู้สึกคุกขามเป็นอย่างมากดังนั้นมันจึงเสียงคำรามขณะจ้องมองเฉินจิ้นด้วยสายตาดุร้าย
หลังจากฝูงหมาป่าได้ยินเสียงคำรามของลิงหนังเขียวสามแขน พวกมันสั่นราวกับถูกเวทมนตร์สะกด พวกมันเริ่มเตรียมตัวเล็บจิกไปในพื้นขาหลังตั้งตรง หลังจากเตรียมพร้อมหมาป่าทุกตัวพุ่งตรงไปยังเฉินจิ้นขณะอาปากกว้างง้างกรงเล็บพุ่งตรงไปยังลำคอของเฉินจิ้น
เฉินจิ้นกำลังชาร์จด้วยความเร็วเต็มที่ ความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นของพลังงานนักรบในร่างกายของเขาทำให้เขารู้สึกมีพลังมาก หมาป่าที่น่าจะเร็วและว่องไวต่อเขาก็ชะลอตัวลงในสายตาของเขา เขาสามารถเห็นทุกการเคลื่อนไหวของหมาป่าแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน เขาสามารถคาดการณ์ได้ว่าความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
เฉินจิ้นกับฝูงหมาป่ากำลังพุ่งตรงเข้าใส่กันด้วยความเร็วที่บ้าครั่ง หมาป่าด้านหน้าสุดอ้าปากกว้างจนสุดพร้อมฟันอันแหลมคมที่สามารถซีกแขนเด็กเป็นเละชิ้นๆ พุ่งเป้าไปที่ลำคอเฉินจิ้น
เฉินจิ้นไม่ได้กลัวปแม้แต่น้อยขณะกำมือทั้งสองข้างแน่นพร้อมกับวิ่งไปอย่างไม่หยุด เขากระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วโชกใส่หน้าหมาป่า ปัง! กำปั้นกระแทกจมูกหมาป่า เสียงแตกของจมูกดังราวกับว่ามีคนทุบเก้าอี้เละถี่ๆ
หมาป่าลอยไปบนอากาศเลือดสีแดงพุ่งทะลัก หลังจากเสี้ยววินาทีร่างกายของมันบินลอยถอยหลังไปสองเมตรแล้วตกบนพื้น ขาทั้งสี่ของมันกระตุกเล็กน้อยพร้อมกับตายไปทั้งอย่างนั้น
ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นสุนัขบ้านหรือหมาป่า! จุดแข็งที่สุดของพวกมันคือการรับรู้กลิ่นที่ไวมาก อย่างไรก็ตามเฉินจิ้นเคยอ่านหนังสือที่ได้กล่าวว่าจุดแข็งที่สุดของพวกมันเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของพวกมันเช่นกัน ถ้าสามารถสร้างความเสียหายรายแรงตรงจมูกสามารถฆ่าพวกมันได้ทันที
หมาป่าตัวที่สองวิ่งไปทางด้านซ้ายของเฉินจิ้น เฉินจิ้นยื่นมือออกมาจับไปที่หัวหมาป่าโดยไม่ได้หันมามอง เขาขว้างหมาป่าออกไปทางด้านข้างทันที สัตว์ร้ายที่มีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งร้อยปอนด์ถูกทุมใส่หมาป่าตัวอื่นเหมือนขว้างก้อนหินขนาดใหญ่ปล่อยให้เกิดเงาสีเทาลอยยาวไปในอากาศ
ก่อนที่เสียงกระดูกแตกจะจ่างหายไปได้เกิดเสียงกระดูกแตกดังขึ้นอีกครั้ง กลิ่นเน่าเหม็นของเลือดไหลไปตามกระดูกสีขาวที่เจาะทะลุอออกมาจากร่างกายหมาป่าขณะหมาป่าทั้งสองกลิ้งตลบไปหลายครั้งก่อนที่ร่างกายจะหยุดนิ่ง
โซเฟียอาปากกว้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น “ฝูงหมาป่าพวกนั้นอ่อนแออย่างกับมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา! พวกมันเหมือนกับของเล่น … ทริปเปิ้ลคิลหมาป่าเลือดเต็ม… เป็นไปได้ไหม… เขาคือนักสู้ปีศาจ? “
เฉินจิ้นกำลังร่อนลงบนพื้นหลังจากฆ่าหมาป่าทั้งสามในพริบตา เขาจ้องมองฝูงหมาป่าพร้อมปล่อยจิตสังหารทำให้พวกหมาป่าร่างกายสั่นสะท้าน ในขณะเดียวกันเฉินจิ้นพบหมาป่าตัวหนึ่งกำลังเปิดปากกัดเข้าไปที่ขาของเขา
แม้ว่ามันจะกลัว แต่มันรู้สึกภูมิใจที่ปรากฏในแววตาขณะมันกำลังงับขาเฉินจิ้น เมื่อร่างกายของเฉินจิ้นตกลงถึงพื้นมันไม่รอชากัดขาเฉินจิ้นอย่างไร้ความปราณี
“ระวัง … ” ก่อนที่โซเฟียจะสามารถตะโกนคำอื่น ๆ ที่เหลือจากคำว่า”ระวัง” ฟันของหมาป่าก็กัดขาเฉินจิ้นแล้วอย่างแรง!
เสียงดังคล้ายหินกระทบแววตาอันบ้าครั่งหายจากดวงตาของมันทันที ฟันอันแหลมคมของมันไม่สามารถฉีกกระชากขาของเฉินจิ้นได้แม้กระทั่งลอยขีดข่วนยังไม่มี
“ทำไมฟันข้าถึงกัดขาของไอ่เด็กมนุษย์นี้ไม่เข้า” หมาป่าคิด
เฉินจิ้นมองลงไปที่หมาป่าที่กัดขาเขาอยู่ขณะหัวเราะอย่างมีความสุข “อย่างที่ข้าคิดไว้กายาเมฆาวายุทองคำไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายของข้ามีพละกำลังมากขึ้น แต่มันยังเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนท้านทั้งภายในภายนอกร่างกายของข้า “
เขาเงยหน้าพร้อมกับจับหัวหมาป่าแล้วออกแรงบีบสร้างความเจ็บปวดให้หมาป่าไม่หยุด มันร้องโหยหวนดิ้นรนไม่หยุด แต่เฉินจิ้นไม่สนใจขว้างมันไปยังกองศพหมาป่าที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากการต่อสู้กันในไม่กี่วิหมาป่าห้าตัวก็กลายเป็นซากศพเย็นเฉียบ เฉินจิ้นมองหมาป่าตัวอื่นๆ ฝูงหมาป่าทั้งฝูงถึงกับถอยหลังไปพร้อมๆกัน หลังจากที่พวกมันมองหน้ากันไปมาพวกมันถึงกับหนีบหางระหว่างขาขณะที่หันหลังกลับวิ่งหนีไป
ลิงหนังเขียวสามแขนปล่อยเสียงคำรามด้วยความโกรธหลายครั้งเมื่อเห็นฝูงหมาป่าวิ่งหนี แต่พวกหมาป่าก็ไม่หยุด พวกมันวิ่งเข้าไปในป่าโดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ
สัญชาตญาณของฝูงหมาป่าบอกพวกมันว่า “เหยื่อ” ของพวกมันได้กลายเป็นผู้ล่าแล้ว! เขาสามารถเปลี่ยนพวกมันทั้งหมดให้เป็นอาหารได้อย่างง่ายดาย
ลิงหนังเขียวสามแขน คำรามอย่างโกรธแค้นหลายครั้งขณะยกแขนทั้งสามขึ้นพร้อมกล้ามเนื้อสีเขียวขยายตัวขึ้น นั่นทำให้ร่างกายดูใหญ่ขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ผิวสีเขียวอ่อนเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาทีผิวของมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มอย่างสมบูรณ์
เขียวเข้มสมบูรณ์! โซเฟียมองไปที่ลิงสามแขนด้วยความตกใจ ตามบันทึกเมื่อผิวของลิงหนังเขียวสามแขนเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มสมบูรณ์หมายความว่ามันได้ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีก! ความแข็งแกร่งและความอดทนของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก สีเขียวเข้มมีความหมายว่าลิงหนังเขียวสามแขนขณะนี้มันได้อยู่ในสถานะจุดสูงสุดและเพียงครึ่งก้าวจากการเปลี่ยนร่างเป็นลิงหนังน้ำเงินสามแขน! มันแข็งแกร่งกว่าลิงหนังเขียวสามแขทั่วไปมาก!
ลิงหนังเขียวสามแขนเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่ทรงพลังซึ่งวิวัฒนาการมาจากสัตว์ป่า แม้แต่นักรบระดับ 10 ก็ยังไม่มีโอกาสชนะลิงหนังเขียวสามแขนหากว่าไม่มีอาวุธที่ทรงพลัง! และลิงหนังเขียวเข้มสามแขนนี้มันแข็งแกร่งกว่าปกติ…
“เร็วเข้า! เอาดาบไป!” โซเฟียกระโดดออกจากถ้ำแล้วรีบไปที่ดาบเชียงดาว นางพยายามดึงใบดาบออกจากพื้น แต่มันไม่ขยับเลยสักนิด … ทำให้นางรู้ว่าอาวุธนี้หนักกว่าที่นางจินตนาการไว้ นางถึงกับตลึงเมือเห็นเฉินจิ้นที่กำลังพุงเข้าใส่ลิงหนังเขียวสามแขนด้วยมือเปล่า “ เขาใช้อาวุธหนักแบบนี้ในการต่อสู้ไหว? ใบดาบดูเหมือนว่าเบาเมือถืออยู่ในมือของเขา”
หลังจากเฉินจิ้นเอาชนะฝูงหมาป่าได้ง่ายๆ ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังงานนักรบในร่างกายเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขากระโดดใส่ลิงหนังเขียวสามแขน ดวงตาทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาในการต่อสู้มากขึ้นเลื่อยๆ “เยียม! ข้าไม่ใช่นักรบระดับ 10ปกติ และเจ้าไม่ใช่ลิงหนังเขียวสามแขนทั่วๆไป มาดูกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน!”
ผิวของลิงหนังเขียวสามแขนปรากฏลวดลายคลายใบไม้เมือเพียงจากตัวเฉินจิ้นไม่กี่เมตร สามารถเห็นได้เลยว่าร่างกายของมันมีขนาดใหญ่ขึ้น มันเหวี่ยงแขนแล้วชนต้นไม้รอบๆไปทั่ว เศษซากต้นไม้ปลิวกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางและลำต้นของต้นไม้ที่หนาเท่ากับมนุษย์แตกครึ่งบินไปบนท้องฟ้า ไม่เพียงเท่านั้นแม้แต่รากต้นไม้ยังถูกดึงขึ้นมาหมด
ลิงหนังเขียวสามแขนได้ย่อตัวลงและใช้ขาหนาๆผลักร่างกายไปข้างหน้าด้วยความเร็ว แม้ว่ามันจะมีร่างกายขนาดใหญ่ แต่มันกลับเร็วและว่องไวไปบนหิมะ เฉินจิ้นไม่เห็นการเคลื่อนไหวสะเปะสะปะเลยแม้แต่น้อย
บนพื้นหิมะสีขาวลิงหนังเขียวสามแขนวิ่งด้วยความเร็วเหมือนสายฟ้า มันยกแขนขวาขึ้นกระแทกใส่หน้าเฉินจิ้นเหมือนลูกปืนใหญ่
แขนมันหนามากและร่างกายสูงใหญ่ เมื่อมันเหวี่ยงแขนเสียงลมฟังดูเหมือนค้างคาวตัวใหญ่กระพือปีก
การโจมตีจากวิวัฒนาการก้าวร้าวมาก ความโกรธของมันถูกฝังอยู่ในหมัดนี้ การโจมตีครั้งนี้ดูเหมือนว่ามาจากนักรบกว่าสัตว์อสูร แรงละเบิดอากาศกดดันแทบจะขัดจังหวะการหายใจของเฉินจิ้น เขารู้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้มีสติปัญญาเหนือกว่าสัตว์อสูรทั่วไป นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับนักรบที่แท้จริง จากเสียงลมเขารู้ว่าหมัดนี้ทรงพลังมาก
“ อีกไม่นานสัตว์อสูรตัวนี้ต้องวิวัฒนาการกลายเป็นลิงหนังน้ำเงินสามแขนแน่น เมื่อถึงตอนนั้นคงลำบากที่จะจัดการมัน”
เฉินจิ้นชกมัดซ้ายพุ่งตรงปะทะกำปั้นลิงยัก หมัดอันดุร้ายและรุนแรงจากลิงถูกป้องกันได้ทันที เสียงดังจากการชนของกระดูกและกล้ามเนื้อในขณะที่หมัดจากมนุษย์และสัตว์อสูรพุ่งชนกันทำให้หิมะที่อยู่บนพื้นลายปลิวไปในอากาศ
ความประหลาดใจส่องประกายผ่านดวงตาของลิงหนังเขียวสามแขน ร่างของมันพุ่งที่ไปข้างหน้าหยุดสงักกับที่เมื่อเกิดการปะทะกันของทั่งสอง โดยไม่ต้องดึงหมัดกลับมามันชกกำปั้นซ้ายของมันไปทันทีที่เกหิดการปะทะกัน
เฉินจิ้นขยับไหล่ขวางอขาเล็กน้อยขณะที่หมัดขวาพุ่งไปที่กำปั้นซ้ายของลิงหนังเขียวสามแขน การชนกันครั้งนี้ทำให้หิมะที่กำลังตกลงพื้นปลิวลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกรอบ
ตื่นเต้น! มือของเฉินจิ้นไม่รู้ถึงความเจ็บเลย หลังจากการโจมตีทั้งสองครั้งเขารู้สึกเหมือนว่าพลังงานนักรบในร่างกายของเขาถูกกระตุ้นทำให้ร่างกายปลดปล่อยพลังงานได้มากกว่าเดิม!
หลังจากการโจมตีทั้งสองครั้งลิงหนังเขียวสามแขนกัดริมฝีปากเมื่อใบหน้าของมันปรากฏความเจ็บปวดขึ้น “ ทำไมข้ารู้สึกเหมือนข้ากำลังต่อยหิน? แม้แต่กระดูกของข้ายังรู้สึกเจ็บอย่างมาก!” มันคิดขณะกำลังจ้องมองเฉินจิ้นด้วยความสับสน
ทันใดนั้นความสับสนและความเจ็บปวดบนใบหน้าของมันก็หายไปเมื่อเสียงหัวเราะอันดุร้ายเข้ามาแทนที่ แขนที่สามบนหน้าอกของมันเหมือนลูกธนูที่ปล่อยออกจากคันธนู ชกตรงใส่หน้าอกเฉินจิ้น มันมีระยะทางสั่นๆเท่านั้นที่พวกเขาห่างจากกัน
เกือบในเวลาเดียวกันเฉินจิ้นยกขาขวาเตะไปข้างหน้าที่หน้าท้องของลิงหนังเขียวสามแขน ขาของเขาดูเหมือนเสาเหล็กที่สามารถค่ำจุนท้องฟ้า
นักรบจะใส่กางเกงหลวมๆอยู่เสมอ นักรบจะสามารถกระโดดเตะและเหวี่ยงขาได้ง่ายๆ ลูกเตะของเฉินจิ้นเร็วมาก ขอบกางเกงสั่นไหวไปตามแรงลม ฟังดูเหมือนคนกำลังปรบมือ
ปัง! ปัง!
เสียงดังลึกสองเสียงปรากฎขึ้นในเวลาเดียวกัน เฉินจิ้นถูกชกที่หน้าอกโดยลิงหนังเขียวสามแขน เขารู้สึกเจ็บทันทีขณะถอยห่างออกไปหลายก้าวและสร้างหลุมลึกบนพื้นน้ำแข็งกว่าจะตั้งตัวได้