Commanding Wind and Cloud - ตอนที่ 104
ตอนที่ 104: เมฆาวายุขั้น6/สัตว์ปีศาจโจมตี
เฉินจิ้นและพวกมาถึงหุบเขาสี่ฤดูได้ประมาณสามวัน หากเขาสามารถเข้าไปยังโลกไรจุดจบได้ทุกวันเป็นเวลาแปดชั่วโมงนั่นจะเป็นเวลาสิบหกชั่วโมงในโลกไรจุดจบ นั่นหมายความว่าเขาเสียเวลาฝึกไปแล้วสี่สิบแปดชั่วโมง
เฉินจิ้นทำเหมือนอย่างเคยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หลังจากที่เขาบอกพวกเธอว่าแถวนี้ปลอดภัย เขาออกจากถ้ำมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบร้อนเพื่อฝึกร่างกายเมฆาวายุทองคำ
ผ่านไปแบบนี้ทุกวัน ในไม่ช้าเกือบหนึ่งเดือนผ่านไป เฉินจิ้นไม่สามารถหาสัตว์ปีศาจใกล้เคียงเพื่อสร้างอาณาเขตของเขาและเขาไม่กล้าที่จะไปหาสัตว์ปีศาจที่อยู่ไกลออกไปเพราะกลัวว่าพวกมันอาจจะแข็งแกร่งเกินไป
ยังคงมีหมานหมอกจำนวนมากอยู่เหนือผิวทะเลสาบและยังมีกระแสน้ำเชี่ยวกรากไหลไม่หยุด อย่างไรก็ตามเฉินจิ้นไม่เคยลดละการฝึก
ผู้เฒ่ายืนอยู่ข้างทะเลสาบมองดูในน้ำที่ห่างออกไปประมาณสิบเมตร เฉินจิ้นขดร่างกายเหมือนกุ้ง เนื้อตัวแดงเหมือนถูกปรุงจนสุก
ทะเลสาบร้อนนี้แตกต่างจากทะเลสาบทั่วไป แม้มันดูเหนือนไม่ร้อนมากนักแต่ยิ่งเจ้าเข้าไปใกล้จุดศูนย์กลางของทะเลสาบมากเท่าไหร่ อุณหภูมิของน้ำในทะเลสาบก็จะสูงขึ้นเท่านั้น!
เฉินจิ้นอยู่ห่างจากฝั่งประมาณสิบเมตรในขณะนี้ เขารู้สึกราวกับว่าถ้ามีใครโยนปูมาตรงนี้ไม่ถึงวินาทีคงจะแกะกินเนื้อปูได้ทันที
ร้อน! แม้ว่าจะอยู่ห่างจากฝั่งเพียงสิบเมตร แต่อุณหภูมิตรงนี้สูงกว่าเป็นสองเท่าของตรงฝั่ง เฉินจิ้นรู้สึกว่าเขาสามารถเอาอวัยวะไปใส่จานหันกินได้แล้ว
เฉินจิ้นหายใจช้าลงเล็กน้อยในน้ำทะเลสาบ แต่พลังงานในร่างกายกลับมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคย ดูเหมือนร่างของเขาจะแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในหุบเขาสี่ฤดู ความอดทนและการไหลเวียนเลือดในร่างกายของเขาก็ไหลได้เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน
เฉินจิ้นลอยในน้ำทะเลสาบสีน้ำเงินอันเปล่งประกาย ผิวหนังของเฉินจิ้นแดงกำแต่มันกลับดูเงางามแลดูยืดหยุ่นและเหนียวมากในเวลาเดียวกันราวกับว่าคมดาบจะไม่สามารถฟันเข้า
แม้ว่าเขายังคงขดงอตัว แต่สีหน้าเฉินจิ้นไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ตอนลงทะเลสาบครั้งแรก ในน้ำร้อนที่สามารถปรุงเนื้อได้เขาเพียงแค่ขมวดคิ้วแสดงถึงความไม่สบาย ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดใดๆ บนใบหน้า
“ – ลมไรรูปร่าง อาวุธมิอาจแตะต้อง เมฆไรรูปแบบ มิมีสิ่งใดห่อหุ้ม –“ เฉินจิ้นค่อยๆเข้าใจประโยคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานนักรบผสานเข้าไปในผิวหนัง กล้ามเนื้อ โครงกระดูกและผสมผสานกับเลือดเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเขา หลังจากการเรียนรู้รูปแบบวิธีใช้พลังงานนักรบครั้งแรก เขาสามารถเรียนรู้และควบคุมมันได้ชํานาญมากขึ้น พร้อมประสิทธิภาพพลังงานนักรบที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าหลังจากเขาสามารถควบคุมมันได้ดังใจ
หลังจากฝึกมาได้เกือบหนึ่งเดือนร่างกายเฉินจิ้นแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการเชื่อมต่อพลังงานของเขาก็กว้างขึ้นมากกว่าสิบเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาเพิ่งกลายเป็นนักรบระดับ 10 หากการเชื่อมต่อพลังงานก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ลําธารเล็กๆที่สามารถเหือดแห้งได้ตลอดเวลาแต่ตอนนี้การเชื่อมต่อพลังงานเหมือนแม่น้ำที่ไหลอย่างไม่หยุดยัง
ฟุบ…หัวเฉินจิ้นโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วว่ายไปที่ริมฝั่งทะเลสาบขณะยิ้มอารมณ์ดีไปด้วย หลังจากแต่งตัวเสร็จเขาลองกระทืบเท้าเกิดรายแยกลึกบนผิวดิน
ดวงตาของผู้เฒ่าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาคิดว่าเฉินจิ้นจะต้องใช้เวลาสองสามเดือนไปจนถึงครึ่งปีในการบรรลุขั้นแรก แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินจิ้นจะบรรลุขั้นแรกโดยเสี่ยงชีวิตเข้าไปใกล้จุดศูนย์กลางทะเลสาปเลื่อยๆ
“ ตอนนี้ทั้งร่างกายและความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าเมื่อเทียบกับนักรบระดับ 10ธรรมดาทั่วไปแล้ว”
ผู้เฒ่าเดินไปรอบๆ ร่างกายเฉินจิ้น ปั๊ก ทันใดนั้นแท่งไม้หนาเท่าขาปรากฏขึ้นในมือผู้เฒ่าพร้อมกับฟาดไปยังร่างกายเฉินจิ้น การโจมตีครั้งนี้ทรงพลังมากจนเกิดเสียงดังก้องกังวาน
อย่างไรก็ตามเฉินจิ้นไม่หันมามองด้วยซำ เขาเพียงยกแขนขึ้นถ่ายโอนพลังงานนักรบพร้อมเกร็งแขนจนกล้ามเนื้อกระชับเป็นรูปร่างสมบูรณ์ มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย เขาตั้งใจหักไม้ที่ทุบเข้ามาโดยตรง
ปัง!
เสียงไม้ขนาดขาคนหักครึ่งเศษไม้ปลิวว่อน ไม้อีกครึ่งบินล่อยไปบนฟ้า แขนของเฉินจิ้นไรร่อนขีดขวนพร้อมกับที่เขาผ่อนคลายกล้ามเนื้อผิวกลับมาสวยเรียบเนียนสะทอนแสง
“มันจะไม่พูดเกินจริงเลยที่จะพูดได้ว่าเจ้ามีผิวทองแดงเหล็กกระดูกตอนนี้” ผู้เฒ่ายกย่อง “การโจมตีเมื่อครู่สามารถทุบหัวเสือเละเป็นโจ๊ก แต่เจ้าสามารถป้องกันได้ด้วยเพียงแค่ยกแขน ดูเหมือนว่าเจ้าจะฝึกร่างกายไปถึงระดับกายาหินผา”
“ กายาหินผา?” เฉินจิ้นถามขณะกำมือแน่นและรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของร่างกาย“ มันไม่ได้เรียกว่ากายาเมฆาวายุทองคำ?”
ผู้เฒ่าส่ายนิ้วขณะอธิบาย” เจ้าคิดว่าร่างกายเมฆาวายุทองคำเป็นเรื่องง่ายที่จะฝึกหรือ? ข้าขอบอกเจ้าอย่างหนึ่งนะ ร่ายกายเมฆาวายุทองคำมีหกขั้น : กายาหินผา < กายาเหล็ก < กายาเหล็กกล้า < กายาทองแดง < กายาเงิน < กายาทองคำ ข้าหวังว่าสักวันข้าจะได้เห็นความแข็งแกร่งของกายาทองคำ “
เฉินจิ้นขมวดคิ้วถามผู้เฒ่าอย่างงงงวย“ ท่านไม่รู้?”
“ข้าไม่รู้” ผู้เฒ่าตอบอย่างสุจริต
“ตั้งแต่ผู้สร้างวิธีฝึกร่างกายเมฆาวายุทองคำส่งต่อมายังไม่มีใครบรรลุระดับสูงสุด?” เฉินจิ้นแปลกใจเล็กน้อย
“ไม่ใช้” ผู้เฒ่าปล่อยให้เฉินจิ้นงงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวความจริง “ไม่มีใครบรรลุระดับสูงสุดได้เลยแม้แต่ผู้สร้าง เบอจั๊สกีเชื่อว่ามันเป็นไปได้ทางทฤษฎี ในบรรดาผู้สืบทอดทั้งหมดที่ฝึกคำภีร์เมฆาวายุทองคำยังไม่เคยมีใครสามารถฝึกสำเร็จร่างกายเมฆาวายุทองคำได้สมบูรณ์ “
เฉินจิ้นพยักหน้าในขณะที่เขาเข้าใจว่าทำไม การฝึกร่ายกายเมฆาวายุทองคำนั้นต้องอดทนและเสี่ยงตายเพื่อที่จะฝึกให้สำเร็จในแต่ละขั้น ถ้าคนฝึกไม่เตรียมใจที่จะเสียสละพร้อมย้อมรับผลการฝึกที่เกิดจากความผิดพลาดคงไปได้ไม่ไกล เพราะถ้าฝึกผิดพลาดขึ้นมาอาจหมายถึงตายหรือพิการ
“ที่จริงแล้วนอกจากร่างกายเมฆาวายุหินผาและการขยายการเชื่อมต่อแอ่งพลังงานนักรบ… อีกอย่างที่เจ้าได้รับคือการฝึกจิตใจและความอดทนให้แข็งแกร่งขึ้น” ผู้เฒ่าพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้ากับความพยายามของเฉินจิ้น
เฉินจิ้นพยักหน้าอีกครั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเข้าใจขณะเขาพูดว่า “ความอดทน ถ้าร่างกายและพลังงานนักรบของข้าเกิดบาดเจ็บพร้อมกับสตรูแต่เนื่องจากความอดทนของข้าดีกว่าในที่สุดคนที่จะชนะคือข้า”
แม้รอยยิ้มอันพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าผู้เฒ่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่รอยยิ้มของเขาในวันนี้สว่างยิ่งกว่าวันไหนๆ เขาโชคดีมากที่ได้รับศิษย์ที่เก่งกาจ แต่ศิษย์ใหม่ของเขานั้นนอกเหนือจากพรสวรรค์ของนักรบ เขามีจิตใจและสมองอันชาญฉลาด ซึ่งนักรบส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี
“เยียม พรุ่งนี้ยกเว้นการฝึกร่างกายเมฆาวายุทองคำ เจ้าควรพักผ่อนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หลังจากเจ้าเชี่ยวชาญขั้นแรกของร่างกายเมฆาวายุทองคำ ข้าจะสร้างค่ายกลพลังงานนักรบสำหรับเจ้าดังนั้นเจ้าสามารถก้าวหน้ากลายเป็นนักสู้ปีศาจ “ผู้เฒ่าพูดจบก็หายไปในสายหมอกเช่นเคย
เฉินจิ้นไม่แปลกใจหรือดีใจจนเกินไป ทุกวันนี้หลังจากฝึกร่างกายเมฆาวายุทองคำความเจ็บปวดและทรมานได้สร้างมุมมองใหม่สำหรับเขา จิตใจของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งต่างๆอีกต่อไป ใจของเขาไม่ได้ยืดติดถึงการกลายเป็นนักสู้ปีศาจ เขากำลังขบคิดถึงการฝึกในทะเลสาบวิธีการต่างๆที่เขาทำพลาดและควรแก้ไขเพื่อให้การฝึกเป็นไปอย่างถูกต้องและเร็วขึ้น
[หลักสำคัญของนักรบ] – หลังจากรอดชีวิตจากการต่อสู้ทุกครั้ง เจ้าต้องไตร่ตรองถึงสิ่งที่เจ้าทำไปไม่ว่าเจ้าจะแพ้หรือชนะ นั่นเป็นวิธีเดียวที่เจ้าจะแข็งแกร่งได้เร็วยิ่งขึ้น
หลังจากผ่านป่าหินที่เต็มไปด้วยหินอาโค เฉินจิ้นก้าวไปยังป่าเล็ก ขณะเขากำลังผ่อนคลายตัวอยู่ฉับพลันเขารู้สึกถึงอันตรายที่มาจากอีกฟากหนึ่งของป่าเล็ก มันได้กระตุ้นทุกเซลล์ในร่างกายเฉินจิ้น เซลล์ทั้งหมดในร่างกายทำงานอย่างเต็มที่และพลังงานนักรบขั้น 10 ของเขากำลังแผ่กระจ่ายไปยังขาทั้งสองทันที เขากระทืบพื้นด้วยแรงมหาศาลผลักร่างกายออกไปเหมือนลูกศร เขารีบวิ่งออกจากป่าอย่างรวดเร็ว
ด้านหน้าทุ่งโล่งมีถ้ำที่มีหมาป่าสีเทามากกว่าโหลยาวอย่างน้อยมากกว่าสองเมตร ฟันแหลมคมเปิดกว้างน้ำลายสีขาวหยดลงพื้นที่แสดงถึงความหิวของพวกมัน พวกหมาป่ากำลังหมบลงบนพื้นพร้อมขาหลังเหยียดตรง พวกมันกำลังจ้องนักดาบสาวโซเฟียที่กำลังถือหินก้อนใหญ่ในมือ เฉินจิ้นมองสถานการณ์อย่างระมัดระวังและเห็นหมาป่าสีเทาสองตัวมีเลือดไหลออกมาจากหน้าผาก
กลางฝูงหมาป่ามีลิงขนาดใหญ่ผิวสีเขียวสูงกว่าสามเมตร! สิ่งที่พิเศษยิงกว่าคือมันนอกจากแขนสองข้างแล้วยังมีแขนขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากกึ่งกลางหน้าอก!
สัตว์ปีศาจ! สัตว์ปีศาจระดับ 1, ลิงหนังเขียวสามแขน! มันแข็งแกร่งมากและความแข็งแกร่งของแขนทั้งสามสามารถฉีกเสือเละเป็นชิ้นๆ !
ทันใดนั้นหมาป่าแผดเสียงดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา จากนั้นหมาป่าสีเทาตัวใหญ่กระโดดเปิดปากพร้อมฟันมันแหลม หมายที่จะกัดคอสวยๆของโซเฟีย เมื่อโซเฟียจัดการหมาป่าสีเทาที่เข้ามาได้ พวกตัวอื่นกลับไม่ได้วิ่งหนีเริ่มโจมตีเช่นกัน
โซเฟียเห็นหมาป่าสีเทาตัวกำลังพุ่งตัวมาจากด้านข้างแต่ร่างกายของเธอตอบสนองได้ไม่เร็วพอ ทันใดนั้นมีแสงประกายหลากยาวข้ามท้องฟ้ามาด้วยท่าทางที่ทรงพลัง พุ่งตรงไปสับหมาป่าสีเทาตัวที่อยู่ข้างเอวโซเฟีย!
เมื่อประกายแสงวิ่งผ่านร่างหมาป่าสีเทา ตัวมันถูกผ่าครึ่งกลางอากาศ เลือดพุ่งกระฉูดไปบนท้องฟ้า ดาบเชียงดาวที่คมกริบนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดที่ผ่าลงจากบนท้องฟ้า มันสับผ่านร่างหมาป่าได้ง่ายๆ! ครึ่งหนึ่งของตัวดาบตัดลงไปในดินพร้อมทั้งยังสั่นสะเทือนด้วยความแรงที่เหลืออยู่ ส่วนอีกครึ่งของใบมีดสะท้อนแสงอันเย็นยะเยือกไปทั่ว
หมาป่ากว่าโหลที่พยายามโจมตีหยุดยืนอยู่กับที่ทันที พวกมันพากันมองไปยังดาบเชียงดาวกันอย่างพร้อมเพรียง ความกลัวกำลังปรากฏในดวงตาของพวกมัน
การโจมตีของใบมีดมันมาเร็วเกินไป! รุนแรงเกินไป! ฝูงหมาป่าเกิดความหวาดกลัวไปยังดาบเชียงดาวโดยไม่รู้ตัว พวกมันมองย้อนกลับไปยังทิศทางที่ใบมีดผ่านมาและเห็นเฉินจิ้นซึ่งอยู่ไม่ไกล เขากำลังพุ่งเข้าใส่พวกมันด้วยความเร็วสูง
ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวหมาป่าทั้งหมดถอยกลับไปอย่างไม่รู้ตัว จิตสังหารอันเข็มข้นบังคับให้พวกมันถอยกลับอย่างกระทันหัน พวกหมาป่าก้มหัวลงราวกับว่าพวกมันต้องการฝังหัวลงไปในดินขณะส่งเสียงร้องครางหงิกๆ
ลิงหนังเขียวสามแขนที่ยืนอยู่ตรงกลางฝูงหมาป่าหันหน้ามาแสดงอาการประหลาดใจ “ ไอเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆนี้ มันกล้าฆ่าลูกน้องของข้า ลิงหนังเขียวสามแขนผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าได้อย่างไง?” มันคิด