Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 251
Chapter 251: จ้างวาน
ฟางหยวนนั้นเดิมไม่มีคะแนนภารกิจเหลือแล้ว แต่ตอนนี้ เขามีคะแนนภารกิจเพิ่มขึ้นมาหลายร้อยและเขาก็ไม่ลังเลที่จะไปที่ป้ายหินนั่น
“ด้วยจํานวนของคะแนนภารกิจที่ข้าม ข้าแน่ใจว่าน่าจะเพียงพอที่จะจ้างจ้าวแห่งฝันระดับสูงค้นหาวิถีแห่งเคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กให้ข้า ไม่อย่างนั้น ข้าก็จะเพียงบรรลุผ่านได้ไม่กี่ระดับเท่านั้นและอาจจะซื้อเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนได้ด้วย!”
หลังจากคิดเรื่องนี้ เขาก็ปล่อยความสนใจซื้อเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคนฉบับสมบูรณ์ออกไปและย้ําว่าเป็นเคล็ดวิชาทั้งชุด นี่หมายความว่าเขาคาดหวังถึงบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการสร้างร่างศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ฟางหยวนถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่าเขาต้องจ่ายคะแนนภารกิจด้วยเมื่อส่งความต้องการออกไป
“ต่อไปก็… หาข้อมูลเกี่ยวกับการข้ามฝันสู่อาณาจักรอื่น!”
เขาเรียกดูข้อมูลบนป้ายหินอย่างรวดเร็วและข้อมูลที่เกี่ยวข้องก็ถูกกรองออกมา
มีสรุปสั้น ๆ ของข้อมูลเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอะไรก่อนที่ผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อข้อมูลนั้นๆ แล้วจึงจะอ่านข้อมูลที่เหลือต่อได้
ทันใดนั้น ฟางหยวนก็ตัวสั่นขึ้นมา
เขาเพ่งมองไปที่ข้อมูลชิ้นหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับวิธีการข้ามฝันแบบระบุตําแหน่งเฉพาะและบนนั้นยังมีรูปรูปหนึ่งอยู่ด้วยซึ่งสะดุดความสนใจของเขา
ข้อมูลนี้บันทึกโดยจ้าวแห่งฝันที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้อาวุโสนักข้ามฝัน เขายังพบว่าบันทึกของคนผู้นี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อ
เขาซื้อมันโดยไม่ลังเลในทันทีแม้จะพบว่าเขาต้องจ่ายคะแนนภารกิจถึงหนึ่งร้อยแต้ม
“ครืน!”
แสงสว่างพวยพุ่งและข้อมูลชิ้นใหญ่ก็ปรากฏขึ้น
“อาณาจักรนั้น ๆ จะไม่รู้ว่าเจ้ามาจากอาณาจักรอื่น… มีสองวิถีที่จ้าวแห่งฝันจะสํารวจโลกใด ๆ คือการออกสํารวจด้วยร่างจริงของตนหรือผ่านการข้ามฝัน… ก่อนอื่นข้าจะอธิบายถึงวิธีการข้ามฝันสู่สถานที่ที่ต้องการ… เคล็ดวิชาประกอบด้วย เคล็ดไตรธาตุ” เคล็ดบูชายันต์ และ เคล็ดฝ่าอาณาจักร… แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ล้วนด้อยกว่าการได้มาซึ่งการรับรองของอาณาจักร!”
“การรับรองของอาณาจักรคือสิ่งที่จะน้อมตามกฎของอาณาจักรนั้น ๆ และยังได้รับการยอมรับในทุกที่ในอาณาจักรนั้น ผู้ที่มีการรับรองของอาณาจักรย่อมสามารถผสานเข้ากับอาณาจักรได้ด้วยตนเองและยังมีระดับความทนทานในอาณาจักรนั้นสูงนี่คือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันจะได้มาแต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้ครอบครอง!”
ถัดจากคําบรรยายคือรูปวาดของการรับรองของอาณาจักรว่ามีหน้าตาอย่างไร มีทั้งยันต์ดาบหรือกระทั่งก้อนหินหน้าตาธรรมดา
สิ่งเดียวที่เหมือนกันระหว่างของแต่ละชิ้นนั้นก็คืออักขระเวทย์มากมายบนวัตถุนั้น ๆ ซึ่งสลักตําแหน่งของอาณาจักรที่ได้มาซึ่งพวกมัน
“นี่…”
เมื่ออ่าน ฟางหยวนก็พูดไม่ออก
สําหรับเขาแล้ว การรับรองของอาณาจักรนั้นก็คือใบผ่านทางที่เหนือกว่าทุกอย่างและไม่สําคัญว่ามันจะหน้าตาเยี่ยงไร
“จากลักษณะของอักขระเวทย์ที่รอบ ๆ นั่นแล้ว มันดูเหมือนผลไม้สีทองก็มีตําแหน่งของอาณาจักรหนึ่งสลักไว้เช่นกัน!”
ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจึงดูน่าสับสน! ข้าเพียงแค่ต้องเปลี่ยนมันให้เป็นรูปแบบของยันต์สักชิ้นเพื่อที่จะกรองเอาตําแหน่งของอาณาจักรและได้รับการยอมรับจากอาณาจักรนั้น…”
แต่เขาเพิ่งกลับมาจากการข้ามฝัน เขาจึงยังไม่ลองอีกครั้งในทันที
นอกจากนี้ เขายังต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานตําแหน่งนั้นและมันยังไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทําสําเร็จได้ในเวลาอันสั้นดังนั้นเขาจึงออกจากอาณาจักรแห่งฝันทันทีและไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉิน มองหาสถานที่เงียบ ๆและเรียกใช้เคล็ดแฝงฝัน
แม้ว่าคฤหาสน์ตระกูลฉินจะได้รับการปกป้องจากค่ายกลปกป้องและยังมีการป้องกันจากผู้อาวุโสอีกหลายคนฟางหยวนก็ยังคงลอบเข้าไปได้โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพี่น้องฉันคือคนของเขาแล้ว
ทันใดนั้น ฉันอวิ่น ที่กําลังทํางานอยู่ ก็รู้สึกง่วงและโบกมือ “ข้ารู้สึกเพลียนิดหน่อย ข้าขอไปจีบสักพักก่อนอย่าได้เข้ามารบกวนข้า!”
“ขอรับนายท่าน!”
คนรับใช้ขอตัวออกไปทันทีขณะที่ฉันอขึ้นเดินไปที่นอน เขาหาว แล้วก็หลับลึกไปทันที
ในหมอกสะกด ร่างของเขาปรากฏขึ้นและเขาก็พบชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า “คารวะนายท่าน!”
“อืม ลุกขึ้นเถอะ!”
ฟางหยวนโบกมือ แล้วโต๊ะหินกับเก้าอี้หินสองตัวจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น และยังมีชุดน้ําชาบนโต๊ะพร้อมกับชาที่ชงไว้แล้ว
“นั่งสิ!”
เขาเรียกฉินอวิ่นมานั่งและยังเทน้ําชาให้เขาถ้วยหนึ่ง อย่างไรเขาก็เป็นเจ้าตระกูลผู้หนึ่งและเขาย่อมต้องให้เกียรติตําแหน่งนั้น “สืบได้ความอย่างไรบ้าง?”
ฉินอวินจิบน้ําชาคําเล็ก ๆ และตะลึงไปกับกลิ่นหอมของชา
เขารู้ว่าความสามารถของจ้าวแห่งฝันดังนั้นจึงนอบน้อมเป็นอย่างมาก “ข้าได้ข่าวเกี่ยวกับตระกูลหยางเดิมพวกเขาเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลที่สุดในมณฑล แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด พวกเขาถูกผู้อาวุโสชิงปุยกวาดล้าง!”
“มันเกิดขึ้นจริงด้วย!”
ฟางหยวนพยักหน้าก่อนจะถามต่อ “ราชสํานักสืบดูหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“ผู้อาวุโสชิงรุ่ยเป็นจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาและยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับกุมเขา… นอกจากนี้เขายังมาจากสํานักเทพปิศาจ! แน่นอนว่ายังต้องมีการทําตามกฎหมายและสืบสาวเรื่องราวแต่วิธีการสืบนั้น… อืม…”
ฉินอวิ่นส่ายหน้าและฟางหยวนก็นึกถึงพลังของจ้าวแห่งฝันในอาณาจักรต้าเฉียนขึ้นมาได้
“ส่วนเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุณ… นี่เป็นวิทยายุทธ์ประจําตระกูลหยางและยังช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์สร้างแปดชีพจรศักดิ์สิทธิ์และสร้างร่างสวรรค์ มันเรียกได้ว่ามีพลังมากและหลังจากสืบดูรอบหนึ่งแล้วหลายตระกูลล้วนมีส่วนหนึ่งของเคล็ดวิชานี้ในครอบครอง แต่ว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นเคล็ดส่วนของการสร้างแปดชีพจรส่วนบันทึก สมบูรณ์นั้น หลังจากที่ข้าสืบดูน่าจะอยู่ในมือของตระกูลหร่วน!”
“ตระกูลหร่วน?”
ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าตระกูลฉินจะมีความสามารถในการสืบค้นถึงเพียงนี้
“ถูกต้อง! ตระกูลหร่วนนั้นมีความสัมพันธ์กับตระกูลหยางผ่านทางการแต่งงาน ในวันวิปโยคของตระกูลหยางหนึ่งในผู้อาวุโสได้รับบาดเจ็บสาหัสและหนีไปได้ เขาถูกช่วยเอาไว้โดยตระกูลหร่วน แต่โชคไม่ดีเขารักษาไม่ได้ เพราะอย่างนั้น เขาจึงส่งต่อบันทึกทั้งชุดของเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุณให้ไปอยู่ในมือของตระกูลหร่วน!”
ฉินอวิ่นพูดต่อ “ตระกูลหร่วนนั้นอยู่รัฐตงเชิง มณฑลอีอู่ ห่างไปจากรัฐทะเลทรายสองรัฐ นายท่าน ท่านต้องการรายละเอียดของที่นั่นหรือไม่?”
อาณาจักรต้าเฉียนนั้นกว้างใหญ่กว่าประเทศหยวนและอู่หลายเท่านัก
“ไม่จําเป็น!”
ฟางหยวนโบกมือ เขาเริ่มคิดถึงสัตว์วิญญาณบินได้ที่เขามีอยู่ที่บ้านแล้ว
“เดี๋ยว…”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “ดูเหมือนว่าจะมีบริการรับจ้างอยู่ในอาณาจักรแห่งฝัน ข้าสามารถจ้างนกวิญญาณพาข้าไปที่รัฐตงเชิงได้โดยตรง และดูว่าน่าจะเป็นไปได้…”
อันที่จริง ก็มีบริการเช่นนี้ในรัฐทะเลทราย ความต่างเดียวก็คือชนิดของนกที่ใช้นั้นอ่อนแอกว่า ช้ากว่าและยังติดตามได้ง่ายกว่า
โดยไม่พูดอะไรเพิ่ม เขาก็จากไป
ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน ฉินอวิ่นตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ และดูกําลังคิดเรื่องอันใดอยู่
เมื่อมีเป้าหมายอยู่ในใจฟางหยวนก็ตั้งภารกิจในอาณาจักรแห่งความฝัน
ภารกิจนี้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องการคนพาเขาไปเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเสนอคะแนนภารกิจเพียงสิบคะแนน ถึงอย่างนั้นก็มีคนสนใจรับภารกิจนี้มากมาย
หลังจากเรียกดูจํานวนจําวแห่งฝันที่สนใจแล้ว เขาก็เลือกสัญลักษณ์ของจ้าวแห่งฝันผู้หนึ่งที่เขาคิดว่าไม่แข็งแกร่งจนเกินไปนัก
คนผู้นี้ที่เขาเลือกนั้นนอบน้อมและยังบอกว่าเขามีนกวิญญาณที่เทียบได้กับอู่จงและสามารถบินไปได้โดยไม่สามารถตรวจพบได้
ที่สําคัญที่สุด เขาอยู่ใกล้กับจ้าวแห่งฝันผู้นี้!
หลังจากแลกเปลี่ยนกันไม่กี่คํา พวกเขาก็ตกลงนัดพบกัน
หลังจากนั้นสองชั่วยาม บนยอดเขาแห่งหนึ่งในมณฑลตงอี นกวิญญาณขนาดยักษ์ร่อนลงพร้อมกับสายลมที่กรรโชกแรง
นกวิญญาณตัวนี้นั้นคล้ายกับอินทรี มีขนสีทองและมีสองหัว มันคืออินทรีทองสองหัว และยังมีธรรมชาติค่อนข้างดุร้าย ว่ากันว่าเมื่อเติบใหญ่เต็มที่พวกมันสามารถใช้พลังธาตุได้และยังเป็นธาตุลมและไฟนกที่แข็งแกร่งที่สุ ดนั้นเทียบได้กับนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับแยกธาตุหรืออู่จงในระดับเปิดชีพจร
“คารวะผู้อาวุโสฟาง!”
เมื่ออินทรีสองหัวร่อนลง ชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ลงจากหลังของอินทรีและทักทายฟางหยวน
“อืม ท่านคือฮั่วชิง?”
ฟางหยวนพยักหน้า “ตามที่ตกลง ข้าจะจ่ายให้ท่านครึ่งหนึ่งก่อนแล้วหลังจากส่งข้าที่มณฑลอีอู่ในรัฐตงเชิงข้าจะจ่ายอีกครึ่งที่เหลือให้ท่าน ถูกต้องไหม?”
“ถูกต้องขอรับ!”
ฮั่วชิงเชิญฟางหยวนขึ้นหลังอินทรี ภายในไม่กี่วินาที นกอินทรีทองสองหัวก็ลอยขึ้นสู่ชั้นเมฆ
“แกอีก!”
อินทรีสองหัวกรีดร้องเสียงยาว เกิดลูกกลมสีเขียวปกคลมรอบร่างของมัน ปิดกันกระแสลมเอาไว้
“ผู้อาวุโส เชิญ!”
บนแผ่นหลังกว้างของอินทรี ฮั่วชิงเตรียมน้ําชาและของว่างเอาไว้ “พวกเราจะไปถึงที่นั่นภายในหนึ่งวันหลังจากข้ามสองรัฐ รบกวนท่านรอแล้ว!”
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก…”
ฟางหยวนสบตาชั่วชิงและพบว่าเขาเป็นจ้าวแห่งฝันระดับใช้พลังธาตุขอบเขตแฝงฝัน
แน่นอนว่า เมื่อคํานึงถึงอายเขาแล้ว นับว่ามีพรสวรรค์ที่เดียว
แต่ก็ยังมีช่องว่างใหญ่โตระหว่างระดับการฝึกตนของเขากับของฟางหยวน ซึ่งทําให้เขายังคงเรียกฟางหยวนเป็นผู้อาวุโส
“อินทรีสองหัวนี่ดีมากทีเดียว หากเป็นข้า ข้าคงไม่สามารถจับสัตว์วิญญาณที่รวดเร็วเช่นนี้มาได้…”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟางหยวนก็เอ่ยชมเชยเขา
“ถูกแล้ว ผู้อาวุโส!”
ฮั่วชิงพูดอย่างระวัง “มีอันตรายมากมายอยู่ระหว่างสองรัฐที่พวกเรากําลังข้ามไปนี้ แม้ว่าพวกเราจะอยู่สูงขี้นมาบนฟ้า พวกเราก็ยังต้องระมัดระวัง… นอกจากนี้ พวกเราจะบินข้ามหลายมณฑล เมืองใหญ่และกระทั่งตระกู ลอันทรงอิทธิพลและพลัง ดังนั้น พวกเราต้องหลบเลี่ยงพวกเขา…ข้านั้นไร้สามารถและทําได้เพียงดํารงชีวิต
ด้วยวิธีนี้
ได้ยินคําอธิบายของเขาแล้วฟางหยวนก็ตะลึงไป
เขาไม่รู้เลยว่าอาณาจักรต้าเฉียนนั้นพัฒนาไปถึงจุดที่มีการป้องกันกระทั่งท้องฟ้าเหนือพื้นที่ของตน
หากเขาสุ่มจับนกวิญญาณสักตัวแล้วบินข้ามมาเช่นนี้ก็เท่ากับหาปัญหาใส่ตัวแล้ว
แน่นอนว่า เขาเข้าใจได้แล้วว่าเหตุใดชั่วชิงจึงรับทํางานเช่นนี้
ฮั่วชิงลําบากหาอินทรีทองสองหัวมา จดจําเส้นทางเดินทางบนฟ้าและดํารงชีพด้วยการรับส่งคนด้วยการให้บริการเช่นนี้ เขาก็สามารถรับคะแนนภารกิจเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรได้ในอาณาจักรแห่งฝัน
หากฟางหยวนเป็นคนทําเฉียนที่ไม่มีความสามารถพิเศษใด หลังจากได้เป็นจ้าวแห่งฝัน เขาก็คงต้องดําเนินวิถีทางเดียวกันนี้และพึ่งพิงทักษะสักอย่างเพื่อที่จะพยายามให้ตนบรรลระดับได้ต่อไปในภายหน้า
“ไม่เลว… ไม่เลวเลยทีเดียว!”
การเดินทางราบรื่นและพื้นดินด้านล่างเริ่มมีสีเขียวชอุ่มด้วยพืชพรรณ เมื่อมาถึงรัฐภูเขา ฟางหยวนก็รู้ว่าพวกตนกําลังจะเข้าสู่รัฐตงเชิง ทันใดนั้น เขาก็ถามขึ้น “ด้วยความสามารถเช่นนี้ ท่านเคยคิดถึงการขยายกิจการหรือไม่? อย่างเช่น ตั้งสมาพันธ์หรือให้บริการแก่ทุกคน?”
“คิคิ…”
ฮัวชิงหัวเราะ “ข้าเป็นจ้าวแห่งฝัน! ข้าจะให้บริการคนทั่วไปได้อย่างไร? อีกอย่าง… พวกเขาจ้างข้าไม่ไหวหรอก!”
ฟางหยวนยังเงียบอยู่
กระทั่งจ้าวแห่งฝันระดับใช้พลังธาตุยังมีความหยิ่งทระนงของจ้าวแห่งฝันในต้าเฉียน
พวกเขาไปถึงอีอู่อย่างรวดเร็วทั้งที่ยังเงียบใส่กันอยู่ บนที่ราบแห่งหนึ่ง ยั่วชิงสั่งอินทรีสองหัวร่อนลงและฟางหยวนก็ลงจากหลังอินทรี
“ผู้อาวุโส ท่านมาที่นี่ด้วยเรื่องส่วนตัวใช่หรือไม่ และท่านคงไม่อยากให้ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”
ฮั่วชิงลูบขนของอินทรีสองหัว และป้อนผลไม้วิเศษให้มัน “ถ้าท่านจะกลับ ท่านเรียกหาข้าได้นะ! เสี่ยวจินกับข้าสามารถหลบหลีกเหล่าทหารฟ้าพลังเวทย์ได้!”
ตอนที่เขาพูด มีแววของความภาคภูมิใจแผ่ออกมา