Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 248
Chapter 248: พู่กันและดาบ
“ใช้หมดแล้ว?”
ฟางหยวนพบว่าไม่เพียงแค่เฟิงซินจือแต่กระทั่งผู้อาวุโสมังกรเพลิงและดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ก็ยังมองเขาอย่างไม่พอใจ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพลังแห่งอาณาจักรมีค่าเพียงใด?”
นิ้วมือของดอกบัวสวรรค์กระตุก “ถ้านํากลับไปต้าเฉียน มันสามารถแลกกับคะแนนภารกิจได้อย่างน้อยก็หนึ่งพันจ้าวแห่งฝันระดับสูงบางคนยังยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนหรือกระทั่งยอมติดหนี้บุญคุณเจ้าได้… ต่อให้เจ้าเก็บ มันไว้เพื่อฝึกฝนตนเอง เจ้าก็สามารถรวมมันเข้ากับอาวุธหรือสิ่งของวิเศษเพื่อเพิ่มความสามารถของมันได้ เหตุ ใดเจ้าจึงทําเช่นนี้… เจ้านี่มันเสียของจริง!”
“เฮ้ย… นี่เป็นความผิดของพวกเราเองที่ไม่อธิบายให้เขารู้…”
มีสีหน้าเสียดายอยู่บนใบหน้าของผู้อาวุโสมังกรเพลิง
ส่วนเฟิงซินจือและอวเทียนเหลา ทั้งสองมีสีหน้าสงสัย พวกเขาสงสัยว่าฟางหยวนพูดความจริงหรือไม่
สําหรับฟางหยวน มันคุ้มค่าอย่างยิ่งแล้วที่ใช้พลังแห่งอาณาจักรจากทะเลสาบมังกรทองหนึ่งในสามส่วนเพื่อบรรลุระดับการฝึกตนของเขาในฐานะจ้าวแห่งฝัน มันไม่เสียเปล่า
ไม่ว่าโอกาสข้างหน้าจะดีเพียงใด ความก้าวหน้าในการฝึกตนนั้นสําคัญที่สุด
ฟางหยวนยังคงพูดไม่ออกขณะมองผู้อาวุโสมังกรเพลิงและดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์มอบพลังแห่งอาณาจักรของพวกเขาออกไปให้อีกสองคนยืม
“เหอเหอ… น้องฟาง เจ้าดูไม่ใส่ใจอะไรที่นี่เลยนะ!”
เมื่อสังเกตเห็นเขาเช่นนี้ อวเทียนเหลาก็เอ่ยแซะ
“ไม่ใช่เช่นนั้น… ข้าเพียงกําลังคิด ตลอดหลายปี ประเทศเลี่ยย่อมต้องมีผู้สนับสนุนเบื้องหลังหรือแหล่งพลังเพื่อที่จะธํารงอํานาจเอาไว้ แค่พวกเราห้าคนจะเพียงพอที่จะจัดการกับราชาหรือ…”
“คิค… ไม่ต้องห่วงสหายข้า!”
เฟิงซินจือโบกมือ “ข้าทําความคุ้นเคยกับทุกคนในประเทศเลี่ยไว้แล้ว ไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเทพมังกรทอง… ยกเว้นราชาของประเทศเลี่ย เขาได้รับการปกป้องจากพลังแห่งอาณาจักรซึ่งค่อนข้างเป็นปัญหาเล็กน้อย…”
“พวกเราจะลงมือเมื่อใด?”
“อย่าได้ช้าไปอีกเลย ช้าไปหนึ่งวันย่อมหมายถึงหนึ่งวันให้พวกนั้นได้เตรียมตัว ทําตัวเองให้พร้อมและลงมือตอนนี้เลย!”
เฟิงซินจื่อตัดสินใจ
“ฆ่า!”
ชุนเหอและหุยซึ่งนั้นเป็นหุ่นเชิดของเฟิงซินจือ เมื่อฟางหยวนและพวกเตรียมตัวขั้นสุดท้ายเสร็จความโกลาหลวุ่นวายก็ดังมาเมื่อเตรียมบุกเมือง
“ปัง!”
เครื่องยิงหินเครื่องใหญ่ยิงหินหนักกว่าร้อยชั่งเข้าใส่กําแพงเมือง
หินแตกเป็นก้อนเล็กก้อนน้อยและพุ่งเข้าใส่ผู้คนหลายคน ทําให้เลือดสาดกระจายไปทั่ว
ก้อนหินเหล่านั้นก็ค่อนข้างแม่นยํานักเมื่อปลิวขึ้นไปเหนือกําแพงเมือง กระแทกทุกอย่างที่อยู่ระหว่างทางยังผลให้เกิดการเสียเลือดเนื้อมากมาย
“ปล่อยลูกศร!”
บนกําแพง ทหารหลายคนพยายามอย่างวุ่นวายเพื่อป้องกันตัวเองขณะยิงศรใส่ศัตรู
เมื่อศัตรูมาถึงกําแพงเมือง ก็มีท่อนไม้และก้อนหินกลิ้งลงมา กระแทกกับทุกอย่างที่อยู่บนวิถีเคลื่อนตัวของมัน
“ฮ่าฮ่า… สวรรค์อํานวยพรให้องค์ราชาแล้ว!”
ที่ประตูเมือง แม่ทัพใบหน้าดําคล้ําผู้หนึ่งหัวเราะ “พวกเขายังไม่เผยตนออกมาแต่กลับพยายามจะโจมตีเมืองเสียแล้ว! รนหาที่ตาย!”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังของการโจมตีส่งเดชของศัตรู เขาก็รู้ว่าถ้าพวกตนยังโจมตีต่อพวกนั้นย่อมอ่อนแรงลงซ้ํา ๆ !
คนพวกนั้นไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีตั้งแต่แรกเริ่มและทําได้เพียงอยู่รอดด้วยการแย่งชิงทรัพยากรจากชาวบ้าน
ตอนนี้เมื่อถูกโจมตีโดยไม่มีการเตรียมตัว พวกเขาย่อมไม่สามารถทนรับได้อีกเมื่ออัตราการตายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาอาจจะล่มสลายไปในวินาทีต่อมาก็ได้
ถึงตอนนั้น ข้าจะได้รับความชอบในทุกสิ่ง…ข้าควรจะลงมือตอบโต้พวกเขาที่ข้างนอกเมืองหรือไม่? หากข้าสามารถจับตัวหนึ่งในสองคนนั้นได้ ข้าอาจจะได้รางวัลอย่างงาม!!
พริบตาที่ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความละโมบ เขาก็มองเห็นเงาร่างห้าเงาพุ่งตรงมาที่ประตูเมืองด้วยความเร็วอันน่าตื่นตะลึง
“พวกนั้นเป็นใคร? สังหารพวกมันเสีย!”
แม้เขาจะรู้ว่าคนทั้งห้านี้มีความสามารถสูงส่ง เขาก็ไม่วิตกกังวล
อย่างไร ประสบการณ์หลายปีในประเทศเลี่ยของเขา เขาคุ้นเคยกับการลอบสังหารหลากหลายวิธีจากศัตรูดังนั้นเขาจึงมีปฏิกิริยาตอบต่อสถานการณ์เช่นนี้อย่างเป็นธรรมดา
สิ่งเดียวที่เขาไม่รู้ก็คือทั้งห้าคนนี้มีความสามารถที่เขาไม่เคยคิดภาพออกมาก่อน
วินาทีต่อมา
“ครืน!”
มีการระเบิดครั้งใหญ่และกําแพงเมืองก็สั่น แม่ทัพผู้นั้นเกือบจะเสียหลักล้มลง
หูของเขายังอื้ออึงและมีเลือดไหลซึมออกมา เขารู้สึกมึนงงเล็ก ๆ “เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะที่เขาตะกายขึ้นไปบนกําแพงเมือง เขาก็อึ้งงันไป
ตรงที่เคยมีประตูเมืองอยู่นั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว กลับมีหลุมใหญ่มหึมาและเงาร่างของห้าคนอยู่ข้าง ๆ นั้น
“พวกเจ้ารออะไรอยู่อีก? ลงมือสิ! ลงมือ!”
ทหารยามที่นอกเมืองเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ขณะที่พวกมันค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นซ้ํา ๆ ดวงตาของพวกมันก็แดง… “คนที่เข้าเมืองไปได้จะได้ทั้งเงินทองและผู้หญิง… แล้วแต่พวกเจ้าจะเลือก!”
“ฆ่า!”
เห็นการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรูถูกทําลาย ทหารก็มีกําลังใจ ยิ่งมีรางวัลดึงดูด พวกมันก็ตะโกนก้องขณะพุ่งเข้าไปในเมือง
เทียบกับพวกตนแล้ว ทหารยามที่ในเมืองยังคงอึ้งอยู่และไม่ทันมีทีท่าอันใด
เห็นประตูเมืองถูกพังลง ความมั่นใจของพวกเขาก็สั่นคลอน
ในเมื่อศัตรูของพวกมันก็ได้รับความช่วยเหลือจากเทพเจ้า สิ่งเดียวที่พวกมันสามารถทําได้ก็คือวิ่งหนี!
“ปี..ปิศาจ!”
มองจ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาทั้งห้าที่ประตูเมือง ใบหน้าของเขาก็แดงและกระอักเลือดออกมาคําใหญ่ “ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะสู้ตายกับพวกเจ้า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่ามัน!”
ดวงตาของเขาแดงก่ํา เขาสังหารทหารที่หนีทัพและรวบรวมทหารของตน ปลุกความกล้าหาญของพวกมันที่เหลือ
แต่ว่า จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขานั้นก็ราวกับคลื่นเล็ก ๆ ในทะเลทหารของศัตรู เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็หายลับไป
“ครืน!”
บนฟ้า เมฆดําเริ่มรวมตัวกันสายฟ้าเริ่มเริงระบําอยู่บนนั้น
ราวกับการเข้ามาเกี่ยวข้องของจ้าวแห่งฝันทั้งห้านั้นทําให้สวรรค์พิโรธ เป็นผลให้เกิดหายนะขึ้น
“สิ้นหวังอะไรเช่นนี้…”
ที่ประตูเมือง จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายาทั้งห้าจับตามองสงครามตรงหน้า ฟางหยวนถอนหายใจ
แม้ว่าทั้งห้าจะแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ทหารที่รอบ ๆ ก็ยังเกรงที่จะเข้าใกล้พวกเขาและเปิดพื้นที่ว่างเล็กๆเอาไว้ให้พวกเขา
“นี่คือการล่มสลายของเมืองหลวงประเทศเซียแล้ว…”
เฟิงซินจ่อก้มหน้าลง “ไม่ต้องยั้งมือและใช้ทุกอย่างที่พวกเรามี! มังกรคู่ ก่อหายนะ!”
พลังแห่งอาณาจักรสองสายปรากฏขึ้นบนมือของเขา ฟางหยวนจําได้ว่ามันเป็นพลังจากทะเลสาบมังกรทอง
ในมือเฟิงซินจื่อ พลังแห่งอาณาจักรสองสายคํารามและเปลี่ยนรูปไปเป็นอสรพิษสีขาวสองตัวพุ่งขึ้นไปบนฟ้ามันกลายเป็นค่ายกลและปลดปล่อยแสงสีขาวห้าสายออกมาปกคลุมฟางหยวนและจ้าวแห่งฝันที่เหลือ
“โอ้… นี่คือ…”
มองแสงบนฝ่ามือของตนเอง ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกถึงภัยพิบัติที่ใกล้เข้ามาได้อีกต่อไป
“เฟิงซินจือนั้นเป็นจ้าวแห่งฝันผู้มากประสบการณ์จริง ๆ เขาสามารถปกป้องพวกเราจากสวรรค์ได้ด้วยค่ายกลเรียบง่ายเท่านี้!”
ฟางหยวนชื่นชมเขาอยู่ในใจเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของเฟิงซินจือ “ค่ายกลนี้สามารถปกป้องพวกเราไว้ได้ประมาณสี่ชั่วยาม จากนั้นพลังแห่งอาณาจักรจากทะเลสาบมังกรทองก็จะถูกใช้หมดไป… พวกเราต้องใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด!”
“ไป!”
ขณะที่พวกเขาทั้งห้ามองกันและกัน พวกเขาก็พุ่งเข้าไปในวังหลวง
“องค์ราชา! ข่าวร้าย!เมืองถูกตีแตกแล้ว!”
ในวังหลวง องค์ราชาที่เพิ่งกลับมาถึงใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดลง เขาเกือบจะก้าวพลาดตกบันไดลงมา “พวกมันบุกเข้ามาเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
“เป็นปิศาจทั้งห้าตนรวมพลังกันทําลายประตูเมือง!”
“เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้อย่างไร?”
องค์ราชาเพิ่งยืนได้มั่นคงก็ครางออกมา “หรือว่าสวรรค์ต้องการให้ข้าตายใช่หรือไม่?
อย่างไรเสีย เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ก่อนที่ข้าหลวงจะทันได้ปลอบโยนเขา เขาก็ปาดน้ําตาทิ้ง “ข้าตายได้แต่ประเทศต้องยังอยู่!ให้น้องชายข้าสืบทอดบัลลังก์ก็ยังดีกว่าให้ปิศาจทั้งห้านั้นได้ครอบครอง!แม่ทัพใหญ่และอัครเสนาบดีอยู่ที่ใด?”
“พวกกระหม่อมอยู่นี่!”
เมื่อทั้งคู่มาถึง ก็คารวะลง สีหน้ามุ่งมั่น
“ในฐานะของราชา บัดนี้ข้าขอประกาศให้เจ้าทั้งสองขึ้นเป็นราชครู รีบไปจัดการกับปิศาจนั่นเสีย!”
ราชาแห่งประเทศเลี่ยกัดฟัน
หลังจากกําจัดปิศาจนั่นไปได้แล้ว แม้ว่าประเทศจะวุ่นวาย เขาก็ยังสามารถรักษาบัลลังก์เอาไว้ให้ตระกูลได้หากปิศาจนั่นทําได้สําเร็จ ก็ย่อมไม่มีการสืบทอดต่อแล้ว และสิ่งที่ตามมาย่อมเกินจะคิดได้
“ซี่! !”
ในเมื่อเขาเป็นราชา คําสังของเขามีเสียงค์
เขามีเสียงคํารามของมังกรรับรอง
ที่ด้านหลังราชา พลังแห่งอาณาจักรสายใหญ่ปรากฏขึ้น มันพุ่งลงมาจากฟ้าสู่ดินและมีพลังอันน่าตะลึงซึ่งพลังแห่งอาณาจักรที่ทะเลสาบมังกรทองเทียบไม่ได้
“ซู่! ซู่!”
รัศมีพลังสองสายพุ่งออกมาจากพลังแห่งอาณาจักรของประเทศเข้าไปที่ร่างของอัครเสนาบดีและแม่ทัพใหญ่เพิ่มพลังให้แก่พวกเขา
“แกวก! แกึก!”
“โฮก! โฮก!”
ที่ด้านหลังพวกเขาทั้งคู่ มีนกเพลิงและเสือขาวตามลําดับ ดูดซับพลังแห่งอาณาจักร พวกเขาก็เริ่มการทะลวงด่านและไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อน
“ข้ายินดีใช้ชีวิตตอบแทนความปรานีของท่าน องค์ราชา!”
ท่ามกลางแสงสว่างเรื่องทั้งคู่ลอยตัวขึ้นและออกไปจากวังหลวง
“องค์ราชา!”
ราชานั้นเบื้องหน้าพร่ามัวและเกือบจะล้มลงพื้น เขามองสีหน้าตกใจของเหล่าข้าหลวงรอบ ๆ เขาแตะปลายนิ้วที่จมูกตัวเอง และพบเลือดติดมือมา “ในประวัติศาสตร์พวกเราไม่สามารถแต่งตั้งราชครูของแผ่นดินได้หากไม่จําเป็นตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใด…”
“แต่งตั้งราชครูนั่นสูบพลังชีวิตของข้า ซึ่งสุดท้ายแล้วย่อมนําไปสู่ความตายของตัวข้าเอง…
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ “ด้วยการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ย่อมเป็นเพราะสวรรค์อยู่ข้างข้า!”
…”ระวังด้วย! ศัตรูมีความสามารถสูงส่งและพวกเขาอาจจะเป็นอัครเสนาบดีและแม่ทัพใหญ่ พวกเขาสามารถใช้พลังจักรราศีของเสือขาวและนกเพลิงได้ เรียกเป็น “พู่กันและดาบ!“เฟิงซินจือมองเห็นรัศมีพลังอันแข็งแกร่งสองสายพุ่งขึ้นมาจากวังหลวง แล้วเปลี่ยนรูปไปเป็นเสือขาวและนกเพลิง”สังหารพวกเขาย่อมทําให้ราชาไร้สามารถแล้ว! “เสือขาวเพื่อรับมือศัตรูงั้นหรือ?”ฟางหยวนมองไปที่หนึ่งในพวกเขาอย่างสนใจ
บนศีรษะของคนผู้นั้นมีแสงสว่างสีขาวก่อตัวเป็นรูปเสือขนาดมหึมา เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าเหนือกว่าเสือขาวของฉินอี้มากนัก
ไม่ต้องพูดถึงว่า ยังมีประกายของดวงดาราอยู่บนเสือขาวตัวนั้น ซึ่งทําให้มันดูร้ายกาจและมุ่งมั่นมากขึ้น” ที่คือจักรราศีที่พลังแห่งอาณาจักรของประเทศหนุนอยู่งั้นหรือ?
ผู้อาวโสมังกรเพลิงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น “ด้วยพลังระดับนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าเทพมังกรทองเสียอีก!”
“เจ้าปีศาจ! ตายซะ!”
อีกด้านหนึ่ง มีประกายแสงสีแดงและนกเพลิงตัวหนึ่งก็ร่อนลงมา เผยให้เห็นชายชราที่มีท่าทางสุภาพและสวมรัดเกล้าเอาไว้บนศีรษะเขาชี้มาทางพวกเขาทั้งห้าแล้วเปลวเพลิงนรกก็เริ่มผุดขึ้นมา