Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 247
Chapter 247: แผนการ
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขา ผลไม้สีทองลอยอยู่กลางอากาศ และมันยังปกคลุมไปด้วยแสงจากอักขระนับไม่ถ้วนที่อยู่บนผิว
“นี่… ดูไม่เหมือนผลไม้วิเศษเลย!”
ฟางหยวนคิดกับตัวเอง
ดอกไม้สีขาวนั้นเพียงนับได้ว่าเป็น “กึ่งวิญญาณ” เมื่อคํานึงถึงวิธีการที่มันเติบโตขึ้น เหมือนมันเพียงหาวิธีเพื่อจะปรากฏขึ้นบนโลก
วิธีที่ตรงกว่าที่จะยืนยันความคิดนี้ก็คือความจริงที่ว่าทักษะการดูแลพืชของเขานั้นไม่พัฒนาขึ้นเลย
“คิดดูง่าย ๆ ว่า พืชวิญญาณที่สามารถดึงดูดความสนใจจากสวรรค์ได้ย่อมเพียงพอให้ทักษะการดูแลพืชของข้าบรรลุระดับใหม่ได้ ถูกหรือไม่? แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย…”
ฟางหยวนมองหน้าต่างสถานะของตัวเอง “คําอธิบายเดียวก็คือหน้าต่างสถานะไม่นับว่ามันเป็นพืชวิญญาณ?”
ฟางหยวนสังเกตผลไม้สีทองอย่างละเอียด
มันเต็มไปด้วยอักขระเวทย์ที่บนผิวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าราตรีอักขระเรียกตัวกันในลักษณะจําเพาะแต่ไม่รู้ว่ามันกําลังสื่ออะไรออกมา
นอกจากนี้ เพียงแค่มอง ก็ทําให้ดวงตาของเขาพร่ามัว
“ไม่เป็นไร ข้าจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับมันตอนที่ข้ากลับไปต้าเฉียน จากที่นั่น ข้าน่าจะได้ข้อมูลบางอย่าง…”
ฟางหยวนเงยหน้ามองฟ้าซึ่งใสสว่างแล้วกลับหลังหันเตรียมจากไป “เวลาสามเดือนของพวกเราหมดลงแล้วในเมื่อเขาขอให้ข้ามาช่วยที่นี่ ข้าจะกลับไปหาเฟิงซินจ่อดูซิว่าเขามีแผนการอะไร”
หลังจากอาศัยอยู่อย่างสันโดษถึงสองเดือนก่อนที่จะกลับมาสู่โลกภายนอก ฟางหยวนก็พบว่าประเทศเลี่ยนนตกอยู่ในความวุ่นวายเสียแล้ว
ไฟลุกโหมอยู่ทั่วทุกแห่ง และยังมีการต่อสู้ระหว่างทหาร กระทั่งทะเลสาบอันสงบสุขก็ถูกผลักดันให้วุ่นวาย จากเหล่าชาวเกาะที่เตรียมตัวจากไปในทุกเมื่อ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเขาไปถึงเมืองหนึ่ง เขาก็ดึงเหรียญรูปมีดของเขาออกมาแล้วสุ่มถามคนบนถนนที่ดูมีความรู้
“โอ้…”
นักศึกษาผู้นั้นอายุประมาณสี่สิบปีและไว้เคราแพะ เขาสวมชุดสีเขียวซีดและยังดูเหมือนดื่มมาหนักเพื่อให้ลืมความทุกข์ เขาตอบหลังถอนหายใจยาว “ประเทศนี้โชคร้ายเจอเข้ากับหายนะหลายอย่าง… เมื่อสองเดือนก่อนเทพมังกรทองถูกสังหารและเกิดความไม่สงบที่ทะเลสาบมังกรทอง ประเทศเลี่ยก็เผชิญกับความกดดันน้องชายสองคนของราชาแห่งประเทศเลี่ย ชุนเหอและหุยซิ่งรวบรวมทหารก่อการกบฏมีข่าวลือว่าพวกเขาได้รับพลังแห่งอาณาจักรของมังกร และยึดเมืองได้เกินสิบเมืองสังหารทหารของราชสํานักและตอนนี้ก็เริ่มเข้ายึดเมืองหลวงแล้ว!”
“เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นหรือ?”
ในความทรงจําของฉินอี้ ฟางหยวนนั้นค่อนข้างคุ้นเคยกับสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นในประเทศเลี่ย
ขุนนางที่นี่นั่นมีดินแดนเป็นของตนเองและยังมีกองทัพส่วนตัวแต่ว่าหากไม่ใช่คนในราชวงศ์พวกเขาก็ไม่นับว่ามีอํานาจหรือมีสถานะ
ชุนเหอและหุยซึ่งนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง มีอํานาจและกองทัพอยู่ใต้บัญชาพวกเขาสามารถสร้างปัญหาให้ประเทศได้หากก่อการกบฏ
“นี่มันให้ความรู้สึกประหลาด…”
ฟางหยวนดึงเอาเหรียญออกมาพวงหนึ่งแล้วโบกมือให้นักศึกษาผู้นั้นไปเสียบนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “แม้ว่าทั้งสองคนนั้นจะได้ประโยชน์ในช่วงสั้นๆแต่คนใต้บัญชาของพวกเขากลับสูญเสียบ้านและอาจจะเกลียดชังเขาพวกเขาบ้าไปแล้วหรืออย่างไร? เดี๋ยวนะ…”
ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้น “เป็นไปได้ไหมว่า… เฟิงซินจือและอวเทียนเหลาคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้?ใช่แล้วถ้าคิดเช่นนี้ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผล!แผนการใหญ่ของเขาน่าจะเป็น…”
ถึงตอนนี้ ดวงตาของฟางหยวนก็เป็นประกายขึ้นเขารีบพุ่งไปทางเมืองหลวงของประเทศเลี่ย
เมืองหลวงของประเทศเลี่ยนั้นตั้งอยู่บนที่ราบแห่งหนึ่งกําแพงเมืองนั้นสูงและมีไร่สวนนับไม่ถ้วนล้อมตัวเมืองเอาไว้
แต่ตอนนี้ เกิดไฟลุกลามอยู่ทั่วทุกแห่งควันลอยเต็มอากาศไปหมดมีการตั้งค่ายอยู่ที่นอกกําแพงเมือง ทหารหลับใหลทั้งที่ถืออาวุธในมือสงครามอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงกลางวัน ทหารยังออกไปเก็บเกี่ยวผลผลิตจากในไร่สวน ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการตัดกําลังอาหารและยังตั้งใจจะขังคนในเมืองเอาไว้เป็นเวลานาน
ที่บนกําแพงเมือง ขณะที่ราชาแห่งประเทศเลี่ยมองไป เขาก็รู้สึกงงงวยเล็กน้อย “เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้! โอ้ ทําไมกัน?”
เขาอายุราวสี่สิบปี ใบหน้าเป็นสีแดงเรื่ออย่างมีสุขภาพดี ผิวของเขาเรียบรื่นและดูอ่อนวัย เขานับได้ว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลบ้านเมืองแต่ไม่เคยต้องทําสงครามมาก่อน ดังนั้น เขาจึงไม่รู้ว่าต้องทําเช่นใดเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งทําให้เขาเสียเปรียบ
ในฐานะของราชาแห่งประเทศเลี่ย เขามีการปกป้องจากพลังแห่งอาณาจักรของมังกร ด้วยความช่วยเหลือจากจักรราศีของเขาและพลังจากชินโตแต่ว่าเขาก็ยังไม่กล้าลงมือตอบโต้ส่วนการคุกคามจากผู้ฝึกยุทธ์นั้นเขามีองครักษ์ส่วนตัวคอยรับมืออยู่
แต่ว่า มันจะมีประโยชน์อะไรหากเขาเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่และทั้งประเทศถูกทําลายยับเยิน?
“เจ้าสืบมาหรือยัง?”
หลังจากถอนหายใจยาว ราชาแห่งประเทศเลี่ยก็กัดฟัน สีหน้ามุ่งมั่น “ทําไมน้องชายทั้งสองของข้าจึงก่อกบฏ?”
“รายงาน!”
ขุนนางชุดดําผู้หนึ่งคารวะลง เขารับผิดชอบรายงานข้อมูลที่สืบได้“ตามข้อมูลที่เราได้จากสายลับ นายท่าน ทั้งสองถูกปิศาจควบคุมอยู่!”
“ปิศาจ?”
ราชาขมวดคิ้ว
“ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว พวกเขาไม่เชื่อถือในองค์ราชา ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพลังแห่งอาณาจักร! แต่ว่าปิศาจทั้งสองนั้นมีคาถาเวทย์ลึกลับซึ่งสามารถสะกดจิตทั้งสองท่านได้และยังสามารถเพิ่มพลังให้พวกเขาได้ด้วย ผลก็คือความวุ่นวายในทุกวันนี้!”
ขุนนางในชุดดําโขกศีรษะลงกับพื้น หน้าผากเริ่มมีเลือดไหล “ข้าทําหน้าที่ไม่สําเร็จ ข้าสมควรตาย!”
“ข้าได้รับคําอวยพรจากสวรรค์! ด้วยการปกป้องของพลังแห่งอาณาจักรของประเทศ ปิศาจนั้นจะสร้างความนวายได้อย่างไรกัน?”
ราชาโล่งใจกับข่าวนี้ “นอกเสียจากจะเกิดอะไรขึ้น เมืองหลวงของข้านั้นได้รับการปกป้องอย่างดีตราบใดที่พวกเราสามารถป้องกันเอาไว้ได้จนท่านอาจารย์ทั้งหลายมาถึงเมื่อนั้นพวกท่านย่อมสามารถทําลายปิศาจพวกนั้นได้!”
“องค์ราชาตรัสถูกต้องแล้ว!”
ขุนนางทั้งหลายร้อยคนส่งเสียงออกมาพร้อมกัน
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากแผนการนี้ แม้ว่ามันจะไม่นับได้ว่าเป็นแผน แต่มันก็ยังคงใช้การได้
ที่สําคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถรับผิดชอบได้ไหวหากเกิดแพ้สงครามในเมืองขึ้นมา ดังนั้น ในเมื่อมีสิ่งที่ทุกคนยอมรับได้ แม้จะดูขลาดเขลาไปสักนิด ทุกคนก็ยังยินดีรับเอาไว้
เมื่อเห็นภาพนี้ ราชาแห่งประเทศเซียก็เดาได้ว่าเหล่าผู้ใต้บัญชาของเขากําลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว
ด้านนอกเมือง บนเนินเขาแห่งหนึ่ง
“พี่เฟิงซินจื่อ พี่อเทียนเหลา พวกเราพบกันอีกแล้ว!”
ฟางหยวน ผู้อาวุโสมังกรเพลิง และดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์มาถึง อันที่จริง พวกเขามาพบเฟิงซินจือและอเทียนเหลา
“เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น และพวกท่านก็สามารถทําเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ได้! ข้าประหลาดใจมาก!”
ดอกบัวสวรรค์พิสุทธิกัดริมฝีปากตัวเองแล้วยิ้มออกมาด้วยรูปลักษณ์ของผู้ชายหยาบกระด้างทุกคนขนลุก
“แค่ก แค่ก…”
เฟิงซินจือใบหน้าบิดเบี้ยวและมองมาทางฟางหยวนและผู้อาวุโสมังกรทอง “พวกท่านคิดอย่างไรกับกองทัพ ของข้า?”
“วุ่นวายมาก!”
ฟางหยวนมองไปทางค่ายทัพแล้วส่ายหน้า “ราชาของประเทศเลี่ยไม่ได้รับบัลลังก์มาโดยถูกต้องน้องชายทั้งคู่จึงร่วมมือกันกบฏเขา พวกเขาอาจจะมีอํานาจที่เทียบเท่ากับอํานาจของประเทศเลี่ยแต่เมื่อแบ่งส่วนออกไประหว่างแม่ทัพแต่ละคนพวกเขาก็ทําได้เพียงปล้นชิงคนทั่วไปและโจมตีเมืองไร้กําลังใจจะปกป้องประเทศแม้ว่าอาจจะได้ประโยชน์ในระยะสั้นๆแต่ในระยะยาวนั้นไม่มี…”
“ดี! ดี!”
เฟิงซินจ่อปรบมือและหัวเราะ “ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกนี่ด้วย ข้าประเมินเจ้าต่ําไปแล้ว…”
“ไม่ใช่ว่ามันจะได้ผลกว่าหากกําจัดเหล่าข้าราชสํานักที่คอยช่วยเหลือราชานั่นอยู่หรือ?”
ฟางหยวนขมวดคิ้ว “เมื่อเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์เหล่านั้นมาถึง แม่ทัพน้อยล้วนพ่ายแพ้โดยง่าย ท่านทําเช่นนี้มีจุดประสงค์อันใด?”
“เหอเหอ… จุดประสงค์ของพวกเรา? เจ้ายังเดาไม่ออกหรือ?”
อเทียนเหลาหัวเราะคิกคัก “ทําไมพวกเจ้าทั้งสามไม่เล่าให้ข้าฟังเล่าว่าได้ทําอะไรลงไปที่ทะเลสาบมังกรทอง? พวกเจ้าไม่อยากแบ่งรางวัลกับข้างั้นสินะ? หม?”
“คิคิ…”
ผู้อาวุโสมังกรเพลิงแลกเปลี่ยนสายตากับดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์และมีท่าทีอับอาย “พลังแห่งอาณาจักรที่ทะเลสาบมังกรทองจะเทียบกับพลังแห่งอาณาจักรของประเทศได้อย่างไร? ข้าแน่ใจว่าท่านทั้งสองคงได้อะไรจากการฝึกฝนทั้งสองคนนั้นและทหารของพวกเขาใช่หรือไม่?”
“แน่นอนว่าได้ แต่ว่า พวกเรามอบให้ชุนเหอกับหุยซิ่ง ไม่อย่างนั้น เจ้าโง่สองตัวนั่นจะยังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ ได้อย่างไร?”
ดวงตาของเฟิงซินจือเป็นประกาย “แผนการใหญ่ของพวกเราคือพลังแห่งอาณาจักรของประเทศ!”
“จริง ๆ ด้วยสินะ!”
ฟางหยวนพยักหน้าเงียบ ๆ ในใจ
แม้ว่าทะเลสาบมังกรทองจะมีรัศมีเพียงแปดร้อยลี้ แต่ก็มีพลังแห่งอาณาจักรที่เข้มข้นพอให้เทพมังกรทองมีพลังถึงเพียงนั้น แต่ว่า มันก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพลังแห่งอาณาจักรของประเทศจะมีอํานาจถึงเพียงใด
เขาไม่ตกใจที่สิ่งนี้จะเป็นสิ่งดึงดูดเฟิงซินจ่อได้
“มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะลงมือเมื่อราชาพ่ายแพ้!”
ดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์ก้มหน้าลงและรู้สึกงุนงง “ข้าแน่ใจว่าพวกเราล้วนรู้ว่าชุนเหอหุยซึ่งทั้งสองคนนี้ใช้การไม่ได้และไม่สามารถทํางานสําเร็จได้แน่นอน… หากปรมาจารย์พวกนั้นมารวมตัวกันเช่นนั้นความตายก็คืบคลานเข้ามาหาพวกเขาแล้ว!”
“ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว!”
เฟิงซินจือมองเมืองหลวงของประเทศเลี่ยด้วยสายตาร้อนเร่า “เมื่อจ้าวแห่งฝันในระดับสวรรค์มายาห้าคนรวมพลังกัน ข้าแน่ใจว่าพวกเราจะทะลวงฝ่าประตูเมืองได้!”
“ฟู…”
ผู้อาวุโสมังกรเพลิงสูดลมหายใจเย็นเยือก “พวกเราแน่ใจว่าจะสามารถทําลายประตูเมืองได้! แต่พวกเจ้า ได้คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่? ด้วยการปกป้องจากสวรรค์ หากพวกเราเผยตัวออกไปเพื่อไขว่คว้าสิ่งนั้นมาไว้ ในมือก็เท่ากับออกไปรับทัณฑ์สวรรค์!พวกเราอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาไม่รู้จบสิ้น!”
“ไม่เสี่ยงก็ไม่ได้ของตอบแทน!”
อวเทียนเหลาจ้องผู้อาวุโสมังกรเพลิง “ถึงจะเป็นพลังแห่งอาณาจักรของประเทศเพียงหนึ่งในห้าส่วน พวก เราก็ยังจะสามารถบรรลุระดับการฝึกตนได้อย่างแน่นอน! นอกจากนี้ เฟิงซินจ่อยังได้เตรียมค่ายกลเพื่อปกป้อง พวกเราจากทัณฑ์สวรรค์ในการเดินทางสํารวจครั้งนี้เอาไว้แล้ว… ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าก็เห็นอยู่แล้วระหว่างที่พวกเรา ข้ามฝันมามิใช่หรือ?”
“ถ้าเจ้ายังคิดว่านั่นไม่พอ ข้ายังมีเคล็ดวิชาลับที่ควบคุมพลังของอาณาจักรและผนึกรัศมีพลังของพวกเราได้อยู่!”
อเทียนเหลามองฟางหยวนและพวกก่อนจะหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งสามได้รับพลังแห่งอาณาจักรจากทะเลสาบมังกรทองหรือ? น้ํามันออกมาเดี๋ยวนี้และหลังจากทุกอย่างจบสิ้นพวกเจ้าก็จะได้รับส่วนแบ่งอย่างยุติธรรม!”
“นี่…”
ผู้อาวุโสมังกรเพลิงแลกเปลี่ยนสายตากับดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์และทั้งคู่ก็ลังเล
แม้ว่าพลังแห่งอาณาจักรจากทะเลสาบมังกรทองนั้นจะล้ําค่า พวกเขาก็ยังแน่ใจว่าจะยินยอมแลกเปลี่ยนมันกับพลังแห่งอาณาจักรของประเทศ
แม้ว่าจะมีความเสี่ยงพวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะทําสําเร็จ
อย่างไรเสีย เฟิงซินจ่อก็วางแผนการนี้เอาไว้นานแล้ว และมั่นใจว่าจะต้องสําเร็จ
“ถ้าพวกเจ้าทั้งสองยินดีมอบส่วนแบ่งพลังแห่งอาณาจักรของประเทศให้พวกเราอย่างยุติธรรมพวกเราทั้งสองก็ยินดีมอบพลังแห่งอาณาจักรของพวกเราออกไป”
ดอกบัวสวรรค์พิสุทธิ์พยักหน้า
“แล้วเจ้าล่ะ น้องฟาง?”
เฟิงซินจือมองฟางหยวนด้วยสายตาคาดหวัง
ฟางหยวนยกมือขึ้นเกาหัวและตอบอย่างละอาย “ข้าใช้พลังแห่งอาณาจักรของข้าไปหมดแล้ว…”