Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 245
Chapter 245: ทําลายตัวเอง
วังมังกรถูกอาบไล้ด้วยแสงสีทอง
เดินไปตามทางเดินก็สามารถมองเห็นไข่มุกราตรีส่องประกายสว่างอยู่
นอกจากนั้น ยังมีมุกไล่น้ํา มุกขจัดฝุ่น และสมบัติล้ําค่าอื่น ๆ ที่ช่วยอํานวยความสะดวกให้สถานที่นี้อยู่ทุกมุม ไข่มุกเหล่านี้แต่ละเม็ดล้วนเป็นที่ต้องการในโลกมนุษย์ แต่พวกมันกลับถูกใช้เป็นเพียงของตกแต่งในวังอันอัศจรรย์แห่งนี้
“นี่น่าจะเป็นวังของเทพมังกรอื่น…”
ฟางหยวนนั่งลงตรงหน้ากองเถ่ากองหนึ่งและคิด “พลังแห่งอาณาจักรของเทพมังกรทองนั้นถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน หรือว่าพวกเขาจะหนีออกจากวังไปเมื่อรู้ว่าได้สูญเสียเสาหลักของพวกเขาไปแล้ว? แต่ว่าพวกสัตว์น้ําเล่า? เป็นไปได้ไหมว่าเทพมังกรทองเป็นผู้ที่ขี้ระแวงและเพียงยอมให้ผู้ใต้บัญชาที่มีพลังหยินพักอยู่ในวังนี้และคอยรับใช้เขา?”
นี่กลายเป็นเรื่องค่อนข้างน่าสงสัยสําหรับฟางหยวน แต่ตัวเขาเองก็ไม่มีใครแม้ว่าจะเป็นผู้มีความสามารถและเก่งกาจคนหนึ่งเช่นกัน
ในอีกด้านหนึ่ง หากว่ามีเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายของมังกรและเหล่าสัตว์น้ํา มันก็เป็นเรื่องยุ่งยากแล้วที่จะต้องสังหารพวกนั้นทั้งหมด
เขาไปที่ห้องหนังสือและพลิกเปิดหนังสือด้วยท่าทิ้ง่าย ๆ
เทพมังกรทองนั้นเก็บตําราต่าง ๆ ไว้มากมาย บางส่วนก็เป็นตํารายุทธ์ ที่เขียนเอาไว้บนกระดูกหรือกระดอง จากนั้นก็มัดเข้าด้วยกันตําราทุกเล่มดูราวกับเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
“วิชาเรียกฝน?”
ฟางหยวนสรุปใจความของวิชานี้ “มีเพียงผู้ที่มีคุณสมบัติของมังกรจึงจะสามารถฝึกฝนวิชานี้ได้… และยังเป็นวิชาจําเพาะสําหรับปิศาจ… ตําราเล่มนี้นี่เปิดโลกของข้าเลยทีเดียว”
เขาพลิกดูทั้งเล่มแล้วก็วางมันกลับลงไป หยิบม้วนตําราจากใบไม่โลหะม้วนหนึ่งขึ้นมา
ใบไม้ปริศนานกว้างและมีผิวมันเงา บนนั้นมีตัวอักษรเล็ก ๆ สลักเอาไว้เป็นกลุ่มแน่น ทุก ๆ เส้นดูจะเต็มไปด้วยเหตุการณ์ในอดีตมากมาย
“วิชาดาบขจี ? ในที่สุดก็มีวิทยายุทธ์สําหรับมนุษย์”
ฟางหยวนอ่านทั้งหมด เคล็ดการโคจรลมปราณนั้นง่ายและให้ความสนใจกับการไหลเวียนของพลังโดยคร่าว ดาบท้าย ๆ นั้นค่อนข้างโดดเด่นและน่าสนใจทีเดียว
“แต่ว่า แม้ว่าพลังของผู้ฝึกจักรราศีและชิ้นโตจะลดลงเป็นพลังของพลังแห่งอาณาจักรของผู้ฝึก เช่นเดียวกับการดูดซับพลังแห่งอาณาจักร ผู้ฝึกสามารถจะบรรลุทั้งหมดได้แม้ว่าจะไม่ได้มีสถานะสูงส่งในสังคม อย่างนั้นเคล็ดวิชาของอาณาจักรหยูนี่ก็โน้มเอียงไปในทางการใช้งานมากกว่า”
“อืม เป็นแนวความคิดที่น่าสนใจทีเดียว”
เขาจดจําวิชาดาบขจเอาไว้ ความเข้าใจในวิชานี้จะช่วยให้เขาฝึกวิชาของตนได้สําเร็จหรือต่อไปอาจช่วยเขา แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
เพียงพริบตาเดียว ครึ่งวันก็ผ่านไปและฟางหยวนก็กลับไปที่ห้องสมบัติของวังมังกร
ห้องนี้ถูกซ่อนเอาไว้อย่างดีและฟางหยวนก็ต้องใช้ความพยายามระดับหนึ่งในที่สุดจึงสามารถระบุตําแหน่งของมันได้
ตรงหน้าประตูใหญ่และมั่นคง มีรูปปั้นของสัตว์วิญญาณสองตัวตั้งอยู่ พวกมันมีดวงตาที่เป็นอัญมณีสีดําและดูราวกับมีชีวิต
“ผีซิว?”
ฟางหยวนมองสัตว์วิญญาณแล้วพึมพํากับตัวเอง
รูปปั้นนั้นมีรูปลักษณ์แบบสิงโต หัวเป็นมังกร ตัวเป็นม้า ขาเป็นผู้เชี่ยวโฉ่ว* และมีปีกคู่หนึ่งงอกออกมาจากหลังของมัน มันดูดุร้ายและยังดูคล้ายกับผีซิว **
“โฮก”
เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วแตะมือจับประตูตอนที่ผีซิวทั้งสองค่ารามออกมา
“หม พยายามหยุดข้าด้วยค่ายกลพื้น ๆ งั้นหรือ?!”
หางตาของฟางหยวนโค้งลงและดาบเพลิงผลาญก็ปรากฏขึ้นในมือเขา
โฮก!
เพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าของเขาก็แผ่รังสีอบอุ่นออกมา เกล็ดย้อนของเทพมังกรทองสีทองบริสุทธ์ก็ปรากฏขึ้นและเต้นตุบราวกับมีชีวิต เสียงคํารามของมังกรดังมา
“โฮก!”
ผีซิวทั้งสองก้มหัวลงอย่างยอมจํานน และกลับไปอยู่ในตําแหน่งเดิม เปลี่ยนกลับไปเป็นรูปปั้นหิน
“พวกเจ้าสัมผัสได้ถึงเลือดและรัศมีพลังของเทพมังกรทอง?”
ฟางหยวนเก็บเกล็ดลงไป “เกล็ดนี้กลายเป็นกุญแจค่ายกลที่ดูแลวังมังกร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดการอยู่ในวังมังกรของข้าจึงได้ราบรื่นนัก”
เขาวางมือทั้งสองข้างลงบนประตู
ประตูนั้นทําขึ้นจากทองแดงบริสุทธิ์สีแดงเข้ม มันหนาและสูง มีหมุดกลมถึงเก้าสิบเก้าตัวและยังที่เคาะประตูรูปปากของสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง รูปแบบนั้นพื้น ๆ แต่ดูยิ่งใหญ่
เพียงแค่ผลักเบา ๆ ประตูหนัก ๆ ก็เหวี่ยงเปิดออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นทั้งห้องที่เต็มไปด้วยสมบัติเป็นประกายระยิบระยับ
ทอง ทองค่าขาว ไข่มุก หยก ปะการัง…
สมบัติมากมายกองอยู่บนพื้นเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ
ฟางหยวนไม่ได้ให้ความสนใจของพวกนั้นและเดินลึกเข้าไปในห้องสมบัติ
ที่นั่น ปะการังสีรุ้งเปลี่ยนตัวเองเป็นชั้นวางของบนนั้นมีสมบัติอีกหลายชิ้น แต่ละชิ้นล้วนแผ่พลังออกมาเป็นประกายสว่างงดงาม
“ดาบตัดชีพ?”
เขาเดินตรงไปและอ่านป้ายบนปะการัง “หลอมขึ้นจากปะการังสีทองอายุสามร้อยปี ผสมกับไม้แปลงวิญญาณ หลอมด้วยเพลิงบรรพกาลนานสี่สิบเก้าวัน ในวันสุดท้าย ดาบต้องถูกใช้สังหารพยัคฆ์ปิศาจจึงจะเสร็จสิ้นกระบวนการหลอม ขอบดาบคมกริบอย่างแทบเป็นไปไม่ได้ เสียงของดาบตัดผ่านอากาศยังทําให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตวิญญาณของผู้อื่น ดังนั้นจึงขานนามดาบตัดชีพ”
ที่ด้านข้างยังมีอาวุธวิเศษอีกหลายชนิด ทุกชิ้นล้วนมีคุณสมบัติที่ดี
ชิ้นที่โดดเด่นคือเกราะแก้ววิเศษ มันสร้างขึ้นจากกระดองของเต่าเวทย์หมื่นปีและมีความสามารถในการป้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ ฟางหยวนตื่นเต้นและสวมมันเข้ากับตัวทันที
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถนํามันกลับไปที่โลกเดิมของเขาได้ มันก็ยังดีพอที่จะใช้ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ในอาณาจักรหุย
“แต่… มันก็ดีแล้วที่ผู้อาวุโสมังกรเพลิงและพวกไม่มาที่นี่”
เขานั่งลงบนกองทองและมองไปที่สมบัติมากมายที่วางอยู่ตรงหน้าเขาแล้วส่ายหน้า “มีของไม่มากที่พวกเราสามารถใช้การได้ นอกจากนี้ พวกเรายังไม่สามารถน่าออกไปจากโลกนี้ได้ การทําให้ผู้อื่นฟื้นฟูตัวเองได้ช้าลง เพราะของเช่นนี้นั้นไม่คุ้มค่านัก แต่ว่า…”
เขาเดินลึกเข้าไปในห้องอีก ผลักปะการังไปข้าง ๆ แล้วยกดาบตัดชีพขึ้นมา แล้วแทงมันเข้าไปในผนังอย่างเกรี้ยวกราดหลายครั้ง
เขาใช้ดาบวิเศษผิดหน้าที่อย่างไม่ละอาย ใช้มันเป็นเสียมขุดหลุมเล็ก ๆ บนกําแพง เผยให้เห็นกลไกลับเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่
“ฮ่าฮ่าฮ่า กลไกลับที่ออกแบบโดยมนุษย์หลอกขาไม่ได้หรอก!”
เขาผลักกลไกและเปิดที่เก็บลับออก ในนั้นมีกล่องใบเล็ก ๆ วางเอาไว้
ผิวของกล่องเป็นสีดําสนิท และยังมีอักขระเวทย์มากมายสลักเอาไว้ มันไม่ได้ปล่อยพลังรูปแบบใด ๆ ออกมา นี่ย่อมต้องเป็นสมบัติพิเศษ
“คิค… ค่ายกลทําลายตัวเอง?”
ฟางหยวนสรุปจากด้านนอกของกล่องและหัวเราะออกมา “ต้องมีของที่มีค่าอย่างมากซ่อนอยู่ในนี้ น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้วิธีการปลดค่ายกลนี้”
ถึงอย่างนั้น เขาก็ลองเดาดู และวางเกล็ดย้อนลงไปที่กล่องสีดา
“ถ้าเกล็ดนี้ไม่สามารถเปิดกล่องได้ ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้กําลังตรง ๆ ข้าอาจจะสามารถเก็บของนั่นมาได้ก่อนที่กล่องจะทําลายตัวเอง”
เขาคิดอย่างไม่ใส่ใจนัก
อย่างไรเสีย ก็มีสมบัติไม่มากที่สามารถนํากลับไปที่โลกของเขาได้อย่างเช่นพลังแห่งอาณาจักร แม้แต่สมบัติในตํานานก็มีประโยชน์น้อยนัก
โฮก!
เมื่อวางเกล็ดลงบนกล่อง เสียงมังกรคํารามก็ดังมาและมังกรน้ําตัวจิ๋วก็ปรากฏขึ้น ราวกับเป็นเทพมังกรทองย่อส่วน มันโชกไปด้วยเลือด
“เอ่?”
ดวงตาของฟางหยวนกระตุก มังกรน้ํากระโดดไปบนกล่องและอาบร่างอยู่ในแสงของพลังเวทย์ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ไม่นะ มันเปิดใช้ค่ายกลท่าลายตัวเอง!”
เขามีสีหน้าน่ากลัวใบใบหน้าและจิตใจก็ปั่นป่วน
เทพมังกรทองออกแบบเอาไว้เช่นนี้อย่างจงใจ เกล็ดนี้เป็นกุญแจของค่ายกล แต่เมื่อใช้กับกล่องสมบัติสุดท้ายนี้ มันกลายเป็นคําสั่งให้ทําลายตัวเอง คนฉลาดอื่นย่อมคิดว่ามันจะคลายกลไกของกล่อง แต่อันที่จริง เขาเลือกที่จะทําลายมันทิ้งเสีย!
“นี่ต้องเป็นของที่สําคัญอย่างยิ่ง!”
ฟางหยวนชี้นิ้วออกไป ดาบเพลิงผลาญปรากฏขึ้นและผ่ากล่องเป็นซีกโดยแรง
ถึงตอนนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้ว ว่าวิธีการของเขาจะทําให้เขาได้รับสมบัตินี้ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่
เขาเป็นคนเด็ดเดี่ยว และลงมือตามสัญชาตญาณทันที
“ไป!”
ดาบเพลิงผลาญนั้นกระตุ้นพลังสูงสุด มันแบ่งออกเป็นสองเล่มก่อนจะระเบิดออก
“กลับมา”
ฟางหยวนพยายามเก็บเกี่ยวสมบัติชิ้นนั้นเอาไว้จากนั้นก็ถอยอย่างรวดเร็ว
ตูม!!!
ผลก็คือการระเบิดรุนแรง ซัดเอาห้องสมบัติเละเทะไปหมด
ฟางหยวนถอยไปที่ทางเข้าและมองสภาพยับเย็นของห้องสมบัติแล้วก็พูดไม่ออก เขาแบมือออก
ในฝ่ามือเขา เป็นรากไม้ชิ้นเล็ก ๆ ความยาวประมาณนิ้วก้อยหลายชิ้นเท่านั้น ที่เหลือนั้นถูกทําลายไปแล้ว
“พืชวิญญาณสักอย่างงั้นหรือ?
ฟางหยวนไม่สามารถประเมินระดับของพืชวิญญาณได้จากเพียงแค่ราก แต่เขาแน่ใจว่ามันต้องมีคุณค่าอย่างเหนือธรรมดา
“ไม่.. นี่ทั้งถูกและผิด…”
ฟางหยวนดม ๆ พืชนั้นและรู้สึกว่ามีบางอย่างต่างออกไป จากนั้นเขาก็ใช้เจตจํานงเวทย์ของตัวเองกวาดผ่านรากเล็กบางราวขนแมวนอย่างละเอียดและพบอักขระเวทย์จํานวนมากบนนั้น น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่ของมันถูกทําลายไป
“น่าเสียดายจริง… ถ้าเพียงแค่ข้าจะได้มันมาทั้งต้น ไม่อย่างนั้นมันก็ไร้ประโยชน์ต่อข้า นอกเสียจากข้าจะสามารถเก็บมันเข้าไปในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของข้าได้แล้วนํามันไปด้วย”
เขามองรากนั่นและส่ายหน้า “ข้ายังคงมีเวลาเหลืออยู่ แล้วทําไมจึงไม่พยายามกอบกู้พืชนี้ดูเล่า?”
อย่างไรฟางหยวนก็มีตัวช่วยอย่างหน้าต่างสถานะ แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นจากศูนย์ เขาก็ยังมีทักษะการดูแลพืชอ
“รากพวกนี้มีคุณสมบัติธาตุน้ํา และวังมังกรก็น่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับมัน และยังเหนือกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ”
ฟางหยวนมองรอบตัวแล้วรวบรวมข้อมูลจากรากพวกนี้ เขาลูบ ๆ คาง ดวงตาปริ่มไปด้วยความสนุก
เขาวางแผนใช้เวลาที่เหลืออยู่อ่านตําราในห้องหนังสือวังมังกรและตั้งใจฝึกฝนตน ขณะที่ทําเช่นนั้น เขาก็รอให้พืชนี้โตได้
เขาสงสัยว่าทําไมเทพมังกรทองถึงต้องถึงกับทําลายของชิ้นนี้ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือผู้อื่นเขาลงมือทันที
ฟางหยวนเป็นนักปฏิบัติ หลังจากตรึกตรองอย่างละเอียด เขาก็พบว่าห้องโถงในวังมังกรนั้นมีพลังธาตุน้ําดีที่สุด เขาจัดการทําให้มันกลายเป็นแปลงปลูกพืช
แปลงปลูกนี้ไม่เหมือนแปลงอื่น ๆ มันล้อมรอบด้วยพลังแห่งดินที่ตรงกลาง เขายังทํารอยเว้าเล็ก ๆ เอาไว้เป็นสระน้ํา
เหนือวังมังกร น้ําตกวิเศษไหลลงสู่สระน้ําจนเต็ม มันมีสีน้ํานมและหอม รากสีขาวเล็ก ๆ หลายชิ้นนี้ถูกวางเอาไว้ตรงกลางของทั้งหมดนี้
ฟางหยวนค่อนข้างมั่นใจในการคืนชีวิตให้แก่พืชวิญญาณนี้ ทั้งหมดล้วนเพราะทักษะการดูแลพืชระดับ 5 ของเขา
“การดูแลพืช (ระดับ 5) เจ้าเป็นปรมาจารย์ในโลกแห่งพืชพรรณ! พืชทุกชนิดที่ผ่านมือเจ้าไม่เพียงแค่จะปลูกพลังของมันขึ้นและยังจะพัฒนาไปเป็นสายพันธุ์พิเศษ การร่นระยะเวลาที่ใช้ในการเติบโตขึ้นกับสภาพแวดล้อม!”
“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถฟื้นฟูให้มันอยู่ในสภาพเดิมได้ แต่การปลุกพลังหรือพัฒนาไปเป็นสายพันธุ์อื่นก็ดีมากแล้ว…”
สําหรับเขา ความสําเร็จในการคืนชีพให้ต้นไม้นับเป็นของแถม ความล้มเหลวก็จะเป็นความทรงจําอันน่าสนุกอันหนึ่งเท่านั้น พอคิดเช่นนี้ ฟางหยวนก็ไม่ไปสนใจสระน้ําอีก เข้าไปในห้องข้าง ๆ แล้วทิ้งตัวจมไปกับการฝึกตน