Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 220
Chapter 220: สวรรค์มายา
ฟางหยวนสัมผัสได้ว่าเขาเคลื่อนผ่านเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย
สำหรับจ้าวแห่งฝันที่สามารถบรรลุขอบเขตรวมธาตุได้ พวกเขาย่อมสามารถบรรลุระดับสวรรค์มายาที่เพียงแค่ต้องเข้าใจกฏแห่งความจริงอย่างถ่องแท้และปลดปล่อยพลังธาตุฝันมหาศาลได้เท่านั้น
ส่วนของการตีความกฎแห่งความจริงนั้น เขาได้รวบรวมประสบการณ์สามปีที่ผ่านมา รวมกับที่พบในโลกแห่งความฝันของหยางฟาน เขามีความเข้าใจในกฏนั้นอย่างเพียงพอ
แต่ว่า เขาก็ยังคงไม่แกร่งพอที่จะบรรลุได้ แม้ว่าเขาจะครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่แห่งหนึ่งแล้วก็ตาม
แต่ตอนนี้ พลังที่แผ่ออกจากแขนและขาของเขาอย่างต่อเนื่องนั้นพร้อมที่จะทะลวงด่านนี้แล้ว!
“ข้าเพียงต้องเข้าใจกฎของโลกแห่งมายานี้ เกิดอะไรขึ้นกันนะตอนนี้? ข้ากำลังใช้พลังของที่นี่เพื่อทะลวงด่านใช่หรือไม่?
ฟางหยวนนั้นมองจุดจูเฉียวของตนที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างจนปัญญา ภายในศูนย์รวมจิตของเขา พลังธาตุฝันของเขากำลังมารวมกันเพื่อเตรียมทะลวงด่าน
แน่นอนว่า เขาย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสอันดีงามเช่นนี้หลุดลอยไป เขาจะไขว่คว้าโอกาสที่ลอยมาถึงนี้เอาให้แน่น!
เมื่อเพ่งสมาธิมากขึ้น ฟางหยวนก็ราวกับจะมองเห็นประตูบานใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าและสูงราวภูเขาสักลูกได้อย่างเลือนราง
นี่คือประตูสู่สวรรค์มายา และระดับความยากของการทะลวงผ่านประตูนี้เทียบกับระดับเปิดชีพจรของอู่จงนั้นเกินจะจินตนาการได้
พลังธาตุฝันของเขาคำรามและราวกับเป็นคลื่นยักษ์ มันกระแทกเข้ากับประตูบานนั้น
“ตูม!”
มันรุนแรงมาก!
ประตูสั่นไหว แต่ยังคงปิดสนิท
ไม่ต้องคิดให้มากแล้ว ฟางหยวนรีบรวมพลังธาตุฝันของตนเองและพยายามอีกครั้ง
“ตูม! โครม!”
ภายในการกระแทกของคลื่นลูกแล้วลูกเล่า กระทั่งประตูที่แข็งแกร่งที่สุดก็เริ่มแตกร้าว จากรอยแตก มีแสงหลากสีสันและประกายวิบวับแผ่ออกมา ยิ่งรอยแตกมากขึ้น ก็เหมือนมันกำลังจะระเบิด
นี่คือเส้นแบ่งระหว่างโลกความจริงและโลกแห่งความฝัน ความสามารถทางจิตที่สามารถมีผลต่อความจริงได้
แวบ!
มีประกายแสงสีขาวนับไม่ถ้วนแผ่ออกมา!
ในตอนที่ประตูถล่มลงมานั้น แสงสีขาวก็ลอยเข้าไปในจุดจูเฉียวของฟางหยวน เข้าสู่ศูนย์รวมจิตและจิตสำนึกของเขา
“ฝูบ!”
ความว่างเปล่าสายหนึ่งฝืนเข้าสู่จิตสำนึกของเขา ความว่างเปล่านี้ราวกับตัวเชื่อมระหว่างมายาและความจริง
“ฝูบ! ฝูบ!”
เมื่อแสงสีขาวสว่างวาบขึ้น มันก็ค่อย ๆ จางไป มันเริ่มกระจายออกไปไกล กว้าง และสุดท้าย ก็กลายเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีรัศมีไม่กี่ศอก และสูงราวแปดนิ้วเท่านั้น
“นี่คือ… โลกแห่งความฝันของข้า! โลกแห่งความฝันอันแท้จริงของข้า!”
ที่ตรงกลางที่ว่างนั่น มีคนขนาดเดียวกับรูปแกะสลักเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนฟางหยวนอยู่ นี่คือจิตสานึกของเขา
“โลกแห่งความฝันของข้า! โลกแห่งความฝันอันแท้จริงของจ้าวแห่งฝันที่ซึ่งก่อเกิดสวรรค์มายา! ที่ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของข้า… มันมีความสำคัญที่สุด และยังเป็นปราการให้ข้าสามารถป้องกัน ตัวเองจากจ้าวแห่งฝันอื่นได้!”
เพราะฟางหยวนได้รับสืบทอดจากอาจารย์เจวซิน เขาจึงมีความเข้าใจในโลกแห่งความฝันที่แท้จริง
“โลกแห่งความฝันนี้ดูจริงและมายาในเวลาเดียวกัน และยังเป็นรากฐานของทุกอย่างที่ข้าสามารถทำให้เป็นจริงได้”
“ในโลกแห่งความฝันของข้า ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง!”
ฟางหยวนมองเท้าของตัวเอง มีขั้นของทรายและไม่มีอย่างอื่นอีกที่กลางอากาศ เขาส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ไม่เลวเลยเมื่อคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนสร้างสิ่งของแท้จริงขึ้นจากโลกแห่งความฝัน
“ข้าอยากรู้ว่าพลังอันใดกันที่ช่วยข้าบรรลุระดับนี้ได้เ”
ฟางหยวนมีสีหน้าสงสัย ทันใดนั้น เขาก็โบกมือ และเสียงของเขาก็ดังชัดเจนก้องไปทั่วเทือกเขา “ข้าคือเจ้านายของโลกแห่งความฝันของข้า ราชาของโลกใบนี้!!”
ในเสียงดังกึกก้องของเขา เขาเริ่มใช้เคล็ดสร้างฝัน เมื่อประกายแสงวาบขึ้น มันก็เปลี่ยนไปเป็นยันต์แผ่นหนึ่ง ที่มีมังกรไฟเก้าตัวเริงระบำอยู่รอบ ๆ
เทือกเขาสามโลก
บนยอดหนึ่งของเทือกเขา
ฟางหยวนที่เข้าสมาธิอยู่จู่ ๆ ก็ลืมตาขึ้น
“สร้างวัตถุ!”
เขาเรียกพลังธาตุฝันออกมา เชื่อมตัวเขาเองเข้ากับโลกแห่งความฝันที่แท้จริงของตน แผ่นยันต์สีแดงเพลิงปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา และมังกรก็คำรามและมีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม เคล็ดวิชาเวทย์ของเขายอดเยี่ยมและไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเมืองอี้ซานฟูคนก่อน หลิวเอี้ยน เลย
เขาสามารถฝันถึงคาถาเวทย์นับพันได้ในความฝันเดียว! ผู้สะกดฝัน!
“นี่คือ… พลังในการสร้างวัตถุ?”
มองแผ่นยันต์ที่ตรงหน้าแล้ว ฟางหยวนก็ยังเงียบ “ข้าเคยเห็นเขาเรียกใช้คาถาครั้งหนึ่ง และข้าก็สามารถร่ายคาถาได้เองในตอนนี้เพียงแค่ใช้พลังธาตุฝัน…”
เพื่อสร้างคาถาเวทย์ เขาเพียงแค่ต้องใส่พลังเข้าไป แต่ว่า การสร้างวัตถุอื่น ๆ โดยเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้ มันย่อมยากกว่านี้มาก
ดังนั้น จ้าวแห่งฝันส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนไปเป็นผู้สะกดฝันหลังจากบรรลุระดับสวรรค์มายา
“เช่นนั้น ผู้ป้องฝันเล่า?”
ฟางหยวนคิดกับตัวเอง
ภายในโลกแห่งความฝันที่แท้จริงของเขา พลังธาตุฝันมหาศาลจับตัวกันอยู่ สร้างเป็นมีดสั้นสีดำขึ้นมาเล่มหนึ่ง
โลกแห่งความจริง
หลังจากแสงสว่างวาบขึ้น โลหะยาวชิ้นหนึ่งก็หล่นลงมาในมือฟางหยวน
โลหะชิ้นนี้ยังไม่ได้ขัด มีความแกร่งเพียงมาตรฐานทั่วไป มันเกือบจะเหมือนกับมีดสั้นสักเล่มแล้ว
“ของจริง!”
หลังจากหายตกใจแล้ว เขาก็ขมวดคิ้ว “ข้าใช้ความพยายามตั้งมากในการสร้างของชิ้นนี้ เพียงแค่โลหะธรรมดาหนึ่งชิ้น พลังธาตุฝันที่ข้าใช้ไปก็เทียบได้กับคาถาเวทย์ที่ข้าร่ายเมื่อครู่นี้ นอกจากนี้ มันยังเป็นแค่มีดสั้นระดับต่ำเท่านั้น นี่เป็นเพราะว่าข้ายังไม่คุ้นเคยกับการสร้างวัตถุใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่าข้ายังห่างไกลจากการสร้างอาวุธเวทย์ของจริงจากในฝันอีกมาก…”
“ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางใดเป็นพิเศษ แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าแน่ใจก็คือพลังธาตุฝันนั้นสำคัญยิ่งยวด! ข้าไม่สามารถใช้ทิ้งขว้างได้ ข้าต้องใช้งานมันอย่างฉลาด!”
ในตอนแรก พลังธาตุฝันของฟางหยวนนั้นเขาใช้เพื่อร่ายหมอกสะกดและก้าวมายา ตลอดมานั้นมีใช้อย่างเหลือเฟือ
แต่ตอนนี้ เขาพบว่าเขากำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนพลังธาตุฝันแล้ว
พลังของการสร้างวัตถุจริงในระดับสวรรค์มายานั้นแข็งแกร่งมาก เพื่อสร้างวัตถุแท้จริง พลังธาตุฝันจะถูกใช้ไปเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องพูดถึงว่า มันไม่มีคุณค่านักสำหรับเขาที่จะสร้างสมบัติล้ำค่าของจริงซึ่งใช้พลังธาตุฝันมากกว่าคุณค่าของสมบัติชิ้นนั้น อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วเขาก็ยังไม่ได้ฝึกฝนถึงระดับนั้น แต่ว่าที่เขาอยู่ตอนนี้ ก็ไม่คุ้มแล้วที่จะแลกพลังธาตุฝันปริมาณมากกับสมบัติสัก
มีแค่ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของระดับสวรรค์มายาที่จะทำเรื่องทะเยอทะยานเช่นนั้น
เมื่อคิดแล้ว ฟางหยวนก็มองหน้าต่างสถานะของตัวเอง
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 36.0
พลังลมปราณ: 30.0
พลังเวทย์: 20.0
สายวิชา: จ้าวแห่งฝัน
การฝึกตน: [สวรรค์มายา (???)], อู่จง ชีพจรที่สาม)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 4) (0 ใน 10 ส่วน)], คาถาสะกด, ก้าวมายา, ร่างทองคำร้อยพิษ ระดับการฝึกฝนที่ 1)
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]
“สวรรค์มายา- เจ้าไม่เพียงเป็นเจ้านายของโลกแห่งความฝันของเจ้า แต่ยังเป็นผู้รู้แจ้งในโลกแห่งมายา! จิตใจมีผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และจิตสำนึกมีผลต่อความจริง และการเป็นผู้รู้แจ้งเจ้าจึงมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงความจริง!”
“พลังเวทย์ของข้าบรรลุถึงระดับนี้แล้ว! ก้าวหน้าขึ้นก้าวใหญ่ที่เดียว!”
ฟางหยวนลูบบริเวณหว่างคิ้วของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ ตอนที่พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่งหรือสอง เขาจะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ อยู่ในหัว
แต่ตอนนี้ ทั้งที่พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทุกอย่างกลับถูกดูดซับโดยโลกแห่งความฝันที่แท้จริงของเขา และเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
“แต่ว่า….พลังเวทย์ก็ยังไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับปริมาณการใช้พลังธาตุฝันของข้า… หากมีบางอย่างที่ใช้วัดความสิ้นเปลืองของข้าได้โดยตรง นั่นก็คงจะดีทีเดียว!”
จู่ ๆ ฟางหยวนก็คิดขึ้นมา
ทันใดนั้น เขาก็อึ้งงันไปเมื่อหน้าต่างสถานะของเขาเริ่มพร่าเลือนไป ด้านหลังระดับพลังเวทย์มีแถบสีฟ้าอีกแถบหนึ่ง!
ใช่แล้ว!
มันคล้ายกับแถบสีแดงที่เขามีอยู่ที่ใช้บอกระดับประสบการณ์สะสม และมันก็มีความแม่นยำ
มันไม่เต็มแถบ แถบสีฟ้านั้นอยู่เพียงแค่ 8 หรือ 9 ส่วนเท่านั้น มันคือพลังธาตุฝันที่เขาใช้ได้ตอนนี้
“อืม. หากข้าใช้พลังธาตุฝันทีละเสี้ยว ทุกครั้งที่ข้าเรียกใช้หมอกสะกด เช่นนั้นเคล็ดสร้างวัตถุย่อมใช้มากกว่านั้นถึงห้าเท่า หรืออาจจะน้อยกว่านิดหน่อย
มองแถบสีฟ้าแล้ว ฟางหยวนก็คิดอย่างมั่นใจ
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหน้าต่างสถานะจะแสดงเพียงสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว การบรรลุระดับและการเพิ่มขึ้นใหม่ของหน้าต่างก็ยังทำให้เขาประหลาดใจได้
“สวรรค์มายาเป็นระดับที่กว้างมาก และเส้นทางการสร้างวัตถุก็ยาวมากเช่นกัน”
ฟางหยวนกำหมัดแน่นเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง
หยางฟานหรืออาจารย์ของเขาเองนั้นก็ไปถึงเพียงระดับสูงสุดของสวรรค์มายาเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังเป็นที่นับถือและเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงส่งในอาณาจักรต้าเฉียนแล้ว
จ้าวแห่งฝันระดับสวรรค์มายา!
หากฟางหยวนมีระดับการฝึกตนเท่านี้ตอนอยู่ในโลกแห่งความฝันของหยางฟานก่อนหน้านี้เขาก็คงไม่จบลงที่ตำแหน่งนายกองอินทรีเท่านั้นหรอก
“อู่! อู่วววว!”
พร้อมกับเสียงคำราม ร่างใหญ่โตร่างหนึ่งก็กระโดดออกมาจากกำแพงหน้าผาแล้วไต่ขึ้นมาเป็นราชาวานรวิญญาณ
มันเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดและพลังราวกับภูเขาไฟที่กำลังระเบิด ดวงตาแดงก่ำของมันดูร้ายกาจ แต่ว่า เมื่อมันมองฟางหยวน มันก็ลังเลขึ้นมา
“ทำไมเจ้าถึงลังเลขึ้นมาเล่า?”
ฟางหยวนคิด “เจ้าสัมผัสได้ว่าข้าแตกต่างไปจากเดิมสินะ?”
เขายิ้มและถอนหายใจ
“โฮก! โฮก!”
แผ่นยันต์สีแดงซึ่งลอยอยู่รอบ ๆ ตัวเขาระเบิดออก เผยให้เห็นมังกรสีแดงเพลิงเก้าตัว มังกรเหล่านี้เริ่มคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและพุ่งเข้าใส่ราชาวานร
“ครืน! ครืน!”
เมื่อมังกรพ่นไฟ ทั้งบริเวณก็กลายเป็นแอ่งไฟนรก ราวกับมีลูกไฟกำลังแผดเผาอยู่ตรงกลาง
“ซี่! ซี่!”
ราชาวานรถูกเปลวไฟกลืนกิน มันกรีดร้องอย่างเจ็บปวด พลังมืดจากร่างของมันเริ่มพุ่งสูงขึ้น
แต่ว่า มันเป็นเวลาที่โลกมายาจะแยกออกไปแล้ว และพลังมืดก็ค่อย ๆ อ่อนแอลง
“สัตว์ประหลาดอะไรเช่นนี้เ”
ฟางหยวนพยักหน้า ยันต์สีเขียวอีกแผนพุ่งออกมาจากโลกแห่งความฝันที่แท้จริงของเขา
“พลังธาตุของสวรรค์ทั้งเก้า ฟังคำสั่งของข้า โจมตี!”
“ซู่! ซู่!”
ทันใดนั้น มังกรเขียวอีกเก้าตัวก็พุ่งออกมาอยู่ข้างกายฟางหยวน พวกมันกลายเป็นลมพายุและโหมตัวเองเข้าใสราชาวานรอย่างรวดเร็ว
ไฟลุกโหมมากขึ้นเมื่อได้กระแสลม!
เมื่อลมพัด ไฟก็ลุกแรงขึ้น พลังของมังกรนั้นเป็นหลายเท่าของที่มันมีอยู่ในตอนแรก!
ขณะที่เปลวไฟบนร่างของราชาวานรแผดเผา มันก็กรีดร้องเสียงบาดหู
“โฮก! โฮก!”
ในพายุและเพลิงโชติช่วง มังกรสีแดงและเขียวก็ผสานรวมเข้าด้วยกัน พลังของพวกมันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวและทั้งเทือกเขาก็ตกอยู่ในกองเพลิง
เวลาผ่านไปนาน และฟางหยวนก็มาถึงผืนดินไหม้เกรียม
ละอองสีดำรวมตัวกันและลอยมาตกลงบนฝ่ามือของเขา
เขายังสีหน้านิ่งเฉย มองพลังสีดำที่เข้ามาอยู่ในมือของเขาด้วยตัวเอง พลังธาตุฝันที่ใช้ไปนั้นฟื้นฟูกลับมา “จริงด้วย ข้าได้รับความช่วยเหลือจากพลังมืดนี่ให้บรรลุสู่ระดับสวรรค์มายา”
ฟางหยวนถอนหายใจและมองไปที่ไกล ๆ