Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - บทที่ 366 - สมิทระวัง!
- Home
- All Mangas
- Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ)
- บทที่ 366 - สมิทระวัง!
เจ่าไห่ก็นั่งเงียบๆอยู่ในรถของเขา ขณะที่รถกําลังแล่นไปโรงแรมเซรี เมื่อพวกเขามาถึงพนักงานก็จำเจ่าไห่ได้ รถของเจ่าไห่มันเป็นรถที่ดูพิเศษมาก มันเป็นเรื่องยากมากๆที่จะจําผิด
พนักงานโรงแรมรีบเชิญเจ่าไห่เข้าไปทันที และพนักงานอีกคนก็ไปบอกให้แมริออท พนัก งานในโรงแรมรู้ดีว่าเจ่าไห่มีความสําคัญมากแค่ไหนกับโรงแรม พวกเขาไม่กล้าที่จะละเลยเรื่องของเจ่าไห่
เมื่อแมริออทได้รับข่าวว่าเจ่าไห่มา เขาก็เหม่อมองอยู่แปปนึ่ง เขาไม่คิดว่าเจ๋าจะมาตอนนี้ เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เมแกนยังมีเรื่องบ้างอย่างที่ยังไม่จบอยู่ มันก็ไม่ใช่เวลาที่เจ่าไห่จะมาที่นี่ในตอนนี้
แต่แมริออทก็ยังรีบไปต้อนนรับเจ่าไห่ ที่กําลังรออยู่ที่ลานของโรงแรม แมริออทยังได้เชิญเจ่าไห่ไปที่ห้อง และหลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว แมริออมมองไปที่เจ่าไห่และพูดว่า “เจ่าไห่ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” หลังจากที่ได้พูดคุยกันหลายครั้งดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นเหมือนเพื่อนกันไปแล้ว และแมริออทก็พูดกับเจ่าไห่เหมือนกับสนิทกันแล้ว แล้วก็จากที่รู้ว่าเจ่าไห่ไม่ใช่เวลส์ และตอนนี้แมริออทก็เรียกเจ่าไห่ว่าเจ่าไห่แล้ว
เกี่ยวกับเรื่องที่เขาถูกเรียนว่าเจ่าไห่ เจ่าไห่เองก็ไม่ได้คิดอะไร เขายิ้มและก็พูดว่า “นายคงจะลืมเรื่องที่บอกเมื่อวาน? ตอนนี้ฉันมีผักอยู่จํานวนมากที่ได้ผลิตไว้แล้ว”
เมื่อได้ยินว่ามันเกี่ยวกับธุรกิจ แมริออทก็รู้สึกโล่งใจ แมริออทกลัวว่าเจ่าไห่จะมีปัญหากับสมิท และเจ่าไห่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเขา แม้ว่าพวกเขาจะช่วยเจ๋าไห่ แต่เพื่อประโยชน์ของตระกูลแล้ว พวกเขาคงจะไม่สร้างความสัมพันธ์กับเจ่าไฟอีกต่อไป
แมริออทยิ้มและตอบว่า “ดีจริงๆ เจ่าไห่มาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้สินะ ฉันกลัวมากว่าเรื่องที่จะพูดมันจะไม่ดีต่อเจ่าไห่”
เจ่าไห่ก็ยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ฉันสามารถให้นายได้ประมาณ 500,000 กิโลของผัก และปลา 10,000 ตัวรอบทั้งน้ํามันพืชและผลไม้ ทุกเดือนนายบอกฉันว่านายต้องการเท่าไหร่นะ? มันพอหรือไม่ที่ฉันบอก?
แมริออทไม่ได้คิดว่าเจ่าไห่จะมีเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ดวงตาของเขาไม่อาจจะซ่อนความตื่นเต้นของเขาได้ ในขณะที่พูดว่า “มันมากพอเลยแหละ ฉันรู้สึกโล่งใจมาก เราจะให้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดเลย”
เจ่าไห่ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่กลัวหรอกว่านายจะทําให้ฉันผิดหวังเรื่องราคา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของฉัน ถ้านายกล้าที่จะต่อราคาฉัน ฉันจะไม่ขายให้นายอีกต่อไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
แมริออทและไมค์ก็หัวเราะและไมค์ก็มองเจ่าไห่และถามว่า “นายน้อยเจ๋าไห่ ฉันขอถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับเมแกนได้ไหม?” ไมค์รู้ดีว่าเจ่าไห่นั้นเป็นคนที่ชอบคนตรงไปตรงมา ถ้าคุณต้องการบางอย่างจากเขา คุณควรจะรู้จุดที่เขาต้องการอารมณ์ของเจ่าไห่เหมือนกับนักรบ เขาชอบที่ถามเขาตรงๆ
เจ่าไห่ตอบทันทีว่า “เรื่องนี้ราชาสมิทรู้ตัวของคนทําแล้ว ถึงแม้ว่านายจะไม่ได้ถามฉัน ฉันก็จะบอกให้นายรู้ เพราะมันก็เป็นอีกเหตุผลที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้”
ไมค์แล้วแมริออทมองไปที่เจ่าไห่ด้วยความสับสน หัวใจของพวกเขาอยากจะรู้มาก ทั้งสองคนเหมือนจะเดาได้ว่าเจ่าไห่มาที่นี่เพื่อพูดเรื่องอะไร
เจจ๋าไหมองใบหน้าของเขา เจ่าไห่เพียงแค่ยิ้มขณะที่เขาพูดต่อว่า “พวกนายน่าจะเดาไม่ผิด การถูกทําร้ายของเมแกนในครั้งนี้เป็นเพราะลิออน เขาต้องการจับเมแกนไป เพื่อบังคับให้ราชาสมิทขับไล่ฉันออกจากเมืองสกายไป แต่เขาก็ต้องผิดหวังที่พวกเขาทํามันไม่สําเร็จ ตอนนี้ราชาสมิทโกรธมากและกําลังเตรียมที่จะเอาคือกับลีออน ฉันได้บอกสมิทไปว่าตอนนี้ตระกูลเซี่นั้นไม่ถูกกับลิออน ราชาสมิทก็เลยบอกมาว่าเขาต้องการที่จะร่วมมือกับตระกูลเซรี่”
ห่ะ? นายพูดความจริงงั้นหรอ? ”
แม้ว่าไมค์และแมริออทอาจจะรู้ว่าเจ่าไห่กําลังพูดอะไรอยู่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่ามันจริงไหม พวกเขาไม่คิดว่าเจ่าไห่จะเข้าหาสมิทได้ หลังจากที่เมแกนได้เจอเรื่องแบบนี้ก็เพราะเขา แต่สมิทก็ไม่ได้โทษเจ่าไห่
ยังไงก็เถอะ เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีสําหรับตระกูลเซรี่ แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมที่จะจัดการกับลิออนแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทําแบบนั้น ในจักรวรรดิโรเซ่น พวกเขายังคงต้องการที่จะไม่ต้องสูญเสียอะไรมากเกินไป
แต่ถ้าตระกูลแคลซีช่วยเหลือพวกเขา มันก็จะทําให้เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ตระกูลแคลซีเป็นสายการผลิตที่มีชื่อเสียงในจักรวรรดิโรเซ่น ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา การจัดการกับลออนมันจะง่ายขึ้นมาก
ความขัดแย้งของตระกูลเซรี่ และลิออน ทําให้ตระกูลของพวกเขาไม่สามารถทําอะไนได้สะดวก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตระกูลธุรกิจที่มีอํานาจมาก แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย และก็เป็นสิ่งนี่เองที่ทําให้อิทธิพลของพวกเขามีน้อยกว่าลิออน พวกเขาไม่ได้มีอํานาจมากเมื่อเทียบกับระดับทวีป เนื่องจากธุรกิจของพวกเขามีขนาดที่ใหญ่และมีสาขาอยู่ที่ทวีปยุโรป จึงไม่มีความรู้สึกของการเป็นเจ้าของเมื่อมาถึงประเทศต่างๆที่พวกเขาดําเนินธุรกิจอยู่พวกเขาถูกทําเหมือนคนนอก เรื่องนี้ทําให้มันไม่สะดวกเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะรับมือกับอํานาจในเขตนั้นๆ
เนื่องจากจักรวรรดิโรเว่นนั้นไม่ได้ถือว่าอํานาจของตระกูลเป็นหนึ่ง มันเป็นความสัมพันธ์ของลิออน มันทําให้ตระกูลไม่สามารถทําอะไรได้มาก หากพวกเขาไม่ได้จ่ายเงินที่เพียงพอที่ทําให้เกิดความพอใจได้ พวกเขาอาจจะรวมตัวกันต่อต้านตระกูลได้ และถ้ามันเกิดขึ้นจริง มันจะส่งผลให้เจอกับปัญหาใหญ่มากเลย
แต่สําหรับตระกูลแคลซี่แล้วสถานการณ์แบบนั้นตก็คงไม่เกิดขึ้น ตระกูลแคลซีนั้นเป็นตระกูลที่น่ากลัวมากในจักรรววดโรเซ่น ตระกูลแคลซีนั้นเป็นตระกูลที่ตระกูลรอยัลก็ต้องนึ่งถึงก่อนที่พวกเขาจะทําอะไร โชคดีที่ตระกูลแคลซีนั้นเป็นตระกูลที่ไม่ได้ดังเท่าไหร่ แม้ว่าตระกูลรอยัลจะเป็นว่า พวกเขาเป็นหนามของพวกขเว แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดที่จะแค้นกับตระกูลนี้
และเช่นเดียวกับสิ่งที่แมริออทได้คิดไว้ว่า ลีออนนั้นเป็นเหมือนดาบของราชวศ์ใช้ในการจัดการกับคนเหล่านี้ แต่ตอนนี้อาวุธนี้ก็ไม่ได้เชื่อฟังพวกเขา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่บ้ามาก
ตอนนี้ตระกูลรอยัลยินดีที่จะแลกเปลี่ยนรายชื่อนี้ ในสายตาของพวกเขา ทุกคนเป็นเหมือนตัวหมากรุกและหมากรุกเหล่านี้ก็ถูกแบ่งออกเป็นประโยชน์และไร้ประโยชน์ หมากที่มีประโยชน์ก็ถูกแบ่งออกไปให้กับผู้ที่เชื่อฟังและไม่เชื่อฟัง พระราชวงศ์โดยทั่วไปจะยินดีที่จะปล่อยให้ไปของเหล่านี้ไม่เชื่อฟัง สิ่งนี้เป็นเพราะคนเหล่านี้อาจทําให้เกิดความไม่มั่นตงในอนาคต ไม่ใช่เฉพาะกับศัตรู แต่ยังกับตนเองด้วย ซึ่งไม่ต้องการมีใครสักคนที่จะทําให้พวกเขามีปัญหาในอนาคตกับตัวเอง
แมริออนหัวเราะขณะที่เขาตอบกับเจ่าไห่ว่า “เราเห็นด้วย! ทําไมเราจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องดีๆแบบนี้ เจ่าไห่นายเป็นโชคดีของตระกูลเซี่จริงๆ ฉันขอสัญญากับนายเลยว่าเพื่อความร่วมมือแล้ว เราจะทําทุกอย่างให้เต็มที่กับตระกูลแคลซี ได้โปรดเอาค่าพูดของฉันไปบอกกับราชาสมิทด้วย”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “ดีเลย ฉันจะรีบกลับไปแจ้งให้สมิทรู้เรื่อง ใช่..ในวันพรุ่งนี้ฉันจะให้คนมาส่งผัก 10,000 กิโล นายคิดว่ายังไง?”
แมริออทพยักหน้าและพูดว่า “ดีเลย แล้วนายจะส่งมาที่นี่ได้ยังไง? นายมีเรื่องนหรอเจ่าไห่?”
เจ่าไห่ก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง มันไม่ใช่ปัญหาสําหรับฉัน” จากนั้นเจ่าไห่ก็เตรียมตัวที่จะลุกขึ้นยืนและออกไป
เจ่าไห่ไม่รู้ว่าในตอนนี้สมทได้เรียนคนในตระกูลมาที่คฤหาสน์ของเขา ทุกคนในนั้นล้วนเป็นนักเวทย์แห่งความมืด
ชายชราคนหนึ่งมีอายุมากกว่า 60 ปี หัวของเขาขาวไปทั้งหัว เขาสวมเสื้อคลุมเวทย์และสีหน้าของเขาก็ไม่ได้มีจุดเด่นอะไร
สมิทมองไปที่ชายชราคนนั้นและพูดว่า “พี่นาโรเป็นยังไงบ้าง?”
นาโรพยักหน้าและพูดว่า “ฉันสบายดี เจ่าไห่บอกว่าเมแกนถูกทําร้ายโดยล็ออน เขาต้องการที่จะจับตัวลออนไปเพื่อบังคับให้ไล่เจ่าไห่ออกไปจากเมืองสกาย เจ่าไห่และพวกของเขาจะจัดการกับเขาแล้ว”
นาโรรู้สึกสบายใจมากขึ้น ท่าทางของเขาค่อนข้างโกรธมากในตอนที่รู้เรื่อง นาโรไม่ได้เป็นคนงี่เง่า เขาสามารถควบคุมตัวเองได้ดีมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเชื่อคําพูดของเจ่าไห่ เขาจึงต้องมาถามกับตัวของสมิท ชายชราหันไปหาทหารที่ทําร้ายเมแกน
เมแกนที่ยังไม่ได้เป็นอะไร ถามคําถามเดียวกันกับเขาและมันก็ตอบเหมือนกับว่าเจ่าไห่พูดกับสมิท
ในขณะเดียวกันไฟในหัวใจของเขาก็ติดอย่างสมบูรณ์ ลิออนไม่ได้เห็นสีหน้าของคนในตรตะกูลแคลซี แม้ว่าสมิทจะเป็นเพียงคนที่สองในสายตาของเขาก็ยังคงเป็นสมาชิกคนสําคัญของตระกูล ไม่งั้นพวกเขาก็จะไม่ส่งคนมาที่เมืองสกาย ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า เมืองสกายเป็นกระเป๋าตังค์ของตระกูลแคลซี
แม้ว่าเมแกนจะเป็นลูกสาวของสมิท แต่เธอก็เป็นหญิงสาวที่เป็นที่โปรดปรานของตระกูลมากที่สุด ในอดีตความสําคัญระหว่างลูกชายและลูกสาวของตระกูลส่วนใหญ่เปไปทางด้านชาย นี่เป็นเรื่องจริงสําหรับรุ่นของเมแกน ในตระกูลแคลซีทั้งหมดมีเพียงสองสาวนอกเหนือจากเมแกน คนหนึ่งก็ตายไปแล้วขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่น่าอับอายและถูกทําเหมือนตระกูลที่ไม่มีอยู่จริง ในสายตาของตระกูลเมแกนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่เธอก็น่าสนใจ เธอยังเป็นผู้หญิงที่เชื่อฟังอย่างสุภาพอ่อนโยนมากๆ ด้วยกระดาษขาวที่เป็นกระดาษ เธอเป็นเหมือนสมบัติของตระกูลแคล
เมแกนมีเอกลักษณ์ที่ดีกว่าเจ้าหญิงของจักรวรรดิโรเซ่น เธอไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องการแต่งงาน ลออนกล้าที่จะทําร้ายเมแกน มันทําให้สมิทโกรธมาที่เขาคิดที่จะทําร้านลูกสาวของเขา
แต่สมิทก็สงบมาก เขาไม่ได้ทําอะไรกับล้ออนทันที เขาเป็นคนของจักรวรรดิ เขาจึงรู้ดีกว่ารอยัลเกี่ยวกับสถานะที่อ่อนไหวของลิออน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทําอะไรเขา ไม่งั้นพวกเขาอาจได้รับ ความสนใจจากตระกูลรอยัลก็ไม่คุ้มค่า ความรักของเขาสําหรับลูกสาวของเขากับความสนใจของตระกูล
เกี่ยวกับเจ่าไห่ในทางกลับกัน, สมิทได้โล่งใจอย่างสมบูรณ์ว่าเขาไม่ได้โกหกเรื่องนี้ แม้กระทั่งหลังจากที่เมแกนถูกทําร้ายเขาก็ยอมรับว่าน่าจะเกิดจากเขา เขาไม่ได้ปกปิดมัน และบอกกับสมิทให้ทุกอย่างชัดเจน ทําให้สมิทรู้สึกดีขึ้นกับเจ่าไห่
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ