Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - บทที่ 360 - ธุรกิจ
- Home
- All Mangas
- Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ)
- บทที่ 360 - ธุรกิจ
สมิธมองเมแกนที่เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สมิธยิ้มให้กับเจ่าไห่และพูดว่า “น้องไห่ นี่คือลูกสาวของฉันเธอชื่อเมแกน เจ้าหญิงตัวน้อยๆของตระกูลแคลซี่ และเมแกนนี่ก็เจ่าไห่ที่ใช้ชื่อว่าเวลส์”
การที่สมิธบอกว่าเจ่าไห่ซื้อเวลส์ เมแกนก็ไม่รู้ว่าทําไม เธอจําลอร่าที่ให้ไวน์นมแก่เธอได้
อย่างไรก็ตามเมแกนก็รีบควบคุมสติ เธอเดินตไปและทักทายเจ่าไห่ เธอพูดว่า “ฉันได้พบกับนายน้อยเจ๋าไห่แล้ว”
เจ๋าไฟก็ลุกขึ้นทันทีและตอบกลับตามมารยาทของเขาว่า “นายหญิงเมแกน คุณสุภาพมากๆเลย” เมแกนก็เดินไปนั่งข้างๆพี่ชายคนโตของเธอ
แต่เมื่อเจ่าไห่มองเมแกนเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไน แต่รู้สึกตกใจมาก ไม่เพียงแค่ชื่อเมแกนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะท่าทางของเธอด้วย เมื่อเจ่าไห่เห็นลอร่าครั้งแรก เขาก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะลอร่าคล้ายกับแฟนของเขาที่อยู่ในโลก และเธอก็ยังมีกลิ่นอายที่กล้าหาญอยู่
และตอนนี้เมื่อเจ่าไห่ได้เห็นเมแกน เขาก็ตกใจเพราะเมแกนไม่เพียงแต่มีชื่อเดียวกับนักแสดงหญิงชาวอเมริกันเท่านั้น เธอยังเหมือนกับรูปปั้นของนักแสดงคนนั้นด้วย
ปัจจุบันเมแกนใส่กระโปรงที่ผู้หญิงส่วนมากใส่กันมากที่สุด เธอดูสวยมากและเธอก็น่าสนใจเหมือนเป็นเจ้าหญิงจริงๆ
อย่างไรก็ตามเจ่าไห่รู้ว่าการมองผู้หญิงเป็นเวลานานนั้นมันจะไม่สุภาพ เจ่าไห่จึงมองไปที่เมแกนแปปนึ่งและหันไปพูดต่อกับสมิธ
คริสและไดย่าก็นั่งอยู่ข้างๆ ทั้ง 2 คนนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ กับคนที่พูดกันอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มอายุเดียวกับเจ่าไห่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีอะไรที่เหมือนกับเจ่าไห่ ไม่ใช่เพราะความยิ่ง ใหญ่ของพวกเขา แต่น่าจะเป็นเพราะว่าเขาสบายใจที่จะพูดคุยกับสมิธเท่านั้น
ในเวลานี้อาหารถูกจัดเตรียมไว้แล้วเนื่องจากเป็นอาหารเช้าจานบนโต๊ะจึงไม่มากนัก
สมิธเชิญเจ่าไห่และคนอื่นๆมานั่งที่โต๊ะ ลอร่าและเม็กซึ่งเป็นคู่หมั้นของเจ่าไห่ จึงจะต้องให้มานั่งร่วมกินอาหารด้วย ในเมืองสกายนั้น ลอร่าและเม็กไม่จําเป็นต้องเป็นแม่บ้านของเจ่าไห่ ตอนนี้เจ่าไห่ก็แนะนําพวกเธอว่าเป็นคู่หมั้นของเขา
และสมิธก็แนะนําเมแกนให้ลอร่าและเม็ก ลอร่าและเม็กนั้นมีอายุเท่ากันกับเมแกน สมิธก็หวังว่าทั้ง 2 คนจะเป็นเพื่อนกับลูกสาวเขาได้
หลังจากอาหารเช้า เจ่าไห่ถามลอร่าและเม็กว่าจะไปที่เมืองและไปกับเมแกนด้วย ขณะที่เขาจะไปที่รถของเขาและไปที่โรงแรมเซรี่และดูลหยาง นอกจากนี้ฉันยังต้องการที่จะพบแมริออท และได้เริ่มต้นธุรกิจกับตระกูลเซี่
รถลากที่ถูกดึงด้วยวัวมาถึงหน้าประตูของโรงแรมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงโรงแรมแล้วก็มีพนักงานออกมาต้อนรับและทักทายเจ่าไห่ ขณะที่อีกคนไปบอกแมริออทและไมค์ว่าเจ่าไห่มา
สิ่งแรกที่เจ่าไห่ทําก็คือไปที่ห้องของลูหยางนั้นอยู่ในห้องของเธอ ซึ่งเป็นห้องพักที่ดีที่สุดของโรงแรม เนื่องจากความสัมพันธ์ของเธอกับเจ่าไห่ โรงแรมจึงดูแลเธอเป็นอย่างดี
ข้างนอกห้องของลูหยาง ซูกะเคาะประตู และจิลล์ก็เปิดประตู เมื่อเขาเห็นเจ่าไห่เขาก็พาเข้าห้องไปทันที
เนื่องจากที่นี่เป็นห้องพักที่ดีที่สุดของโรงแรมจึงมีห้องนั่งเล่นอยู่บ่ภายในด้วย หลังจากที่เจ่าไห่และซูกะมาถึงและนั่งลง จิลล์ก็เทชาให้กับเจ่าไห่ เจ่าไห่มองลูหยางและพูดว่า “นายหญิงเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันได้คุยกับอวานแล้ว เขาจะส่งคนมาและพบเธอ เธอจะต้องอยู่ในโรงแรมนี้เท่านั้น แต่ถ้าเบื่อเธอก็ออกไปเดินเล่นในเมืองได้ เพราะที่นี่เธอจะไม่พบอันตรายใดๆ”
ลูหยางก้มหน้าลงและพูดว่า “ฉันขอขอบคุณนายน้อยจริงๆที่ให้ความสําคัญและฉันก็ขอโทษที่สร้างปัญหาระหว่างการเดินทาง ฉันขอโทษ”
ลูหยางกลายเป็นคนที่สุภาพมาก ทําให้เจ่าไห่รู้สึกแปลกใจมาก จากนั้นเจ่าไห่ก็ส่ายหัวและพูดว่า “ปัญหาส่วนใหญ่ที่เราเจอเป็นเพราะฉันเอง ฉันสิที่ต้องเป็นคนบอกขอโทษเธอ ครั้งนี้เธอได้ เสียทหารจํานวนมากโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันเสียใจจริงๆ ถ้าเกิดเธอมีปัญหาอะไรในอนาคตเธอสามารถไปหาฉัน ฉันจะดูว่าฉันสามารถช่วยอะไรได้บ้าง”
ลหยางเงยหน้าขึ้นมองเจ่าไห่และก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ขณะที่เธอพูดว่า “ฉันขอขอบคุณนายน้อยจริงๆ”
เจ่าไห่เห็นว่าลูหยางไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับเขา แต่เจ่าไห่ก็ไม่ได้พูดอะไร เจ่าไห่ก็ลุกขึ้นยืน และพูดว่า “งั้นฉันจะไม่รบกวนแล้ว นายหญิงพักผ่อนเถอะ ฉันขอตัวก่อน”
เจ่าไห่พาซูกะออกจากห้องและเห็นไมค์และแมริออทยืนข้างนอกห้อง เจ่าไห่ก็ไม่ได้ทําอะไร แต่ก็มมองแล้วก็หัวเราะและพูดว่า “พวกคุณกําลังแอบฟังงั้นหรอ?”
ไมค์และแมริออทก็ไม่ได้พูดอะไร แต่มองหน้ากันและกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้แอบฟังพวกเขามาที่นี่เพื่อมาหาเจ่าไห่
ก่อนหน้านี้ที่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจ่าไห่จะไปที่คฤหาสน์ของสมิธ พวกเขาก็คิดว่ามันคงเป็นแค่การไปเที่ยวแบบธรรมดาเท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธของเจ่าไห่และสมิธจะไปได้ในทางที่ดีมาก
แต่ใครจะไปคิดว่าเจ่าไห่จะได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของสมิธ ราชาสมิธได้ส่งคนของเขามาที่นี่ และบอกกับแมริออทว่าต่อจากนี้เจ่าไห่จะไปอยู่ที่คฤหาสน์ของราชา และก็เก็บของไป
แมริออทและไมค์ไม่กล้าที่จะหยุดคนของสมิธ อย่างแรกที่ต้องรู้เลยว่าตระกูลแคลซีนั้นเป็นตระกูลที่ปกครองเมืองสกาย
พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะทําอะไรมากนัก และก็ไม่คิดว่าเจ่าไห่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมิธแบบนี้ ถ้าเจ่าไห่ลือกที่จะร่วมมือกับตระกูลแคลซี่แล้ว พวกเขาจะเป็นยังไงต่อ? เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ตระกูลเซี่ต้องคิดหาทางแก้
เมื่อวาน แมริออทกังวลมาว่าเจ่าไห่จะตัดความร่วมมือกับตระกูลเซรี่ ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริง พวกเขาจะเจอปัญหาที่ใหญ่มาก แม้ว่าจะไม่ได้ไวน์นม 10,000 ขวดก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับตระกูลของพวกเขา แต่เจ่าไห่ซึ่งเป็นนักเวทย์มิติ ถ้าใครที่ได้ร่วมมือก็จะได้รับผลประโยชน์มากมาย
และเมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจ่าไห่มา พวกเขาไม่อาจจะอยู่นิ่งเฉยได้ พวกเขาก็รีบไปที่ห้องของลูหยางและต้องรอเจ่าไห่ แต่เมื่อพวกเขาเห็นเจ่าไห่ไม่กังวลอะไรพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจมาก เพราะมันก็หมายความว่าเจ่าไห่ไม่ได้คิดที่จะตัดความสัมพันธ์ของพวกเขา
แมริออทยิ้มและพูดออกมาทันทีว่า “พวกเราจะไม่ปล่อยนายน้อยกลับไปง่ายๆหรอก มาเถอะ มาดื่มไวน์กันก่อน” เจ่าไห่ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาเดินตามแมริออทไปที่ห้องทํางานของเขา
หลังจากที่ทั้ง 3 นั่งลง ก็มีพนักงานมาเทไวน์ให้พวกเขาทั้ง 3 คน แล้วก็ให้พนักงานออกไป คนที่อยู่ในห้องนั้นงตอนนี้ก็มีเจ่าไห่ แมริออท ไมค์และก็ซุกะที่มากับเจ่าไห่ ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง
แมริออทเห็นว่าเจ่าไห่ไม่ได้สั่งให้ซูกะออกไป มันทําให้เขาคิดว่าซูกะเป็นคนสนิทของเจ่าไห่ เขาก็ไม่ได้คิดอะไร หันไปหาเจ่าไห่และถามว่า “นายน้อยเวลส์ คุณสนิทกับราชาสมิธงั้นหรอ?”
เจ่าไห่ก็ยิ้มและพูดว่า “มันดีมากเลย ฉันได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นที่จะไม่รับคําเชิญของราชาสมิธ เขายังให้ฉันพักที่ลานพลัมหวาน แต่ฉันไม่ค่อยชอบที่จะอยู่ที่นั่นสักเท่านั้น ฉันอยากอยู่ข้างนอกมากกว่า”
แมริออทม ถ้าคนอื่นได้ยินว่าเจ่าไห่เพิ่งบอกว่าพวกเขาคิดว่าเขาเป็นคนหน้าซื่อใจคด ถ้าหากคุณสามารถอยู่ภายในคฤหาสน์ ได้จากนั้นคุณก็เป็นคนที่มีสถานะพิเศษ และก็ไม่ต้องพูดถึง สมิธที่เขาให้เจ่าไห่อยู่ที่ลานพลัมหวาน นี้เป็นหนึ่งในลานที่ดีที่สุดภายในคฤหาสน์
ไมค์ก็ยิ้และพูดว่า “นายน้อยจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับพวกเราใช่ไหม?”
เจ่าไห่ก็พยักหน้าและตอบกลับว่า “ใช่ เรายังเป็นพันธมิตรเรื่องของไวน์นมอยู่ แต่ตอนนี้ฉันกําลังที่จะหาวิธีการผลิตอยู่โปรดรอจนกว่าฉันจะสามารถส่งมันได้”
แมริออทรีบตอบว่า “แน่นอนว่าเราจะรอจนกว่าคุณจะเพิ่มการผลิตขึ้น”
เจ่าไห่มองไปที่แมริออทและพูดว่า “ฉันมีหลายสิ่งที่อาจใช้สําหรับความร่วมมือของเรา ฉันไม่รู้ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่?”
แมริออทมอง จากนั้นรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วพูดว่า “สินค้าแบบไหน ให้ฉันดูหน่อย”
เจ่าไห่ยิ้มให้กับเขา ขณะที่โบกมือให้เขา บนพื้นดินมีสิ่งของมากมาย ไมค์และแมริออทได้เห็นสิ่งที่ธรรมดามากๆ ได้แก่ ข้าวและผักเวทย์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธรรมดามาก ในทวีปยุโรป ซึ่งมันไม่น่าแปลกใจเลยจริงๆ
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขา เจ่าไห่ก็ยิ้ม เขาพูดว่า “สั่งให้คนของคุณเตรียมอาหารบางอย่างโดยใช้สิ่งเหล่านี้ หลังจากที่เขาทานอาหารแล้วเราจะคุยกันต่อไป”
แมริออทไม่ได้เป็นคนโง่เขารู้ที่เจ่าไห่ตั้งมาคืออะไร เขาจึงสั่งให้พนักงานเอาข้าวและผักเหล่านี้ไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารบางอย่างและส่งพวกเขาไปที่ห้องอาหาร
ไม่นานกลุ่มมาถึงที่ห้องอาหารและเห็นจาน จานดูน่าอร่อยมากเจ่าไห่ยิ้มและปล่อยให้ไมค์ และแมริออทลิ้มรสมัน แมริออทไม่รอช้าและเขาลิ้มรสอาหารทันที
แมริออทสังเกตเห็นความแตกต่างในจานนี้ แม้ว่าจะเป็นอาหารธรรมดาๆ แต่พวกอาหารก็ถูกปรุงสุกโดยพ่อครัวที่ทําอาหารทุกวัน แต่วันนี้เขารู้สึกว่าถึงแม้ว่าเขาจะได้กินอาหารจานเดียวแล้ว แต่ก็ยิ่งดีไปกว่าสิ่งที่เขากิน
แมริออทสามารถยืนยันได้ว่าการปรับปรุงรสชาติของจานไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ่อครัว นี่เป็น เพราะว่าผักที่ใช้ ซึ่งเป็นของที่ดีมากเมื่อเพิ่มความชํานาญพิเศษของเชฟแล้วจานที่ทําเองก็เป็นอาหารอันโอชะ
แมริออทวางซ้อมลงแล้วเขาก็หันไปหาเจ่าไห่และพูดว่า “นายน้อยบอกว่านายน้อยจะร่วมมือกับเราเรื่องนี้?”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “ใช่ นายคิดอย่างไรเราสามารถโจมตีคู่ค้าได้หรือไม่? ฉันสามารถรับประกันได้ว่าคุณภาพของผักจะยังคงเหมือนเดิมในอนาคต”
ดวงตาของแมริออทสว่างขึ้นและพูดว่า “แน่นอนว่าผักของนายน้อยกับบริการของโรงแรมของเราจะไปถึงอีกระดับหนึ่งโดยวิธีการที่คุณสามารถจัดหาผักได้มากแค่ไหน?”