Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 351 - พลังเวทย์โบราญ
- Home
- All Mangas
- Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ)
- ตอนที่ 351 - พลังเวทย์โบราญ
ลอร่าและคนอื่นๆก็ยังอยู่ในมิติ และได้ยินสิ่งที่เจ๋าฉินอี้พูด การอัพเกรดมิตินั้นมีความสําคัญมากกับเจ่าไห่
สิ่งที่ทําให้เจ่าไห่แปลกใจมากเลยก็คือ ไม่เพียงแต่ฟาร์มเท่านั้น แต่ก็เพิ่มขีดความสามารถของสัตว์ที่เลี้ยงด้วย พวกมันกลายเป็นสัตว์เวทย์ทั้งหมด
ดูเหมือนว่าตอนนี้ฟาร์มจะเลี้ยงสัตว์ได้ถึง 10,000 ตัว และสัตว์เหล่านี้ก็ไม่เพียงแต่สามารถทํารายได้ให้กับเจ่าไห่ และพวกมันก็ยังได้เพิ่มความแข็งแกร่งอีกด้วย
อีกสิ่งที่สําคัญที่เจ๋าฉินอี้บอกกับเจ่าไห่ เป็นความจริงที่ว่าจากน้ําปริมาณมากของแม่น้ําริเวอร์ที่ดูดเขามาในตอนนั้น ซึ่งมีแพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตที่เป็นเซลล์เข้ามา พวกมันเข้ามาเสริมสร้างระบบนิเวศน์ของมิติให้ดีขึ้น มันเป็นประโยชน์มากในการพัฒนาต่อไป ถ้าเจ่าไห่ยังคงทําแบบนี้ มิติจะค่อยๆพัฒนาสู่โลกของตัวเองเป็นโลกที่เจ่าไห่เป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์
การที่เจ่าไห่ได้ยินแบบนั้น เขาก็เข้าใจความสําคัญหลักของมิติ ซึ่งกําลังไปได้ดี และมันก็ฟังแล้วดูดีมาก
ในปัจจุบันนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่ในมิติ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สะดวกมากกับเจ่าไห่ แต่มันก็ทําหน้าที่ได้เหมือนเครื่องมือได้ทุกอย่างที่ไม่มีชีวิต ถ้ามิติกลายเป็นโลกที่สมบูรณ์แล้ว มันก็จะเต็มไปด้วยสิ่งที่มีชีวิตมากมาย
เจ่าไห่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เจ๋าฉันพูด ตอนนี้เขาได้เจอทิศทางการพัฒนามิติแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากความสามารถของมิติฟาร์มของเขาเอง
เจ๋าไฟเองไม่จําเป็นต้องมีสัตว์เวทย์ที่จะใช้ในการต่อสู้ เพราะเจ่าไห่นั้นมีซอมบี้ที่ไว้ในการต่อสู้แล้ว กาใช้มิติให้ดีที่สุดในปัจจุบันคือการทําให้เขามีรายได้ เขาจึงจักลําดับความสําคัญในการเลี้ยงสัตว์และปลา ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ่าไห่จะเลี้ยงปลาไฟ 5,000 ตัว แล้วก็เลี้ยงปลาชนิดอื่นอีก 5,000 ตัว ซึ่งมันคือปลารุ่ง
ปลาชนิดนี้เป็นที่นิยมมากทั่วทวีป ตราบเท่าที่มีน้ําจืดปลาชนิดนี้จะอยู่ที่นั่น นี่เป็นปลาที่มนุษย์ ส่วนใหญ่ชอบที่จะบริโภค ก่อนหน้านี้เจ่าไห่ต้องการซื้อปลาตัวนี้เพื่อทอด แต่ก็ไม่สามารถทํามันออกมาได้
ด้วยปริมาณของน้ําที่เขาเอามาจากแม่น้ํามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ เต่าทองใต้น้ําจะเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เจ่าไห่สามารถจับได้ นอกจากนี้ยังมีปลาหลายชนิดอยู่ด้วยกัน แต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกัน ในร้ายขายของมิติ เจ่าไห่สามารถซื้อได้ตลอดเวลาเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการลองทอดปลา
เจ๋าไฟไม่ได้สนใจอะไรมาก เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์เหล่านี้ในมิติ ตราบเท่าที่เจ้าเฉินอี้และมันอยู่ที่นี่ เจ่าไห่ก็ไม่จําเป็นต้องคิดเรื่องนี้
ไม่เพียงแต่ระดับมิติที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่น้ําในแม่น้ําก็ทําให้เจ่าไห่มีความคิดที่จะก้าวหน้าต่อไปอีก ตอนนี้ถ้าเขาเอาน้ําทะเลเข้าไปในมิติน้ํามันจะเพิ่มไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะดีมาก
อาจจะเป็นเพราะที่เจ่าไห่ได้จับเต่าทองไว้โดยไม่ได้มีการโจมตีใดๆ บนเรือในช่วงที่เหลือของวัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้เห็นคนอื่นๆบนเรือ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาหนีไปเมื่อเต่าทองจํานวนมาก โจมตีเรือพวกเขาคงคิดว่าเรือจะพัง เลยหนีออกไปก่อนและก็คงคิดว่าจะไม่เดินทางทางน้ําอีกแล้ว เจ่าไห่ก็ไม่ได้ออกไปในตอนเย็น เขาอยู่ในมิติเพราะตอนนี้การเลี้ยงสัตว์ก็ได้ยกระดับแล้ว
แต่ระดับของฟาร์มนั้นทําให้เจ่าไห่ตื่นเต้นมาก อาจจะพูดได้เลยว่าเป็นเวลานานแล้ว กว่าที่ฟาร์มจะมาถึงจุดนี้ มันทําให้เจ่าไห่เป็นห่วงมาก
ด้วยการอัพเกรดอย่างต่อเนื่องของฟาร์ม เขาสามารถใช้การตรวจสอบได้ และเรื่องนี้ที่เล่าไห่สามารถแก้พิษภายในร่างกายของเขาได้ ตอนนี้เขามีคู่หมั้นที่สวยมาก เขาไม่ต้องการที่จะตายเร็วเกินไป แต่ถ้าน้ําแห่งชีวิตไม่สามารถถอดพิษได้ เขาจะมีชีวิตอยู่ได้เหมือนคนธรรมดาหรืออาจจะสั้นกว่านั้น เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าคนธรรมดาในทวีปจะมีชีวิจอยู่ได้ประมาณ 80 ถึง 100 ปีในขณะที่คน ที่มีเวทย์จะอยู่ได้ถึง 120 ปื นอกจากนี้ร่างของเจ่าไห่ยังอ่อนกว่าคนทั่วไป ในตอนนี้เขาสามารถอยู่ ได้ประมาณ 60 หรือ 70 ปีเท่านั้น
เจ่าไห่ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะมีชีวิตที่อยู่ได้นาน แต่เขาก็อยากที่จะเป็นแบบนั้น เขาจะหาทาง เพื่อให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานๆ การกําจัดสารพิษออกเป็นครั้งแรกในตอนนี้
แต่ในปัจจุบันอยู่ในฤดูหนาว การหาพืชชนิดที่หายากจะเป็นเรื่องที่ล่าบากมาก เจ่าไห่สามารถรอจนกว่าฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มได้
อย่างไรก็ตามการดูดน้ําในแม่น้ําทําให้เจ่าไห่เป็นต้องเตือนตัวเอง สิ่งต่างๆทั่วไปในทวีปต่างๆสามารถอัพเกรดมินิได้ นี่เป็นสิ่งที่ดีกับเจ่าไห่
เช้าวันต่อมาเจ่าไห่ก็ออกไปบนดาดฟ้าของเรือ แม่น้ําริเวอร์นั้นสวยงามมาก กลับสู่โลก เจ่าไห่ก็เคยข้ามแม่น้ํามาแล้ว แต่ตอนนั้นน้ํามันเต็มไปด้วยมลพิษ แม้ว่าเขาจะขี่เรือเขาก็ไม่กล้าไปอยู่ในน้ําเพราะมันสกปรกมาก
แต่ตอนนี้แม่น้ําริเวอร์ยังไม่ได้เป็นแบบนั้น เพื่อให้แม่น้ํามีความใสมาก ดวงอาทิตย์ตอนเช้าจะสะท้อนลงสู่น้ํา และทําให้แม่น้ํามีสีแดงดูน่าสนใจมาก
เจ่าไห่มองไปที่แม่น้ําเขาถอนหายใจและพูดว่า “มันสวยงามมาก ฉันดูภาพนี้แล้วไม่เบื่อเลย”
เสียงของโซเทคก็ดังจากด้ายข้างของเขา “อย่ากังวลเลย ถ้านายมองที่นี่ทุกวัน นายจะเหนื่อยกับมัน นายมีความรู้สึกยังไงกันล่ะ?”
เจ่าไห่ยิ้มและก็พูดว่า “ฉันสบายดี อย่าพูดอะไรอีกเลย ฉันรู้สึเหนื่อยมากเมื่อวานนี้” โซเทคก็ยิ้มและก็ไม่ได้พูดอะไร เขาหันไปทางแม่น้ํา ทั้งสองคนชอบภาพที่เห็นมาก
ในตอนนี้ก็มีลูกเรือเดินเข้ามา ตอนแรกเขาก็มองไปที่เจ่าไห่ด้วยท่าทางสนใจมาก แต่ก็หันไปหาโซเทคและพูดว่า “กัปตัน ฉันคิดว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานเราไม่สามารถมองเห็น แม้แต่เรือได้แม้ว่าจะเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวเต่า แต่ก็ไม่น่าจะไม่มีเรือแบบนี้”
โซเทคก็มองไปที่แม่น้ํา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ในขณะที่เขาพูดว่า “นายไม่เห็นเรือตั้งแต่เมื่อวานเลยหรอ?”
เนื่องจากแม่น้ําริเวอร์เป็นเส้นทางน้ําที่สําคัญของการเดินเรือ ในเวลากลางคือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นที่นี่ โซเทคเห็นว่าจะต้องมีเรือจํานวนมากแล่นอยู่ที่แม่น้ําแห่งนี้
แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้เห็นเรือที่เดินทางในเวลากลางคืนตั๋วแต่เมื่อวานนี้แล้ว มันแปลกมากๆ จากลูกเรือก็พยักหน้าและตอบว่า “เมื่อวานนี้เราไม่เห็นเรือแม้แต่ล่าเดียว แต่ถ้าเราได้ถูกโจมตีโดยเต่า เราก็จะไม่สามารถเห็นเรืออื่นๆได้อีก”
โซเทคก็พูดว่า “เวลส์ดูเหมือนว่าบางคนต้องการจะจัดการกับเราจริงๆ นายควรเตรียมตัวให้พร้อม ฉันสงสัยว่านี่เป็นแผนของลิออน หลังจากวันนี้เราก็จะถึงเมืองสกายแล้ว และเขาก็จะทําอะไรพวกเราไม่ได้ เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว”
เจ่าไห่ก็คิดไม่ออก ในขณะที่เขาตอบว่า “มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นลิออน เขาจะไม่ปล่อยให้เราออกไปได้ง่ายๆหรอก ถ้าเราไปถึงเมืองสกาย เขาอาจไม่มีโอกาสได้จัดการกับเรา ถ้าเรารอดพ้นจากนั้นเขาจะประสบความลําบากในเมือง ดูเหมือนว่าเราต้องเตรียมพร้อมสําหรับตัวเอง”
โซเทคก็พูดว่า “ฉันก็คิดว่านี้เป็นแผนของลิออน แต่ก็มั่นใจได้เลยว่า เมื่อเราไปถึงที่เมืองสกาย ลีออนก็จะไม่สามารถทําอะไรเราได้อีก และนายก็จะปลอดภัย และตอนนี้ลออนก็มีโอกาสครั้งสุ ดท้ายที่จะจัดการกับเรา หลังจากที่เราอยู่รอดได้เราก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว”
เจ่าไห่ก็พูดต่อว่า “เรายังคงต้องอยู่รอดในวันนี้ พูดถึงเรื่องนี้ก็ไร้ประโยชน์ เรามาดูกันว่าลิออนจะทําได้แค่ไหนเพื่อจัดการกับเรา”
หลังจากที่เขาพูด พวกเขาก็เห็นเรือลําเล็กๆ โผล่ออกมาไกลๆจากพวกเขา เรือดูเหมือนกับเรือชูชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ปกติในการเดินทางข้ามแม่น้ําใหญ่ๆแบบนี้
บนเรือเหล่านั้นดูเหมือนจะมีคนอยู่ 5 คน และใส่เสื้อสีฟ้า ในมือของพวกเขามีพลังเวทย์ เรือของพวกเขาไม่ได้มีใบเรือและไม้พาย แต่เรือก็กําลังแล่นมาเร็วมาก
โซเทคมองไปที่เรือล่านั้นและพูดว่า “นักเวทย์ธาตุน้ํา นั่นเป็นแผนการที่ดีในแม่น้ํานี้ การจัดการกับเราโดยใช้นักเววทย์ธาตุน้ําเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทําแบบนี้ ไปเตรียมตัวกันเถอะ”
หลังจากที่พูดจบ นักเวทย์บนเรือก็แล่นมา พวกเขามีไฟเวทย์อยู่ในมือ จากนั้นทุกคนก็เห็นมังกรน้ําสิบตัวโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ําของแม่น้ําและมุ่งหน้ามาทางเรือ
เจ่าไห่ไม่ได้ลังเล เขาโบกมือและก็มีใยมีดลงโผล่ออกมาและพุ่งไปตัดตัวมังกรน้ํา
อย่างไรก็ตามมังกรนี้ถูกสร้างขึ้นจากน้ํา แม้ว่ามังกรจะถูกผ่าตัว แต่พวกมันก็สามารถกลับมาคืนสภาพได้อีก หลังจากนั้นมันก็พุ่งมาที่เรือต่อ
สีหน้าของเจ่าไห่ก็เปลี่ยนไป เขาไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ยากที่จะรับมือ เขาโบกมืออีกครั้ง และมีไฟขนาดใหญ่โผล่ออกมา เพื่อป้องกันมังกรน้ํา
น้ําและไฟนั้นไม่สามารถเข้ากันได้ มังกรไม่ได้หยุดพลังไฟของเจ่าไห่ และดูเหมือนว่าจะเจาะทะลุเรือ ความกลัวนักเวทย์ พลังไฟของเจ่าไห่เป็นเรื่องที่สามารถหยุดมังกรได้
ในตอนนี้ก็มีธนูน้ําแข็งพุ่งไปทางเจ่าไห่ ธนูน้ําแข็งมีแสงสีน้ําเงิน แต่มันก็ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่น้ําธรรมดา แต่มันดูเหมือนว่าจะมีพิษด้วย
เมื่อเห็นธนูน้ําแข็ง ใบหน้าของไมค์ก็เปลี่ยน และร้องออกมาว่า “เวทย์น้ําแข็งพิษ”
นักเวทย์ที่อยู่บนเรือนั้นหัวเราะและพูดว่า “เด็กน้อย มีสายตาที่ดีจริง ชีวิตได้อยู่ภายใต้การดูแลของฉันแล้ว”
เมื่อธนูมาถึงตรงหน้าเจ่าไห่และเมื่อดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถหนีได้ อาจจะตกใจเมื่อเห็นว่า เจ่าไห่หายไปจากดาดฟ้าของเรือ
จบบทแล้วนะครับ