Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 345 - ไม่ยอม
- Home
- All Mangas
- Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ)
- ตอนที่ 345 - ไม่ยอม
เจ้าไห่พยักหน้าและพูดว่า “นี่คือจักรวรรดิโรเซ่น และลิออนก็เป็นราชาของจักรวรรดินี้ ซึ่งเขาก็เป็นคนที่สามารถจัดการทุกอย่างได้ และลิออนเองก็น่าจะมีคนรับใช้เป็นจํานวนมากที่จะต้องทําตามคําสั่งของเขาและก็แน่นอนว่าคนรับใช้พวกนั้นก็ต้องทําตามเขา ถ้าล็ออนต้องกําจัดเราจริงๆ เราก็ไม่ควรประมาทอํานาจของลออน”
ชิวก็พูดต่อจากเจ้าไห่ว่า “นายน้อยแล้วเราจะต้องทํายังไง? ฆ่าพวกเขางั้นหรอ?”
เจ้าไร่ก็ส่ายหัวและตอบชิวว่า “เราไม่สามารถทําแบบนั้นได้ ฉันสงสัยว่าเขาจะมีผู้อื่นสนับสนุนอยู่ ถ้าเราทําเช่นนั้นมันก็อาจจะเป็นผลร้ายต่อเรา ทุกคนที่นี่ไม่ได้คนที่อยู่จักรวรรดิอาร์ซู การใช้อํานาจของจักรวรรดิมันจะเป็นผลเสียต่อเรา อย่างไรก็ตามเอาจานอาหารพวกนี้ออกไปและกลับเข้าไปในมิติ ฉันอยากจะเห็นว่าใครจะเข้ามาที่ห้องของเรา”
ชิวรู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีอํานาจใดๆในจักรวรรดิโรเซ่น เรื่องนี้ก็ทําให้พวกเขารู้สึกว่าถูกขังไว้จักรวรรดิโรเซ่นนั้นต่างจากจักรวรรดิอาร์ซู ถ้าณเป็นคนที่มากจากที่อื่น ภายในจักรวรรดิอาร์วซูนั้น คุณจะได้เห็นท่าทางตามปกติ แต่คนที่มาจากที่อื่นที่มาที่จักรวรรดิโรเซ่นก็ไม่ได้เหมือนกับเรื่องที่ดีนักคําพูดเหล่านี้ก็เป็นเรื่องจริง
หลังจากที่มีความสัมพันธ์กับคนที่จักรวรรดิโรเซ่น ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาความเชื่อของเจ้าไห่เกี่ยวกับเรื่องนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าเขาจะมีสถานะของขุนนางของจักรวรรดิอาร์ซู แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรให้จักรวรรดิโรเซ่น
ขณะที่พวกเขาออกไปจากห้องอาหารอาหารที่อยู่บนโต๊ะพวกเขาก็เอาไปด้วย ลูหยางก็ถูก พาเข้าไปในมิติด้วย และเจ้าไหก็สั่งให้เจ๋าฉินอี้ใช้สารพิษเพื่อให้พวกเขาสลบไปก่อน
ทุกคนกําลังนั่นอยู่ในมิติและมองไปที่กันและกัน หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีเสียงเคาะมาจากประตูนอกมิติเสียงนั้นก็คือเสียงของฟูพูดว่า “ทุกอย่างโอเคไหม?”
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เพราะไม่ได้มีใครอยู่ในห้อง ผู้จัดการก็พูดอีกครั้งว่า “งั้นฉันขอเข้าไปนะ” หลังจากที่พูดเขาก็เปิดประตูเข้ามาจากข้างนอก
เมื่อผู้จัดการเห็นบรรยากาศภายในห้อง หลังจากที่เขาเปิดประตู เขาก็ทําได้แค่ยืนนิ่ง จานที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกวางไว้อย่างเรียบร้อยในขณะที่อาหารนั้นหายไป
พนักงานคนอื่นๆที่มาด้วยก็ตกใจ จากนั้นพวกเขาก็หาคนที่อยู่ในห้องนี้ แต่ก็ไม่เจอใครเลยเรื่องนี้ทําให้ผู้จัดการฟูจึงรีบไปหาพนักงานทันที ไม่นานเขาก็วิ่งออกไปข้างนอกและถามคนอื่นๆว่าเจ้าไห่ไปไหน? และดูว่าเขายังอยู่ที่นี่ไหม?
รถของเจ้าไร่ยังคงอยู่ แต่ตัวของเจ้าไห่นั้นหายไป หลังจากส่งอาหารแล้วมีคนที่ไปดูที่ห้องและไม่ได้เห็นใครออกไปไหน แต่คนในห้องก็หายตัวไปอย่างลึกลับ
จากสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาก็ไปเรียกนักเวทย์มาเพื่อดูเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามนักเวทย์ก็ไม่ได้พบกับความผันผวนของพลังเวทย์ภายในห้องนี้
คนในโรงแรมก็ตื่นตระหนกและรายงายสถานการณ์ไปยังหัวหน้าเมืองทันที แต่หลังจากที่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งคืน พวกเขาก็ยังไม่ได้รับผลใดๆตอนกลางดึกพวกเขาก็รู้สึกว่าห้องนี้น่าสงสัยมาก
พวกเขาไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่ได้เห็นจากเจ้าไห่นั้น รู้สึกเหมือนกําลังดูละคร เพราะเห็นว่าพวกเขายุ่งอยู่กับห้อง แต่กลับถอยกลับด้วยความอดทน
ลอร่ามองไปที่ภาพภายในมิติและก็หันไปหาเจ้าไห่และพูดว่า “พี่ไห่สิ่งที่พี่คิดมันถูกพถ้าเราไม่ทําแบบนี้กองกําลังที่ดูแลเมืองจะมาหาพวกเราอย่ารวดเร็วดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนใจกับเรา”
เจ่าไห่ก็พยักหน้าและพูดว่า “ดูเหมือนว่าพวกเขาอยากจะจัดการกับเรา โดยใช้วิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมายฉันคิดว่าตอนนี้เราควรที่จะระวังให้มากขึ้น”
ลอร่าก็หัวเราะและพูดว่า “การใช้วิธีตามกฎหมายในการจัดการกับเราจะเป็นเรื่องยากที่จะทําและตอนนี้เราก็กําลังอยู่ในจักรววรดิโรเซ่น”
เจ้าไห่กณหันหน้าไปและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเราจะต้องพาลูหยางไปที่เมืองสกายด้วย ถ้าเราพาเธอไปที่เมืองคาร์สันเธอจะถูกฆ่าตายแน่ๆ”
ลอร่าก็พยักหน้า ลอร่าถอนหายใจขณะที่เธอพูดว่า “ลูหยางจะเป็นเป้าหมายที่จะถูกทําร้ายจากทุกด้านแน่นอน และก็ดูเหมือนว่าเธอจําเป็นต้องเดินทางไปกับเราเท่านั้น”
เจ้าไหก็พยักหน้าและพูดว่า “มันไม่ใช่ปัญหาที่เธอจะไปกับเรา แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักเธอจะต้องทําให้พวกเราปวดหัวมากแน่ๆ”
ลอร่าก็ยิ้มและเธอก็ไม่รู้จะตอบอะไรเจ่าไห่ ทุกคนพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ และเมื่องพวกเขาเห็นว่าท้องฟ้ากําลังจะสว่างขึ้น พวกเขาก็คอยเฝ้าดูภายในจอขณะที่คนอื่นๆกําลังหลับ
เช้าวันต่อมา เจ้าไห่และคนอื่นๆ ก็มีอาหารเช้าอยู่ภายในมิติ เมื่อพวกขเวมองไปที่จอและเห็นว่ามีกลุ่มคนอื่นกําลังมา เขาก็ต้องรีบออกจากมิติและกลับมาที่ห้องของเขาที่โรงแรม
ผู้จัดการไม่ได้ทําความสะดวกห้อง แต่เจ่าไห่ก็มองไปรอบๆห้อง ขณะที่เขาพูดว่า “ไปปลุกลูหยางพวกเราจะออกไปข้างนอก”
เม็กพยักหน้าขณะที่เธอปลุกลูหยาง และคนอื่นๆ ในขณะที่เรียกชื่อของพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลูหยางและคนอื่นๆก็ยังไม่ตื่นดี พวกเขาค่อยลืมตาขึ้น
เมื่อลูหยางลืมตาและเห็นเจ้าไร่ที่อยู่ข้างๆ ลูหยางก็ไม่ได้ทําอะไร แต่รู้สึกตกใจ จากนั้นเธอก็มองไปที่เง่าไห่และพูดว่า “ทําไมนายน้อยถึงอยู่ในห้องของฉัน? ใครให้นายน้อยเข้ามา?”
เจ้าไหก็ขมวดคิ้วแล้วเขาก็หันไปหาลอร่าและพูดว่า “บอกเธอให้หมดทุกอย่าง”
ลอร่าก็ทําตามสิ่งที่เท่าไห่บอกเธอค่อยอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ลูหยางฟัง ตอนนี้ลูหยางตื่นขึ้ นมาและเห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องเดิมของเธอ
จิลล์และคนติดตามอีก 2 คนก็ตื่นขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรและฟัง ลอร่า พวกเขายังเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที
เมื่อได้ยินว่าทหารของลูหยางถูกฆ่าตาบไป ใบหน้าของทั้ง 4 คนก็ดูไม่ค่อยดีเลยพวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
จนกระทั่งที่ลอร่าพูดจบ สีหน้าของพวกเขาก็ซีดมาก พวกเขาไม่คิดว่าทหารของพวกเขาจะถูกฆ่าตายในขณะที่พวกเขากําลังหลับอยู่
เจ้าไห่มองไปที่ลอร่าและพูดว่า “ลูหยาง ตอนนี้เธอมีทางเลือก 2 ทาง ทางแรกเธอต้องไปกับพวกเราทางที่สองเราจะพาเธอไปที่เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดและไปที่โรงแรมเซรี่ พวกเขาจะรับ ประกันความปลอดภัยของเธอ และฉันจะส่งจดหมายไปหาอีวานเพื่อขอให้เขามารับเธอ จากนั้นเธอก็กลับไปได้เธออยากจะตามเราไปหรือกลับไปที่เมืองของเธอ?”
เจ้าไร่ชอบทางเลือกที่ 2 ที่จะให้ลูหยางไปที่โรงแรมเซรี่และไปบอกอีวานเพื่อมารับเธอไปและมันก็จะทําให้ปัญหาของเขาลดลง
เมื่อได้ยินเจ้าไห่พูดลูหยางก็มองไปที่เง่าไห่ก่อนที่จะพูดว่า “ฉันต้องการไปที่โรงแรมแล้วกลับบ้านของฉัน”
ลูหยางเองก็ไม่ต้องการที่จะเดินทางไกล ตอนนี้สถานการณ์ปัจจุบันนั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเธอไม่อยากเดินทางไปกับเจ่าไห่เธอรู้ว่าถ้าเธอไปกับเจ่าไห่ ก็เหมือนว่าเธอตกอยู่ในอันตรายตลอด
เวลา
เมื่อได้ยินการตัดสินใจของเธอ เจ้าไร่ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น เขากลัวว่าลูหยางจะเดินทางไปกับเขาด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนที่อีกว่าจะมารับเธอกลับ เขาก็ยังต้องดูแลเธอก่อน เขาคิดอยู่ครู่นึ่งก่อนที่เขาจะพยักหน้าและพูดว่า “เธอไปรอจนกว่าจะถึงเมืองใหญ่ต่อไป เราจะให้เธออยู่ที่โรงแรมเซรี่ และเมื่อถึงที่นั่นฉันจะส่งจดหมายถึงอีวานและหลังจากได้รับการตอบกลับแล้ว ฉันจะออกเดินทางต่อไป”
ดูหนางก็พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีกเจ้าไหก็มองเวลาและพูดว่า “เธอออกไปได้แล้ว” ชิวก็เปิดประตูเพื่อให้พวกเขาออกไป
เมื่อกลุ่มของลูหยางมาถึงประตู พวกเขาก็เห็นผู้จัดการที่มาจากการทําความสะอาดจากห้องข้างล่าง เมื่อมองไปที่กลุ่มที่ออกมาจากห้องไม้กวาดในมือของเขาก็ตกลงจากนั้นเขาก็มองไปที่เจ้าไห่และคนอื่นๆ
เจ้าไหก็มองไปที่ผู้จัดการและพูดว่า “ผู้จัดการฉันต้องขอบคุณบริการของคุณเมื่อคืน เป็นที่น่าพอใจมากชิวเอาของที่ระลึกให้กับผู้จัดการหน่อย”
ชิวก็ทําตาม เขาส่งเหรียญทองคําให้กับผู้จัดการที่ยืนตกใจอยู่ ผู้ตจัดการก็ยังคงทําเหรียญทองตก เขามองไปที่กลุ่มของเจ้าไห่ราวกับว่าเขาเพิ่มเห็นผีหลังจากที่มองไปที่เจ๋าไฟเป็นเวลานานผู้จัดการก็ตะโกนเสียงดังและวิ่งลงบันไดไปเขาไม่ได้เอาเหรียญทองที่ตกอยู่บนพื้น
เจ้าไหก็มองไปที่ท่าทางของผู้จัดการพวกเขาก็ไม่ได้ทําอะไร แต่หัวเราะ พวกเขารีบเดินและมุ่งหน้าไปยังชั้นล่างเมื่อพวกเขามาถึงล็อบบี้ พวกเขาก็เห็นคนในโรงแรทตกใจมากขณะที่มอง ทหารที่ยืนอยู่ข้างนอก
เจ่าไห่มองไปที่พนักงานและพูดว่า “ฉันขอเช็คเอาต์”
พนักงานก็บอกกับเจ่าไห่ว่า “นายน้อยมีทหารหลายคนกําลังหาคุณอยู่ข้างนอกนะ”
เจ่าไห่ก็มองไปที่ดวงตาของพนักงานและพูดว่า “จริงหรอ? อันที่จริงไม่จําเป็นต้องบอกเพราะฉันเห็นมานานแล้ว”
เจ้าไหมองไปที่ทหารและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกทหารมาหาฉันทําไม่”
ทหารที่อยู่ข้างนอกก็พูดว่า “เมื่อวานนี้ นายน้อยถูกโจมตีโดยทหารรับจ้างใช่ไหม?”
เจ้าไหก็หยักหน้าและพูดว่า “คนที่อยู่ที่โรงแรมนี้เป็นพยานได้ แต่ฉันได้จัดการพวกมันทั้งหมดไปแล้ว”
ทหารพวกนั้นก็พูดว่า “ดีมากกับการยอมรับ ตอนนี้มากับฉันเราคิดว่านายน้อยฆ่าทหางรับจ้างเหล่านั้น ซึ่งมันผิดกฎหมาย”
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ