Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 295
บทที่ 295 – แก้แค้น!
และจู่ๆ ทหารที่เฝ้าอยู่ก็ตะโกนว่า เห็นแล้วๆ เจ๋าไห่มาหาพวกเราแล้ว
และเมื่อเวลส์ได้ยินสิ่งที่ทหารคนนั้นพูด เขาก็รีบลุกขึ้นยืนและรีบวิ่งออกไปเพื่อถามทหารคนนี้นว่าจริงหรอ?
โบเกนซึ่งเป็นทหารของเวลส์ตอบเขาด้วยความตื่นเต้นว่า “ใช่แล้วหัวหน้า นั่นเป็นขบวนรถของเจ้าไห่อย่างแน่นอน มันอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เราอยู่มากนัก อีกไม่นานเกินรอพวกเขาคงมาถึง”
เวลส์หัวเราะแล้วเขาก็รีบวิ่งออกไปโดยที่มีฟาโรม่าและเม็นเดซเดินตามเขาไป และทหารโบเกนก็ได้วิ่งตามหลังเวลส์ไปด้วย และภายในเต็นท์ก็เหลือเพียงโคนีที่มองดูโดยที่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะ
โคนี้ได้เห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของเวลส์ เขามองไปที่เต็นท์ซึ่งไม่ได้มีใครอยู่แล้ว และบ่นอะไรบ้างอย่างออกมาว่า “ทําไมเวลส์และคนอื่นๆถึงดูดใจขนาดนั้น ลองออกไปดูบ้างดีกว่าว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน” โคนียืนขึ้นและค่อยเดินออกไปจากเต็นท์
ขณะที่เขาเดินมาถึงนั้น เขาก็เห็นว่าเวลส์ขึ้นม้าและกําลังจะออกไปจากค่าย เสียงของม้าที่เวลส์ได้นําออกไปทําไมเกิดเสียงดังจึงทําให้เผ่าเฮคัสคิดว่าพวกเขาจะถูกโจมตีอีกครั้งหลายๆคนก็ได้จับอาวุธของพวกเขาขึ้นมา และก็เดินไปทางที่เวลส์ได้ออกไป
โคนี่รู้สึกตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเวลส์ออกไปทําไม แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าชาวเผ่าเฮคัสจะมีความเตรียมพร้อมขนาดนี้ และตอนนี้โคนีก้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเพราะว่าชาวเผ่าเฮคัสเข้าใจผิดว่าจะมีคนมาโจมตีพวกเขา
โคนี้ก็ไม่ได้ทําอะไรนอกเหนือจากนั้น แต่รู้สึกตกใจมากและเขาก็ได้ฟังบางอย่างที่ฟาโรม่าพูดออกมา ภายในเผ่าเฮคัสนั้น โคนี้สามารถคุยกับฟาโรม่าได้เพราะเขาทั้งสองเป็นคนรุ่นเดียวกันและได้เป็นเพื่อนกัน นอกจากนี้เขายังเข้าใจดีว่าฟาโรม่าเป็นคนที่ฉลาดมาก จึงทําให้โคนีฟังสิ่งที่ฟาโรม่าเป็นคนพูดมาโดยตลอด
และโคนีก็คิดว่าถ้าเขาไม่ได้รู้จักกับฟาโรม่า เขาก็คงไม่อาจจะประสบความสําเร็จแบบนี้แน่ๆ ตอนนี้เขาคิดว่าเผ่าเฮคัสอยู่ห่างจากสภาพเดิมอยู่มาก คนในเผ่ายังดูกลัวๆกับการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นมันทําให้พวกเขารู้สึกตกใจอยู่ตลอดเวลา และมันก็ยิ่งทําให้โคนี้รู้สึกโกรธมาก
ตัว..โคนีเองไม่เคยกลัวใครภายในทุ่งหญ้าแห่งนี้เลย ไม่ว่าพวกเขาจะเจอกับเผ่าใด เขาก็ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าพวกเขาจะแพ้สักกี่ครั้งพวกเขาก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ แต่เมื่อเขาได้มองไปที่คนในเผ่าของเขา เขาก็รู้สึกได้ว่าคนเหล่านี้อยู่ในตอนที่กําลังเสียกําลังใจอยู่
แล้วเขาก็รู้ดีว่าถึงแม้ว่าเวลส์จะขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่ามันก็ยังช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่มันก็ไม่มีทางออกจริงๆ ในตอนนี้เวลส์ก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าเฮคัสแล้ว และโคนีก็มองเห็นบางสิ่งที่ทุกคนเหมือนจะตื่นเต้นกับมันมาก สิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรกเลยก็คือธงของเผ่าเฮคัส อ่านนิยายได้ที่ wwwcat2auto.com
และเมื่อเจ้าไห่มาถึงเวลส์ก็หัวเราะและกระโดดลงจากหลังจองม้าเวลส์รีบเดินไปกอดเจ้าไห่และพูดด้วยความดีใจว่า “ทําไมนายถึงทําให้ฉันรอนานขนาดนี้”
เจ้าไหก็หัวเราะและพูดว่า ” พี่เวลส์จะมาโทษฉันไม่ได้นะ แต่ฉันคิดว่าถ้าฉันมาช้ากว่านี้ พี่เวลส์ต้องฆ่าฉันแน่ๆเลย”
เวลส์หัวเราะและเขาก็หันไปที่เกวียนที่เง่าไห่นั่งมา เขาก็มองไปที่เง่าไห่และถามว่า ” ทําไม นายถึงใช้เกวียนในการเดินทางหล่ะน้องชาย?”
เจ่าไหยิ้มและตอบไปว่า “ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันได้นํามานั้นจะเป็นผลดีต่อคนในเผ่าแน่นอน ถึงแม้ว่ามันจะน้อยกว่าปกติก็ตาม”
เวลส์หัวเราะและตบไปที่ไหล่ของเจ้าไห่ เขารู้ดีว่าสิ่งที่เจ๋าไห้ได้ทํานั้นก็เพื่อเผ่าเฮคัสของเขา
ในเวลานี้เป็นเดซและฟาโรม่สก็มาถึงด้วยและทั้งคู่ก็เดินตรงไปหาเจ่าไห่ และหัวเราะออกมาทําให้ผู้คนที่อยู่แถวนั้นรู้สึกตกใจมากว่าพวกเขาทั้งสองหัวเราะอะไรกัน?
เวลส์ยังสังเกตเห็นว่าด้านหลังเกวียนของเจ้าไห่ มีแกะประมาณ 10,000 ตัว แกะเหล่านี้น่าจะมาจากการค้าขายกับเผ่าราชาแน่นอน เล่าให้เป็นคนที่รู้ดีว่าแกะพวกนี้เป็นที่จําเป็นมากต่อชาวเผ่าที่ทุ่งหญ้าแห่งนี้ เขาคิดว่าเขาจะให้แกะพวกนี้แก่เวลส์
และเวลส์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เขาได้พาเจ่าไห่กลับไปที่ค่ายของพวกเขา แม้ว่าค่ายของพวกเขาจะมีแกะเป็นจํานวนมากอยู่แล้ว แต่ถ้ามองถึงจํานวนคนของเขาแล้ว แกะที่พวกเขามีมันก็ยังน้อยเกินไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ๋าไม่ได้นํามานั้น มันเป็นสิ่งที่สําคัญมากๆกับเผ่าเฮคัส และมันก็ยังทําให้คนที่นั่นมีกําลังใจมากขึ้นอีกด้วย
และที่ยืนอยู่ด้านหลังก็มองไปที่เจ้าไห่อย่างละเอียดมากๆ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทําไมทุกคนถึงเป็นกันแบบนั้นเพราะเจ้าไห่เป็นคนที่สําคัญกับพวกเขาไงหล่ะ
โคนีมองไปที่เจ้าไห่ เขาไม่รู้เลยว่าคนตัวเล็กๆแบบเจ่าไห่จะสามาระทําอะไรได้บ้าง ในการต่อสู้ ที่จะมาถึง
หลังจากที่นําแกะให้เวลส์และขนพืชที่เจ๋าไห่นําลงมา 100 กิโลเสร็จ เจ๋าไร่ก็ได้นั่งพักก่อนที่จะทําอย่างอื่นต่อ เวลส์จับไปที่ไหล่ของเจ้าไห่และเขาก็ได้กระโดดขึ้นไปบนกองพืชที่เจ๋าไห้ได้นํามาเขามองไปรอบๆ และก็พูดออกมาว่า ”เผ่าของฉันในปีนี้เจอเรื่องร้ายมาเยาะมาแล้ว หัวหน้าเผ่าซึ่งเป็นพ่อของฉันก็ถูกฆ่าตาม แถมพวกเรายังถูกโจมตีโดยเผ่าบูลซึ่งขับไล่พวกเราออกมาอีกด้วย มันทําให้หลายคนคิดว่าเผ่าของเราถึงจุดจบไปแล้ว แต่ฉันบอกได้เลยว่าเผ่าของเรายังไม่ได้แพ้กับใครทั้งนั้นเพียงแค่มาเพื่อเตรียมตัวก่อนเท่านั้น และพร้อมที่จะโจมตีกลับเมื่อไหร่พวกคุณจะรู้ว่าเรายังไม่ได้หายไปไหน”
คนที่อยู่ที่นั่นมองไปที่เวลส์ด้วยความไม่เข้าใจและพวกเขาก็เดินไปรอบๆกองพืชที่เจ่าไห่นํามาและสิ่งที่เวลส์ได้พูดออกมานั้นความรู้สึกตอนที่พวกเขาถูกโจมตีโดยเผ่าบูลมันเหมือนกับฟ้าที่พังทลายลงมาทั้งหมด พวกเขารู้เพียวอย่างเดียวเลยว่าเผ่าเฮคัสถึงจุดจบแล้ว
เวลส์มองไปที่คนในเผ่าของเขา เขารู้ว่าตอนนี้คําพูดของเขามีผลต่อเผ่าเป็นอย่างมากดังนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ฉันมีข่าวดีที่จะบอกกับทุกคน ตอนนี้ผู้เฒ่าของเผ่าได้หายจากการบาดเจ็บแล้วและเขาก็จะสอนการต่อสู้ของเผ่าให้กับพวกเราด้วย!”
ตอนนี้คนในเผ่าจากที่เคยเห็นภาพที่เป็นสีทา แต่ตอนนี้พวกเขาดูเหมือนจะเห็นภาพที่มีสีสันมากขึ้นแล้ว และผู้คนก็ตะโกนออกมา ด้วยความตื่นเต้นมาก
เวลส์โบกมือ และผู้คนที่นั่นก็เริ่มสงบลง เวลส์ก็พูดต่อไปอีกว่า “ที่เผ่ามูลได้โจมตีเรานั้ พวกเขาไม่ได้ใช้พลังของพวกเขาเอง และตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้มีความช่วยเหลือจากใครอีกแล้วดังนั้นตอนนี้มันก็เป็นโอกาสที่ดีของพวกเราแล้วที่จะแก้แค้นพวกมัน!”
และเมื่อเวลส์พูดจบ ทุกคนในเผ่าก็ตะโกนเป็นคําเดียวกันออกมาว่า “แก้แค้น! แก้แค้น!”
เวลส์ก็ยังพูดต่อไปว่า ” ทุกคน ชายคนนี้คือเจ่าไห่, เขาเป็นพี่น้องร่วมสาบานของฉันเอง เขาเป็นพ่อค้าที่มาจากทวีปอื่นและเขายังเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งอีกด้วย เขามีเมล็ดพืชและยินดีที่จะสนับสนุนเราในการแก้แค้นในครั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รวบรวมข้อมูลของเผ่าราชาให้กับพวกเรา และตอนนี้เขามาถึงที่นี่ ซึ่งถือครองพืชจํานวนนับไม่ถ้วน ขณะที่เรามีอาหารแล้ว เราจะเติมกระเพาะอาหารของเรา เราจะกินจนกว่าเราจะอิ่มมาก เพื่อให้เรามีความแข็งแรงที่จะต่อสู้ฉันขอแนะนําว่าตั้งแต่วันนี้ทุกคนจะต้องทําให้อาวุธของคุณคมขึ้น เพื่อเตรียมตัวกลับไปต่อสู้เพื่อแก้แค้นและเรียกร้องดินแดนของเราคืน ทุกคนก็ตะโกนดังขึ้นว่า “เราจะไปเอาบ้านของเราคืน!!”
เวลส์ก็ได้พูกต่อไปอีกว่า ” ทุกคนจงไปกินอาหารให้เต็มอิ่มเพื่อที่จะทําสงครามเถอะ!” เวลส์สั่งให้ทหารของเขาแบ่งพืชและข้าวกับทุกคนๆ
ตอนนี้มีคนที่อยู่ที่นั่นประมาณ 500,000 คน แต่เจ๋าไห้ได้นําข้าวมาจํานวนมากกว่า 100 กิโลกรัม ซึ่งหมายความว่าแต่ละคนจะได้รับข้าว 200 กิโลต่อคน แต่พวกเขาจะต้องนําข้าวพวกนี้ไปให้ครอบครัวของพวกเขาอีก แต่ข้าวพวกนี้ก็มีจํานวนที่มากพออยู่แล้ว
ขณะที่พวกเขากําลังแจกเมล็ดพืช เวลส์ก็พาเจ้าไห้ไปที่เต็นท์ของเขา หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเต็นท์ เวลส์ก็หัวเราะ เมนเดซหัวเราะฟาโรม่าก็ยิ้มออกมา เจ๋าไม่รู้สึกเขินและไม่รู้ว่าพวกเขาทําแบบนั้นทําไม
ตอนนี้โคนี้ก็มองไปที่เง่าไห่และกลุ่มของเขา โคนี้ไม่คิดว่าเจ้าไห่จะสามารถเอาอาหารจํานวนมากขนาดนี้มาให้กับพวกเขาได้ตอนนี้เขาเข้าใจว่าเวลส์หมายความว่าอย่างไร เขาเชื่อว่าเผ่าเฮคัสตอนนี้มีโอกาสที่ดีที่จะคืนความรุ่งเรืองในอดีตของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะถูกนําไปสู่การต่อสู้ในขณะนี้ ทุกคนก็พร้อมที่จะเห็นด้วยกับเขา
ขวัญกําลังใจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้และไม่สามารถสัมผัสได้ แต่สิ่งนี้สามารถตัดสินผลของสงครามได้ถ้ากองทัพไม่ได้มีขวัญกําลังใจ ถึงแม้จะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพ่ายแพ้แก่กลุ่มชาวนาที่โกรธพร้อมกับอาวุธร้ายแรง นี่คือสิ่งที่กําลังใจใน การต่อสู้
ก่อนหน้านี้สิ่งที่เผ่าเฮคัสขาดมากที่สุดคือขวัญกําลังใจ แต่ตอนนี้พวกเขาได้กู้คืนมันกลับมาแล้วการเดินหน้าต่อของเผ่ากําลังจะเริ่มขึ้น พวกเขาจะมีความกล้ามากขึ้นที่จะเอาดินแดนของพวกเขาคืนมา
หลังจากนั้นเวลส์ก็หยุดลง เขาหันไปหาเจ้าไห่ยิ้มและพูดว่า “น้องชายนายมาได้ทันเวลาพอดีเลยตอนนี้เรากําลังจะเริ่มแผนการแก้แค้นแล้ว”
เจ่าไห่ยิ้มและตอบเวลส์กลับไปว่า “ยังไม่สายเกินไป พี่ใหญ่ มีอะไรให้ฉันช่วยหรือไม่? พี่วางแผนจะเริ่มต้นเมื่อไหร่?”
เวลส์คิดแล้วตอบว่า “เราจําเป็นต้องเริ่มให้เร็วที่สุด ในขณะนี้กําลังใจในการต่อสู้ที่กําลังฟื้นตัวถ้ากําลังใจในการต่อสู้หมดไปก็จะลําบาก พี่คิดว่าเราควรติดต่อกับเผ่ามาร์ซี พวกเขาจะได้ส่งเทพผู้มีพลังมาช่วยพวกเราได้ทันเวลา”
เจ่าไห่พยักหน้าและพูดว่า “ฉันไม่ได้มีปัญหาใดๆ ฉันคิดว่าเราจะต้องมีของขวัญไปให้เผ่ามาร์ซีเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนด้วยหรือไม่? เมื่อฉันไม่อยู่ที่นี่ฉันไม่สามารถจัดเตรียมสิ่งต่างๆได้ ตอนที่ฉันมาพี่สามารถบอกฉันได้ว่าพี่ต้องการอะไรฉันจะมอบให้พี่เอง”
เวลส์ก็ตอบเล่าให้ไปว่า “น้องชาย, เนื่องจากเผ่ามาร์ซีได้ช่วยชีวิตพวกเรา ถ้าพวกเขาไม่ช่วยเหลือเราพวกเราก็คงไม่ได้มารวมตัวกันอยู่แบบนี้แน่ๆ น้องชายคิดว่าเราควรมอบของให้แก่พวก เขาไหม?”
เจ้าไห่คิดและก็กล่าวว่า “ฉันมีเมล็ดข้าวจํานวนมากอยู่ในมือ แต่ถ้าเราให้ของทั้งหมดแก่พวกเขาแล้ววันของพี่จะไม่ดี พี่ชาย, สําหรับตอนนี้เราจะให้ไวน์นม, ผัก, น้ํามันผลไม้เป็นของขวัญพี่คิดว่ายังไง?”
เวลส์มองผักและผลไม้ที่เขาเข้าใจ แต่ไวน์นมที่เจ้าให้พูดมันเบี้ยของที่ธรรมดามากเลยนะ ทําไมเจ๋าไร่ถึงจะมอบไวน์นมเป็นของขวัญหล่ะ?
เจ้าไหมองไปที่ท่าทางของเวลสีและเขาก็เข้าใจสิ่งที่เวลส์คิด เจ๋าไห้ยิ้มและส่งมอบไวน์นมไปให้เวลส์และพูดว่า “พี่เวลส์, ลิ้มรสมันก่อน นี่คือไวน์นมของฉันเอง”
ถึงแม้จะตกใจเวลส์ก็ยิ้มและหยิบขึ้นมาและถามว่า “อะไรกัน? ทําไมนายถึงเริ่มผลิตไวน์นม?นายต้องการที่จะเป็นชาวเผ่างั้นหรอ?” ในขณะที่พูดเขาเทไวน์บนถ้วย
ในขณะที่ไวน์ถูกเทออกมาจากเหยือกคนในเต็นท์สูดอากาศเข้าไปในจมูกของพวกเขาโดยไม่เจตนาเพราะกลิ่นของไวน์มีกลิ่นหอมมากและเป็นกลิ่นที่พวกเขาไม่เคยได้กลิ่น
เวลส์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเอาถ้วยและเทไวน์นมอีกครั้ง แต่เขาไม่คิดว่าไวน์นี้จะแรงมาก เขาสําลักและเริ่มไอทันที เจ่าไร่อยู่ที่นั่นเขายิ้ม ลอร่าอยู่ข้างๆ หัวเราะแล้วพวกเขาก็คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
หลังจากเวลาผ่านไปเวลส์ก็หยุดไอ เขาเหลือบมองไวน์นมที่อยู่ในมือของเขา เขามองไปที่เจ้าไห่และถามว่า ”เจ้าไหนเป็นไวน์นมงั้นหรอ? ทําไมมันถึงไม่มีสี? และทําไมมันจึงมีกลิ่นหอม? นายทํามันได้อย่างไร?”
เจ้าไห่ยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่สามารถบอกพี่ได้ว่าไวน์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ของฉัน มันเป็นอย่างไรบ้าง? มันมีคุณสมบัติที่จะเป็นของขวัญได้หรือไม่?”
เวลส์สายหัวและพูดว่า “น้องชายอย่าให้ของขวัญนี้แก่พวกเขาเลย แต่เอามาให้ฉันเถอะ ฉันไม่สามารถทนเห็นคนอื่นๆ เอาไวน์นี้ไปได้”
เจ้าไห่หัวเราะเสียงดัง
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับที่ติดตาม