Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 294
บทที่ 294 – เดินทางออก
เมื่อเห็นเบลล์เดินมาหาพวกเขา ลอร่าหันไปหาเจ่าไห่และพูดว่า “พี่ให้เราสามารถผลิดไวน์นมได้ประมาณ 1,000 ลิตรต่อเดือนทำไมเราถึงขายให้เบลล์เพียง 1,000 หยวน?”
เจ่าไห่ยิ้มและก็ตอบเธอว่า “สิ่งที่ดีนั้นควรอยู่ในราคาที่น้อยมันจะทำให้สินค้าน่าสนใจมาก ถ้าเราจัดการมันดีๆแล้วมันจะไม่ใช่ของที่มีราคาถูกเลย ตอนนี้เราสามารถขายได้ในจำนวนที่ยังไม่มากนัก ฉันคิดว่าถ้าเราขายไปเรื่อยๆแล้ว เราจึงจะเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น ซึ่งจะมีเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก”
และเนื่องจากที่ลอร่าเคยเป็นแม่ค้า เธอจึงเข้าใจกับสิ่งที่เล่าให้พูด เธอยิ้มและก็ไปได้ตอบสนองอะไรและพูดว่า “แล้วเราจะจัดการกับเบลล์ได้อย่างไร? เพราะเราไม่ได้มีร้านค้าอยู่ที่โอกิสะ”
เจ่าไห่ส่ายหัวและเขาก็ตอบลอร่าว่า “ถึงแม้ว่าเราจะสามารถส่งสินค้าได้ แต่เราก็ไม่อาจจะใช้มันได้ เพราะมันจะทำให้คนอื่นรู้ว่าเราใช้อะไรในการผลิตไวน์นม และจุดที่เราจะส่งของให้เบลล์ควรอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็น เนื่องจากถ้ามีใครเห็นเรา พวกเขาจะคิดว่าเราซื้อมาและขายต่อพวกเขา”
ลอร่าเข้าใจดีกับสิ่งที่เล่าให้ได้บอกเธอ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่เธอก็ยังรู้สึกกังวลและพูดว่า “มันมีความเสี่ยงมากที่เราจะทำอะไรแบบนั้น แต่ถ้าเราถูกเห็นมันก็จะทำให้เราฟังไปหมดเลยก็ได้นะพี่ให้”
เจ่าไห่พยักหน้าและตอบว่า “ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้อีกแล้ว เราจะไปที่ชายแดนที่โอกิสะ ซึ่งเราจะวางจุดเข้าออกไว้ที่นั่น”
ลอร่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เล่าให้ได้เสนอมา แต่เธอก็ไม่เคยไปที่โอกิสะมาก่อน จึงทำให้เห็นไม่ได้คุ้นกับสถานที่แห่งนั้น แต่อย่างไรก็ตามที่เธอเห็นด้วยกับคำพูดของเจ่าไห่ก็เพราะ ถ้าพวกเขาต้องการที่จะขายไวน์นมที่โอกิสะ มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่พวกเขาจะทำแบบนั้น และไม่ให้ใครเห็น
แม้ว่าเจ่าไห่จะเคยได้ยินว่ากิลแห่งความสว่างจะมีอิทธิพลต่อทุ่งหญ้าแห่งนี้ แต่อิทธิพลของพวกมันก็ยังไม่ได้ควบคุมไปทั้งหมดของทุ่งหญ้า
วันนี้เป็นวันที่เงียบมากจริงๆ และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เผ่าราชาดูเงียบสงบมากๆ แม้ว่าพวกเขาจะเสียบทหารไปถึง 5,000 คน แต่พวกเขาก็มิอาจจะหาคนของเขาได้เลย จึงทำให้พวกเขาปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปอย่างเงียบๆ
เผ่าดูเงียบมากเมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว ผู้คนทั้งหมดมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องเตรียมตัวก่อน พวกเขาไม่มีเวลาที่จะทำอะไรแบบไร้สาระ และเจ่าไห่ก็ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเขารู้สึกว่าข้อมูลที่เขาได้นั้นมันก็เพียงพอแล้ว มันก็เลยทำให้ตอนนี้เจ่าไห่ไม่มีอะไรจะทำ แต่ตอนนี้เจ่าไห่ก็ทำได้เพียงแค่รอขบวนรถสินค้ารอบสุดท้ายมาถึงเท่านั้น
แล้ววันรุ่งขึ้นเบลล์ก็ได้เดินทางออกจากเผ่าไป เหมือนกับที่เขาเคยบอกกับเจ่าไห่ไว้แล้ว ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วและฤดูหนาวในทุ่งหญ้ามันแย่มาก ไม่ต้องพูดถึงลมและพายุหิมะก็จะมีหมาป่าหลงทางมา
หมาป่ายังสามารถจัดให้เป็นหนึ่งในภัยพิบัติของทุ่งหญ้าเลยก็ได้ ในช่วงฤดูหนาวเพราะเหล่าสัตว์เวทย์จะหายากมาก และหมาปาจำนวนมากจะมารวมตัวกันเพื่อโจมตีชาวเผ่า ด้วยเหตุนี้ก็มีเผ่าจำนวนมากที่ถูกโจมตีและตายไปจนหมด
มันเป็นเพราะคนเหล่านั้นที่จะกลับไปยังดินแดนของพวกเขาในช่วงฤดูหนาว เมื่อฤดูใบไม้ผลิของปีหน้ามาถึงจะมีมนุษย์เดินกลับไปที่ทุ่งหญ้ากระบวนการนี้กลายเป็นเหมือนการเคลื่อนไหวของน้ำขึ้นทุกปี
ในวันต่อมาชีวิตของเจ่าไห่ก็สงบมาก บางครั้งเบต้าก็พบว่าตัวเองมีหน้าแดงขึ้นดูเหมือนว่าเขาดื่มเหล้าแล้ว นี้ทำให้เจ่าไห่เสียใจที่เขาไม่ได้คิดว่าเพราะสุราของเขาจะทำให้เบต้าเป็นคนขี้เมา
อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับครั้งแรกที่เจ่าไห่ยังคงให้ไวน์แก่เบต้า ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกัน และแม้ว่าเจ่าไห่จะไม่ได้ให้ไวน์แก่เขาก็ตาม เขาก็ยังเมาได้อยู่ทุกๆวัน
และไม่กี่วันต่อมาขบวนรถของเจ่าไห่รอบสุดท้ายก็มาถึงที่เผ่าราชา ก่อนที่ขบวนรถจะมาถึงเจ่าไห่ก็เอาสิ่งของทั้งหมดของเขาขึ้นมา เมื่อขบวนมาถึงเจ่าไห่ก็ขนของขึ้นรถทันที และบอกคำลาเผ่าราชาด้วยความรวดเร็ว
แต่ก่อนที่จะออก เจ่าไห่ก็ได้ให้ไวน์กับเบต้าอีก 50 ลิตร ของไวน์นม เบต้ามีความสุขมาก แต่ค ราวนี้เขาไม่กล้าที่จะเมาจนเกินไป เขาตัดสินใจที่จะเก็บไวน์ไว้และจะไม่ดื่มมันทั้งหมดก่อนที่เจ่าไห่ จะกลับมาที่ทุ่งหญ้า แต่น่าเสียดายที่เขาจะไม่นึกว่าครั้งต่อไปที่เขาและเจ่าไห่จะได้พบกันพวกเขา จะเป็นศัตรูกัน
หลังจากที่เจ่าไห่ออกจากเผ่าราชาไป เขาก็เดินตามเส้นทางก่อนหน้านี้และเดินไปยังเผ่าเฮคัสเจ่าไห่ไม่ได้จะเข้ามิติไปในดินแดนแห่งนี้เพราะอาจจะมีคนพบพวกเขา
เจ่าไห่ได้มอบบ้างอย่างให้กับเผ่าราชา และเขาก็เดินออกจาเผ่าไปและก็หายไป
จากนั้นพวกเขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังเผ่าเฮคัส และเมื่อออกมาไกลจากเผ่าราชาแล้ว เจ่าไห่ก็ได้ เข้าไปในมิติ
ตอนนี้สถานะการณ์ของเวลส์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะพืชที่เจ่าไห่ได้ให้ไว้มันกำลังจะหมด มันทำให้คนในชนเผ่าอารมณ์แปรปรวนทุกคนดูเหมือนจะคิดว่าสถานการณ์ของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนให้ดีขึ้น
แม้ว่าเวลส์กำลังพยายามหาวิธีที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ แต่ก็ยังไม่มีทางออก แม้ว่าเขาจะได้พืชจากเจ่าไห่ทุกวัน แต่กระเปามิติก็มีขนาดที่จำกัด แต่จะไม่มีวิธีใดในการส่งอาหารให้กับคนของเขาได้จำนวนมาก ทุกครั้งที่อาหารถูกส่งไปยังค่าย อาหารก็จะถูกกินทันที ทำให้คนกังวลเกี่ยวกับอาหารต่อไปของพวกเขาซึ่งต่อไปจะทำให้พวกเขามองโลกในแง่ร้าย
ตอนนี้เวลส์ต้องการให้เจ่าไห่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับจดหมายจากเจ่าไห่ เมื่อห้าวันก่อนว่าเขากำลังจะมาถึง และเจ่าไห่ก็ยังมาไม่ถึง ปัจจุบันเวลส์รู้สึกว่าทุกๆวันดูเหมือนจะยาวนานมากๆๆ
เขารู้ดีว่าเวลาที่ดีที่สุดในการโต้กลับจะเป็นตอนนี้ เพราะขณะนี้เผ่าบูลกำลังขาดแคลนทหารพวกเขาอยู่ห่างออกไปและตอนนี้เขาได้รับข้อมูลจากเจ่าไห่ว่าคนที่ช่วยพวกเขามาจากกิลแห่งความสว่าง ซึ่งเป็นข่าวดีเนื่องจากเขาสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อรับความช่วยเหลือจากเผ่าอื่นๆได้
แม้ว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้จะทำให้เห็นได้ชัดว่ามีเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการประสบความสำเร็จในการต่อสู้ในครั้งนี้ ถ้าขวัญกำลังใจของไม่สูงพอแล้วสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจเป็นเรื่องว่างเปล่า อย่างไรก็ตามเขาอาจเชิญเทพคนอื่นๆ เข้ามารับมือกับเผ่ามูลได้ แต่เขาไม่สามารถเชิญทหารของคนอื่น
เขากล่าวว่าเวลส์ยังมีความภาคภูมิใจของตัวเอง เขาหวังว่าสิ่งที่เผ่าเฮคัสได้ทำหายไป พวกเขาเองจะเป็นคนที่จะเรียกคืนหรือไม่ก็ตาม เผ่าเฮคัสไม่สามารถถือชื่อของการเป็นผู้ปกครองได้
ปัจจุบันเวลส์กำลังนั่งอยู่ในเต็นท์ของเขา ฟาโรม่าและเม็นเดซกำลังนั่งอยู่ข้างๆเขา มีชายอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ในเต็นท์ ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่น แต่ร่างกายของเขาดูแข็งแรงมาก เขามีดวงตาที่แสดงให้เห็นภูมิปัญญาและกลิ่นอายของราชา
ชายคนนี้เป็นคนของเผ่าเฮคัสชื่อ “โคนี” เขาเป็นเพื่อนของพ่อของเวลส์ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาก็ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่พี่น้อง อาจกล่าวได้ว่าเวลส์และกลุ่มของเขาเติบโตขึ้นขณะมองขึ้นไปยังเขา เขายังเป็นเทพผู้มีพลังระดับแปดอีกด้วย และมีความภักดีและทุ่มเทให้กับพ่อของเวลส์ เขาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่กาซอลไม่สามารถขึ้นที่นั่งของหัวหน้าเผ่า หลังจากที่ได้ฆ่าพ่อของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นโคนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชนเผ่า ซึ่งเป็นนักรบที่กล้าหาญของเผ่าเฮคัส ที่มีความกล้าหาญและความยิ่งใหญ่ทางทหาร เขามีส่วนอย่างมากของความสำเร็จที่เผ่าเฮคัสมี
อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับชายคนนี้ เช่นเดียวกับพ่อของเวลส์ผู้เฒ่าโคนี ไม่เคยมีความเชื่อมั่นต่อมนุษย์คนอื่นๆ เขาไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นๆเลย เขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับคนอื่นๆมากนัก
เวลส์ได้พูดกับเม็นเดซว่า ” พี่ชายที่หก ทำไมเจ่าไห่ยังมาไม่ถึงอีก?”
เป็นเดซตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงเดียวเจ่าไห่ก็มาถึง”
จู่ๆ โคนีก็พูดว่า “ทำไมเธอถึงพูดถึงคนนอกเผ่าแบบนี้เราไม่มีวิธีอื่นเลยหรอ? สำหรับฉันตั้งแต่ฤดูหนาวยังคงไม่บานเต็มที่ ทำไมไม่ไปสู่ดินแดนของเผ่าบูลเลย และการแย่งชิงพืชบางส่วนไม่เพียง แต่เราจะมีอาหารเท่านั้น แต่เราก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าอื่นๆได้ด้วย”
เวลส์ไม่สามารถทนกับคำแนะนำของโคนี้แม้ว่าโคนี้จะมีพลังมาก และคราวนี้เขาต้องการที่จะโจมตีเผ่าบูล ถ้าเป็นเผ่าเฮคัสที่จะทำให้เกิดปัญหาเผ่าบูลแล้ว เผ่าบูลอาจถูกผลักดันให้เป็นพันธมิตรซึ่งจะสร้างปัญหามากขึ้น ถ้าเผ่าอื่นๆไปเข้าข้างเผ่าบูลมันก็จะเป็นปัญหากับเรามาก
จบบทแล้วนะครับ หากอ่านไม่เข้าใจก็ขออภัยด้วยนะครับ