Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 290
บทที่ 290 – หนึ่งในพวกเรา
เบลล์ปรากฏตัวที่นี่ โดยไม่คาดฝัน และลอร่าก็เคยให้ความร่วมมือกับเขามาก่อน แต่ลอร่าก็ไม่ได้ร่วมมือกับเขามากเกินไป
เหตุผลที่ลอร่าไม่ได้ร่วมมือกับเบลล์อย่างจริงจัง ก็เพราะชื่อเสียงของเบลล์นั้นไม่ค่อยจะดีนัก
ลอร่าชี้ว่าเบลล์และทอมป์สันเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเขาจะใช้วิธีการทั้งหมดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแม้ว่าจะผิดจรรยาบรรณก็ตาม ความคิดนี้ทำให้ทอมป์สันเปลี่ยนตระกูลมาร์กี้ให้กลายเป็นตระกูลพ่อค้าที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้เบลล์ยังทำให้ตนเองเป็นพ่อค้ารายใหญ่ที่สุดในโอกิสะ
เพราะวิธีการที่เบลล์ทำนั้น ทำให้ลอร่ารู้สึกว่าตัวเขาเองไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบ ดังนั้นการร่วมมือของเขาทั้งสองก็ได้จบลง
ตอนนี้เจ่าไห่นั่งอยู่ในเต็นท์ ขณะที่เขามองภาพบนจอ ขณะนี้ในจอแสดงภาพของเบลล์ ที่อยู่ไม่ไกลจากเจ่าไห่มากนัก เบลล์ได้พักเต็นท์แบบเดียวกับเจ่าไห่ที่ถูกเตรียมไว้โดยเผ่าราชา
หลังจากที่เจ่าไห่ได้ยินชื่อเสียงของเบลล์, เล่าให้รู้สึกว่าเบลล์เป็นคนที่น่าเกรงขามมาก ดังนั้นเขาจำเป็นต้องให้ความสนใจกับเบลล์มากเป็นพิเศษ
เจ่าไห่ก็ยังต้องการที่จะรู้ประวัติของคนที่มากับเบลล์ด้วย เพราะพวกเขานั้นมีจำนวนที่เยอะมาก พวกเขามีนักรบที่อยู่ในระดับ 6 หลายคนและก็ยังมี นักรบที่อยู่ในระดับ 8 อีก 7 คน มีนักรบที่อยู่ในระดับ 5 อีก 20 คน และก็ยังมีทหารอีก 200 คน
ซึ่งก็แน่นอนว่า ความแข็งแกร่งของกลุ่มเบลล์ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมองข้ามเลย ถ้าหากเจ่าไห่และเบลล์ได้ต่อสู้กันก็อาจจะบอกได้เลยว่าใครจะเป็นคนที่ชนะ
แต่อย่างไรก็ตามเจ่าไห่ก็ไม่ได้เป็นห่วงเลยที่เบลล์จะมีปัญหากับพวกเขา เพราะเบลล์ก็ไม่กล้าทำมันหรอก พวกเขาอยู่ในทุ่งหญ้า พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามกฎ ถ้าพวกเขากล้าที่จะทำให้เกิดปัญหามันก็เหมือนกับว่าพวเขาไม่ได้เคารพกฏของทุ่งหญ้าแห่งนี้
เจ่าไห่รู้ดีว่ากลุ่มของเบลล์นั้นไม่ได้อยู่จุดที่ต่ำเลย ชาวเผ่าก็ค่อนข้างชอบพวกเจ่าไห่มากด้วยเจ่าไห่ขายสินค้าในราคาที่ถูก ชาวเผ่ายังซื้อสินค้าของเจ่าไห่เป็นจำนวนมาก เพราะว่าเจ่าไห่นั้นขายของถูกและดี ถ้าหากเบลล์ทำอะไรเจ่าไห่มันก็อาจจะเป็นจุดจบของพวกเขาในด้านธุรกิจ
อย่างไรก็ตามตอนนี้เบลล์ไม่ได้ทำอะไรเจ่าไห่เลย เจ่าไห่จึงทำเหมือนว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่ไม่คิดร้ายต่อกัน แต่เมื่อเจ่าไห่มองไปที่ใบหน้าของเบลล์มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจ และเบลลีกไม่ค่อยชอบเจ่าไม่เหมือนกัน เจ่าไห่มองว่าเบลล์นั้นเป็นคนที่สวมหน้ากากเข้าหาเขาเอง
ด้วยเหตุนี้เจ่าไห่จึงให้ความสนใจกับเบลล์มากขึ้น เนื่องจากตอนนี้จะมีการเคลื่อนไหวบ้างอย่างภายในเผ่าราชา เจ่าไห่กำลังติดจามเบลล์เพื่อดูการเคลื่อนไหวของเขา และจะได้เตรียมการรับมือกับชายคนนี้
และแล้วรถขนสินค้าค้นที่ 4 ของเจ่าไห่ก็มาถึง เจ่าไห่คิดว่าถ้าเขาเห็น เขาก็อาจจะถอนใจแล้วกลับออกไป
แต่เบลล์ก็นั่งอยู่ในเต็นท์ของเขา ในมือของเขามีถ้วยน้ำองุ่น และมีน้ำองุ่นอยู่ข้างหน้าเขา โดยที่ไม่น่าเชื่อ เพราะว่าน้ำองุ่นเป็นสิ่งที่หายากมากภายในทุ่งหญ้าแห่งนี้ เจ่าไห่ก็รู้ทันทีเลยว่าเบลล์นั้นไม่ได้มีมิติฟาร์มเหมือนกับเจ่าไห่
และที่อยู่ด้านหลังของเบลล์นั้น เป็นชายที่ดูเหมือนจะมีอายุมากแล้ว เขายืนอยู่ที่ด้านหลังของเบลลีและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากด้วย
เจ่าไห่ก็หันไปที่ลอร่าและภามลอร่าว่า “ลอร่า เธอรู้จักชายคนนั้นไหม?”
ลอร่าสายหัวและพูดว่า “ฉันก็ไม่เคยเห็นชายผู้นั้นเหมือนกัน”
จากนั้นพวกเขาได้ยินเสียงเบลล์พูดว่า “วิธีการตรวจสอบ?”
ชายคนนั้นพูด
เบลล์ “ไม่เป็นไรไม่มีอะไรแปลกๆ กับเจ่าไห่และลอร่า ชื่อของพวกเขาดูเหมือนจะไม่เป็นเรื่องโกหก อาหารที่ขายให้แก่ชาวเผ่านั้นเป็นข้าวที่ขายได้และพวกเขาขายได้เพียงครึ่งราคาปกติเท่านั้น”
เบลล์ก็พูดว่า “การดื่มไวน์เป็นเรื่องที่ไม่ประมาทและสิ้นเปลืองไปกับของขวัญจากธรรมชาติหากข้าวที่ขายได้ในแผ่นดินใหญ่นี้แล้วพวกเขาก็จะไม่ขายของราคาถูกด้วยความสงสาร”
ชายคนนั้นเดินตามไปและพูดว่า “ปัจจุบันจักรวรรดิอาร์คยังคงติดตามต้นกำเนิดของเจ่าไห่แต่เป็นระเบียบและพวกเขาไม่สามารถคิดอะไรออก แต่เป็นที่แน่ชัดว่าเจ่าไห่มาจากตระกูลขุนนางใหญ่และในมือของเขามีมิติอยู่ และเขาก็เป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งมากๆ”
เบลล์พยักหน้า “นี่เป็นเรื่องปกติที่เราสามารถเห็นได้จากการกระทำของเจ่าไห่ เขาไม่ต้องการให้คนอื่นสังเกตเห็นเขา แต่บางครั้งเขาทำสิ่งที่สามารถทำให้คนอื่นจ่ายเงินหันหัวของเขากับเขาน่าเสียดายที่ชื่อเสียงของฉันไม่ดี มิฉะนั้นฉันอาจจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้นในขณะนี้”
เบลล์รู้สึกประหลาดใจครู่หนึ่งแล้วเขาก็หัวเราะออกมาว่า ” ผมรู้ว่าหมอกเก่าๆ ของลีกจะไม่ยอมแพ้กับเจ่าไห่ ใครมีพลังมาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่กิลแห่งแสงไม่ยอมปล่อยปละละเลยอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเราสามารถดึงเขาเข้าใกล้พันธมิตรได้ดีขึ้น ” หนึ่งในพวกเรา” อาจจะ ฮ่าฮ่า ฉันต้องคุยกับเขาเพื่อขอความร่วมมือ”
ทหารมองเบลล์และพูดว่า ”เขาจะเชื่อคุณไหม?”
เบลล์ยิ้มและพูดว่า “ฉันมีวิธีของฉัน” เขาหยิบเหรียญเล็กๆมา เหรียญสัญลักษณ์ประจำตัวของผู้ได้รับรางวัลนักเวทย์
เจ่าไห่และลอร่าผู้เห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ พวกเขาไม่เคยคิดว่าเบลล์พ่อค้าที่ประสบความสำเร็จคนนี้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มนักเวทย์แห่งความมืด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เง่าไหรู้สึกประหลาดใจมาก
เจ่าไห่หันหน้าของเขาไปที่ลอร่าแล้วเขาก็แสดงรอยยิ้มและพูดว่า ”ช่วงของอำนาจที่แท้จริงของนักเวทย์จะไม่ได้รับการประเมินเท่าไหร่ เพราะพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จอย่างเบลล์จะเป็นสมาชิกของนักเวทย์นั้นก็น่าแปลกใจจริงๆ”
ลอร่ายิ้ม “ใช่ว่าเป็นเรื่องบังเอิญเราควรไปดูเขาตั้งแต่เขาอยู่ในกลุ่ม
เจ่าไห่ยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน “มาเถอะให้เราไปพบเขาเถอะ” เจ่าไห่พูดขณะที่เดินออกไปลอร่าเม็ก และเนียร์ ก็รีบตามมา
แม้ในความคิดของเขาเบลล์ก็ไม่คิดว่าทุกสิ่งที่เขาพูดจะได้ยินโดยเจ่าไห่ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเจ่าไห่กำลังมา
ขณะที่เบลล์กำลังคุยกับทหารว่าเมื่อไหร่จะไปดู เสียงของเจ่าไห่ก็ดังมาจากทางเข้าเต็นท์ของเขา ”เจ่าไห่พร้อมกับลอร่าเม็กและเนียร์ได้มาพบคุณ”
เบลล์รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งเขาหันไปหาทหารและถามว่า ”นายคิดยังไงกับการที่พวกเขามาหาเราก่อน?”
ชายคนนั้นส่ายหัว “ฉันไม่สามารถคิดได้แม้นายจะไม่รู้จัก” เบลล์พยักหน้าแล้วเขาก็ตอบว่า “เชิญพวกเขาเข้ามา” ทหารที่ประตูก็เชิญให้เจ่าไห่และพวกของเขาเข้าไปในเต็นท์ได้
เบลล์ลุกขึ้นยืนพร้อมที่จะพบกับเจ่าไห่ ประตูทางเข้าของเต็นท์เปิดขึ้น เจ่าไห่และกลุ่มของเขาเข้ามา เบลล์ทักทายเจ่าไห่ทันที ” ขอบคุณเจ่าไห่ที่มาในวันนี้ ฉันประหลาดใจมาก”
เจ่าไห่ยิ้มในขณะที่เขาตอบว่า “ขอให้คุณเลิกประหลาดใจก่อน ฉันไม่ได้มีอะไร พิเศษขนาดนั้น” เขากล่าวขณะที่เขายกย่อง เบลล์อย่างเรียบง่าย
เบลล์รีบตอบว่า “นายเป็นคนที่สภาพมาก ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง โปรดนั่งลง” หลังจากที่เจ่าไห่นั่งลง ทหารของเบลล์ก็มาเทน้ำองุ่นหนึ่งถ้วยจากนั้นก็เอาชามใส่ผลไม้ วางบนโต๊ะหน้าของเจ่าไห่
เจ่าไห่ก็ยิ้มออกมา เขาหันหน้าและมองไปที่ทหารทั้งสองข้างทางเข้าแล้วเขาก็หันไปหาเบลล์และพูดว่า “เบลล์ฉันมีประเด็นสำคัญในการพูดคุยกับคุณเพื่อให้คุณสามารถเชิญพวกเขาออกไป” เจ่าไห่ชี้ไปที่ทหารตรงทางเข้า
เบลล์ลุกขึ้นมอง ขณะที่มองเจ่าไห่แล้วเขาก็พยักหน้า เขาส่งสัญญาณไปทางทหาร ทหารทั้ง 2 ก็โค้งคำนับและเดินไป
เมื่อเห็นว่าทหารอยู่ห่าง เจ่าไห่หันหน้าไปหาเบลล์และกล่าวว่า “คราวนี้ฉันมาหาคุณ เพื่อถามเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง” หลังจากที่เขาพูดเสร็จแล้วปรากฏว่ามีเหรียญของกลุ่มนักเวทย์แห่งความมืดปรากฏอยู่ในมือเขา
เบลล์ไม่คิดว่าเจ่าไห่จะแสดงตราของเขาให้เขา เขาจ้องมองสักครู่แล้วมองไปที่เจ่าไห่ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา ”เจ่าไห่ แย่จริงๆคุณรู้แล้วเกี่ยวกับตัวฉัน” ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา
หลังจากนั้นไม่นานนักทั้ง 2 คนก็ได้สงบลง เบลล์มองไปที่เง่าไห่และพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าคุณจะรู้ว่าฉันเป็นใครได้อย่างรวดเร็วทำไมคุณถึงรู้หล่ะ และคุณต้องการรู้อะไรอีกหรือไม่”
เจ่าไห่ยิ้ม “ฉันอยากรู้ว่าคุณได้ร่วมงานกับเผ่าราชา มานานแค่ไหนแล้ว? และถ้าคุณมีความร่วมมืออื่นๆ กับผู้อื่น?” เบลล์รู้สึกประหลาดใจสักครู่เขามองเจ่าไห่้ด้วยความ งง ”ทำไมคุณถึงถาม? เจ่าไห่คุณมีเรื่องที่จะดูแลขั้นหรอ?”
เจ่าไห่พยักหน้าและตอบว่า ” พี่เบลล์ ฉันจะซื่อสัตย์กับคุณในปัจจุบันฉันอยู่ในความสัมพันธ์กับหัวหน้าเผ่าเฮคัส เขาเป็นพี่ชายของฉันที่ร่วมสาบานด้วยกันมา เหตุผลที่ฉันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในทุ่งหญ้าคือการรวบรวมข้อมูลของพี่เวลส์เกี่ยวกับเผ่าบูล แต่คุณรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของฉันในทุ่งหญ้า เพราะฉะนั้นฉันขาดข้อมูลที่นี่ ดังนั้นฉันจึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณในเรื่องนี้”
เบลล์มองเจ่าไห่ ข้อมูลที่เง่าไฟบอกเขาจริงๆทำให้เขาตกใจ เขาไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
เจ่าไห่มีการจัดการที่ไม่คาดคิด เพื่อทำในปีแรกของเขาในทุ่งหญ้านี้เป็นอย่างมาก
โปรดทราบว่าพักพวกของเราใช้ชื่อเจ่าไห่ สำหรับนักเวทย์แห่งควมมืดชื่อของเขาในโลกนี้คืออดัมบูดา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลเกี่ยวกับภูมิหลังของเขา
จบบทแล้วนะครับ……