Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 289
บทที่ 289 – ข่าวและพ่อค้า
ตอนนี้เจ่าไห่ไม่ได้สนใจอะไรกับเต็นท์ของซีทราน แต่ถ้าเจ่าไห่ไปที่นั่นมันจะทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากกับนักพยากรณ์เหล่านั้น
นักพยากรณ์เหล่านี้มีความสามารถมากจริงๆ ที่พวกเขาได้ให้คําพยากรณ์ว่า ให้ไปในตอนเหนือ เพื่อช่วยเวลส์ในการยึดเผ่าของเขาคืนมาให้ได้ก่อน แล้วพวกเขาจะปลอดภัย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ ซีทรานก็รู้สึกเสียใจมากเมื่อเขารู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะไปอยู่ข้างเดียวกับเผ่ามูลได้
ตอนนี้เจ่าไห่ได้จับตาดูพวกของซีทรานอยู่ตลอดเวลา ทหารของเผ่าราชาได้ออกตามหาคนของเขาที่หายไปรอบๆค่าย
ตอนนี้กลุ่มของเจ่าไห่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนดี และไม่ได้มีอะไรที่จะทําให้พวกเขาต้องเป็นกังวล เจ่าไห่เป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรน่าสงสัยเลย
และไม่นานนัก ผู้เฒ่าก็ได้ส่งคนไปเพื่อตรวจเต็นท์ของเจ่าไห่ แต่ก็ตรวจดุได้ไม่นานนัก เพราะเมื่อตอนที่เกิดเหตุเจ่าไห่และพวกของเขานั่งกินอาหารกันอยู่นอกเต็นท์ หลายคนในเผ่าก็ได้เห็นตัวของเจ่าไห่เป็นจํานวนมาก พวกเขาก็เลยไม่ได้คิดว่าเจ่าไห่จะเป็นคนร้าย
2 วันผ่านไป ภายในค่ายนั้นไม่ได้มีเพียงความกังวลเท่านั้น พวกเขายังมีความเศร้าที่พวกเขาได้สูญเสียชายหนุ่มและคนที่มีความสามารถมากกว่า 5,000 คน คนเหล่านี้มีครอบครัวของตัวเอง และบางคนอาศัยอยู่ใกล้กับค่ายของเจ่าไห่ เนื่องจากเห็นว่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาหายไป มันเลยทําให้คนที่ยังอยู่เสียใจกันมาก
แต่ตัวของเจ่าไห่เองนั้น เขาไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทําเลย สําหรับตัวของเขาเอง เขาก็ต้องการที่จะทําแบบนั้นอยู่แล้ว ในความคิดของเจ่าไห่ไม่ได้มีความชั่วหรือดี แต่มันมีเพียงแค่ชัยชนะกับพ่ายแพ้เท่านั้น
แต่กับเผ่าราชาที่ไม่ได้มีใครสังเกตุพวกเขาเลย เขาต้องการที่จะต่อสู้กับเผ่าบูล แต่มันก็ยังไม่มีเวลาที่แน่นอน หลังจากเตรียมพร้อมสําหรับฤดูหนาว เขาวางแผนที่จะประกาศสงครามกับเผ่ามูล
ในเวลานี้บรรยากาศอันแสนเศร้าก็ค่อยๆหายไป เพราะการที่เจ่าไห่ได้นําพืชมาส่งที่เผ่า
รถม้าของเจ่าไห่มาได้ถูกเวลามาก เพราะตอนนี้ที่เผ่ากําลังอยู่ในสถานกาณ์ที่แย่มาก ด้วยการมาถึงของรถขนส่งที่มาถึงนั้น ทําให้บรรยากาศภายในค่ายค่อยๆดีขึ้น
แต่ก็น่าเสียดายที่เมื่อเกิดเรื่องเมื่อเร็วๆนี้ ทําให้เผ่าราชาไม่ได้มีของเพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ่าไห่
ในเวลาเดียวกันนั้น เจ่าไห่ก็สั่งให้ซอบบี้ส่งกองกระดาษไปให้เผ่าราชา ชาวเผ่าไม่รู้ว่าเจ่าไห่กำลังจะทําอะไร แต่พวกเขาก็ต้องตื่นเต้น เพราะพวกเขารู้ว่ากองกระดาษเหล่านี้เป็นของใคร และมันก็เป็นสิ่งที่พวกเขาขอซื้อจากเจ่าไห่
หลังจากที่รถม้าของเจ่าไห่มาถึงพวกเขาก็ขนสินค้าลงจากรถทันที เจ่าไห่พยายามที่จะทําให้เผ่าราชากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้มีแค่ความเสียใจ
และเรื่องนี้ก็สร้างความประหลาดใจให้กับเจ่าไห่มาก เขามองไปที่ชาวเผ่าแล้วหันไปหาลอร่า และก็พูดว่า “ลอร่า ทําไมพวกเขาถึงหัวเราะ? พวกเขาพึ่งเสียคนที่พวกเขารักไป ทําไมพวกเขาถึงไม่เศร้าอีกงั้นหรอ?”
ลอร่ามองไปที่ชาวเผ่า เธอถอนหายใจและพูดว่า “บางที่พวกเขาอาจจะชินกับมันแล้วก็ได้ ฉันได้ยินมาว่าในทุ่งหญ้าแห่งนี้สงครามเป็นเรื่องที่ปกติมาก ที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะมีการต่อสู้กันอยู่ทุกๆวัน”
เจ่าไห่ถอดหายใจและไม่ได้พูดอะไร เขาหันกลับไปที่เต็นท์และหันไปลอร่าและกล่าวว่า “ฉันคิดว่าพี่เวลส์จะมาเจอพวกเราเร็วๆนี้”
และตอนนี้เจ่าไห่ก็ได้ส่งจดหมายไปหาเวลส์ว่า ตอนนี้พวกเขาได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงทั้ง 2 คนไว้ แล้วพี่เวลส์ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้เจ่าไห่ยังบอกเวลส์ว่า เผ่าราชาได้วางกับดักไว้ จัดการเผ่าเฮคัสด้วย เพื่อที่จะทําให้เวลส์รู้ความคิดของเผ่าราชา
หลังจากที่ส่งจดหมายไปแล้ว เจ่าไห่ก็ได้แต่รอเท่านั้น เขาไม่สามารถที่จะทําอะไรได้ตอนนี้ เจ่าไห่จะต้องรู้การเคลื่อนไหวของเวลส์ เผื่อว่าเขาจะต้องการความช่วยเหลือจากเจ่าไห่
และไม่นานมากนักเวลส์ก็ได้ตอบเจ่าไห่กลับมา แล้วเวลส์ยังบอกเรื่องเกี่ยวกับเผ่ามาร์ซีด้วย
สิ่งที่เวลส์เขียนมาให้เจ่าไห่ ก็คือเขาบอกว่าตอนนี้คนของเผ่าเฮคัสเหลือเพียงแค่ 300,000 คน แต่ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสภาพที่ทรมานมาก จากคน 1,000,000 คนเหลือเพียงแค่ 300,000 คน มันน้อยมากๆเลยนะ
ก็เป็นเพราะเนื่องมาจากที่เผ่าเฮคัสถูกโจมตีโดยเผ่าบูล คนที่ยังไม่แก่ก็สามารถวิ่งหนีออกมาได้เร็ว แต่คนที่มีอายุมากแล้วนั้นพวกเขาไม่สามารถวิ่งหนีออกมาได้ และถูกฆ่าตายในที่สุด
ตอนนี้คนที่ยังเหลืออยู่ได้มาหาที่หลบภัยที่เผ่ามาร์ซี โชคดีที่ยังมีคนที่รอดชีวิตมาได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะได้รับความพ่ายแพ้มา แต่ตอนนี้พวกเขาก็สามารถรักษาตัวของพวกเขาได้อย่างดีแล้ว พวกเขาก็ยังสามารถที่จะต่อสู้ได้ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ
หลังจากที่เวลส์กลับไปที่เผ่า เขาก็ได้ขึ้นปกครองเป็นหัวหน้าเผ่าทันที นอกจากนี้เวลส์ก็ยังบอกอีกว่าตอนนี้เขาได้จัดการลงโทษกาซอลไปแล้ว
แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดของเขาก็คือพืชของเจ่าไห่ ที่จะทําให้ประชรกรของเขามีความสุขมาก และก็อาจจะบอกได้ว่าว่าพืชของเจ่าไห่นั้นเป็นสิ่งที่สําคัญกับพวกเขามาก
และในเวลาเดียวกันนั้น เวลส์ก็บอกกับเจ่าไห่ว่า “น้ําจากมิติที่เจ่าไห่ได้ให้ไว้ตอนนี้เขาใช้มันไปกับการรักษาผู้เฒ่าของเผ่าหมดแล้ว” น้ําที่เจ่าไห่ได้ให้ไว้มันไม่เพียงแต่จะช่วยผู้เฒ่าในอาการบาดเจ็บเท่านั้น มันยังช่วยให้พวกเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
เจ่าไห่ไม่รู้ว่าน้ําของเขาจะสามารถทําเรื่องแบบนี้ได้ จึงทําให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก เนื่องจากผู้เฒ่าได้หายดีแล้ว เวลส์ก็ได้วางแผนที่จะแก้แค้นอีกครั้ง
เจ่าไหรู้ดีว่าตอนนี้เวลส์ต้องการอะไร และเขาก็ได้เตรียมพืชทั้งหมดไว้ในมือของเขาแล้ว เจ่าไห่ก็ได้มอบมันให้กับเวลส์ในฐานะหัวหน้าเผ่า
แล้ววันนี้ก็ผ่านไป เจ่าไห่กลับไปที่เผ่าราชาพร้อมกับการขนส่งครั้งที่ 3 ของเขา ตอนนี้เจ่าไห่เป็นที่ไว้ใจมากของซีทราน ตอนนี้เจ่าไห่ได้เป็นที่นิยมมากๆ ในเผ่าราชาเขาจึงได้รับข่าวที่ไม่ได้บอกแก่ผู้อื่นๆมากนัก
เจ่าไห่บอกเวลส์เกี่ยวกับข้อมูลที่เขาได้รับ เขาหวังว่าเวลส์จะโจมตีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว ถ้าพวกเขาจะถูกโจมตีในช่วงฤดูนี้ เวลาของพวกเขาจะแน่นเพราะการเตรียมการสงครามไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้ว่าข่าวลือกําลังอยู่ในเผ่า แต่โดยรวมแล้วสถานการณ์ยังเป็นบวกอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ่าไห่ได้ส่งพืชไปให้ ทําให้ข้าวฤดูหนาวของค่ายนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสูญเสีย 5,000 คน แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา
ตอนนี้เจ่าไห่อยู่ภายในเผ่าราชาประมาณ 20 วัน ในอีก 10 วันเขาจะต้องไป ในเวลานี้ขบวนขายสินค้าอื่นก็มาถึงเผ่าราชา
ขบวนนี้ได้สร้างความร่วมมือกับเผ่าราชา แล้วคราวนี้พวกเขาไม่ได้ส่งข้าวไปยังเผ่าราชา แต่ส่งมอบบ้างอย่างที่มีชีวิต
แตกต่างจากเจ่าไห่ พ่อค้าเหล่านี้ที่ส่งสินค้าเป็นพ่อค้าของแท้ แม้ว่าพ่อค้าที่แท้จริงจะไม่กระตือรือร้นที่จะค้าขายในช่วงฤดูหนาว แต่พวกเขาก็ยังต้องการค้าข้าว แต่การส่งมอบธัญพืชในช่วงเวลานี้ไม่ฉลาด พวกเขาจะบุกเข้าไปได้ง่ายเกินไปและการเดินทางกลับจะไม่ปลอดภัยเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นชนเผ่าขนาดใหญ่จะเตรียมธัญพืชในช่วงสองเดือนต่อไปนี้ในฤดูหนาว เพราะฉะนั้นการขนส่งธัญพืชในทุ่งหญ้าจึงเป็นเรื่องที่น่ารัก ความเสี่ยงมากและสัตว์ร้ายก็จะหาเหตุผลที่จะตัดราคาได้
ดังนั้นในช่วงเวลาเหล่านี้พ่อค้าทุ่งหญ้าจะนํามาซึ่งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่จําเป็นต่อการดํารงชีพในทุ่งหญ้าดังนั้นราคาของผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ถูกตัด สําหรับชนเผ่าเล็กๆเหล่านี้ ไม่น่าสนใจเท่าเมล็ดพืช
คนในกลุ่มพ่อค้าไม่คิดว่าภายในเผ่าราชา จะมีกลุ่มพ่อค้าอีกกลุ่มหนึ่ง แต่กลุ่มนี้จะเน้นแต่การซื้อพืชเท่านั้น
พ่อค้าได้พยายามติดต่อกับเจ่าไห่หลายครั้ง แต่เจ่าไห่ดูเหมือนจะไม่ชอบการติดต่อกับพวกเขา เขาไม่ได้วิจารณ์เจ่าไห่ แต่เนื่องจากผ่านติดต่อของเขาในเผ่า เขาเข้าใจว่าใครคือเจ่าไห่
พ่อค้าก็ตกใจเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงเขาไม่คิดว่า เจ่าไห่จะได้จัดหาเมล็ดข้าวมากกว่าสิบล้านเม็ดให้เผ่าราชา ตัวเลขนี้สําหรับพ่อค้าไม่ได้เป็นจํานวนน้อยเลย ความเป็นจริงนี้ทําให้เขาระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับเจ่าไห่
เจ่าไห่กังวลเรื่องพ่อค้ารายนี้เป็นอย่างมาก พ่อค้าบอกว่าเขาเป็นพลเมืองของอัคพล เมืองชื่อเบลล์ แต่เขาไม่ใช่พลเมืองของเพอร์เซลล์ เขากล่าวว่าเขามาถึงทุ่งหญ้าผ่านดินแดนตระไอ กิสะ
เกี่ยวกับตระกูลไอกิสะ ลอร่ามีความรู้เกี่ยวกับพวกเขา นี่คือตระกูลทางตะวันตกของตระกูล เพอร์เซลล์ เพื่อนบ้านของเขา นอกจากนี้ดินแดนของพวกเขายังใกล้เคียงกับทุ่งหญ้า ซึ่งกลายเป็นอีกทางหนึ่งสําหรับมนุษย์เพื่อลักลอบนําเข้าสินค้าไปยังทุ่งหญ้า
เบลล์เป็นพ่อค้าข้าวและสินค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในตระกูล ลอร่าไม่รู้ว่าเบลล์ร่วมมือกับเผ่าราช
จบบทแล้วนะครับ