Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 288
บทที่ 288 – ตอนเหนือ
ลอร่ามองไปที่จอและพูดกับเจ่าไห่ว่า ” พี่ให้ พี่คิดว่าพวกเขาจะรู้ไหมว่าเราเป็นคนทำ?”
เจ้าไห่ยิ้มและก็ตอบลอร่า “มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่พวกเขาจะรู้ว่าเราเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดตอนที่ฉันจะออกจากที่นั้น ฉันได้จัดการเก็บทุกอย่างหมดแล้ว เหลือก็เพียงแต่ทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่า”
ลอร่าพยักหน้ายิ้มแล้ว “พี่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่นแล้ว และไม่ได้พบกับอะไรเลย? แล้วพวกเขาจะคิดยังงั้นของการหายตัวไปของทหารทั้งหมด”
เจ่าไหยิ้มและก็พูดออกมา ” มันก็ยากที่จะพูดถึง แต่ฉันก็คิดว่าพวกเขาก็คงช่วยกันหาคนในบริเวณใกล้ๆก่อน แต่ก็คงไม่ได้เจอใครแน่นอน และตอนนี้เราก็มีหน้าที่ที่ต้องอยู่ในเต็นท์ของเรา”
สิ่งที่เล่าให้ได้ทำไปนั้น เป็นอะไรที่รวดเร็วมาก จนเผ่าราชาไม่ได้รู้เลยว่าใครกันที่เป็นคนทำเรื่องแบบนี้ สิ่งที่พวกเขารู้ตอนนี้เลย ก็คือค่ายทหารของพวกเขาไม่ได้อยู่ไกลจากเผ่าหรือที่ตั้งเผ่าของพวกเขามากนัก การเดินทางก็คงใช้เวลาแค่ 1 วัน แต่ถ้าให้ม้าเร็วมาก็คงจะแค่ 1 ชั่งโมงก็น่าจะมาถึง
แต่รอบๆ ที่ตั้งค่ายของทหารพวกเขาก็ไม่ได้พบอะไรเลย ที่จะรู้ว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งทหารของเขาทั้ง 5000 คนได้หายไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
ด้วยจำนวนทหารของเขาที่หายไป ซีทรานคิดว่าคงเป็นเพราะเผ่าคารี ซึ่งมีความแข็งแกร่งมาก บนทุ่งหญ้าแห่งนี้หากคนจำนวน 5000 ถูกโจมตีก็คงจะมีคนที่สามารถไปขอกำลังเสริมมาได้ทันเวลาแน่นอน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่คิดเลยก็คือในโลกนี้จะมีคนเช่น เล่าให้ผู้ที่มีความสามารถในการใช้พลังของมิติ เพื่อกำจัดทหารทั้ง 5,000 คนของเขาออกไปอย่างเงียบๆ
เพราะเขาไม่เข้าใจว่าวิธีการของเจ้าไห่มีอยู่บนโลก ซีทรานรู้สึกกระวนกระวาย เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับใคร สำหรับทหารทั้ง 5,000 คนของเขาหายตัวไป มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะที่ที่พวกเขาหายไปไม่ได้มีร่องรอยการต่อสู้เลย
มันไม่ได้มีอะไรที่ผิดสังเกตุเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ถูกโจมตีจากใครเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่จะไม่ให้เกิดรอยเท้า เมื่อจัดการกับทุกคนเสร็จพวกเขาก้บินหนีไป
การที่ซีทรานได้เป็นหัวหน้าจากการที่ทุกคนเลือกเขาขึ้นมา มันทำให้เขาปวดหัวกับเรื่องที่เกิดมาก ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าทหารของเขานั้นหายไปไหนกันแน่
ตอนนี้ซีทรานก็ได้เดินทางไปหานักพยากรณ์ เพื่อที่จะให้นักพยากรณ์ดูว่าคนของเขาหายไปไหน แต่ซีทรานก็ไม่ได้ถามว่าใครเป็นคนที่ช่วยเผ่าเฮคัสไป เพราะเขารู้ดีว่านักพยากรณ์นั้นไม่ใช่พระเจ้า
หนึ่งในนักพยากรณ์คนนึ่งมีชื่อเสียงมากในทุ่งหญ้า ชื่อของเขาคือบูเจค เขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องคำทำนายที่ประสบความสำเร็จเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาทำนายว่าทุ่งหญ้าจะมีความแห้งแล้งมากและในปีนั้นทุ่งหญ้าได้รับความแห้งแล้งมาก สิ่งนี้ทำให้เขาเป็นที่รู้จักกันในทุ่งหญ้าทันที
อันที่จริงเขาไม่ใช่คนลึกลับ สิ่งสำคัญที่พวกเขาใช้ในการต่อสู้คืออะไรสักอย่างที่นักเวทย์เขาใช้กัน และเมื่อทำนายไว้ซี่ขคำทำนาย 100 ครั้ง พวกเขาสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องห้าหรือหกครั้ง ค่อนข้างเลวร้ายแต่ว่าพวกชาวเผ่ายังคงเชื่อพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงเช่นเดียวกับที่ชาวจีนโบราณเชื่อในการบอกลา
ตอนนี้ซีทรานได้รวมนักพยากรณ์ทั้งหมดไว้ในเต็นท์ของเขา เขามองไปที่พวกเขาและกล่าวว่า “นักพยากรณ์สถานการณ์ของชนเผ่าตอนนี้ ฉันเชื่อว่าคุณรู้เรื่องนี้ไม่มากก็น้อย แล้วฉันจะไม่พูดอะไรอีก สิ่งที่ฉันต้องการถามคือการคาดการณ์สถานการณ์ของชนเผ่าของฉันในอนาคต ถ้าเผ่าของเราไม่มีอนาคตที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงภัยพิบัติอย่างไร ฉันขอให้นักพยากรณ์ช่วยเราเถอะ”
ในบรรดานักพยากรณ์นั้น บุเจคดูมีความสามารถมากที่สุด บูเจคก็พูดออกมาว่า “เจ้าชายเป็นคนที่ดีจริงๆ ความกังวลของพระองค์ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” บูเจคสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายซึ่งดูคล้ายกับชุดของนักเวทย์ เขามีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้มีอายุน้อยแล้ว มือของเขาถือไม้เท้า ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำมาจากกระดูกสัตว์เวทย์ แต่เหมือนหยกบริสุทธิ์มาก และที่แขวนอยู่บนคอของเขาเป็นกะโหลกศีรษะ 18 กะโหลก กะโหลกเหล่านี้ไม่ใช่ของแท้แต่ถูกทำมาจากหัวของสัตว์และทำเป็นสีดำ บ่อยครั้งที่เขาจะติดตามรอยยับของเขาเพื่อทำให้เขาดูเศร้าและน่ากลัวราวกับว่าเขาไม่ใช่ชาวเผ่า แต่เป็นนักเวทย์
เจ้าชายว่าบูเจคดูน่ากลัวมาก แต่เขาก็ต้องรู้จักกับทักษะที่แท้จริงของบูเจค ดังนั้นเขาจึงสามารถพึ่งบูเจคได้
ทันทีที่ซีทรานได้ยินเสียงของบูเจค เขาพยักหน้าและตอบว่า ” ทำดีมากบูเจค” เจ้าชายพูดในขณะที่เขาได้เตรียมอะไรบางอย่างในกับนักพยากรณ์
หลังจากนั้นบูเจคก็เอาหัวกะโหลกออกจากคอและมองไปที่มันอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นบูเจคก็วางกะโหลกหันไปทางซีทราน กษัตริย์ของเผ่าราชามองดูนักพยากรณ์ต่อหน้าเขาและพูดว่า ”ท่านกำลังทำอะไรอยู่งั้นหรอ”
สีหน้าของนักพยากรณ์ไม่ค่อยดีนัก และเขาก็พูดออกมาว่า “เจ้าชายจากคำทำนายในเวลานี้เรากลัวว่าสถานการณ์ในค่ายของท่านจะไม่ดี”
นักพยากรณ์คนอื่นๆ ก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเหมือนกันกับบูเจค ซีทรานเห็นว่าบูเจคไม่ได้พูดต่อและซีทรานก็ถามว่า ” แล้วเราควรจะทำยังไงต่อดี?”
บูเจคก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ดีเลย เผ่าของท่านจะประสบกับภัยพิบัติตครั้งใหญ่ แต่ก็มีทางแก้ ไขได้”
เมื่อได้ยินบูเจคบอกว่าแก้ไขได้ สีหน้าของซีทรานก็เปลี่ยนไปและรีบถามว่า “ฉันขอให้ท่านบอกเรากับวิธีการแก้ไขด้วยเถอะ”
บูเจคก็กล่าวว่า “จากคำทำนายในวันนี้ ถ้าเราต้องการเอาชนะหายนะนี้ มีทางเดียวที่สามารถทำได้จากสิ่งที่เห็นบนกะโหลกนี้ มันมีวิธีการเพื่อความปลอดภัย ไปอยู่ที่ตอนเหนือก่อน แต่ฉันก็ไม่ได้รู้อะไรแน่ชัดหรอกนะ บางที่เราอาจจะต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ตอนเหลือก่อน”
ซีทรานมองไปที่นักพยากรณ์ที่ละคน แต่ไม่มีนักพยากรณ์คนใดกล่าวอีก ซีทรานไม่เข้าใจว่า “ตอนเหนือคืออะไร” นี้หมายถึงอะไร
ซีทรานก็กล่าวต่อว่า สถานที่นั้นใหญ่เกินไปและเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบภัยในตอนเหนือเป็นไปไม่ได้ที่จะมีค่ายอพยพเผ่าละ 100,000 คนในช่วงฤดูหนาว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไป แต่คิดว่ามีคนพิเศษในตอนเหนือเนื่องจากเผ่าบูล อยู่ในทิศทางนั้นหมายความว่าพวกเขาควรจะหลบภัยกับเผ่ามูลงั้นหรอ?
ที่จริงบูเจครู้อยู่แล้วว่าในความคิดของซีทรานเป็นยังไง เขาต้องการที่จะกลับไปที่เผ่าบูลนานแล้ว จึงสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำในปัจจุบันของเขา เขาได้ทำเจ้าหญิงเผ่าเฮคัสให้เป็นทาสและเขาก็สร้างกับดักสำหรับเผ่าเฮคัสคนอื่นๆ ที่อาจต้องการช่วยชีวิตเจ้าหญิง การกระทำเหล่านี้แสดงถึงความตั้งใจของเขาในการเข้าร่วมกับเผ่าบูล
อย่างไรก็ตามเขาได้ต่อสู้กับหัวหน้าเผ่ามูลมานานแล้ว อาจกล่าวได้ว่าหลายคนในค่ายมีความแค้นใจต่อเผ่าบูล ถ้าเขาบอกว่าเขาอยากจะอยู่กับเผ่าบูล คนในเผ่าก็จะไม่เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงออกปฏิบัติการหลายอย่างเพื่อบอกคนในเผ่าว่าเขาอยากจะอยู่กับเผ่า
แต่เขาไม่สามารถพูดความคิดนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะเขาไม่มีเหตุผลที่เป็นรูปธรรม แต่ตอนนี้ด้วยคำทำนายของบูเจค ทำให้เขามีเหตุผลที่ดีที่จะใช้คำพยากรณ์เพื่อบอกคนที่เข้าข้างเผ่านี้คือการตัดสินใจของพระเจ้า ด้วยวิธีนี้เสียงในฝ่ายค้านจะลดลงอย่างมาก
แต่ซีทรานก็ไม่คิดว่ามีเผ่าอื่นในตอนเหนือนอกเหนือจากเผ่าบูล แต่เผ่าเฮคัสก็ยังอยู่ในทิศทางนั้น เผ่าเฮคัสได้หนีไปยังดินแดนมาร์ซี ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือเมื่อเทียบกับค่ายหลักของเผ่าเฮคัส
บางทีซีทรานไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะในความเห็นของเขา เผ่าเฮคัสได้พังไปหมดแล้ว พวกเขาเป็นเผ่าที่สิ้นหวังอย่างสมบูรณ์ที่ไม่สามารถฟื้นตัว