Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 281
บทที่ 281 – หาเบาะแส
ผู้เฒ่ามองเบต้าและพูดว่า “เบต้า นายน่าจะรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเรา ปัจจุบันตอนนี้พวกเราพบปัญหาเยอะมาก และพ่อค้าคนนี้ก็เป็นคนที่หน้าแปลกมาก พวกเขาพึ่งมาถึงที่นี่ เราอาจจะยังไม่ได้เห็นด้านอื่นๆของพวกเขา แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พ่อค้าจะไม่ได้ซื้อขายหรือติดต่อกับเขา ถ้าเขาทำแบบนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ แต่เมื่อพวกเขาทำดีต่อไปมันก็อาจจะเป็นที่น่าเชื่อถือ และถ้าหากพวกเขาออกนอกทางไปโปรดจงบอกพวกเขาให้ทำตามเรา
เมื่อเบต้าฟังและเข้าใจสิ่งที่ผู้เฒ่าพูดแล้ง เขาก็พยักหน้าและพูดออกมาว่า “ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย” ผู้เฒ่าพยักหน้าและหันกลับไป
ผู้เฒ่ามองไปที่ผ้าม่านและพูดว่า “เจ้าชาย, สิ่งที่ท่านเลือกข้าว่ามันน่าจะเป็นทางที่ผิด, ท่านคิดว่าเผ่าเฮคัสจะพ่ายแพ้ได้ง่ายๆงั้นหรอ และที่เผ่ามูลจะได้ความช่วยเหลือจากคนจากที่อื่นงั้นหรอไม่น่าเชื่อเลย!!
ทันใดนั้นภายในเต็นท์ก็อยู่ในความเงียบ เมื่อภายในเต็นท์ดูเหมือนจะมีแต่ความเครียด เมื่อไม่นานมานี้ด้วยการที่เผ่าเฮคัสได้แพ้ให้กับเผ่าบูล, ราชาซีทรานก็เริ่มคิดหาวิธีต่างๆ เพื่อให้การต่อสู้กับเผ่ามูลเป็นไปได้ด้วยดี และได้ชัยชนะ สิ่งแรกที่เขาทำคือการปัดเศษทั้งสองเผ่า เจ้าหญิงจากเผ่าเฮคัสที่เขาแต่งงานให้ส่งเขาออกไปเป็นทาสเพื่อให้เขาเสียศักดิ์ศรีของเขา
การกระทำของซีทรานนั้น ผู้เฒ่าไม่ได้เห็นด้วยเลย เผ่าเฮคัสเป็นเผ่าที่เป็นกำลังสนับสนุนหลักของเผ่าราชา ถ้าไม่มีเผ่าเฮคัสฉันคิดว่าก็จะไม่มีเผ่าราชาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าเผ่าเฮคัสจะช่วยเผ่าราชา เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการกับเผ่าบูลไว้ได้ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ยังช่วยเผ่าราชาและในปัจจุบันที่ซีทรานคิดจะทำ มันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องดีเลย ถ้าคิดที่จะทำแบบนั้นมันก็แปลว่าเขานั้นเป็นคนที่เนรคุณและเป็นคนที่น่ารังเกียจ
ในความเป็นจริงหลายคนในเผ่ามีความขัดแย้งกับราชาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในสายตาของซีทรายนั้น, เผ่าเฮคัสได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว หนึ่งในสามของผู้เฒ่าสูงสุดคนหนึ่งตายในขณะที่คนอื่นได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก พวกเขาจะมีความหวันที่จะรอดอีกอย่างงั้นหรอ? นอกจากนี้พวกเขาสูญเสียดินแดนและสมบัติทั้งหมดของพวกเขา และตอนนี้พวกเขาอาจจะเป็นเผ่าที่ถูกลืมไปแล้วก็ได้ พวกเขาอาจจะคิดแก้แค้นแต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้
เจ๋าไห้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรหลังจากออกมาแล้ว และในขณะที่เขากลับมาที่เต็นท์ เจ่าไหก็สั่งให้ซอมบี้เอ่พืชออกมาจากรถของเขาและสั่งให้ขี่รถม้าออกไป
หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว เจ้าไห่กลับมาที่เต็นท์ลอร่าเดินตามเจ่าไห่เข้าไป และภายในเต็นท์ ลอร่าก็รีบถามว่า “พี่ไห่ พี่อยากจะขายข้าวให้กับเผ่าราชาใช่ไหม”
เจ้าไห่พยักหน้าและพูดกับลอร่าว่า “ใช่แล้ว อย่าลืมสิตอนนี้เราเป็นพ่อค้า เราไม่สามารถที่จะแสดงข้อบกพร่องใดๆได้เลย ดังนั้นเราจำเป็นต้องทำแบบนั้น เริ่มจากวันพรุ่งนี้เราจะไม่อยู่แค่ในเต็นท์แต่เราจะออกไปเพื่อขายของและพูดคุยกับคนอื่นๆ”
ลอราพยักหน้าและพูดว่า ” เราควรจะขอข่าวกับเจ้าหญิงทั้งสองงั้นหรอ?”
เจ้าไห่ส่ายหัวและบอกว่า “เราไม่จำเป็นต้องถามข่าวกับเจ้าหญิง ตอนนี้เราทำหน้าที่เป็นพ่อค้าก็พอแล้ว เราไม่ควรดูแลเรื่องเหล่านี้ ตราบเท่าที่ยังมีกำไรอยู่ดี แต่ตอนนี้ต้องเสียเงิน พืชและสัตว์เวทย์เหล่านี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการเดินทางของเรา”
ลอร่ายิ้มและพูดต่อว่า “ไม่ต้องห่วง แล้วพวกเขายังติดตามพวกเราอยู่หรือไม่? แล้วมันจะดีหรือที่เราจะทำแบบนั้นพี่ไห่?”
เล่าให้ยิ้มอย่างเบาและพูดว่า “ทำไมมันจะไม่ดีกล่ะ เราเป็นพ่อค้านะ อย่าลืมเรื่องนี้สิ และพ่อค้าที่ไม่เต็มใจที่จะติดต่อกับทำการขายมันก็คือเรื่องที่ผิดปกติ”
ลอร่าก็เข้าใจมากขึ้น เธอจึงไม่ได้พูดอะไร และเธอมองไปที่ข้างนอกเต็นท์และพูดอย่างเงียบๆว่า “ฉันไม่รู้ว่าเจ้าหญิงทั้ง 2 กำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ สถานการณ์ของพวกเขาจะต้องไม่ดีเท่าที่ควรในปัจจุบันแน่ๆ”
ขณะที่กำลังจะเริ่มสิ่งที่คิดไว้ เจ๋าไร่ก็กลับมาที่มิติของเขา เท่าไห้ให้ความสนใจกับเหล่าซอมบี้ที่ถือสินค้าของเขาไว้ ทันทีที่ซอบบี้ออกจากพื้นที่เผ่า พวกเขาจะเต็มไปด้วยอาหาร เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับมาได้ทันที กลุ่มของเขามีรถม้าขนาดใหญ่ถึง 100 คันสามารถบรรทุกข้าวได้ถึง 5,000 กม. รถ 100 คันนี้สามารถขนส่งได้ประมาณ 500,000 กม. นอกจากนี้ เจ้าไห่ยังมีรถลากมากกว่า 1,000 คัน ซึ่งสามารถขนส่งได้ 2,000 กม. ซึ่งเพิ่มเมล็ดข้าวมากกว่า 2 ล้านต่อยอด รวมในตอนนี้การจัดหาของพวกเขาจะใกล้เคียงกับจำนวน 3 ล้านกม. ซึ่งมีจำนวนที่เยอะมาก
แต่จากเผ่าราชา ถ้าคุณต้องการออกจากพื้นที่ของเผ่า มีวิธีที่ตรงที่สุดคือมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการเหล็ก ถ้าคุณมุ่งหน้าตรงที่นั่นจะใช้เวลาประมาณ 6 วันก่อนที่คุณจะสามารถออกจากพื้นที่ของเผ่าได้ แต่เจ๋าไม่สามารถลดเวลาการเดินทางนี้ได้สามวัน ดังนั้นจึงใช้เวลาประมาณ 6 วันในการเดินทางไปมาและการเดินทางแต่ละครั้งสามารถนำสินค้ามาได้เกือบ 3 ล้านกม. ในแต่ละครั้ง
การเดินทางครั้งละ 3 ล้านกม. ในหนึ่งเดือนพวกเขาสามารถขนส่งได้ 15 ล้านกม. แม้ว่าจะไม่อยู่ที่ระดับ 30 ล้านสำหรับเจ่าไห่ รายได้นี้มีอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เขาไม่ต้องการให้ 30 ล้านกม.ขายให้กับเผ่าราชา 15 ล้านกม.
ในตอนกลางคืน เจ้าไห่เดินเข้าไปในส่วนที่เหลือมิติ แต่หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปในมิติพวกเขาไม่ได้ไปนอนทันที แต่พวกเขาก็ปล่อยให้เจ๋าฉินอี้นำบันทึกที่ได้มาในระหว่างวัน
เหตุการณ์ที่บันทึกไว้ไม่ได้เป็นเพียงแค่รอบเต็นท์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในขณะที่เบต้านำเจ่าไห่ไปที่เต็นท์กล้องถ่ายรูปยังติดตามและบันทึกทุกอย่างไว้ประมาณ 2 กิโลเมตร
สำหรับเจ่าไห่แล้ววิดีโอนี้ดูเหมือนปกติมาก แต่สำหรับลอร่า มันกับดูน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ พวกเขาได้เห็นทุกอย่างที่เจ๋าไร่ทำตลอดทั้งวันเหตุการณ์แม้ว่าเธอจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน แต่เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
เจ่าไห่มองไปที่ลอร่าและก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เรื่องนี้ทำให้เจ้าไห่จำครั้งแรกที่เขาดูโทรทัศน์และก็คล้ายๆ กับตอนที่เขาเริ่มเล่นคอมพิวเตอร์
เจ๋าไห้ได้สังเกตการแสดงออกของทุกคนที่เขามา โดยตลอดทางของเขา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับเส้นทางนี้ หลังจากนั้นเขาไม่ได้ไปไกลจากเต็นท์ เขาอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
เล่าให้ฟังเบต้าเรียกผู้เฒ่า และดูเหมือนจะเป็นผู้เมฆ่าที่จัดการเรื่องภายนอกในเผ่าราชา
ไม่มีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับที่ตั้งเต็นท์ของผู้ที่เข้ามาที่นี่ คนภายนอกที่เดินทางมาเยือนจะไม่ได้รับเชิญไปที่ใจกลางค่ายทันที เช่นเดียวกับกลุ่มของเจ่าไห่ พวกเขาจะอยู่ในเขตชานเมืองของค่ายดังนั้นผู้เฒ่าก็สร้างเต็นท์ของเขาไว้ที่ขอบของค่ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับผู้มาเยือน อีกเหตุผลหนึ่งสำหรับลูกเสือที่เป็นไปได้ที่จะไม่มีโอกาสเข้าไปภายในค่าย
เจ่าไห่เฝ้าสังเกตผู้เฒ่า เพราะเขาเห็นว่าผู้เฒ่าเป็นคนธรรมดามาก ท่าทางของเขาดูมีความรู้มากๆ จึงทำให้เจ้าไห่ระวังตัวมากขึ้น
เจ๋าไห้ได้ให้ความสำคัญกับเต็นท์มาก ตอนนี้เขาและเบต้าเพิ่งออกมา ในเวลานี้เต็นท์ยังอยู่ในเวลาใกล้เคียงกับช่วงที่บันทึก เจ้าไห่พูดทันทีว่า “เจ๋าฉินอี้ เธอสามารถทำให้มุมกล้องไปยังเต็นท์ได้หรือไม่?
เจ๋าฉินอี้พยักหน้า: ”ได้สิ” ขณะที่เธอพูดวิดีโอก็หันไปหาเบต้าและผู้เฒ่า และปรากฏขึ้นบนหน้าจอคำพูดของทั้งสอง ตอนนี้เล่าให้ได้ยินแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าสีหน้าของเจ้าไหก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาหันไปหาลอร่าและพูดว่า “ดูเหมือนว่าราชาซีทรานพยายามที่จะสู้กับพวกเผ่าบูล ลอร่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เธอต้องให้ความสนใจมากขึ้น สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหญิงทั้ง 2 องค์ ถ้าซีทรานต้องการพึ่งพาชนเผ่านักรบ เขาจะไม่ทำดีกับเจ้าหญิงแน่นอน”
ขณะที่ลอร่าคุ้นเคยกับความมหัศจรรย์ของจอ เมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้าไห่ เธอก็เข้าใจได้ทันทีเธอตอบว่า “ฉันไม่คิดว่าซีทรานจะเป็นคนแบบนั้น”
เจ้าไห่พูดว่า “ถ้าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเขาก็คงจะไม่ยอมทรยศต่อหัวหน้าเผ่าเฮคัสหรอก สถานการณ์นี้เป็นเรื่องปกติ ฉันได้คิดเกี่ยวกับสถานการณ์นี้แล้ว แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น เขาจะไม่สนใจศีลธรรมของเขาจริงๆ”
ลอร่าถอนหายใจ “เป็นผลให้พี่เวลส์ได้สูญเสียความแข็งแรงมากนี้ได้กลายเป็นระเบิดที่ดีในส่วนของเขา”
“เราจะมีการแก้แค้นของเราเร็วๆนี้ เพราะตอนนี้เราควรจะเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ของเผ่าก่อน ฉันคิดว่ามีผู้คนจำนวนมากในเผ่าที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเผ่า เรื่องของเชื้อชาติเราต้องให้ความสนใจและฟังเรื่องที่ 2 และ 3 ของเจ้าหญิงเราควรจะดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายถ้าพวกเขากำลังมีชีวิตอยู่ให้ดูที่สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาหากพวกเขาไม่ได้รับการรักษาที่ดีเรา จะหาวิธีที่จะช่วยเหลือพวกเขาแล้วพาไปหาพี่เวลส์ เรายังมีเวลาอีกไม่กี่เดือน”
ลอร่าตกใจมาก นี่น่าจะเป็นวิธีเดียวที่พยายามจะนับว่าซีทรานเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ของเราอีกต่อไปขอปล่อยให้พี่เวลส์หาทางออกอีกทาง พี่ไห่ พี่ต้องไปบอกพี่เวลส์เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่”
เจ้าไห่พยักหน้า ” เราควรจะบอกเขา มิฉะนั้นพี่เวลส์จะยังคงหวังว่าจะไม่มีปัญหาที่นี่ เราควรจะหาโอกาสที่จะแจ้งให้พี่เวลส์รู้”
จบบทแล้วหากอ่านไม่รู้เรื่องก็ขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณที่ยังติดตามนะครับผม