Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 176 เพส
ตอนที่ 176 เพส
ภายในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมนกพิราบดํา
คนแคระที่ฟรอสแอ็กส่งมาที่โรงแรมล้มลงกับพื้นและนอนหลับอยู่ คนที่ยังคงตื่นอยู่ในโรงแรมคือพริก ลูกบุญธรรมของเขา และแขกที่สวมหน้ากาก
ลูกอสูรแมวเทาตัวหนึ่งคลานอยู่บนราวบันไดชั้นสอง มองบุคคลที่สวมหน้ากากด้านล่างอย่างสงสัย
บุคคลที่สวมหน้ากากเงยหน้าขึ้นและใช้ดวงตาสีแดงเข้มที่อยู่ใต้หน้ากากเพื่อเหลือบมองลูกอสูรแมวเทา เนื่องจากรับรู้ถึงอันตรายอย่างยิ่ง ลูกอสูรแมวเทาจึงวิ่งกลับไปที่ห้องของเขาทันที
“เพส…ข้า… ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะกลับมา”
พริกมองเหรียญพิเศษที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ เป็นเหรียญตรานกพิราบดํา
ในบรรดาสมาชิกของเครือข่ายข่าวกรองใต้ดินนกพิราบดํา มีเพียงคนรุ่นเก่าเท่านั้นที่รู้ว่าเหรียญนี้เป็นตัวแทนของอะไร มันหมายถึง ผู้ก่อตั้ง และ ผู้ปกครองที่แท้จริงของนกพิราบดํา
น่าเสียดายที่ผู้ถือเหรียญนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อนานมาแล้ว ด้วยเหตุนั้นกพิราบดําจึงค่อยๆ แตกสลาย หลังจากดาร์คเอลฟ์พันหน้า ปรากฏตัวในนอร์แลนด์และเข้าควบคุมนกพิราบดํา เครือข่ายข่าวกรองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของนอร์แลนด์ถูกจัดระเบียบใหม่
พริกเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งนกพิราบดํา ดังนั้นเขาจึงจําเหรียญได้เช่นเดียวกับเจ้าของเหรียญ
“ข้าเบื่อหน่ายกับเมืองนี้ที่มนุษย์ครอบครอง การอยู่ในอาณาจักรปีศาจนั้นสะดวกสบายกว่ามากสําหรับข้า การที่ได้ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหญิงเซซิลีถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของข้า”
นกพิราบดําถูกสร้างขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตําแหน่งของผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์ในนอร์แลนด์ น่าเสียดายที่มีจอมเวทย์จํานวนมากเกินไปที่เดินทางมายังนอร์แลนด์เพื่อแสวงหาความรู้ ด้วยเหตุนี้คนที่ไม่ใช่มนุษย์จึงถูกบังคับให้ไปอยู่ที่มุมหนึ่งของนอร์แลนด์ สถานที่ที่ในที่สุดก็กลายเป็นถนนกระรอก
พริกมองเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมาเนิ่นนาน ทัศนคติของนางทําให้รู้ชัดเจนว่าตัวตนของนางคืออะไร…ทหารรักษาการณ์
“อะไรนะ… ทหารองครักษ์จากเมืองหลวงของอาณาจักรปีศาจอยากเข้าเมืองนี้?
“ท่านหญิงเซซิลสั่งให้ข้าพาน้องชายของนางกลับไปที่อาณาจักรปีศาจ”
เพสเอาภาชนะแก้วเรียวออกมา ของเหลวสีแดงเข้มอยู่ในหลอดแก้ว เมื่อดูจากสีของของเหลวแล้ว ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นเลือดของใครบางคน
“เจ้ารู้ว่าเผ่าพันธุ์ของข้าสามารถติดตามตําแหน่งของบุคคลโดยใช้เลือดของพวกเขา แต่บางทีอาจเป็นเพราะม่านพลังของนอร์แลนด์ สัมผัสของข้าหมดประสิทธิภาพหลังจากมาที่นอร์แลนด์”
สิ่งที่เพสบอกพริกอาจกล่าวได้ว่าเป็นข้อมูลลับสําหรับภารกิจของทหารรักษาการณ์ หากสิ่งนี้เกิดขึ้นในอาณาจักรปีศาจ ทั้งทหารรักษาการณ์ที่ปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหล และผู้ที่ได้ยินข้อมูลจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
แต่เพสไม่ได้กังวลเรื่องนั้น นางไม่กังวลว่าพริกจะเผยแพร่ความลับที่นางเพิ่งบอกไปเช่นกัน
“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าไม่ต้องการอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยมนุษย์เป็นเวลานาน”
ขณะที่เพสพูด พริกก็รู้สึกได้ว่าเลือดบางส่วนในร่างกายของเขาเริ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ
“คนที่เจ้ากําลังตามหาชื่ออะไร?”
แม้ว่าคนตรงหน้าจะกุมชีวิตเขาผ่านการควบคุมเลือด แต่พริกยังคงมีสีหน้าไม่แสดงอารมณ์
ผู้หลอกลวงคนนี้เดาเหตุผลที่เพสมาที่นอร์แลนด์ แต่เนื่องจากเขาเป็นปิศาจไร้หน้า สมาชิกจากเผ่าปีศาจที่เรียกว่าผู้หลอกลวงพริกไม่ได้วางแผนที่จะสารภาพกับเพสง่ายๆ
“โจชัว โจชัว แอนเนอร์ลาวด์ เขาเป็นปีศาจโกลาหลเจ้ารู้ไหมว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในเมืองนี้?”
ในเวลาเดียวกันเพสก็พูดถึงชื่อเป้าหมายของเขา ดวงตาสีแดงเข้มของนางจ้องไปที่ผู้หลอกลวง นางกําลังตัดสินว่าพริกกําลังโกหกหรือเปล่า
“ไม่มีเหตุผลที่เจ้าต้องลังเล เมื่อข้าเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ข้าสามารถรับประกันได้ว่าเจ้าจะสามารถกลับไปยังอาณาจักรปีศาจได้ เด็กๆเหล่านั้นที่เจ้ารับเลี้ยงจะสามารถกลับไปกับเจ้าได้ ข้าจะให้ที่พักพิงแก่เจ้าในอาณาจักรปีศาจ มันจะต้องดีกว่าที่นี่อย่างแน่นอน”
เพสให้สัญญาที่นางเชื่อว่าพริกจะไม่อาจปฏิเสธ
เนื่องจากนางเป็นผู้ก่อตั้งนกพิราบดํา นางรู้ดีว่าการที่คนที่ไม่ใช่มนุษย์อาศัยอยู่ในถนนกระรอกของนอร์แลนด์นั้นยากลําบากเพียงใด
สิ่งที่นางพบเมื่อมาถึงโรงแรมนกพิราบดําก็ยืนยันเรื่องนี้เช่นกัน หากไม่ใช่เพราะการมาถึงของนางในทันที พ่อค้ามนุษย์นั่นอาจลงเอยด้วยการกระทําการหยาบคายและโง่เขลา
“ข้าขอโทษ เพส ข้าไม่สามารถตอบคําถามนั้นได้”
ในตอนแรกพริกลังเลที่จะบอกตําแหน่งของโจชัวกับททหารรักษาการณ์คนนี้
แต่หลังจากที่เพสสัญญาว่าจะให้ที่พักสําหรับเขาในแดนปีศาจ พริกก็เปลี่ยนใจทันที
ธุรกิจโรงแรมนกพิราบดําในปัจจุบันถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้ง
ไม่มีเหตุผลใดที่พริกจะต้องกังวลเรื่องเงินเลย แม้ว่าแขกหนึ่งหรือสองคนอาจเริ่มสร้างปัญหา แต่แขกส่วนใหญ่ก็มารยาทดี
ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะออกจากนอร์แลนด์ และโจชัวคือคนที่มอบทั้งหมดนี้แก่เขา
แม้พริกจะเป็นผู้หลอกลวงแต่ก็ไม่ใช่คนเลวทรามต่ําช้า
การเจรจาสิ้นสุดลงด้วยความชะงักงันหลังจากพริกพูดคํานั้น แต่ความเงียบกก็ถูกนกฮูกที่บินเข้ามาทางหน้าต่างทําลาย
นกฮูกดึงดูดความสนใจทันที
หลังจากที่นกฮูกบินเข้ามาในโรงแรม ก่อนที่มันจะบินลงได้ จู่ๆ มันก็บินชนชั้นสอง และตกลงบนมือของ ทหารรักษาการณ์เพส โดยตรง
นกฮูกเริ่มกระพือปีก ดูเหมือนว่าจิตสํานึกของมันจะพร่ามัว
เพสเปิดจดหมายที่นกฮูกถืออยู่ นางมองเนื้อหาของจดหมาย นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเนื้อหาในจดหมายฉบับนี้คืออะไร แต่นางสังเกตเห็นลายเซ็นโจชัว นี่คือทั้งหมดที่นางต้องการ
“ดูเหมือนว่าโจชัว แอนเนอลาวด์ เป็นนายจ้างของเจ้า ข้าสามารถเข้าใจได้ว่าทําไมเจ้าถึงต้องการเก็บเรื่องของนายจ้างไว้เป็นความลับ แต่ตอนนี้… พาข้าไปหาเขา”
เมื่อเพสพบเบาะแสเกี่ยวกับโจชัวแล้ว นางไม่มีใจที่จะพูดคุยกับเพื่อนเก่าของนางต่อไป
นางไม่ชอบเมืองนี้และต้องการทําภารกิจให้สําเร็จโดยเร็วเพื่อกลับไปยังเมืองหลวงพร้อมกับโจชัว
ไม่มีร่องรอยของภัยคุกคามอยู่ในน้ําเสียงของนาง แต่เลือดภายในร่างกายของพริกเริ่มแข็งตัว หากเขาไม่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาอาจเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายหรือลิ่มเลือด
พริกเริ่มเสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้กลายเป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่แสนจะลําบาก ถ้ามันเป็นร่างเดิมของเขา ก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับหัวใจ
เพสหันไปมองชั้นบน การเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของนางได้ทําลายด่านป้องกันสุดท้ายของพริก
ชั้นบนคือ ลูกครึ่งมังกรและลูกอสูรแมวเทา
“ตามข้ามา” พริกยืนขึ้นและพูดกับนาง