Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 168
ตอนที่ 168 แผนหลบหนี
โรงเตี้ยมใจหิน
ถึงเวลาที่มนุษย์ธรรมดาควรจะต้องหลับใหลแล้ว
วันนี้โจชัวใช่โอกาสที่นานๆที่จะมี วันนี้เขาขี้เกียจ เขาไม่ได้พัฒนาเกมหรือเขียนบท เขาตัดสินใจที่จะนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์และนั่งอยู่ทั้งคืนเพื่ออ่านนวนิยาย
“มีการตอบกลับถึงโพสต์ที่ประกาศของ ก็อบลิน VS โนมเยอะมาก”
ซิริยังนั่งอยู่กับโจชัวทั้งคืน นิ้วของนางเลื่อนขึ้นและลงอยู่ในบันทึกของผู้สอบสวน ตลอดเวลา
“ผู้วิเศษสนใจศาลนอกรีตของศาสนจักรมาก นอกจากนี้ไดอารี่เล่มนั้นเขียนได้น่าสนใจมากจริงๆ ก้าวทีละก้าวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น มันสามารถดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ได้”
โจชัวอ่านจนถึงวันที่ร้อยเจ็ดสิบสองของ “บันทึกของผู้สอบสวน”
ในฐานะนวนิยายเรื่องแรกในกระทูจอมเวทย์ ‘บันทึกของผู้สอบสวน’ ไม่เพียงแต่เปิดโปงความลึกลับของศาลนอกรีต เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากในตัวของมันเอง
มันเป็นเรื่องของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ cloใจดี แม่ชีที่พยายามเอาชีวิตรอดในองค์กรดำมืด
“บันทึกของผู้สอบสวน” ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ไม่เพียงแต่จะกลายเป็นความอยากรู้อยากเห็นของผู้วิเศษจํานวนมาก แต่ยังทําให้หลายคนกังวลเกี่ยวกับผู้ใช้แม่ชีสโกตัน
จากนางฟ้าของเรื่อง เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุเพียงสิบห้าปี ทว่านางถูกศาลนอกรีตบังคับให้พรากชีวิตคน
แต่ไม่ว่าคนจะกังวลเกี่ยวกับเขียนไดอารี่มากขนาดไหน สิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดในตอนนี้คือทําไม ‘บันทึกของผู้สอบสวน’ ถึงยังไม่อัพเดท?
“เจ้าไม่ได้วางแผนที่จะเขียนนวนิยายเหรอ?”
ซิริอ่านบทล่าสุดทั้งหมดก่อนโจชัวจบ นางยังคงพิงอยู่ที่เคาน์เตอร์ นางหันไปรอบๆ และมองไปยังโจชัว
“เป็นการดีกว่าสําหรับไทลืนที่จะบรรยายนิยายผ่านการออกอากาศของนาง นอกจากนี้เมื่อเทียบกับนิยายที่ข้ารู้จัก เป็นการดีกว่าที่จะปรับปรุงเนื้อหาของกระทู้จอมเวทย์ด้วยความพยายามของผู้ใช้เอง”
โจชัวออกจากโพสต์ บันทึกของผู้สอบสวน ทําให้ผู้เขียนนวนิยายใหม่ๆ มากมายปรากฏใน หอสมุดไร้การเคลื่อนไหว
สําหรับอิทธิพลของกระทู้โดยรวม การมีผู้เขียนที่โดดเด่นจํานวนมากเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เมื่อพวกเขาโพสต์บนกระทู้ พวกเขาจะนําเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงไปยังกระทู้
ปัจจุบัน ผู้เขียน ที่โดดเด่นส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกระทู้ย่อย “การวิจัยเวทมนตร์” และ “หอสมุดไร้การเคลื่อนไหว”
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ในกระทู้ย่อยการวิจัยเวทมนตร์เป็นสมาชิกที่มีประสบการณ์ของสมาคมเพื่อนนกฮูก นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้ใช้กระทูจอมเวทย์เป็นวิธีการสื่อสาร พวกเขาได้ถกเถียงกันเกี่ยวกับความรู้ต่างๆ ของเวทมนตร์และการเล่นแร่แปรธาตุในกระทู้ย่อยนั้นทุกวัน การวิจัยเวทมนตร์เป็นกระทู้ย่อยที่มีอัตราการอัปเดตมากที่สุด
ในบรรดาผู้ใช้กระทําย่อยการวิจัยเวทมนตร์นกฮูกสีเทาเป็นคนที่ตอบมากที่สุดและโพสต์มากที่สุด เมื่อพิจารณาจากงานเขียนของเขา โจชัวค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมเพื่อนนกฮูกของจอมเวทย์เทาเลิสค์
โดยมีจอมเวทย์เทาเป็นแบบอย่าง เหล่าผู้วิเศษเริ่มพูดคุยถึงหัวข้อวิชาการและการวิจัยมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ พวกเขามีสูตรการเล่นแร่แปรธาตุ มากมายที่โพสต์โดยนักเล่นแร่แปรธาตุซึ่งโจชัวเลือกเป็นกระทู้แนะนํา
นอกเหนือจากสองกระทู้ย่อยแล้ว กระทู้ย่อยอื่นๆ ยังรวมถึงการพูดคุยประจําวัน” โรงภาพยนตร์ “โถงดนตรี” และอื่น ๆ อีกมากมาย
โจชัวกําลังวางแผนที่จะเปลี่ยนกระทูจอมเวทย์ให้เป็นตัวอย่างที่ดีของเครือข่ายเวทมนตร์ ท้ายที่สุดผู้วิเศษแห่งนอร์แลนด์ก็แค่ไปที่กระทู้หรือฟังเสียงแห่งนอร์แลนด์เมื่อพวกเขาใช้เครือข่ายเวทมนตร์ พวกไม่สนใจหน้าเว็บ
ในขณะนี้โจชัววางแผนที่จะรักษาการควบคุมเครือข่ายเวทมนตร์ ยังไม่มีความจําเป็นสําหรับเขาในการพัฒนาหน้าเว็บเลย ตอนนี้เป้าหมายคือการอนุญาตให้ผู้เขียนที่โดดเด่นเข้ามาเขียน เพียงเท่านี้เขาก็สามารถรักษากระทู้ให้มีชีวิตชีวาได้
“ตอนนี้เลยเที่ยงคืนแล้ว” ซิริกล่าว
ซิริได้ยินเสียงแหลมของนกฮูกบนหลังคาซึ่งบอกเวลา นกฮูกแห่งนอร์แลนด์จะปล่อยเสียงแปลกๆ ออกมาในเวลาเที่ยงคืน
ในขณะนั้นเองโจชัวไม่รู้ว่าทําไมถึงเป็นแบบนี้
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ‘บันทึกของผู้สอบสวน’ ไม่มีการอัปเดตในวันนี้…มีอะไรเกิดขึ้นกับหญิงผู้สอบสวนคนนั้น หรือเปล่า?”
โจชัวไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับนักเขียนที่คนนั้น ท้ายที่สุด นางเป็น “สายลับ” เพียงคนเดียวที่เขามีในศาลนอกรีต
ปกตินางจะอัพเดทไดอารี่ในช่วงเวลา 20.00 น. ถึง 21.00 น. แต่วันนี้ไม่มีการอัปเดตใหม่แม้จะเลยหลังเที่ยงคืนแล้ว
ผู้วิเศษจํานวนมากแสดงความกังวลต่อผู้เขียนที่ด้านล่างไดอารี่ พวกเขากังวลว่าแม่ชีสโกดันอาจเจออันตรายบางอย่างหรือถูกศาลนอกรีตค้นพบเข้า
น่าเสียดายที่โจชัวไม่สามารถช่วยนางได้ ตั้งแต่นางกลับไปที่ศาสนจักร นางถูกลิขิตให้ต้องต่อสู้เพียงลําพัง
เชอรี่รอจนกระทั่งนักบุญจากไป นางใช้หมอกสีเทาของนางสํารวจสภาพแวดล้อม หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครเฝ้าติดตามพวกนาง นางจึงกล่าวว่า “เทเรซา หนี!”
เชอรี่ปีนขึ้นไปบนเตียงของนาง นางใช้ความสูงของเตียงเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างนางกับเทเรซา จากนั้นนางก็วางมือบนไหล่ของเทเรซาและบังคับให้หันหน้าเข้าหาตัวนางเอง
“หนี?”
เทเรซารู้สึกประหลาดใจกับคําแนะนําอย่างกะทันหันของเชอรี่ นางกําลังคิดที่จะเคลียร์ด่านแรกของเกม
“หลบหนีจากสถานที่ต้องคําสาปนี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้าต้องอยู่ที่นี่เพื่อรับพรจากคณะนักร้องประสานเสียง แต่ตอนนี้มันไม่จําเป็นแล้ว…”
เดิมทีเชอรี่วางแผนที่จะใช้เวลาสักหน่อยเพื่อเกลี้ยกล่อมเทเรซา และทําให้แม่ชีผู้ไร้เดียงสาเชื่อว่านอร์แลนด์จะทําให้พวกนางมีอนาคตที่ดีกว่า แต่คําสอนที่นางได้รับจากนักบุญ ภารกิจบังคับให้เชอรี่ต้องเปลี่ยนแผนล่วงหน้า
ประสบการณ์ของนางบอกนางว่าภารกิจในการไปยังป่าดํานั้นยากกว่าการพยายามลอบสังหารปีศาจโกลาหลในนอร์แลนด์
ผู้สืบสวนใหม่อย่างเทเรซาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในภารกิจประเภทนั้น
ถ้าเชอรี่จบลงด้วยการไปที่ป่าดํา เทเรซาจะไม่สามารถใช้เครือข่ายเวทมนตร์ได้อีกต่อไป ผลที่จะตามมานั้น ชัดเจน
ผู้สือบสวนนับไม่ถ้วนจบลงด้วยความบ้าคลั่งและเสียงพึมพํา เชอรี่เคยเป็นหนึ่งในผู้สอบสวนเหล่านั้น
“ทําไมเราต้องหนี?”
เทเรซาเชื่อว่าการใช้ชีวิตในศาสนจักรคือทั้งชีวิตของนาง ในฐานะบุคคลที่อุทิศทุกอย่างให้กับพระเจ้า เทเรซาไม่เข้าใจว่าทําไมเชอรี่ถึงใช้คําว่า “หนี”