Ark The Legend - ตอนที่ 257
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.
วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน
วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป
==========
เล่ม 9 ตอนที่ 2 : ตกจากหน้าผาไม่พอยังโดนโชคชะตาเล่นตลก (2)
‘อะ-อะไรกัน ความรู้สึกนี้คือ?’
เพราะการโจมตีที่ยอดเยี่ยม พลังชีวิตของพังพอนจึงลดน้อยลงไป 15% โดยทันที มันถึงกับสร้างความเสียหายได้ประมาณ 300 หน่วยกับมอนสเตอร์เลเวล 250! ถ้าหากเป็นดาบของแลนเซลก็สามารถทำได้ประมาณนี้หากเป็นการโจมตีคริติคอล ที่เขาประหลาดใจไม่ใช่เพราะพลังโจมตีของมัน มันคือดาบหายากเพราะงั้นเขาจึงคาดหวังเอาไว้มาก นี่คือ ‘การผ่าร่าง’ ที่อาร์คไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ครืด… มันคือความรู้สึกที่มีแต่เพียงดาบสองมือซึ่งตัดผ่านแผ่นหนังเท่านั้นที่ทำได้! ช่างเป็นการเชือดเฉือนที่น่าประทับใจ เขาสามารถเฉือนแผ่นหนังที่หนาเตอะของมอนสเตอร์ได้เพียงแค่ขยับปลายนิ้ว ความรู้สึกนี้ไม่เหมือนกับการหั่นเนื้อ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง! แต่อาร์คก็ยังสัมผัสได้ว่าดาบแห่งกิลซาลเล่มนี้ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ มันคือความรู้สึกกระหายต่อเลือดเนื้อที่ไม่อาจอธิบาย! มันเหมือนกับมีอะไรไปกระตุ้นเซลในร่างกายของเขาให้พยายามฉีกกระชากเลือดเนื้อตรงหน้าด้วยดาบเล่มนี้
‘นี่สินะดาบหายาก…!’
รอยยิ้มเริ่มฉายชัดผ่านใบหน้าของอาร์คขณะยินดีกับดาบในมือ อย่างรวดเร็วอาร์คคล้ายต้องมนตร์ของดาบแห่งกิลซาลเข้า
‘เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายคนถึงพยายามไขว่คว้าดาบหายากมาไว้ในครอบครอง หลังได้ลองใช้มัน ดาบวิเศษกลับให้ความรู้สึกคล้ายเหวี่ยงกระบองทุบตีมอนสเตอร์ก็ไม่ปาน’
ดาบยิ่งชุ่มโชกหลังโจมตีพังพอนเข้าไปหลายที อาร์คเริ่มหมุนร่างอย่างรวดเร็วขณะเหวี่ยงดาบเข้าใส่ไปพร้อมกัน
ชิ๊ง!
ดาบของแลนเซลเมื่อทำความเสียหายคริติคอลจะส่งเสียงคล้ายอะไรแตกหักออกมา ทว่าดาบแห่งกิลซาลเล่มนี้เพียงแค่สั่น มันช่างเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ใช้งาน เขารู้สึกคล้ายตนสามารถตัดผ่านอะไรก็ได้เพียงแค่ขยับปลายนิ้วมือ!
‘ความรู้สึกนี้… ช่างบ้าคลั่งนัก’
อาร์คเหวี่ยงดาบเข้าใส่พังพอนอย่างไม่หยุดยั้ง แน่นอนว่า กระทั่งเป็นดาบแห่งกิลซาลก็มีข้อด้อยอยู่ เพราะมันคือดาบสองมือ ความเร็วการโจมตีถึงต่ำเป็นอย่างมาก ในเมื่อใบดาบค่อนข้างใหญ่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาศูนย์กลางโน้มถ่วงเอาไว้เพื่อเตะหลังการเหวี่ยงดาบ นอกจากนี้ ด้วยธรรมชาติของดาบสองมือ มันจึงทำให้ยากต่อการโจมตีแม่นยำเพื่อทำการโจมตีคริติคอล แต่แม้จะมีข้อบกพร่องพวกนี้ มันก็ยังแข็งแกร่งกว่าดาบของแลนเซลหลายต่อหลายเท่านัก
ซึ่ก… ชิ๊ง!
ทุกครั้งที่ดาบทอประกายพลังชีวิตของพังพอนก็จะลดน้อยลง เดดริคและดีมอสเองก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจที่ต้องเผชิญหน้ากับพังพอนตัวที่เหลือแต่อย่างใด
“หึหึหึ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกันเอาเรื่องนี่?”
เดดริคหัวเราะคิกคักขณะบินไปรอบถ้ำ
“เคลื่อนไหวช้าขนาดนั้นคิดว่าจะจับตัวข้าได้?”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ดีมอสสกัดการโจมตีของพังพอนเอาไว้ได้โดยโล่ขณะพยายามสวนกลับการโจมตีเข้าใส่ ที่สามารถทำเช่นนี้ได้เพราะสมุนปีศาจของเขาผ่านประสบการณ์มามาก ตั้งแต่เข้าพื้นที่นาการัน คู่ต่อสู้ของพวกมันส่วนใหญ่แล้วก็เป็นพวกมือสังหาร หากเทียบกับผู้เล่นแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่าเอ็นพีซีมนุษย์มือสังหารนั้นมีสติปัญญาชาญฉลาดเพียงใด แน่นอนว่ากลยุทธ์และรูปแบบการโจมตีของพวกเขาเหล่านั้นซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง อาร์คและสมุนปีศาจที่รับมือกับบุคคลพวกนั้นตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา พอตอนนี้ต้องรับมือกับมอนสเตอร์ทั่วไป รูปแบบการโจมตีของพวกมันจึงดูง่ายดายเหลือเชื่อ อาร์คเองก็สามารถเผชิญหน้ากับความยากลำบากของป่าสีแดงได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่ อีกทั้งตอนนี้อาร์คและสมุนปีศาจต่างมีเป้าหมายคือนำพังพอนมาเป็นแหล่งเสบียงเพื่อประทังชีวิต
“เดดริคใช้พุ่งปะทะความมืดจัดการพวกมันทางด้านหลัง! ดีมอสตั้งท่าป้องกันอยู่ด้านข้าง!”
“ขอรับ!”
หลังจากออกคำสั่ง สมุนปีศาจของเขาก็ลงมือกันอย่างแข็งขัน ไม่ช้าหลังจากที่เขาจัดการเรื่องตรงหน้าเสร็จ เดดริคก็พุ่งปะทะพังพอนจากด้านหลังจนร่างกระเด็นกระดอนพุ่งไปด้านหน้า พังพอนที่โดนบังคับให้พุ่งเข้าใส่อาร์คก็โดนดีมอสยกโล่ขึ้นป้องกันจากอีกด้าน นี่แหละโอกาสทอง! อาร์คใช้คมดาบแห่งความมืดโจมตีเข้าใส่อย่างจัง พลังชีวิตของพังพอนตัวนี้จึงลดต่ำลงน้อยกว่าครึ่งแล้ว
‘ต้องแบบนี้สิ ยังเหลืออีกสองตัว ถ้าง่ายแบบนี้ก็ชนะไม่ยากแล้ว!’
“ใช้แผน A-2! รุมโจมตีเลย!”
อาร์คและสมุนปีศาจไล่ต้อนพังพอนตัวที่เหลือเข้าจนมุมพร้อมโจมตีเป็นระลอก หลังผ่านไปหลายอึดใจ พังพอนตัวสุดท้ายจึงล้มลงโดยดาบแห่งกิลซาลที่ตัดผ่านคอหอยของมัน
“ต้องแบบนั้น ได้เวลากินกันแล้ว!”
เดดริคน้ำลายไหลยืดขณะบินเข้าใส่ร่างของพังพอน ฉับพลันแสงสีแดงได้ปรากฏขึ้นในถ้ำอย่างเหนือความคาดคิด ดีมอสเป็นคนแรกที่เห็นจึงยืนหยัดตรงหน้าเดดริคพร้อมโล่ที่ยกขึ้นเตรียมป้องกัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทั่วถ้ำจนดีมอสต้องกระเด็นถอยกลับ อาร์คถึงกับแตกตื่นขณะคิดหาทางถอย
กรร!
พังพอนอีกตัวเดินมาตรงหน้าเขา ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่พังพอนธรรมดา ตัวของมันใหญ่กว่าตัวอื่นแถมยังมีเส้นขนสีแดง! พอตรวจสอบข้อมูลให้ดีจึงทราบว่ามันเลเวลสูงถึง 300 ซึ่งสูงกว่าพวกพังพอนก่อนหน้านี้ถึง 50 ระดับเลเวลด้วยกัน
‘มอนสเตอร์พิเศษ!’
ดวงตาของอาร์คเป็นประกาย เขาพบเจอมอนสเตอร์พวกนี้มาแล้วบ่อยครั้ง ร่างของพวกมันมักจะใหญ่กว่าตัวอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน และมักจะมีความแตกต่างอย่างสีผิวหรือว่าเส้นผม หรือไม่ก็เส้นขนอะไรพวกนี้ มอนสเตอร์พิเศษนับว่าเป็นอะไรที่ต้องตาต้องใจเหล่านักล่าเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อเลเวลและค่าสถานะของพวกมันสูงกว่า ร่างกายก็ใหญ่กว่า ซึ่งการจัดการพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นั่นก็ทำให้พวกมันมีโอกาสสูงที่จะดร็อปไอเทมราคางาม
‘ถึงกับมีมอนสเตอร์พิเศษในที่แบบนี้!’
อาร์คกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะจ้องมองร่างพังพอนสีแดงตรงหน้า
“ทั้งรูปร่างแบบนั้นแถมยังตัวใหญ่… เอามาย่างต้องอร่อยแน่!”
เดดริคเร่งร้อนพุ่งเข้าใส่จากในความมืด ขณะนั้นเอง เปลวเพลิงสีแดงพลันปรากฏขึ้นขณะพังพอนอ้าปากและพ่นออกมา
“ว๊าก! ไฟ! ร้อน!”
เดดริคกรีดร้องขณะสะบัดหางเหวี่ยงตบไฟให้หยุดไหม้
‘นะ-นี่มัน…!’
เดดริคร้องเหมือนพลังชีวิตหายไปเยอะ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไร ดีมอสต่างหากที่จะไม่สามารถใช้โล่เข้ารับการโจมตีของพังพอนตรงหน้าได้ หากถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงดีมอสต้องตายโดยทันทีแน่ อีกทั้งเขายังไม่สามารถเรียกดีมอสกลับมาอีกครั้งแม้เวลาจะผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมงได้อีก และยังมีปัญหาใหญ่กว่านั้น อาร์คจะได้รับความเสียหายจากการที่ดีมอสตายไป ดีมอสเติบโตขึ้นมากจนมีพลังชีวิตถึง 1,800 หน่วย ซึ่ง 50% ก็เท่ากับความเสียหาย 900 หน่วย ซึ่งความเสียหายเท่านี้คิดเป็น 30% ของพลังชีวิตที่อาร์คมีเลยทีเดียว
อาร์คพลันนำผ้าคลุมห่อตัวไว้ขณะกระโดดเข้าไปในกองเพลิง ผ้าคลุมอัคคีมีภูมิต้านทานไฟถึง 50! อาร์คตะโกนดังขณะเงื้อดาบแห่งกิลซาลเข้าใส่ปากของพังพอนตรงหน้าที่กำลังพ่นไฟออกมา
=====
ท่านโจมตีคริติคอล!
=====
พังพอนที่โดนโจมตีเข้าไปถึงกับถอยโดยทันที
“ดีมอส ถอยไปแนวหลังก่อน”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก! ดีมอสเริ่มถอยกลับขณะปล่อยให้อาร์ครับหน้าเปลวเพลิงเพื่อรักษาชีวิตไว้
‘ถ้ำนี่แคบมาก ถ้ามันใช้การโจมตีด้วยไฟเหมือนเมื่อครู่อีกรอบ ทั้งเดดริคและดีมอสจะไม่มีที่ให้หลบแล้ว เป็นเพราะสมุนปีศาจของเราไม่มีภูมิต้านทานไฟเลย นับว่าเป็นการโจมตีที่ร้ายแรงมาก’
นอกจากนี้ เดดริคและดีมอสยังเสียพลังชีวิตไปแล้วถึง 15% ถ้าปล่อยให้โดนเปลวเพลิงโจมตีเข้าใส่อีกเพียงครั้งเดียวคงได้ตกเข้าสู่สภาวะวิกฤตอย่างแน่นอน และถ้าหากหนึ่งในพวกมันตายไป อาร์คจะได้รับความเสียหายเพิ่มเติมเพราะสมุนปีศาจโดนบังคับเรียกตัวกลับ
“เดดริค ดีมอส ถอยไปให้ไกลกว่านี้”
“ขอรับ? เจ้านาย… จะสู้คนเดียว?”
เดดริคยังคงลูบหางที่โดนไฟไหม้ไปมาอยู่
“ตรงนี้พวกนายช่วยอะไรไม่ได้”
“แต่ว่าเจ้านาย…”
เดดริคมองด้วยสายตากังวลแต่ก็ยังคงจากไปแต่โดยดี ในสถานการณ์แบบนี้อาร์คไม่อาจหย่อนยานได้แม้เพียงนิด พวกเขาเพิ่งจัดการพังพอนไปสี่ตัวอย่างง่ายดาย เขาจึงไม่คิดเลยว่าจะมีมอนสเตอร์ตัวอื่นโผล่มาทันทีทันใด นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้สนใจฟื้นฟูพลังชีวิตมากนัก อีกทั้งพลังชีวิตตอนนี้ของเขายังเหลืออยู่แค่ 30% อาร์คเริ่มกระชับดาบในมือให้มั่นคง
‘ถ้าหากเป็นหนึ่งต่อหนึ่ง เราก็มีเปรียบอยู่บ้าง!’
คว๊าก!
ขณะนั้นเอง พังพอนที่รอคอยโอกาสให้ฉกฉวยพลันพุ่งเข้าใส่เขาโดยทันที อาร์คพยายามเหวี่ยงดาบตอบสนองการเคลื่อนไหวของมัน เป็นเขาที่พอจับทางการเคลื่อนไหวของมันได้จึงสวนกลับการโจมตีเข้าใส่หน้าอกของมันอย่างจัง
“สวนกลับฉับพลัน!”
ตึง! เสียงพลันดังขึ้นขณะร่างของพังพอนถอนตัวกลับอีกครั้ง อาร์คยังคงโจมตีออกอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขามีเวลาผ่อนลมหายใจได้บ้างขณะกระชับดาบในมืออีกครั้งหนึ่ง
‘พลังชีวิตของเรามีไม่พอ เราต้องใส่ใจเรื่องการป้องกันให้มากกว่าโจมตี’
ดาบแห่งกิลซาลมีความเร็วการโจมตีต่ำ นั่นหมายความว่าทุกการโจมตีของเขาจะเกิดช่องว่าง
‘ตอนใช้ดาบแลนเซลเราสามารถสู้ระยะประชิดได้ แถมเรายังสามารถขึ้นมาหน้าและหลังเพื่อสับเปลี่ยนการใช้เทควันโด แต่ดาบกิลซาลนี่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ในเมื่อเป็นดาบสองมือ ระยะการโจมตีจึงแคบลง แถมระยะเวลาตอบสนองต่อการโจมตีของศัตรูเพื่อสวนกลับก็ช้าลงด้วย ดาบยาวแบบนี้เสียเปรียบมากถ้าต้องสู้ระยะประชิด ถ้าหากเราไม่คุ้นชินความรู้สึกการใช้งานนี้ให้ดีได้ ก็ไม่มีทางที่เราจะหลบเลี่ยงความเสียหายที่ตามมา’
นี่คือส่วนหนึ่งที่เขาตระหนักได้ยามต่อสู้กับพวกพังพอน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเผยความผิดพลาดเพราะการโจมตีที่ไม่คุ้นชิน และดาบสองมือเช่นนี้ก็สามารถใช้เป็นอาวุธป้องกันได้ด้วย เพียงแต่เขายังไม่เคยใช้ ถ้าหากดาบมือเดียวเปรียบดั่งปืนกล งั้นดาบสองมือนี่ก็ไม่ต่างอะไรกับปืนใหญ่ เพื่อรักษาความมีเปรียบเอาไว้เขาจำเป็นต้องรักษาระยะห่างการโจมตี ในเมื่อความเร็วการโจมตีค่อนข้างต่ำ มันจึงต้องมีช่วงหน่วงเวลา อาร์คเริ่มเข้าใจมากขึ้นขณะจัดท่าทางเสียใหม่ เขาเริ่มตั้งท่าป้องกันแทนที่จะเป็นท่าโจมตีแล้ว
คว๊าก!
พังพอนสีแดงตรงหน้าพุ่งเข้าหาขณะเหวี่ยงแขนเข้าใส่โดยทันที องศาดาบของอาร์คตอนนี้สามารถรับการโจมตีเอาไว้ได้
‘จริงด้วย… การโจมตียากเข้าถึงตัว’
การเลือกใช้ดาบแห่งกิลซาลในท่วงท่าป้องกันนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทักษะป้องกันที่อาร์คเรียนมามีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ ‘ปัดป้อง’ ถ้าหากทำได้สำเร็จก็สามารถป้องกันการโจมตีได้ไม่ยาก เพราะทักษะการใช้ดาบของเขาคือขั้นกลาง เขาจึงทำให้การปัดป้องมีผลขึ้นเป็นสี่เท่า! เมื่อป้องกันได้ความเสียหายจะถูกนำมาคิดเป็น 45~60% และทำให้เขาได้รับความเสียหายแค่ 180~240 หน่วย! พื้นฐานตรงนี้ก็คล้ายกับพวกนักรบที่ใช้โล่เหล็กกล้า มันไม่ใช่การป้องกันที่สมบูรณ์ แต่มันมีความเป็นไปได้ที่จะลดทอนความเสียหายได้จำนวนหนึ่ง อาร์คที่ใช้งานปัดป้องจึงสามารถป้องกันเอาไว้ได้ก่อนที่จะใช้สวนกลับฉับพลันเล่นงาน ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที อาร์คสามารถทำให้พลังชีวิตของพังพอนตรงหน้าเหลือแค่ 70% ทว่ากว่าจะทำได้เท่านี้อาร์คก็สูญเสียพลังชีวิตไป 10% แล้ว
‘เราเสียไป 10% แต่ก็แลกมาด้วยพลังชีวิตของมันถึง 70% ถ้าคงสภาพนี้ต่อไปได้ก็น่าจะชนะได้!’
นั่นคือสิ่งที่อาร์คคิด ขณะที่เขาโจมตีและสวนกลับการโจมตีอยู่นั้น พังพอนตรงหน้าก็มีความคิดอ่านเช่นเดียวกัน มันเริ่มถอยเท้ากลับขณะพ่นไฟออกมา เป็นผลให้อาร์คสูญเสียพลังชีวิตถึง 10% และตกเข้าสู่สภาวะวิกฤตโดยทันที
‘พังพอนที่บัดซบ… มันรู้จุดอ่อนของเรา!’
ถูกต้อง เขาไม่อาจสกัดการโจมตีของเปลวเพลิงด้วยดาบได้ ภูมิต้านทานเปลวเพลิงจากผ้าคลุมลดความเสียหายไปได้ 50% ก็จริง แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสวนกลับการโจมตี
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ จากชนะจะกลายเป็นแพ้! เรียกปีศาจ!”
อาร์คตะโกนใช้ความสามารถของดาบแห่งกิลซาลออกมา
ครืน!
ดาบแห่งกิลซาลเริ่มสั่นขณะปรากฏเสียงภูตผีวิญญาณร่ำไห้ออกจากตัวดาบ ร่างผีปรากฏขึ้นจากตัวดาบอย่างเห็นได้ชัด ราวกับพวกมันคือรอยสลักภูตผีที่มีอยู่บนตัวดาบมาช้านาน มันคือออพชั่นพิเศษของดาบแห่งกิลซาลที่จะช่วยเพิ่มความเสียหายให้ได้ถึง 20% โดยแลกเปลี่ยนกับพลังชีวิตของเขา เรียกปีศาจ! ในเมื่อเขาตกอยู่ในสภาวะวิกฤตแล้ว อะดรีนาลีนจึงทำงานโดยทันที ความเสียหาย การโจมตีคริติคอล การหลบหลีก และการตอบสนองทั้งหมดล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล! เขารู้สึกได้ถึงพลังที่พุ่งปะทุภายในจนทำให้เขาคิดอยากฉีกกระชากเลือดเนื้อตรงหน้า
“รับไป คมดาบแห่งความมืด!”
ครืน ฮูม!
ทุกครั้งที่ดาบถูกเหวี่ยงออก ภูตผีทั้งหลายจะคร่ำครวญออกมาพร้อมกับพังพอนตรงหน้าที่สูญพลังชีวิตไปจำนวนมหาศาล เพราะเป็นการโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกันของมอนสเตอร์ พังพอนตรงหน้าจึงตกอยู่สภาวะวิกฤตร่างสั่นเทิ้มขณะคิดหันกลับวิ่งหนี อย่างรวดเร็ว อาร์คเริ่มไล่ตามไป เรียกปีศาจคือดาบสองคม พลังโจมตีของเขาจะพุ่งสูงขึ้นขณะที่ต้องเสียพลังชีวิต 5 หน่วยทุกวินาที ในเมื่อเขาเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 300 หน่วย เขาจึงสามารถยืนหยัดอยู่ได้เพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้สี่สิบวินาทีผ่านพ้นไปแล้ว เขาจึงเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 100 หน่วย ถ้าหากเขาไม่อาจฆ่ามันได้ภายในยี่สิบวินาที เขาจะโดนสูบเลือดจากภูตผีพวกนี้จนตาย ดาบแห่งกิลซาลคล้ายพบว่าอาร์คเหลือพลังชีวิตไม่มาก มอนสเตอร์ที่สลักอยู่บนตัวดาบเริ่มคืบคลานสู่แขนของเขา
‘เหลืออีกแค่สิบห้าวินาที… ถ้าล้มมันไม่ได้เราก็ตาย!’
“วิ่งเร็ว!”
อาร์คระเบิดพลังเท้าพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วย่นระยะห่างเข้าไปใกล้ ขณะที่ใกล้จะถึงหัวมุมหนึ่ง พังพอนตัวนั้นพลันหยุดชะงักแล้วหันกลับมา
‘อะไร มันวางแผนล่อเรามา?’
ถ้าหากอาร์คไม่สามารถจัดการมันได้ในดาบเดียว จะเป็นเขาเองที่โดนผลสะท้อนกลับจนตาย และตอนนี้ก็สายเกินจะหยุดแล้ว
‘ไม่มันตายก็เราตาย!’
อาร์คกัดฟันแน่นขณะเหวี่ยงดาบออกไป เสียงกรีดร้องที่แหลมคมบาดแก้วหูของภูตผีเริ่มดังขึ้นจนทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือน ร่างของพังพอนสีแดงพลันถูกแบ่งแยกออกเป็นสองพร้อมหน้าต่างข้อความที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
=====
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
=====
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่
ดาบผ่าร่าง (ขั้นต้น, มีผลต่อเนื่อง) : ท่านได้ใช้ดาบเสียดแทงเข้าใส่หน้าอกของศัตรูและผ่าร่างออกเป็นสองท่อนด้วยจิตสังหารอันรุนแรง เทคนิคนี้จำเป็นต้องใช้ความคมของดาบเป็นอย่างยิ่งร่วมด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักของการลงแรงจากความสามารถของผู้เล่น สุดยอดช่างฝีมือที่มีความละเอียดอ่อนจะทุ่มเทจิตวิญญาณเพื่อสร้างดาบชั้นเลิศขึ้นมา เช่นเดียวกัน มีเพียงผู้ที่เข้าใจการใช้งานดาบสองมืออย่างดีเยี่ยมเท่านั้นจึงจะสามารถเรียนรู้เทคนิคนี้ได้
=====