Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 175
Chapter 175 คําเตือนและตัวเลือก
“สวัสดีครับ สารวัตรโฮ? โทรมาผิดหรือเปล่าครับ ผมไม่มีบริการพิเศษที่คุณมองหาหรอกนะ” จาวเหยาแหยอีกฝ่าย
แต่สารวัตรโฮกลับตอบกลับมาน้ําเสียงเข้ม จริงจังต่างกับจาวเหยา
“ฉันโทรมาเพราะมีเรื่อง มีอะพอสหญิงที่อันตรายคนหนึ่งมาที่เจียงไฮ้ ตํารวจกําลังตามตัวเธออยู่ เธอบุกโจมตีสถานที่หลายแห่งที่มีซูเปอร์แคทอาศัยอยู่ ตอนนี้มีพะพอสเซิลบาดเจ็บไปกว่า 10 คนแล้ว
” อ้อ งั้นหรือครับ คุณต้องการความช่วยเหลือเหรอ?” จาวเหยาลดโทนเสียงให้ต่ําลง
“เรายังโอเค แค่อยากเตือนให้นายระวังตัว เดี๋ยวฉันจะส่งรูปให้นายทีหลัง ถ้าเจอเธอ ห้ามนายเข้าสู้ ให้หนีและซ่อนตัว แล้วบอกฉันทันที เข้าใจไหม”
” ซ่อน? ผมเนี่ยนะครับ?”
จาวเหยาประหลาดใจกับคําเตือนของสารวัตร เขารู้ว่าจาวเหยาสามารถทําได้ดีกว่าแค่ป้องกันตัว แล้วทําไมเขาถึงให้จาวเหยาเลือกหนี? อะพอสเซิลคนนี้เป็นใคร? มีพลังอะไรกันแน่?
“เชื่อฉัน อย่าเข้าไปยุ่งกับเธอเด็ดขาด ที่นี่ไม่ใช่ที่แรก เธอก่อความวุ่นวายมาหลายเมืองแล้วทําร้ายอะพอสเซิลไปมากกว่า 30 คน และเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย” สารวัตรโฮตอบ
มากกว่า 30?” จาวเหยาอ้าปากค้าง
เขาไม่เคยเจออะพอสเซิลจํานวนมากขนาดนั้นมาก่อน
รูม่านตาของจาวเหยาหดเล็กลงจบแทบเหมือนตาแมว
” ดูจากสถานการณ์แล้วพลังของเธอต้องทั้งทรงพลังและไม่อาจคาดเดาได้” เขาว่า
สารวัตรโฮตอบรับ “ใช่ ฉันเลยโทรมาบอกนาย ตอนนี้เจ้าหน้าที่หลายนายก็กําลังกระจายข่าวเรื่องนี้กับอะพอสเซิลคนอื่นๆ อยู่”
สารวัตรโฮเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ
” จาวเหยา ฉันรู้ว่านายมีพลัง แต่ฉันขอนาย ถ้านายเจอกับเธอ ให้อยู่ห่างเขาไว้ เราไม่รู้ว่าเรากําลังเผชิญกับอะไร”
“เข้าใจแล้วครับ” จาวเหยาพยักหน้า
เขาเองก็รู้ว่าการเข้าโจมตีอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่ามีพลังอะไรเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดนัก ต่อให้เป็นคนที่มีประสบการณ์การต่อสู้มามาก ถ้าทําเรื่องไม่คิดก็อาจถึงตาย
หลังจากวางสายจากสารวัตรโฮ เขาก็เปิดแอพวีแชทว่ามีใครพูดถึงเรื่องนี้บ้างหรือไม่
และแน่นอนว่ามี
อยู่ไหนก็ได้โตแล้ว : พวกนายได้ยินกันหรือเปล่า อะพอสเซิลผู้หญิงที่บุกโจมตีสถานรับเลี้ยงแล้วก็คาเฟ่แมวน่ะ ดูเหมือนกําลังตามหาอะไรอยู่เลย
” ตามหางั้นเหรอ? ตามหาอะไร แมวแผ่นดินไหว?” จาวเหยาขมวดคิ้ว
แต่เขาก็ส่ายหน้า ยิ้มเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ฝั่งนั้นก็ทําอะไรโจ่งแจ้ง ไม่นานตํารวจก็คงตามจับตัวได้”
ถ้าเธอมีความสามารถในการรุก ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีความสามารถด้านการป้องกันต่ํา ถ้าตํารวจเจอตัวเมื่อไหร่คงหนีไม่ได้หรอก
จาวเหยายังคงคิดไปเรื่อย และการแจ้งเตือนจากสารวัตรโฮก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
มันเป็นรูปของอะพอสเซิลคนนั้น
ผู้หญิงที่น่าจะอายุอยู่ในราวๆ ช่วง 20 ปี ผมสีดําเป็นประกายเงางาม สําหรับจาวเหยาแล้วก็ดูเหมือนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วไปคนหนึ่ง ดูไม่น่าใช่คนที่จะทําร้ายอะพอสเซิลกว่า 30 คนได้เลย
แต่จาวเหยาก็สลัดความคิดทุกอย่างทิ้งไป คนที่สู้ด้วยกันกับเขาก่อนหน้านี้ตายหมดแล้วมีแค่วิญญาณเท่านั้นที่รู้ว่าแมวแผ่นดินไหวอยู่ที่นี่ เพราะงั้นเขาคงไม่ใช่เป้าหมายถัดไป
“อืม ไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว กลับไปทํางานดีกว่า” เขาพูด
ทันใดเขากลับไปนั่งที่ประจํา เปิดโน้ตบุ๊ค พร้อมทํางาน
เค้กข้าวก็แทบยุ่งอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีโพสต์อิทแปะอยู่ที่คอก็ยังมีลูกค้าบางคนพยายามจะแตะตัวมัน และก็โดนมันทั้งกัดทั้งถีบไปตามระเบียบ
มันไม่มีเวลาจะมายุ่งกับมนุษย์พวกนี้ เป้าหมายของมันคือทางนั้น ลูกฝน
มันลอบสังเกตเจ้าแมวตัวน้อยมาสักพัก แม้ลูกฝุ่นจะเข้าห้องน้ํามันก็แอบตามไปดูห่างๆลูกฝุ่นมองซ้ายมองขวาว่ามีใครแอบมองมันอยู่หรือไม่ พอมันอยู่ไม่ห่างจากประตูก็รีบวิ่งเข้าไปทัน
ลูกฝุ่นคิดว่ามันระวังตัวดีแล้ว แต่มีเค้กข้าวคอยมองมันอยู่ตลอดเวลา
“ขี้ระแวง” เค้กข้าวคิด ” งานถนัดฉันเลย แค่ต้องรอจัดการตอนเจ้านั่นอยู่ตัวเดียว”
หางของมันสะบัดเล็กน้อย ก่อนเดินตามเข้าไปในห้องน้ํา
เมื่อลูกฝุ่นเข้าไปในห้องน้ํา มันก็มองไปรอบๆ เช็คว่าห้องน้ําทุกห้องว่าง แต่มีห้องหนึ่งที่ไม่ใช่โรสี่โพลี่เดินออกมาท่าทางสบายใจ เมื่อมันเห็นลูกฝุ่นก็พยักหน้าให้
“มาดาม มาใช้ห้องน้ํางั้นหรือ”
“ใช่” ลูกฝุ่นพยักหน้า
“โอเคครับ ผมจะไม่รบกวน ไว้เจอกันครับ” โรลี่โพลี่บอก
ทีนี้ในห้องน้ําก็ไม่มีแมวอีกต่อไป ลูกฝุ่นจะได้ทําธุระของมันเสียที
มันปีนขึ้นไปบนห้องน้ําแมวที่สูงที่สุด มันลังเลอยู่พักหนึ่ง สายตามองถังขยะตั้งอยู่ข้างล่างพลันนึกถึงบทสนทนาระหว่างมันกับจาวเหยาเมื่อเช้านี้
“ลูกฝุ่น ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เธอหรอกนะ” จาวเหยาพูด มือพลางลูบหัวของมัน “เธอก็รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันทําเพื่อใคร ที่ฉันมาได้ขนาดนี้ก็เพราะฉันทําตามกฏอย่างยุติธรรม”
“เธออาจจะถามว่ากฎอะไร” เขาพูด ก่อนหยุดไปสักพัก “ถ้าเธอทําดี ฉันให้รางวัล แต่เธอทําผิดฉันทําโทษ เมื่อคืนพวกเธอทําผิด ฉันเลยต้องทําโทษพวกเธอ มีปัญหาไหม?”
ลูกฝนเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างสงสัย “นายพูดกับฉันเหรอ?”
“แน่นอนสิ เธออยู่ในการดูแลของฉัน เป็นความรับผิดชอบของฉันที่ต้องดูแลเธอ ฉันจะให้โอกาสกับเธอ”
เขาจับไหล่น้อยๆ ของมัน
“พวกของเสียในมิติกระเพาะต้องมีคนจัดการ ถ้าเธอทําได้ดีฉันจะให้แคทมินต์เป็นรางวัล”
ทันใดลูกฝุ่นจ้องจาวเหยาเขม็ง
“นี่นายจะให้ฉัน…”
ไม่ทันที่มันจะพูดจบ จาวเหยาก็ปิดปาดมันไว้
“ลูกฝุ่น เธอมาทีหลังสุด ยังไม่เคยทําเรื่องพวกนี้ มันถึงเวลาที่ต้องทําเหมือนคนอื่นแล้ว ฉันจะให้เวลาเธอคิดว่าต้องทํายังไง มา กินข้าวเช้ากันก่อนเถอะ มัจฉะกับเพื่อนๆ รออยู่”
ในตอนแรกลูกฝนไม่คิดจะตอบรับคําขอน่าขันของจาวเหยาเลยสักนิด
แต่จากเช้าจนผ่านมาถึงช่วงบ่ายมันก็เปลี่ยนใจ มันโหยหาแคทมินต์อย่างมาก รู้สึกกระสับกระส่าย ไม่สบายใจเมื่อไม่มีแคทมินต์
มันรู้ว่าจาวเหยาตั้งห้องน้ําแมวอัตโนมัติในมิติกระเพาะไว้สองอันเพื่อให้แมวของโฮห้าวชางใช้
ห้องน้ําทําความสะอาดอัตโนมัติก็จริง แต่ขยะก็ต้องเอาไปทิ้งอยู่ดี จาวเหยาควรเป็นคนจัดการเรื่องนั้น แต่เขาไม่ชอบทําเรื่องสกปรก
“นี่เรา เราต้องคายอออกมาจากปากเพราะแคทมินต์เนี่ยนะ นี่เราต้องทําถึงขั้นนี้” ลูกฝนถามตัวเอง
มันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพอันน่าสะพรึงของมัจฉะที่โน้มตัวอยู่เหนือชักโครก มุมมองมันที่มีต่อโลกพังทลายเมื่อเห็นภาพนั้น
“ฉันจะต้องเป็นอย่างเจ้านั่นงั้นเหรอ?”
ขณะที่มันลังเลอยู่นั้น เค้กข้าวก็เข้ามาในห้อง มันลอบเข้ามาใกล้ลูกฝุ่นเพื่อที่จะสังเกตการณ์ได้ชัดๆ
“เจ้านี่เป็นอะไร ทําไมไม่ขยับ ท้องผูกเหรอ?” เค้กข้าวคิด “จัดการตอนนี้เลยดีไหม หรือรอให้ถึงกลางทาง ตอนที่กําลังอ่อนแอที่สุดดี”
ก่อนที่มันจะเลือกได้ มันก็เห็นภาพที่น่าสะพรึงเสียก่อน
“มะ แมว… เจ้าแมวนี่อ้วกออกมาเป็นอี!?” มันคิด ตกใจจนผงะถอยหลังไป
มันเผลอส่งเสียงดังท่ามกลางห้องเงียบสนิท
ลูกฝุ่นเงยหน้าก่อนพุ่งเข้ามาทันที