Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 173
Chapter 173 นอนไม่หลับกับพักผ่อนให้เพียงพอ
รอยย่นระหว่างหัวคิ้วเสียวอวี่เข้มชัดขึ้นขณะมองหน้าจอโทรศัพท์
“ทําไมเจ้าแมวโง่นั่นไม่ตอบล่ะ” เธอสงสัย ”ปกติทักไปปุ๊บก็ตอบปั๊บเลยนี่นา”
เธอจ้องโทรศัพท์ตาไม่กระพริบ สักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกเธอจากข้างนอก ”เสียวอวี่ ตื่น ยัง ได้เวลาไปเรียนแล้ว!”
“ตื่นแล้วค่ะ!” เธอตะโกนกลับไป
เสียวอวี่ส่ายหน้า เก็บโทรศัพท์
” ช่างมันก่อน เจ้านั่นอาจจะยังไม่เห็นข้อความ ฉันค่อยเอาเงินคืนวันหลัง ยังไงพูดอะไรเจ้านั่นก็หลงเชื่ออยู่แล้ว”
ทันใดหางตาเห็นฟิชบอลกําลังหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอเตะมันลงจากเตียง
“มีอะไร? แผ่นดินไหวเหรอ?” ฟิชบอลตกใจตื่น
” ที่นอนตัวเองไม่มีหรือยังไง มานอนบนเตียงฉันทําไม” เสียวอวี่ถามเสียงเย็น
ฟิชบอลร้องเหมียวตอบกลับมาก่อนพิมพ์ลงโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“ก็เพราะเจ้าหมาโง่นั่นยังไงล่ะ! มันขโมยที่นอนของฉันไป! ฉันจะนอนได้ยังไงหนาวจะตาย”
มันส่งสายตาปิ้งๆ ให้อย่างใสซื่อ
“ฉันหลับได้ก็ตอนที่นอนในอ้อมแขนเธอเท่านั้นแหละ” มันเสริม
เสียวอวไม่ตอบ ได้แต่ยนหน้าแล้วกระโดดลงจากเตียง แต่งเนื้อแต่งตัวก่อนเดินออกจากห้อเมื่อออกมาก็เจอบะหมี่สะบัดหางวิ่งรอบตัวเธออย่างตื่นเต้น
เสียงของแม่ดังมาจากในครัวอีกครั้ง
“เจ้านั่นรอลูกตั้งแต่เช้า ขนาดวางอาหารไว้ให้ยังไม่ยอมกินเลย”
“อุ้ย จริงเหรอคะ” เสียวอี่ยิ้มอย่างดีใจพลางใช้มือยีหน้าเจ้าฮัสกี้อย่างขี้เล่น “เจ้าบะหมี่ที่น่ารักของฉัน”
ท่าทางดีใจกลายเป็นเย็นชาอีกครั้งเมื่อเห็นฟิชบอล
” แกโกหกใช่มั้ย บะหมี่นอนอยู่หน้าห้องฉันทั้งคืน!”
ฟิชบอลรู้ตัวว่ามันตกเป็นผู้แพ้เมื่อเห็นเสียวอรี่หันไปกอดเจ้าฮัสกี้แน่น
” แกมันปีศาจเจ้าเล่ห์!” มันคิด จ้องฮัสกี้เขม็ง
บะหมีก็ส่งสายตาไม่ขอบใจมาให้มันเหมือนกัน
“บ้านนี้มีที่สําหรับสัตว์เลี้ยงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือฉัน ซูเปอร์แคทกับพลังกระจอกอย่างแกทําอะไรฉันไม่ได้หรอก” เขาหัวเราะเสียงเข้มกับตัวเอง
หลังจากลูบหัวฮัสกี้เป็นครั้งสุดท้าย เสียวอวี่ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เธอกินอาหารเช้าเงียบๆ เตะขาไปมาในอากาศอย่างสบายใจ
ฟิชบอลกับบะหมี่ก็กําลังกินอาหารของพวกมันเหมือนกัน มันเคี้ยวจ๊อบแจ๊บพลางมุดหน้าจมเข้าไปอยู่ในชามอาหารทั้งคู่
แมววิญญาณก็ยังคงล่องลอยไปมาอย่างไม่เคยมีใครรู้ ดวงตาของมันจับจ้องชามอาหารที่บะหมี่กําลังกินอย่างเพลิดเพลิน
” ฉันอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง”
” บอกไม่ถูก แต่อร่อย” ฮัสกี้ตอบกลับมา
ตั้งแต่โฮห้าวชางเข้าไปอยู่ในร่างสุนัข เขาก็สามารถพูดคุยกับแมวได้ เขาเข้าใจเสียงร้องของแมวแถมยังพูดกับมันผ่านโทรจิตได้อีกด้วย
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร และไม่รู้ว่าพลังของแมววิญญาณเป็นสิ่งที่ทําให้เขายังมีชีวิตอยู่เขาเป็นครึ่งซูเปอร์แคท ซูเปอร์แคทที่ไม่มีพลัง นั่นล่ะเขา
” ภารกิจเป็นยังไงบ้าง? หาตัวแอรีสกับตัวอื่นเจอหรือยัง” ฮัสกี้ถาม
“ฉันกลับไปที่นั่นแล้วแต่โดนปิดทั้งหมด ไม่มีร่องรอยอะไรเลย”
บะหมี่หยุดกินไปชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาส่องแสงวาว
“ไม่เป็นไร หาต่อไปแล้วกัน เจอเมื่อไหร่ให้พามาที่นี่ ฉันมีแผน”
จาวเหยายืนมองโต๊ะอย่างว่างเปล่า เขาดูอ่อนล้า ทั้งยังมีรอยคล้ําดวงใหญ่ที่ใต้ตา เขายังรู้สึกไม่ค่อยมีแรงและมีอาการงุนงงอีกด้วย ทั้งคืนเขานอนไปแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
“ไง” เสี่ยวฉีอยู่ทักทายพร้อมทั้งเข้ามาใกล้
“เป็นอะไรไปน่ะ? แอบเล่นพับจีทั้งคืนเหรอ”
จาวเหยาหันมาทางเสี่ยวฉีอยู่
” จะบ้าเหรอ ฉันไม่ทําแบบนั้นสักหน่อย แต่เมื่อคืนยุ่งเรื่องแมวทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอน”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เลี้ยงเจ้าวุ่นวายพวกนี้นี่ไม่ง่ายเลย ลองคิดสิว่าฉันต้องดูแลเจ้าพวกนี้คนเดียว ไม่ง่ายเลย เธอก็รู้”
พอพูดจบ มัจฉะก็เดินมาตรงหน้าเขา มันเงยหน้ามองพลางสะบัดหางไปมาดวงตาลอยโหลจนแทบจะย้อนกลับเข้าไปในเบ้า
“จาวเหยา ฉันเล่น Mobile Legends ทั้งคืนจนไม่ได้นอนเลยสักนิด ฉันขอหยุดวันนึงได้มั้ย”มันถาม
ไม่ใช่แค่มัจฉะ แต่อลิซาเบธ โรโพลี่ และลูกฝุ่นก็อยู่ในสภาพเดียวกัน มีเพียงแมงโก้ที่พลังชีวิตเต็มเปี่ยม กําลังปีนป่ายทุกสิ่งที่อยู่ในร้านอย่างร่าเริง
เห็นได้ชัดว่าเสียงกรนแสนโหดร้ายนั่นทําอะไรแมงโก้ไม่ได้เลยสักนิด
โรลี่โพลี่หันมาทางจาวเหยา
วันนี้เราหยุดกันสักวันดีมั้ย พวกเราเหนื่อยเกินกว่าจะดูแลลูกค้าไหวนะ” แมวอ้วนว่า
จาวเหยามองมันด้วยสายตาว่างเปล่า
“ฉันไม่ได้นอนมากไปกว่าพวกนายเลย พวกนายเคยเห็นฉันขอหยุดมั้ย? แล้วพวกนายจะหยุดไปทําไม ปกติพวกนายก็นอนใส่ลูกค้าอยู่แล้ว! ฉันสิต่อให้อยากนอนก็นอนไม่ได้ คิดจะหยุดเหรอ?ไม่มีทาง”
จาวเหยาหันไปหาไปช้วน
“แล้วก็นาย เมื่อคืนหายไปไหนมา ทําไมไม่มาช่วยกันบ้าง”
” ผมหลับครับ” ไปช้วนตอบตามจริง
จาวเหยาอ้าปากค้าง “เสียงกรนโลกถล่มแบบนั้นยังหลับได้อีก?”
” ปกติผมใส่หูฟังเปิดเพลงนอนครับ”
จาวเหยาถอนหายใจ
“เอาล่ะ ไปทํางานได้แล้ว ฉันขอพักหน่อย”
จาวเหยานั่งฟุบอยู่บนโต๊ะในมุมอย่างทุกที
ทันทีที่เขาหย่อนก้นลงเก้าอี้ก็นึกขึ้นได้ว่าแมวแผ่นดินไหวยังอยู่ในมิติกระเพาะ
แอรีส แมวเปอร์เซียมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า พยายามถ่างตาให้ตื่น ดวงตาของมันทั้งบวมแดงและดูเป็นทุกข์อย่างมาก ราวกับพร้อมจะล้มลงได้ทุกเวลา
คลื่นเสียงสั่นสะเทือนมาเป็นระลอกเรื่อยๆ จนทําให้มันไม่ได้หลับเลยทั้งคืน เสียงราวกับจักจั่นกว่าพันตัวมาร้องอยู่ข้างหู
ที่แย่กว่าคือตั้งแต่เสียงนั้นดังขึ้นมาก็ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลง กลับมีพลังมากขึ้นจนกระทั่งทําให้พื้นเริ่มสั่นแอรีสรู้สึกราวกับอวัยวะภายในของมันก็สั่นไปด้วย
สุดท้ายมันจึงใช้พลังกางโล่คลุมตัวเองกับเพื่อนๆ ให้พ้นแรงสั่นสะเทือนอันก้องกังวานนั้น
มันหยุดใช้พลังทุกครึ่งชั่วโมงเพื่อเช็คว่าเสียงประหลาดนั่นหายไปหรือยัง แต่น่าเสียดายที่มันยังอยู่
“ล้อกันเล่นปะเนี่ย” มันร้อง พลางดูเวลา ” สัตว์ประหลาดประเภทไหนมาทําก่อสร้างตอนตี 4!?”
มันมองเพื่อนๆ รอบตัวที่กําลังนอนหลับกันอย่างเป็นสุข มันต้องคอยดูให้แน่ใจว่าโล่ของมันคลุมถึงตัวอื่นทุกตัว เพื่อนของมันจะได้หลับกันได้
เป็นการทําเพื่อคนอื่นที่ต้องสละทั้งจิตใจและอารมณ์ มันต้องอยู่ตัวเดียว คอยคงสติเพื่อกางโล่ให้เพื่อนๆ
ตอนนี้มันเริ่มเหนื่อยล้าและอิจฉาเพื่อนๆ ที่ยังคงนอนหลับกันอย่างสบายใจจนเริ่มรู้สึกไม่ยุติธรรม
มันทนไม่ไหวอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นการ์ฟิลด์นอนน้ําลายไหลขดตัวเป็นลูกบอล มันยก อุ้งเท้าขึ้นฟาดไปที่หน้าการ์ฟิลด์เต็มแรง
“ฮะ? เกิดอะไรขึ้น?” การ์ฟิลด์ถาม มันกระโดดโหยงสี่ขาขึ้นมาทันที “แมวยักษ์กลับมางั้นเหรอ?”
การเคลื่อนไหวของมันปลุกแมวตัวอื่นๆ ให้ตื่นขึ้นด้วย ทีนี้แมวอีกสี่ตัวก็ตื่นในอาการตระหนกจนวิ่งกันไปคนละทิศละทาง กระโดดเข้าไปซ่อนตัวในกล่องที่ใกล้ที่สุดที่พวกมันหาเจอ
“เจ้าพวกไม่มีประโยชน์” แอรีสว่า “เสียงน่ารําคาญนี่มันดังนานเกินไปแล้ว! พวกนายคิดว่าฉันจะดูแลพวกนายได้ตลอดทั้งคืนเลยงั้นเหรอ? ฉันยังไม่ได้หลับเลยสักวิเ”
การ์ฟิลด์ตอบกลับมาตัวแรก
” ขอร้อง พระผู้เป็นเจ้า พาเราออกไปจากที่….”
อุ้งเท้าสี่ข้างพุ่งเข้ามาตะครุบปากมันไว้ก่อนที่จะขอพรจบ
“กล้าดียังไงมาขอพร!” แอรีสดุ ส่งสายตาปราม
ฟูจิน แมวไทยถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนแลบลิ้นออกมา
” เกือบไปแล้ว เจ้าเซ่อนี่กําลังจะทําให้เราเสียพรไปอีกข้อ”
“เฮ้พวกนาย ในเวลาจนตรอกก็ต้องใช้วิธีจนตรอก มัดเขาไว้” แอรีสสั่ง
ไม่กี่นาทีต่อมาการ์ฟิลด์ก็ถูกทั้งเชือกทั้งเทปที่ดึงออกมาจากข้างกล่องพันรอบตัวจนกลายเป็นมัมมี่ มันพยายามดิ้นให้หลุดแต่ไม่เป็นผล
มันยังไม่สามารถพูดได้เพราะมีเทปปิดอยู่ที่ปาก มันเลยร้องตะโกนหาพวกเพื่อนๆ ผ่านทางโทรจิต
“นี่! พวกนายมามัดฉันไว้ทําไม ฉันแค่จะหาทางช่วย!”
“ช่วย? จะทําให้พรเสียเปล่านี่ไม่เรียกช่วยนะ เจ้าเซ่อ!” แอรีสหันไปหาที่เหลือ “คอยดูเอาไว้ ด้วยนะถ้าเกิดเจ้านี่แอบขอพรอีกละก็ซัดได้เลย”
สิ้นเสียงคําสั่งแอรีส เสียงปริศนาก็เงียบไป มันกระพริบตารัวๆ ฝั่งหูฟังให้ชัด เงียบไปแล้วเหรอ?”
แม้อยู่นอกมิติกระเพาะ จาวเหยาก็สัมผัสได้ว่าเค้กข้าวกําลังจะตื่น
มันค่อยๆ ลืมตา ลุกบิดขี้เกียจ ยืดหลัง เสียงกระดูกลั่นกรอบแกรับดังเป็นช่วง
มันอ้าปากร้องเหมียวหนึ่งครั้ง เสียงนั้นราวกับเป็นใบมีดล่องหนตัดผ่านอากาศไป เมื่อพุ่งไปยังจุดสูงสุดก็เกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งมิติในกระเพาะ