Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 172
Chapter 172 พลังขั้นสุดยอดและการค้นหา
จาวเหยาอ้าปากหาวหวอด
เขาอยากจะฟาดเจ้าแมวอ้วนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาสักป้าบเหลือเกิน
“โธ่เอ๊ย ลืมไปเสียสนิทว่ามีไอ้ค่าความซื่อสัตย์อะไรนั่นด้วย”
เขากดปุ่มโฮมบนโทรศัพท์ หน้าจอบอกเวลา 5 นาฬิกา ชั่วโมงสุดท้ายที่เขาควรจะได้นอนกลับต้องมาเสียไปเพราะมัจฉะ
“เจ้าแมวโง่นี่ ที่นี้ฉันก็เหลือเวลานอนอีกแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น” เขาบ่นกับตัวเอง
“เราค่อยมาคุยกันต่อพรุ่งนี้ดีมั้ย” จาวเหยาเสนอ
มัจฉะมองเขาด้วยดวงตากลมโตสีเขียว ”ไม่ เราต้องคุยกันตอนนี้ ฉันนอนไม่หลับ”
จาวเหยาส่งสายตาเข้มให้อีกฝ่าย ”แล้วนายปล่อยให้ฉันนอนไม่ได้เหรอ ฉันต้องตื่นตอน 7 โมงครึ่งนะ”
มัจฉะมีท่าทางหงอยลงไป มันเริ่มอ้าปากร้องเพลงอีกครั้ง
” ฉันมันเดียวดาย ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว”
ค่าความซื่อสัตย์จากมัจฉะ 1
“อะไรวะ…” จาวเหยาสบถ
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งหลังตรง สองมือถูหน้าไปมาอย่างพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น
“โอเคๆ ก็ได้ เป็นอะไร นายต้องการอะไร”
มัจฉะวางอุ้งเท้าของมันบนตักจาวเหยาก่อนส่งสายตาสิ้นหวังให้เขา
“ฉันชอบเฉียนเฉียนมาก มากๆ แล้วก็มากๆๆๆ ฉันไม่เคยชอบแมวตัวไหนเท่านี้มาก่อน! ฉันควรทํายังไงดี” แมวอ้วนถามอย่างจริงจัง
จาวเหยาเม้มปาก ” ปัดโธ่ นายไม่ได้ชอบเธอจริงๆหรอก นายแค่คิดว่าเธอน่าดึงดูดเท่านั้นแหละ”
“อีกอย่าง ฉันสอนเทคนิคนายไปหมดแล้ว พยายามฝึกต่อไปสิ ไม่กี่เดือนเท่านั้นแหละ นายล้มเจ้าแมวอ้วนแล้วพาเฉียนเฉียนขึ้นบอร์ดได้เลย เธอจะรักนายแบบหัวปักหัวป่า” เขาเสริม
” แต่… แต่วันนี้ฉันแพ้มา” มัจฉะพูดเสียงเศร้า
มันกระพริบตาปริบๆ ให้จาวเหยา “มีวิธีที่ง่ายกว่านี้มั้ย”
“ไม่มี” จาวเหยาตอบเสียงเรียบ “นายแพ้เพราะยังฝึกไม่พอ ฝึกต่อไปเดี๋ยวสักวันก็ชนะเองนั่นแหละ”
ค่าความซื่อสัตย์จากมัจฉะ -1
จาวเหยาเม้มปากเป็นเส้นตรงเมื่อเห็นคะแนนลดลงอีกครั้ง
“แต่ดูอุ้งเท้าของฉันสิ!” มัจฉะว่า ยึดขาออกมา “ฉันฝึกหนักทุกวัน! ถ้ายังทําแบบนี้ต่อไปขนได้ร่วงหมดแน่เลย ฉันไม่อยากเป็นแมวโล้นหรอกนะ!”
จาวเหยาได้แต่กรอกตาอย่างหมดหนทาง
“นายแค่ไม่อยากพยายามในการเอาชนะใจสาว แต่อยากข้ามขั้นไปเลยถูกมั้ย”
“ฮิฮิ ใช่ที่ไหนล่ะ” มัจฉะหัวเราะอย่างเขินอาย ”เราต้องใช้เวลาศึกษาดูใจกันก่อนสิ อาจเริ่มที่ค่อยๆ ผลัดเลียขนให้กัน”
“ไอ้เบื้อกเอ๊ย” จาวเหยาคิด “เอาเถอะ มาทําให้มันจบๆ ฉันจะได้นอนสักที”
เขาคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอนออกมาเปิดรูปเจ้าหญิงเฉียน เพียงแว้บเดียวเขาก็ใช้พลังของอลิซาเบธสร้างภาพลวงตาที่มัจฉะต้องการ
” เอาไป มัจฉะ”
แมวอ้วนอ้าปากค้างเมื่อเห็น แมวหน้าหวานที่มีขนยาวสลวยปรากฏตัวบนที่นอน มันกําลังนั่งอยู่บนหมอน มีออร่าทั้งความเซ็กซี่และอ่อนหวาน
เมื่อมันเริ่มยกอุ้งเท้าขึ้นมาเลียขนัวเอง มัจฉะก็เก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ หางของมันตั้งฟูขึ้นราวกับเป็นสายล่อฟ้าก่อนมันวิ่งไปหา
แต่ภาพที่จาวเหยาเห็นเป็นเพียงมัจฉะกําลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเบาะนอนเท่านั้น
ค่าความซื่อสัตย์ของมัจฉะค่อยๆพุ่งสูงขึ้น
สามวินาทีต่อมา มัจฉะตัวสั่นเล็กน้อยก่อนล้มตัวลงเบาะนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
ค่าความซื่อสัตย์จากมัจฉะ +10
“เอาจริงดิ? 10 คะแนน? ชิ อะไรจะว่องไวขนาดนั้น” จาวเหยายิ้มหยันก่อนมองตารางพลัง
ค่าความซื่อสัตย์ของมัจฉะกลับมาเต็ม 100 คะแนนอีกครั้ง
“เอาล่ะ ฉันยังมีเวลานอนอีก 2 ชั่วโมง อย่าปลุกฉันอีกล่ะ”
มัจฉะไม่ตอบ มันไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพียงหลับตาเงียบๆอย่างผ่อนคลาย ไม่เหลือเค้าความเศร้าใดๆในตัวมันอีก กลับกันดูร้อนแรงเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่ก็ไร้ความสนใจต่อสิ่งใด
มันส่ายหน้าไปมา
“น่าผิดหวังจริงๆ ไม่เห็นเหมือนที่คิดไว้เลย ฉันว่าแมวตัวเมียคงไม่จําเป็นจริงๆ นั่นแหละ”
ทีนี้ความคิดของมันก็ชัดเจนขึ้นมา มันผิดหวังกับสิ่งที่มันรู้สึกมาอย่างยาวนานก่อนหน้านี้ ความรักที่มันมีต่อเจ้าหญิงเฉียนก็ลดลงเช่นกัน
“ฮีม นี่มันไม่ฉลาดเลย ฉันคือจอร์จมัจฉะ พระเจ้าในหมู่มวลบรรดาแมวหนึ่งเดียวในเจียงไฮ้ จะไปมีเวลาไปไล่ตามแมวตัวอื่นได้ยังไง?”
มันเบ้ปาก ”ชีวิตฉันไม่ต้องการผู้หญิง ฉันแค่ต้องการโทรศัพท์ ฉันต้องชดเชยเวลาที่เสียไปซะแล้ว”
คิดได้ดังนั้น มันก็เปิดโทรศัพท์แล้วกดเข้าเล่นเกม Mobile Legends จนตะวันขึ้นมันก็ยังไม่เลิก จนเจ้าหญิงเฉียนได้ส่งข้อความส่วนตัวมาให้มัน
“พี่หลิวปัง ทําไรอยู่?”
มัจฉะไม่สนใจข้อความนั้น
“โทษที่เจ้าหญิง ฉันไม่สนใจเธอแล้ว เธอไม่สามารถควบคุมฉันได้อีก”
มันกลับไปเล่นเกมอีกครั้งโดยที่ไม่ตอบข้อความ
เช้าวันรุ่งขึ้น มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นที่อาคารหนึ่งในเมือง
หลินเฉินเดินไปตามทางในที่ที่มีเทปปิดล้อมเอาไว้ เขาเข้าไปในห้องที่ถูกเรียกเข้าไปหา พื้นเต็มไปด้วยรอยเท้าคนและรอยเท้าแมว
” หัวหน้าหลิน” สมาชิกในทีมร่างท้วมคนหนึ่งตะโกนเรียกหาเขา
“เพื่อนบ้านแถวนี้โทรเรียกตํารวจมาตอนประมาณ 10 โมงเช้า ประตูไม่ได้ล็อค ผู้คนต่างไม่ได้สติ ส่วนดอกเตอร์ก็ไม่แน่ใจว่าจะมาเมื่อไหร่”
“ไม่ได้สติ?” หลินเฉินทวนถาม มือลูบคางอย่างใช้ความคิด “ฉันแน่ใจว่าแมวบริทิชชอร์ตแฮร์ที่ชื่อแฟตตี้บอมบอมต้องอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่งแน่ๆ”
“ใช่ครับ ครอบครัวที่เคยอยู่ที่นี่เคยเลี้ยงบริทิชชอร์ตแฮร์หลายตัว และมีบางตัวที่พลังตื่นขึ้น หลังเหตุการณ์นั้น พวกเขาลงทะเบียนพวกมันไว้ด้วยก็เลยได้รับเงินเดือนและสวัสดิการอยู่ส่วน หนึ่ง พวกเขาไม่ได้ก่อปัญหาใดๆ หรือร้องขอมากกว่านั้น เพียงใช้ชีวิตอย่างปกติทั่วไป”
” อ้อ พวกเขาเปิดร้านคาเฟ่แมวด้วย” เขาเสริม
หลินเฉินพยักหน้ารับเงียบๆ ชายหน้าเหลี่ยมที่ยืนอยู่ข้างเขาพูดขึ้น
” ทําให้คนโคม่าแบบนี้เป็นวิธีการของซุนเหมิง ผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้วว่าเธอเป็นตัวอันตราย คุณไม่เคยฟัง ถ้าเราจับตัวเธอไว้แต่แรกคงไม่เกิดเหตุการณ์ไร้สาระแบบนี้ขึ้น” เขาพูดเสียงเข้ม
“ผมยอมรับที่เราประเมินเธอต่ําเกินไป” หลินเฉินสบตาอีกฝ่าย “ที่นี้คุณช่วยบอกผม ว่าทําไมเธอต้องโจมตีสถานรับเลี้ยงแมวที่นี่กับพวกอะพอสเซิลด้วย”
ชายหน้าเหลี่ยมจ้องหลินเฉินเขม็ง
“ซุนเหมิงสามารถควบคุมความฝันของคนอื่นได้ เธอต้องเข้าไปในห้วงแห่งความฝันเพื่อควบคุมมัน หลังจากที่เธอใช้พลังนั้นมากๆ ก็ราวกับมันสะกดจิตเธอ ตอนนี้เธอค่อนข้างไม่ปกติเหมือนเมื่อก่อน”
“โอเค จากที่คุณเคยบอกคราวก่อน เธอสามารถควบคุมความฝันของใครคนใดคนหนึ่งได้ครั้งละคนเท่านั้น แล้วที่นี่มันเป็นยังไงกันแน่ เรามีพลเมืองไม่ได้สติถึงห้าคน”
“ผมเองก็ไม่แน่ใจ พลังของเธออาจจะพัฒนาขึ้นไปอีก หรือเธออาจสามารถใช้พลังอื่นควบคู่กันไปด้วย เรารู้มาว่าเธอมีซูเปอร์แคทอีกสองตัว แต่จากการพูดคุยกันคราวก่อนดูเหมือนเธอจะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้”
ขณะที่ชายสองคนกําลังปรึกษาหารือกัน เสียงโทรศัพท์ของชายร่างท้วมก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล?” เขารับสาย
” คาเฟ่แมวคิรินโดนจู่โจม? ทุกคนหมดสติเหรอ?”
“ครับ เข้าใจแล้วครับ”
“หัวหน้าหลิน” เขาหันมาทางหลินเฉิน
หลินเฉินมองชายหน้าเหลี่ยมเล็กน้อยก่อนเดินออกประตูไป ชายร่างท้วมพูดขึ้น
“ไปกันเถอะครับ”