Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 170
Chapter 170 แห่งความสิ้นหวัง และเสียงกรน
“นี่ มัจฉะ อยาได้สกินใหม่มั้ย ฉันให้นายร้อยเหรียญเลยถ้าอยากได้”
จาวเหยาลองโปรยเหยื่อ เขาต้องการรู้ให้แน่ว่าความสิ้นหวังของแมวจะไปได้ไกลแค่ไหน
มัจฉะเดินย่างมาหาจาวเหยาก่อนล้มตัวลงใส่มือของเขา
“มีแล้วยังไง” มันตอบอย่างไร้ชีวิตชีวา “ต่อให้ฉันซื้อสกินใหม่ คนอื่นก็คงบอกว่าฉันมีแต่สกิน ไม่มีสกิล
“อย่างน้อยนายก็ดูเท่ สกินดีๆเพิ่มพลังให้ตัวละครด้วยนะ”
“ช่างมันเถอะ” มัจฉะบอกปัด “ในเกมไม่มีที่ให้แมวไร้ประโยชน์อย่างฉันหรอก เป็นได้แค่เป้า
“ฮึ่ม” จาวเหยาคิด “นี่เรื่องใหญ่กว่าที่คิดอีกนะเนี่ย”
ดวงตาของเขาส่องแสงวาบ
“ถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นอย่างนี้ ฉันคงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องใช้วิธีขั้นเด็ดขาดซะแล้ว”
น่าเสียดายที่ก่อนวันรุ่งขึ้นจะมาถึงเขาก็ต้องเจอกับปัญหาอื่นเสียก่อน
เสียงกรนที่ดังสนั่นราวกับฟ้าร้องดังขึ้นกลางดึก เสียงของมันดังมากจนพื้นยังสั่น
คร่อกกกก……..
จาวเหยาพยายามหลับ เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวและมุดอยู่ในนั้น
และเขาก็ต้องยอมแพ้ใน 30 นาทีต่อมา
เขาเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นพลางบ่น ” พระเจ้า ใครกรนกัน!? ไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลย!”
ถุงใต้ตาของเขาเป็นรอยคล้ําจนน่าสยอง
เมื่อเดินถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นอลิซาเบธ โรโพลี่ กับลูกฝนยืนมุงเค้กข้าวอยู่ สก็อตติชโฟลด์กําลังหลับอย่างเป็นสุข มันยังคงหลับไวและส่งเสียงกรนเหมือนแรดคัดจมูก
จาวเหยาเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าแมวทั้งสามไม่เพียงแค่มองเค้กข้าวเท่านั้น
อลิซาเบธดวงตาส่องแสงสีแดงวาบก่อนบังคับเค้กข้าวให้ตีหัวตัวเองหลายครั้ง มันหยุดกรนไปสักระยะ ก่อนกลับมากรนอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเดิม
เมื่อเห็นดังนั้น โรสี่โพลี่จึงเดินไปนั่งทับบนหน้าของเค้กข้าว
ทั้งสามกลั้นหายใจลุ้นว่าจะได้ผลไหม
“สําเร็จแล้วใช่มั้ย?”
ทันทีที่ทั้งสามถอนหายใจอย่างโล่งอก เสียงน่าสะพรึงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ก้นของโรโพลี่ยังสั่นไปด้วย มั่นสั่นจนลามไปทั้งร่าง ยิ่งอ้าปากเสียงยิ่งดังขึ้น
” พอกันที ทนไม่ไหวแล้ว!” ลูกฝุ่นร้อง
มันพุ่งเข้าไปหาเค้กข้าว อ้าปากกว้างโชว์เขี้ยวแทบครบทุกซี่ ราวกับพร้อมจะขย้ําคอสก็อตติชโฟลด์ตรงหน้าเต็มที่
“เดี๋ยว!” จาวเหยารีบใช้พลังหยุดเวลาเพื่อป้องกันเหตุการณ์นองเลือดที่กําลังจะเกิดขึ้น
“ลืมไปแล้วหรอว่าเจ้านี่ทําให้เกิดแผ่นดินไหวได้” เขาบ่นอุบ “ถ้าเราทําให้เธอเจ็บละก็ทั้งตึกได้ถล่มแน่ เท่ากับเราฆ่าคนเป็นพัน รวมถึงพวกเราเองด้วย”
เขามองเค้กข้าวที่ยังคงนอนหลับทั้งส่งเสียงต่อไป
” ขอบคุณพระเจ้าที่เจ้านี่หลับเหมือนตาย โดนปลุกขึ้นมาตอนนี้คงอารมณ์บ่จอยแหง” เขาคิด
” แล้วเราต้องทําไง? ยัยนี่เสียงดังกว่าเมื่อตอนกลางวันอีก มีหวังคืนนี้เราคงไม่เป็นอันนอน” อลิซาเบธขมวดคิ้วอย่างหนัก
“ฉันจะหาทางดู” จาวเหยาตอบ
เขาอุ้มเค้กข้าวขึ้นมาในอ้อมแขนก่อนค่อยๆลูบเบาๆ ตั้งแต่จมูกจนถึงหาง แต่ไม่อาจเบาเสียงกรนได้เลยแม้แต่นิดเดียว
จาวเหยายิ้มแห้งส่งให้แมวทั้งสาม
“อืม… เจ้านี่ก็หลับยาวขึ้นทุกที แถมกรนดังขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย” เขาพึมพํา ” แผ่นดินไหวเหรอ. เกิดจากการสั่นสะเทือนในอากาศเปล่า? ใช่แรงสั่นสะเทือนที่เรารู้สึกตอนนี้ไหม?”
เขามองเค้กข้าวอีกครั้ง เศษเสี้ยวในความคิดของเขาเข้าล็อค เขาพยักหน้าเบาๆ
” เสียงร้องกับเสียงคํารามของเจ้านี่มักจะดังกว่าแมวตัวอื่น บางทีแผ่นดินไหวอาจเป็นเพียงผลข้างเคียงของพลังของเธอ จริงๆแล้วความสามารถของเจ้านี่เป็นเหตุให้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงเท่านั้นเอง การสั่นสะเทือนกับเสียงกรนที่ดังขึ้นเพราะก้องสะท้อนกับพลังสวนแห่งความสงบของอลิซาเบธ ที่เธอนอนหลับยาวขนาดนี้อาจเพราะการสั่นนี่ช่วยเยียวยาอาการเจ็บปวดของเธอ”
จาวเหยารีบส่ายหน้าเมื่อความคิดของเขาเริ่มไปไกล ก่อนอื่นเขาต้องจัดการเรื่องตรงหน้าก่อน
“ถ้ายังกรนแบบนี้ต่อไปได้โดนแมวตัวอื่นฆ่าตายแน่” เขาคิด
จาวเหยามองแมวที่อยู่ในอ้อมแขน
” จากที่คิดว่าเป็นแมวที่โดนทิ้งเพราะเรื่องโรคกระดูกกลายเป็นเพราะเสียงกรนนรกเสียนี่”
เขาหันไปทางลูกฝุ่น
” ดูเหมือนเราจะต้องเกลื้อกล่อมให้เธอเข้าไปอยู่ในมิติกระเพาะแล้วล่ะ มาเร็ว รีบปลุกเจ้านี่กัน” เขาออกคําสั่ง
จาวเหยาสะกิดหน้าผากของเค้กข้าวเบาๆ เขาอยากปลุกอีกฝ่ายโดยไม่ทําให้มันตกใจจนเผลอใช้พลังให้เกิดแผ่นดินไหวอีก
และความกังวลที่เขาคิดก็หนักกว่าเดิมเมื่อเห็นเค้กข้าวหลับลึกแบบไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
” จะพิพิไรอะไรนักหนา! เจ้านี่เป็นแมวนะ ไม่ใช่ไอ้จ้อนของนาย!” ลูกฝุ่นบ่น “ออกไป”
มันกระโดดขึ้นมาข้างเค้กข้าว ยกอุ้งเท้าขึ้นมาก่อนตบไปที่หน้าเค้กข้าวเต็มแรง และหลายครั้ง
“นี่ยัยบ้า!” มันเรียก “นอนเงียบๆ เหมือนแมวตัวอื่นไม่เป็นหรือไงฮะ!? ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
จาวเหยาเส้นประสาทตึงขึ้นมาทันทีที่เห็นลูกฝุ่นระเบิดอารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้นเค้กข้าวก็ยังหลับต่อไป ทั้งบนหน้ามีแต่รอยเล็บ
จาวเหยารีบคว้าหลังคอลูกฝุ่น มันทั้งเตะทั้งต่อยกลางอากาศไม่หยุด
” แอบกินแคทมินต์มาใช่มั้ย”
” พูดอะไร ไม่ได้ทําอยู่แล้ว!” ลูกฝุ่นตอบ
แม้แค่พูดถึงแคทมินต์ก็ทําให้มันแอบน้ําลายไหล
“ฉันไม่ได้แอบกินนะ! ฉันรู้จักคุมสติดีพอ แค่จะสั่งสอนไอ้นั่งนั่นว่าใครกันแน่ที่เป็นใหญ่!”
จาวเหยาต้องทําให้แมวคลั่งตัวนี้สงบให้ได้ก่อน เขาจิ้มนิ้วที่ขมับของตัวเองก่อนใช้พลังอลิซาเบธควบคุมลูกฝนจนมันสงบลง
หันมาอีกทีเขาก็ไม่เห็นเค้กข้าวแล้ว
“ตื่นแล้วงั้นเหรอ?” จาวเหยาคิด
แต่เขาก็ได้รับคําตอบเมื่อได้ยินเสียงกรนสนั่นดังกลับมา เขามองไปยังอีกฝั่งของห้องที่เป็นต้นเสียง
เขาเห็นโร-โพลี่จับเค้กข้าวยัดลงถังขยะ ก่อนที่เจ้าแมวอ้วนจะมัดปากถุงดําอย่างเรียบร้อย
“บ้าเอ๊ย โรลีโพลี่ นายโดนดีแน่”
เมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอาฆาตจากจาวเหยา มันรีบหมอบลงพื้นอย่างยอมจํานนทันที ไม่ใช่ฉันนะ! ไม่ใช่ฉัน!” มันร้องตัวสั่นด้วยความกลัว
อลิซาเบธที่นั่งอยู่ไกลออกไปทําปากยื่น ประกายสีแดงที่ดวงตาจางหายไป
“ไม่ได้จะเอาไปทิ้งจริงๆ สักหน่อย” มันบ่นพึมพํา
“เอาล่ะพวกนาย พอกันได้แล้ว” จาวเหยาพูด โกยทั้งอลิซาเบธและโรลีโพลี่เข้ามาในอ้อมแขน
เขายังบังคับให้ลูกฝนเดินไปอยู่มุมห้องที่ไกลที่สุด
“ฉันมีวิธีแก้แล้ว ห้ามยื่นมือมายุ่งเด็ดขาด ขอร้องล่ะ ถ้าเราทําให้เค้กข้าวโมโหได้เกิดแผ่นดินไหวอีกจริงๆ แน่” เขาเตือน