Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 169
Chapter 169 การเติบโตและการต่อสู้
จาวเหยาอธิบายอย่างเคร่งขรึม “รู้ไหมว่าคีย์บอร์ดไฟฟ้าช่วยเรื่องความยืดหยุ่นนิ้วอย่า งมาก ถ้านายเล่นคีย์บอร์ดได้คล่อง แค่เล่น Mobile Legends ก็หวานหมู”
” อย่างนั้นเอง!” มัจฉาตาร้อนเพราะความตื่นเต้น “เจ้าอ้วนนั่น รอฉันก่อนเถอะ! ฉันจะ เล่นแกจนกว่าจะลบเกมออกจากเครื่องเลย!”
ณ มุมห้อง อลิซาเบธมองหนึ่งคนหนึ่งแมวคุยกันหนุงหนิงก็กรอกตา “พวกเบื้อก”
ไม่กี่วันต่อมา มัจฉะใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการฝึกฝน แรงนิ้วของมันเพิ่มขึ้นอย่าง มาก มันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ
ผ่านมาอีกสองสามวัน มัจฉะหมั่นฝึกฝนอยู่ทุกวัน ทั้งยังฝึกกระทั่งช่วงพักตอนอยู่ที่ร้านอีกด้วย
เหตุการณ์ดําเนินไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งในอพาร์ทเมนต์
เสียงเอะอะดังอย่างต่อเนื่องเมื่อมัจฉะเคลื่อนไหวอุ้งเท้าของมันไปมาหมุนแกนกระดาษทิชชูที่อยู่บนหัวของโรโพลี่และฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ
ถัดมามัจฉะไปปรากฏตัวอยู่หน้าคีย์บอร์ดไฟฟ้า มันบรรเลงนิ้วไปมาเป็นเสียงเพลงแสนไพเราะ
โรโพลี่ร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่! ในที่สุดก็ฝึกขั้นสูงสุดได้แล้ว! ที่เหลือก็แค่ใช้ความแข็งแกร่งของพี่ลองเล่นเกมเท่านั้น!”
“ฮีม ในที่สุดฉันก็ทําสําเร็จ!” มัจฉะมองอุ้งเท้าของตัวเอง ดวงตาส่อแววพอใจ “นี่เป็นผลของความพยายามมาตลอด 5 วันของฉัน ฉันอดใจไม่เข้าเกมมาตลอด ดูไลฟ์สตรีม ดูแลลูกค้า งีบที่ร้าน แล้วก็ตีเจ้าโร-โพลี่ ฉันได้รับอุ้งเท้าเหล็กมาแล้ว!”
ลูกฝุ่นเห็นดังนั้นจึงว่า “ฉันว่านายรีบจัดการซากผลงานอุ้งเท้าเหล็กของนายดีกว่า ถ้าจาวเหยามาเห็นละก็…”
มัจฉะกับโรโพลี่พลันตัวสั่นโหยง รีบเก็บกวาดซากทิชชูบนพื้นไปทิ้งทันที
พวกมันถอนหายใจโล่งเมื่อเก็บกวาดเรียบร้อย
มัจฉะหันไปทางลูกฝุ่น “ขอบใจนะลูกฝุ่น ถ้าเธอไม่เตือนฉันก็ลืมไปซะสนิท”
ลูกฝุ่นเพียงมองอย่างไม่สนใจ “ไม่ต้องขอบคุณ ฉันแค่ไม่อยากให้พวกนายไปยั่วโมโหจาวเหยาจนฉันอดได้แคทมินต์ไปด้วย”
ทันใดนั้น หูของมัจฉะกระดิกไปมา “เสียงอะไรน่ะ เสียงอะไรสั่นๆ มาจากไหน”
โรลีโพลี่หันไปมองรอบห้องก่อนพูด “พี่ใหญ่ มาจากเจ้าสก็อตติชโฟลด์หน้าใหม่นั่น” ดวงตาของมันจับจองสก็อตติชโฟลด์ที่นอนส่งเสียงดัง “ไม่แน่ใจว่าเป็นยังไงกันแน่ แต่ดูเหมือนเธอจะหลับยาวมากผิดปกติ แถมยังกรนเสียงดังขึ้นทุกที”
“ฮีม ปล่อยไปก่อนแล้วกัน รอฉันสั่งสอนเจ้าหลิวปัง นักฆ่าตุ้ยนุ้ยก่อนเถอะ แล้วค่อยมาสั่งสอนเรื่องกฎของบ้านให้เจ้าแมวนี่” มัจฉะว่า ก่อนกระโดดขึ้นไปบัลลังค์เก้าอี้นวดอย่างตื่นเต้น ปากพลางคาบโทรศัพท์ขึ้นไปด้วย มันรีบเปิดแอพลิเคชันวีแอพทันที
“เจ้าอ้วนอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้! หลิวปัง นักฆ่าตุ้ยนุ้ย” มันพิมพ์ลงไป
อีกฝ่ายตอบกลับมา “ว่าไงน้องหนู ถามหาฉันเหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก (มัจฉะ) พิมพ์ตอบกลับไป “เอิ่ม ไม่เห็นชื่อฉันหรือไง”
อีกฝ่ายตอบกลับมา “โอ้ ก็เหมาะดีนะ ดูไร้ยางอายเหมาะกับแกดี”
ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกพิมพ์ “เอิ่ม แกนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย ฉันก้าวข้ามขีดจํากัดระหว่างแมวกับมนุษย์มาแล้ว ฉันพัฒนาจากหลิวปังผู้แข็งแกร่งขึ้นมาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก จากวันนี้ไป นายจะต้องเงยหน้ามองฉันข้างบนนี้ ขณะที่ตัวนายยังเหยียบอยู่บนพื้นโลกนั่นแล้วล่ะ”
เสียวอวี่เบ้ปากอย่างหมั่นไส้ เธอตอบกลับอย่างรําคาญ “ก็ได้ ถ้าพูดมาพอแล้ว มาเจอกัน 1 ต่อ 1 หน่อยเป็นไง”
มัจฉะตอบ “ไม่เข้าใจเหรอ? เลเวลนั้นขึ้นมาเยอะมากแล้ว”
โรลีโพลี่แอบมองการคุยโวโอ้อวดของทั้งสองอยู่ด้านหลังมัจฉะ มันผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอุ้งเท้าของมัจฉะพิมพ์รัวลงบนจอ “เร็วอะไรอย่างนี้! นี่เป็นผลการฝึกฝนอย่างนั้นเหรอ เจ้านี่พิมพ์เร็วพอๆกับที่เราพูดเลย แถมจนตอนนี้ยังพิมพ์ไม่ผิดเลยสักครั้ง นี้จะช่วยเพิ่มเลเวลการเล่นเกมให้จริงๆ เหรอ”
“ก็ได้ ก็ได้” เสียวอรี่หมดความอดทน ก่อนส่งคําเชิญเล่นเกมผ่านวีแชท
ถัดมา การต่อสู้ระหว่างเสียวอวี่กับมัจฉะก็เริ่มต้นขึ้น
มัจฉะยังไม่เล่นเมื่อเกมเริ่ม มันยังคงยั่วยุเสียวอรี่ต่อไป “ดิ้นรนรอเวลาร้องไห้ซะเถอะ! เบิกตาให้กว้างแล้วดูซะว่าฉันแตกต่างจากนายยังไง!”
โรโพลี่ลังเลไปชั่วขณะก่อนเตือนมัจฉะ “พี่ใหญ่ เกมเริ่มแล้วนะ รีบเล่นดีกว่าพิมพ์ไม่ดีกว่าเหรอ”
”กลัวอะไรกัน” มัจฉะหัวเราะ “ฉันโบกอุ้งเท้าไปมาฝุ่นก็ไม่มีวันหลุด เจ้าอ้วนนั่นก็เหมือนฝุ่นนั้นนั่นแหละ แค่รอตายอยู่ในอุ้งเท้าฉันเท่านั้น
ดูความเร็วการพิมพ์ของฉันสิ รู้สึกเหมือนมือถือนี่เป็นอวัยวะหนึ่งของฉันเลย ความนึกคิดของฉันก็อยู่ในเกมด้วย ถึงจะไม่รู้ว่าฉันเก่งขึ้นแค่ไหนก็เถอะ”
“ดูนี่สิ!” นิ้วของมัจฉะจิ้มไปที่ปุ่มเคลื่อนที่บนจอ “ฉันเปลี่ยนเส้นทางได้ 12 ครั้งในหนึ่งวิความเร็วแบบนี้ฉันจะแพ้ได้ยังไง”
ห้านาทีต่อมา…
มัจฉะมองหน้าจออย่างไม่เชื่อสายตา มันกระพริบตาปริบๆ ส่ายหน้าไปมาอย่างรุนแรง “เป็นไปไม่ได้ ฉันแพ้ได้ยังไง เอาอีกตา ฉันจะไม่ให้โอกาสเจ้านั่นอีกแล้ว”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา จาวเหยาที่เพิ่งกินอาหารเย็นเสร็จเดินออกมาจากในครัวเห็นมัจฉะนอนอยู่บนเก้าอี้นวด อีกครั้งที่เห็นมันดวงตาไร้ชีวิตชีวา สายตามองค้างบนเพดาน มุมปากมีน้ําลายไหลย้อย มันดูเหมือนแมวโง่เต็มตัว
”เจ้านั่นเป็นอะไร” จาวเหยาผงะกับภาพตรงหน้า
โรลีโพลี่อ้าปากหาวหวอดก่อนตอบ “อ๋อ เล่นเกมกับหลิวปังแล้วแพ้ 7 เกมติดน่ะ คงยังรับความจริงไม่ได้ล่ะมั้ง”
จาวเหยาโบกมือไปมาหน้ามัจฉะ แต่มันไม่สนใจการกระทําของจาวเหยาเลยสักนิด
”เจ้าเซ่อไร้ประโยชน์นี่” จาวเหยาเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง “มัจฉะ นายชอบเจ้าหญิงเฉียนเหรอ?”
เขาเรียกความสนใจจากมันได้ในที่สุด รูม่านตาของมัจฉะขยายขึ้นเล็กน้อย ก่อนมีเสียงตอบกลับมาในหัวของเขา “ใช่ อยากไปเดทกับเธอจะแย่อยู่แล้ว
แต่นางฟ้าอย่างเธอสนใจแต่แมวที่เล่นเกมเก่งเท่านั้น เธอไม่มองแมวห่วยอย่างฉันหรอก ฉันเป็นแค่เศษดินที่อยู่ใต้เท้าให้เธอเหยียบย่ําเท่านั้น”
จาวเหยาวางมือบนหัวของมันพลางมองอลิซาเบธอย่างขอความช่วยเหลือ “แบบนี้มีหวังพรุ่งนี้ไม่น่าทํางานไหว เธอมีวิธีเรียกอึดให้หมอนี่บ้างมั้ย”
ลูกฝนปรายตามองมัจฉะพลางหัวเราะ “ทุ่มเทกับเกมไปซะขนาดนั้นยังห่วยอยู่อีก ทุกวันนี้เจ้านั่นแทบไม่ดูแลขนตัวเองเลยด้วยซ้ํา กลิ่นสาปโชยหมดแล้ว ฉันไม่ยอมหลงคนอื่นเหมือนเจ้านั่นแน่”
เปรี้ยง!
หลังฟังความจริงที่แทงใจดํา จาวเหยาก็รู้สึกตัวของมัจฉะเริ่มสั่นก่อนร่างจะจมยวบ ลงไปในร่องเบาะของเก้าอี้นวด
“ฉันบอกให้ให้กําลังใจเขาไง!” จาวเหยาหันไปติ
โร-โพลี่รีบวิ่งมาหา “ฉันว่าพี่ใหญ่ของเราฉลาดออก” หูของมัจฉะตั้งขึ้น โรโพลี่รู้ว่ามัจฉะจะฟังที่มันพูด ” เห็นชัดอยู่แล้วว่าเขาเก่งหรือไม่เก่งอะไร และอีสปอร์ตก็ไม่เหมาะกับเขา”
เปรี้ยง!
ร่างของมัจฉะจมลงไปอีกครั้ง ตาสองข้างเหลือกขึ้น สภาพเหมือนใกล้ตายเต็มที่
จาวเหยาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่อลิซาเบธ
” ที่จริงแล้วมัจฉะ…” อลิซาเบธเริ่มเลือกใช้คําพูดอย่างระวังไม่ให้ทําร้ายความรู้สึกอีกฝ่าย เธอมองมัจฉะอยู่อึดใจ อ้าปาก ก่อนโค้งหลัง ทําท่าเหมือนจะอาเจียน
เธอควบคุมตัวเองได้สําเร็จ อุ้งเท้าเช็ดมุมปาก “ขอโทษที วันนี้ลูกค้าป้อนขนมฉันเยอะไปหน่อย ท้องมันเลยแปลกๆ น่ะ”
“นี่ๆๆ! มัจฉะอย่ากระโดดออกไปนอกหน้าต่างนะ! นี่ชั้น 17! กระโดดออกไปได้ตายแน่” จาวเหยาตะโกนพลางรีบเข้าไปอุ้มมัจฉะออกจากขอบหน้าต่าง