Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 167
Chapter 167 ความผิดพลาดและความสิ้นหวัง
“มีเรื่องอะไร?” จาวเหยาสะบัดขาให้หลุดจากมัจฉะ “เจ้านี้ตัวหนักขึ้นทุกวัน!” เขาคิด
”เล่น Mobile Legends ให้หน่อยตานึง! นายต้องเก่งกว่าเจ้าหลิวปังอ้วนนั่นแน่!” มัจฉะคาบโทรศัพท์ยื่นมาตรงหน้าจาวเหยา ตอนนี้มันอยู่ในเกมกับเจ้าหญิงเฉียนและหลิวปัง นักฆ่าตุ้ยนุ้ย กําลังเลือกตัวละครกันอยู่
พวกมันเล่นกันมาบ้างแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก่อนหน้านี้มันฟาร์มแย่มาก ในขณะที่หลิวปัง นักฆ่าตุ้ยนุ้ยวิ่งไปทั่วแมพเพื่อฆ่าศัตรู เจ้าหญิงเฉียนเองก็เล่นเก่งเหมือนกัน มัจฉะได้แต่ขยี้หัวตัวเองอย่างสิ้นหวัง
จาวเหยาหัวเราะก่อนหยิบโทรศัพท์มา “นายต้องดูให้ถูกคนสิ ฉันเคยดูสตรีมเมอร์คนที่เล่นเกมเก่งๆ สกิลของฉันก็เพิ่มขึ้นมาเลย”
สายตาเห็นชื่อของเพื่อนร่วมทีม จาวเหยาก็เม้มปาก “ทําไมนายเล่นกับเจ้านี่อีกแล้ว? ฉันบอกให้นายเลิกเล่นกับเจ้านี่ไม่ใช่เหรอ” แต่เขาก็แค่นหัวเราะ “ช่างเถอะ ฉันจะโชว์พวกนั้นเองว่าใครเป็น Legend ที่แท้จริง!”
มัจฉะพยักหน้ารัวอย่างดีใจ “จาวเหยา! ชีวิตฉันอยู่ในมือนายแล้ว!”
“ไม่ต้องห่วง” เขากดเลือกฮีโร่ Han Xin
” แต่เพื่อนในทีมเราเลือกแคร์รี่ไปแล้วนะ” มัจฉะท้วง
“ดูและเรียนรู้” จาวเหยายิ้มเยาะก่อนพิมพ์ลงในช่องแชท “เดี๋ยว Legend ที่แท้จริงจะเล่นให้ดูเองว่าแคร์รี่คืออะไร!”
ทันใด เพื่อนร่วมทีมของเขาก็เปลี่ยนเป็นตัวละครซัพพอร์ท
” เห็นออร่าฉันมั้ย? ถ้าออร่าของนายแข็งแกร่งพอก็มีโอกาสชนะไปแล้ว 90% นายต้องเพิ่มความมั่นใจให้กับทีม เท่านี้ชัยชนะก็นอนรอมาแล้ว”
มัจฉะพยักหน้าเห็นด้วย “จาวเหยา! จาวเหยา! สุดยอด!”
“คนสุดท้ายที่พยายามจะสู้ Mobile Legend กับฉันก็ออกไปกลางเกมตอนโดนฉันฆ่าเหมือนกัน” จาวเหยาพูดอย่างมั่นใจ “ฉันจะบอกความลับให้ในเกม Mobile Legend มีแค่ 3 ขั้น เท่านั้นแหละ”
“ขั้นแรกคือตอนที่นายกลัวศัตรู ต่อไปคือนายต้องสร้างความมั่นใจให้กับทีม ขั้นสุดท้ายคือ ทําให้ศัตรูกลัวนาย!” จาวเหยาพูด “ถ้าอยากเล่นให้เก่งนายจะต้องห้ามกลัว เพื่อนร่วมทีมจะเชื่อใจนาย แล้วศัตรูก็จะกลัวนายไปเอง!”
10 นาทีต่อมา เสียวอวี่โยนโทรศัพท์ไปบนเตียงก่อนระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นคะแนน
เสียวอวี่เป็นคนทําลายฐานของศัตรู ในขณะที่หลิวปังผู้แข็งแกร่งเอาแต่ฟาร์มอยู่ในป่า
เสียวอวี่เป็น MVP ของเกมอีกครั้ง ส่วนหลิวปังผู้แข็งแกร่งมีส่วนช่วยในทีมเพียง 3%
เสียวอวี่หัวเราะเยาะ “มือใหม่ชะมัด! ดูแล้วสมัยเรียนไม่มีเพื่อนคบที่โรงเรียนแหง”
มุมหนึ่งของห้อง ฮัสกี้ตัวใหญ่เบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ “ดูยัยเด็กประถมนี่คิดสิ ในขณะที่ฉันห่วงอนาคตของประเทศ!” มันคิด ก่อนก้มหัวกินอาหารสุนัขในชาม
แมววิญญาณยังลอยอยู่กลางอากาศคอยสังเกตฮัสกี้เหมือนทุกที่ “อาหารหมามันอร่อยอย่างนั้นเหรอ? หรือหมาเป็นพวกใจง่าย?”
ขณะเดียวกัน ฟิชบอลก็หยิบโทรศัพท์เสียวอรี่ที่ใช้ชื่อเล่นว่าเจ้าหญิงเฉียนขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เสียวอวี่เป็นคนเล่นไอดีหลิวปัง นักฆ่าตุ้ยนุ้ย และมันเล่นเป็นเจ้าหญิงเฉียน
ฟิชบอลค่อยๆ ไตร่ตรองผลการเล่นก่อนดวงตาของมันจะเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเห็นฟิชบอลมีท่าทางชอบอกชอบใจ เสียวอวี่ก็หุบยิ้ม “นายดีใจอะไรฮะ นายต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ เราจะเล่นอีกตาเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วก็ออกไปข้างนอก กวาดพื้นถูพื้นจนกว่าจะเงาวับเลยนะ!”
” หา?” ฟิชบอลเบิกตากว้าง ก่อนพิมพ์ลงโทรศัพท์ “แต่ฉันไม่รู้วิธีกวาดพื้นกับถูพื้น”
” จะใช้ลิ้นนายเลียทําความสะอาดพื้นเอาก็ได้นะ ตั้งแต่วันนี้นายต้องเป็นคนดูแลความสะอาดในบ้าน”
เมื่อสิ้นเสียง ฟิชบอลก็รู้สึกหมดแรงจนลงไปนอนกองกับพื้น เงยหน้ามองเพดานห้องอย่างหมดอาลัยตายอยาก
มันเห็นฮัสกี้นั่งหัวเราะเลยตะโกนกลับไป “เจ้าหมาโง่! หัวเราะอะไร? หัวเราะอีกที่ฉันจะเล่นแกให้เละ!”
เสียวอวี่หันไปดุฟิชบอลเมื่อได้ยินเสียงมันร้อง “ถ้ายังแกล้งบะหมี่อยู่อีกระวังจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่นายได้ทําในชีวิต!”
ฟิชบอลรีบวิ่งเข้าไปหาโทรศัพท์ “เสียวอวี่! เจ้าหมาโง่นี่มันก็มีพลังตื่นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่ามันเข้าใจบทสนทนาระหว่างแมวกับมนุษย์!”
เสียวอวี่มองไปทางฮัสกี้ มันเพียงส่งยิ้มกลับมาหาเธอทั้งยังลิ้นห้อยออกมาข้างๆ ในสายตาของเสียวอวี่ ฮัสกี้ตรงหน้าไม่มีเค้าของความฉลาดเลยสักนิด
” พูดอะไรของนาย? ฉันเคยได้ยินแต่เรื่องซูเปอร์แคท ไม่มีซูเปอร์ด็อก! บะหมี่ก็น่ารักเซ่อซ่าเหมือนเดิมนั่นแหละ พลังตื่นขึ้นมาอะไรกัน”
ฟิชบอลกําหมัดแน่น กัดริมฝีปากอย่างแค้นใจ มันเหวี่ยงกําปั้นไปที่ฮัสกี้ “เสียวอวี่! เธอต้องเชื่อฉันนะ! มันเป็นซูเปอร์ด็อกจริงๆ! มันแค่แกล้งโง่ต่อหน้าเธอก็เท่านั้น มันแอบมานอนที่นอนของฉันทุกคืน!”
เสียวอวี่กรอกตา ไม่สนใจสิ่งที่ฟิชบอลพูด นิ้วของเธอพิมพ์บางสิ่งลงบนโทรศัพท์ก่อนกดออกจากเกม
ฟิชบอลส่งสายตาอํามหิตใส่ฮัสกี้ก่อนโก่งหลังทําขนพอง “ไอ้หมาโง่! แกจะต้องเสียใจ!”
ฮัสกี้ตกใจกลัวเสียงร้องของมันก่อนวิ่งไปหลบอยู่มุมห้อง เสียวอวี่ได้ยินเสียงฮัสกี้จึงตะโกนอีกครั้ง “บอกว่าอย่าแกล้งบะหมี่ไง!”
ฟิชบอลก้มหน้าหงอ “ยังไม่ได้ทําอะไรเลยแท้ๆ!” มันพึมพํา
ฮัสกี้เลิกคิ้วเยาะเย้ยใส่ฟิชบอล “จะเล่นกับฉันยังเร็วไปไอ้หนู ฉันจะต้องขึ้นเป็นผู้นําของบ้านหลังนี้ให้ได้ แล้วฉันจะได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!”
แมววิญญาณลอยตัวเข้ามาหาฮัสกี้พลางคิด “เขาก็ดูสนุกอยู่นะ”
…
มัจฉะเห็นเจ้าหญิงเฉียนออกจากกลุ่มไปก็รีบส่งข้อความส่วนตัวไปหา “เจ้าหญิงเฉียน ทําไมออกเกมแล้วล่ะ ไม่เล่นแล้วหรอ”
“โทษทีนะพี่หลิวปัง ฉันบอกแล้วไงว่าชอบเล่นกับคนเก่งๆ”
เปรี้ยง!
มัจฉะราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงกลางอก
จาวเหยาถอนหายใจยาวอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นมัจฉะนอนบนโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก เขาลอบลบเกมออกจากโทรศัพท์ “เกมมันจับคู่ศัตรูกากอะไรขนาดนี้มาให้ ฉันยังไม่ทันได้ทําอะไรป้อมก็แตกไปก่อนแล้ว!”
จาวเหยาลูบหัวมัจฉะเบาๆ เมื่อเห็นมันนอนไร้ชีวิตชีวา “มัจฉะ ไม่ต้องเศร้าไป! เกมขยะแบบนี้จะไปสนุกอะไร ไปเล่นพับจีแทนดีไหม?”
มัจฉะมองเพดานอย่างไร้อารมณ์ ในใจของมันคิด “ช่างมันเถอะ จะเกมไหนฉันก็กากหมด นั่นแหละ ยังไงฉันก็แก่ขึ้นทุกที ไม่มีเวลามาทําอะไรแบบนี้แล้วมั้ง…. บางทีอาจถึงเวลาล้มเลิกความฝันที่จะเป็นเกมเมอร์แล้ว”