Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 165
Chapter 165 ราชาแห่งสัตว์ป่า
“แอชลีย์ วันนี้เธอต้องกินอาหารให้หมดนะ!”
“เค้ก เดี๋ยวก็อ้วนอีกหรอก! ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าแย่งอาหารของพี่!”
“บัตเตอร์ ถ้าข่วนโซฟาฉันอีกฉันจะไล่ออกจากบ้าน!”
เด็กสาวคอยออกคําสั่งแมวแต่ละตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่นานเธอก็ออกจากบ้านโดยมีปลายทางคือเมืองเจียงไฮ้
“อลิซาเบธที่น่ารักของฉัน! ฉันจะต้องพาเธอกลับมาบ้านให้ได้เลย!”
ทันทีที่เด็กสาวออกจาบ้าน อะพอสเซิลที่เป็นคนของทางการท่าทางเคร่งขรึมก็ปรากฏตัวหน้าประตูบ้าน เขาเห็นเพื่อนร่วมทีม 2 คนนอนหมดสิอยู่ที่พื้น เขารีบเข้าไปข้างในแมนชั่นทันทีอย่างต้องการสืบหาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หลายนาทีต่อมา เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์บางอย่างมือเป็นระวิง เหงื่อเย็นซึมหน้าผาก
” ทีมจาว ทางนี้ดูท่าไม่ดีแล้ว”
“ซุนเหมิงหายตัวไป”
” ครับ พบอะพอสเซิล 21 คนหมดสติ”
“ผมรู้ว่าคนๆ นี้อันตรายขนาดไหน โปรดออกคําสั่งด้วยครับ และเตือนเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนี้ด้วย ถ้าหากพบตัวเธอ…”
“ให้รีบหนีให้ไวที่สุด และรายงานหัวหน้าทีมทันที!”
จาวเหยาและเค้กข้าวมาถึงโรงพยาบาลสัตว์สตาร์รี่สตาร์รี่ สัตวแพทย์หลิวยังคงต้อนรับเขาที่เคาเตอร์ด้านหน้าด้วยรอยยิ้มเช่นเคย รวมถึงถุงน่องดําที่อยู่ใต้โค้ทสีขาวเช่นเคยด้วย
ดร.หลิวลูบไล้ขนของเค้กข้าวไปมาอย่างกําลังตรวจเช็ค ทั้งอย่างนั้นเค้กข้าวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยตลอดการตรวจร่างกาย ดร.หลิวถอยหลังไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอาการไม่ปกติ “น่าแปลกมาก! เป็นสัตวแพทย์มาหลายปี ไม่เคยเห็นแมวหลับลึกขนาดนี้มาก่อนเลย การตอบสนองช้ากว่าปกติเหรอ? ฉันหมายถึงเธอมีอาการค่อนข้างเอ่ออะไรแบบนั้นหรือเปล่า?”
จาวเหยาพยายามนึกย้อนกลับไปก่อนตอบ “ไม่ครับ ไม่ใช่แน่! แต่เธอค่อนข้างขี้หงุดหงิด”
“เป็นปกติค่ะ แมวที่มีอาการเกี่ยวกับข้อกระดูกแบบนี้จะทุกข์ทรมาณจากความเจ็บปวดตลอดเวลา ถ้าอารมณ์ดีสิคะถึงจะแปลก” ว่าแล้วดร.หลิวก็หยิบคอตตอนบัตออกมาตรวจเช็คบริเวณก้นเพื่อตรวจอุจจาระ
ทันทีที่ดร.สอดคอตตอนบัตเข้าไปข้างใน เค้กข้าวก็สะดุ้งตื่นตาเบิกโพลง มันร้องเสียงดังก่อนกระโจนออกจากแขนดร.หลิว
“เบี้ยว!!”
พลันทั้งห้องตรวจสั่นสะเทือนจากเสียงร้องโหยหวนของเค้กข้าว มันวิ่งพล่านไปทั่วห้องแต่คอตตอนบัดยังคาอยู่ที่รูทวารของมันทําให้ยิ่งวิ่งหนีก็ยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้น สุดท้ายมันก็นอนลงพื้นร้องเสียงดัง น้ําตานอง
“เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ!”
” กล้าดียังไงมาใช้ไอ้นี่ทรมานฉัน”
“แต่ความเจ็บปวดจะทําให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น!
“มนุษย์ รับความพิโรธของฉันซะ!”
จาวเหยาได้ยินเสียงเค้กข้าวก็พยายามเข้าไปหยิบคอตตอนบัตออกให้มัน แต่แรงสั่นสะเทือนทําให้เขาล้มลงกับพื้น
“บ้าเอ๊ย! ไม่ใช่ตอนนี้สิ!”
แต่แรงสั่นสะเทือนก็พลันหยุดลง จาวเหยาไม่ทันจะรับมืออะไร แผ่นดินไหวก็หยุดไปเสียก่อน
เค้กข้าวกัดริมฝีปากของตัวเอง กํากุ้งเท้าแน่นด้วยความโกรธ ร่างกายของมันสั่นอย่างรุนแรงดูเหมือนว่ามันพยายามใช้พลังเพื่อขับคอตตอนบัตออกจากร่างกาย
“มนุษย์ ฉันจะส่งพวกแกไปลงหลุมให้หมด!” เค้กข้าวร้องไม่หยุด ” เบี้ยว! เจ็บก้นมาก!”
จาวเหยารีบเข้าไปหาและอุ้มเธอขึ้นมาทันที เขาค่อยๆ ลูบขนเธอเบาๆ อย่างพยายามปลอบ “เข้าใจแล้วๆ พอแล้วนะเค้กข้าว ไม่ต้องกลัวไป”
เค้กข้าวมุดตัวคุดคู่อยู่ในอ้อมแขนของจาวเหยา ขาหลังถีบจาวเหยาไม่หยุด “เสี้ยว! ฉันไม่อยากท้อง! ฉันไม่อยากมีลูกแมว!”
จาวเหยารีบอธิบาย ”เราแค่ตรวจร่างกายเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรนะ เธอไม่ท้องหรอก!”
ดร.หลิวปาดเหงื่อที่หน้าผาก “เจียงไฮ่เป็นอะไรไป ทําไมแผ่นดินไหวอีกแล้ว?”
จาวเหยาหัวเราะก่อนตอบ ” แค่แผ่นเปลือกโลกขยับเท่านั้นแหละครับ!”
ดร.หลิวตรวจร่างกายของเค้กข้าวต่อ จากประสบการณ์แล้วจาวเหยายังใช้พลังภาพลวงตาทําให้มันไม่รู้สึกเจ็บระหว่างฉีดยาอีกด้วย
ทันใดนั้น จาวเหยาก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย “โรคกระดูก. ความเจ็บปวด…. แผ่นดินไหว อย่าบอกนะว่าพลังของเค้กข้าวเกิดขึ้นจากความเจ็บปวด?”
แม้เป็นเพียงสมมติฐาน แต่จากพลังของเขาทําให้เขาค่อนข้างมั่นใจในสมมติฐานนี้อย่างมาก อย่างไรเขาก็ต้องดูแลเค้กข้าวให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผ่นดินไหวที่เมืองเจียงไฮ่อีก
จาวเหยานั่งลงที่เก้าอี้รอผลการตรวจโดยมีเค้กข้าวอยู่ในอ้อมแขน เขาเห็นเค้กข้าวหงอยไปเลยพยายามชวนคุย หยิบโทรศัพท์ออกมา ”เค้กข้าว เคยใช้โทรศัพท์มือถือไหม”
เค้กข้าวเพียงมองแล้วส่งเสียงในลําคอเบาๆ ไม่ตอบอะไร
จาวเหยากดเปิดเครื่อง เสิร์ชหาเกมและวิดีโอที่น่าสนใจบนอินเตอร์เน็ตเพื่อให้เค้กข้าวอารมณ์ดีขึ้น
แต่เค้กข้าวก็ยังนิ่งอยู่อย่างเดิมไม่ว่าจาวเหยาจะเอาอะไรมาโอ๋มัน มันไม่ชอบทั้งซีรีส์ อนิเมะหรือเกม
“เค้กข้าวเคยเป็นแมวจรเหมือนกับลูกฝุ่น พวกมันไม่สนใจโทรศัพท์เลยสักนิด” จาวเหยาคิดมือพลางลูบคาง หรืออาจจะต้องใช้แคทมินต์?”
แม้จาวเหยาจะจะใช้ภาพลวงตาได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เขาไม่อาจสร้างรสชาติแคทมินต์ได้เพราะเขาเองก็ไม่เคยกินมันมาก่อน
“ที่นี่มีแมวอยู่ไหม?”
จาวเหยาผงะไปกับเสียงปริศนาที่ดังขึ้นในหัวของเขา ”เค้กข้าว เมื่อกี้เธอพูดกับฉันเหรอ” เขาถาม
เค้กข้าวกรอกตาก่อนกระแทกเสียงตอบ “เสียงฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย!”
“ฉันเอง! ฉันเอง!” เสียงแหบห้าวดังขึ้นในหัวพวกเขาอีกครั้ง”ฉันเป็นคนพูด! ได้ยินฉันไหม!”
จาวเหยาหันซ้ายหันขวา พยายามหาต้นเสียง “ใครน่ะ?”
“ฉันไลท์นิ่ง! ฉันอยู่ในกรงมุมห้องนี้!”
จาวเหยาหันไปทางกรงที่มีเสื้อสีเหลืองพาดอยู่ เขาตามทางไป “เธอเป็นซูเปอร์แคท?”
“แคท? ฉันไม่ใช่แมวนะ! ฉันคือไลท์นิ่ง ราชาแห่งสัตว์ป่า! ถ้านายปล่อยฉันออกไป ฉันจะให้พรนายหนึ่งข้อ!”
จาวเหยาหมวดคิ้ว ส่งเสียงหัวเราะแค่นจมูก “ก็แค่แมวที่โดนขังอยู่ในกรงไม่ใช่หรือไง! ราชาสัตว์ป่าอะไรกัน ดูการ์ตูนเยอะไปหน่อยนะ อยู่โรงพยาบาลแบบนี้รีบรักษาตัวให้หายก่อนคิดจะหนี ดีกว่า”
“ฉันเป็นราชาแห่งสัตว์ป่า ฉันไม่ได้ปวย!” น้ําเสียงไม่พอใจตอบกลับมา
“ฉันอยากกลับไปดินแดนแห้งแล้ง อยากวิ่งไปตามทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ล่าสัตว์ที่ไร้ทางสู้ ฉันรอที่จะลิ้มรสเลือดไม่ไหวแล้ว! ฉันสัญญาว่าจะมอบความมั่งคั่งที่นายไม่อาจจินตนาการได้ ถ้านายช่วยฉันออกไปและพากลับบ้านละก็นะ!”
จาวเหยาพยักเพยิดหน้า “ดูแล้วน่าจะปวยหนัก นอกจากจะดูการ์ตูนเยอะไปแล้วยังดูสารคดีเยอะอีก”
” พ่นอะไรออกมากันฮะ พาฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ หรืออยากตกเป็นเหยื่อของฉัน ฉันควบคุมสัตว์ร้ายในตัวไม่ได้มากนักหรอกนะ!”
จาวเหยาไม่คิดจะปล่อยมันออกมาอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าภายใต้น้ําเสียงหยิ่งหยองนั้นจะมีใบหน้าแบบไหนซ่อนอยู่
เขาเดินตรงไปยังกรงที่อยู่มุมห้อง ค่อยๆ หยิบเสื้อออก ในที่สุดเขาก็ได้เห็นโฉมหน้าสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างใน