Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 154
Chapter 154 เจ้าฮัสกี้
แมวอ้วนไม่เคยคิดว่าฮัสกี้ตรงหน้าจะตอบโต้มันมาก่อน ดวงตามันเต็มไปด้วยความโกรธ เพราะรู้สึกเหมือนโดนต่อต้าน มันลุกขึ้นยืนก่อนตะโกนใส่สุนัขตรงหน้า
” กล้าใช้อุ้งเท้าสกปรกๆ นั่นที่ฉันงั้นเรอะ แม้แต่เสียวอวี่ยังไม่เคยตีฉันเลยนะ!” ฟิชบอล เจ้าแมวอ้วนจ้องเขม็งใส่หมาตรงหน้า ขนของมันฟูพองทั่วทั้งตัว
“ลืมไปแล้วเรอะว่าบ้านนี้ใครเป็นใหญ่?” มันลุกขึ้นยืนสองขาเหมือนมนุษย์ตะโกนต่อไปเจออัลติเมตฉันซะ!”
ฮัสกี้เริ่มส่งเสียงขู่คํารามขณะมองฟิชบอล ทันใดก็มีลําแสงหนึ่งส่องสว่างในอุ้งเท้าแมวอ้วนตรงหน้า ฝังฮัสกี้ก็พร้อมมีเรื่องเต็มที่
“เจ้านี่เป็นซูเปอร์แคท ดูแล้วมีพลังที่แข็งแกร่งพอตัว”
“เริ่มกลัวแล้วงั้นเรอะ? สายไปแล้ว” ฟิชบอลระเบิดหัวเราะเมื่อเห็นเจ้าฮัสกี้ตั้งท่ารับ มันลดลําแสงให้เล็กลงเท่าจุดๆ หนึ่งก่อนชี้ไปทางฮัสกี้
“มาแล้ว!” ฮัสกี้ผงะหลังเมื่อโดนการโจมตีของแมว ทันใดเขาเห็นจุดสีขาววิ่งโร่ไปรอบพื้นห้อง
มุมปากฟิชบอลยกยิ้มขณะที่มันขยับนิ้วไปมาเพื่อควบคุมลําแสงให้เคลื่อนไหวตามที่มันต้องหาร
” เมี้ยววะฮะฮ่า จับสิบะหมี่! ของเล่นที่แกชอบยังไงล่ะ! ดูสิว่าฉันเล่นกับแกยังไง เจ้าหมาโง่!” ฟิชบอลตะโกนไปหัวเราะไป
เจ้าหมาฮัสกี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคยชอบจุดลําแสงที่มันสร้างขึ้นมาก มันชอบใช้วิธีนี้ในตอนที่มันอารมณ์ไม่ดี และเจ้าฮัสกี้ก็มักจะวิ่งไล่ตามจุดแสงอย่างบ้าคลั่งจนหมดแรงทุกครั้ง
มันยังใช้วิธีนี้ทําให้เจ้าหมาเล่นซนจนทําแจกันแตก ผ้าม่านขาด และโดนครอบครัวของเสียวอวี่ตีไปตามระเบียบ
“เมี้ยวฮะฮ่า เจ้าหมาโง่! ยังจะกล้าตีฉันอยู่มั้ย คราวนี้ก็ชนทีวีล้มไปเลยแล้วกัน! รอครอบครัว เสียวอวี่มาเห็นไม่ไหวแล้ว!”
แต่ความจริงกลับห่างไกลจากสิ่งที่มันคิดนัก เจ้าฮัสกี้เพียงมองจุดลําแสงที่วิ่งไปมาอย่างไร้เยื่อใยก่อนมองไปยังฟิชบอล
” แมวขยะกับความสามารถขยะๆ” ฮัสกี้กรอกตาก่อนนั่งลง ไม่สนใจจุดแสงที่ยังคงวิ่งไปมา
“ทําไมเป็นงี้ เจ้าหมาโง่นั่นไม่ชอบวิ่งไล่จุดแล้วหรอ” ฟิชบอลงุนงงกับภาพตรงหน้า
มันต้องเปลี่ยนแผน มันเริ่มสร้างความรําคาญให้ฮัสกี้โดยวางจุดไว้บนตัวของมัน หน้า และจมูก
แต่เจ้าฮัสกี้ก็ยังคงไม่สนใจ มันนอนกับพื้นอยู่อย่างเดิม ทั้งยังปรายตามองฟิชบอลเชิงไม่อยากสนใจแมวบ้า
”เป็นไปได้ยังไง กลยุทธ์จุดใช้ไม่ได้เหรอ? แค่คืนเดียวจู่ๆ เจ้าหมานี่ก็ฉลาดขึ้นมาเลยเหรอ” มันยังคงมองสุนัขตรงหน้าอย่างตกใจไม่หาย
ขณะที่ฟิชบอลกําลังกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันของฮัสกี้ ก็มีเสียงแปลกๆ ร้องดังมาจากท้องของมัน
“หิว” เจ้าฮัสกี้กําลังหิว เขาเดินไปยังชามอาหารที่เสียวอวี่เทไว้ให้ก่อนลองดมกลิ่น
“ไม่ เราจะกินอาหารหมาได้ยังไง”
“ฉันยังเป็นมนุษย์ ต้องรักษาศักดิ์ศรีเข้าไว้”
“ฉันยอมตายดีกว่าต้องกินอาหารหมานี่”
” ต้องหาทางทําอะไรสักอย่างให้ได้อาหารของมนุษย์มา”
เมื่อเจ้าฮัสกี้คิดได้ดังนั้น กลิ่นหอมของอาหารตรงหน้าก็ลอยมาแตะจมูกกระตุ้นความอยากอาหารของมัน ทุกเซลล์ในร่างกายกระตุ้นให้มันกินอาหารตรงหน้าให้หมด
หลังจากผ่านไปคําแรก โลกของเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือโดนสิ้นเชิง
เขาเริ่มกินอาหารสุนัขตรงหน้า หางตามีน้ําตาซึม
“ไม่รู้มาก่อนว่าอาหารหมาจะอร่อยขนาดนี้!”
อาหารที่ให้มันไม่ได้เป็นอาหารที่อร่อยอะไร เพียงแต่เป็นอาหารที่เหมาะกับทุ่มรับรสของสุนัขพันธุ์ฮัสกี้เท่านั้น ทั้งยังมีสารกระตุ้นอีกเล็กน้อยเพื่อล่อพวกมัน
เจ้าฮัสกี้เรอออกมาอย่างสบายใจเมื่อกินอาหารชามโตจนหมด มันทิ้งตัว รู้สึกถึงเบาะที่นุ่มและสบาย ราวกับกําลังนอนอยู่บนก้อนเมฆบนท้องฟ้า
ฟิชบอลไม่สบอารมณ์ที่ฮัสกี้ขึ้นมานอนบนที่นอนของมัน “เจ้าหมาโง่! ออกไปนะ!”
“นี่มันที่นอนของฉัน!”
” ขึ้นไม่ลุกออกไปนายเจอดีแน่!”
หูของฮัสกี้กระดิกเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงพล่ามของฟิชบอล มันยังบัดฟิชบอลออกไปก่อนหมุนรอบตัวเพื่อหาจุดที่นอนสบาย
ทุกการกระทําของฮัสกี้ต่างถูกสอดส่องโดยแมววิญญาณที่ซ่อนตัวเองอยู่ในอากาศ
“ทําไมรู้สึกเหมือนโฮห้าวชางเปลี่ยนไป?” คิ้วของแมววิญญาขมวดเข้าหากัน มันพยายามนึกย้อนไปตั้งแต่ตอนที่โฮห้าวชางกลายเป็นสุนัข
ตั้งแต่ความปรารถนาอันแรงกล้าของโฮห้าวชางที่อยากกลับไปเป็นมนุษย์ สู้กับฟิชบอล โดนล่อจนต้องกินอาหารสุนัขอย่างจําใจ ตอนนี้กลับกําลังนอนอย่างมีความสุขบนที่นอนแมว มีบางสิ่งเปลี่ยนไปอย่างมาก
” พฤติกรรมเหมือนหมาไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เปลี่ยนไวไปแล้ว!” รูม่านตาของมันหดเล็กลงขณะใช้ความคิด ” ตั้งแต่เข้าไปอยู่ร่างของหมา วิญญาณของโฮห้าวชางก็เริ่มโดนกลืนกิน พฤติกรรมค่อยๆ เปลี่ยนไปช้าๆ ตามสัญญาณชาติ ไม่แน่ว่าดวงวิญญาณของโฮห้าวชางจะผสานกับดวงวิญญาณของเจ้าฮัสกี้นี้ไปเรียบร้อยแล้ว”
“สติปัญญาก็ดูถดถอย เพราะความบ้องตื่นดั้งเดิมของเจ้าหมานี่อย่างนั้นเหรอ”
แมววิญญาณมองโฮห้าวชางที่นอนหลับสบายอยู่บนที่นอนแมวอย่างหมดความหวัง
“เป็นเรื่องยุ่งยากซะแล้ว”
ทันใดมันเห็นฟิชบอลกระโดดขึ้นไปตรงหน้าโฮห้าวชาง แสงบางอย่างส่องวาบอยู่ในอุ้งมือของมัน
“เสี้ยววะฮะฮ่า ฉันจะทําให้แกตาบอดด้วยแสงนี้เอง!”
ฮัสกี้เปิดเปลือกตา มองแสงที่สองสว่างอยู่ตรงหน้าอย่างรําคาญ หากแมวตัวนี้ยังกวนไม่เลิก เขาก็นอนอย่างสงบไม่ได้
ถัดมา ฮัสกี้อ้าปากกว้างคาบฟิชบอลเข้าที่คอ และวางมันบนเบาะนอนนุ่มนิ่ม
ฟิชบอลยิ้มกว้างอย่างดีใจที่เห็นฮัสกี้ยอมแพ้ ”เสี้ยววะฮ่า ทีนี้ก็เข้าใจความแข็งแกร่งของข้าสักทีสินะ” มันคิด
พลันรอบกายของมันมืดสนิทเมื่อฮัสกี้นั่งทับลงตัวของมันราวกับเป็นเบาะนอน แถมหันก้นมาทางหน้าอีกต่างหาก แล้วมันก็หลับต่อไม่สนอะไร
ฟิชบอลเริ่มดิ้นพล่านทันทีแต่กลับไม่เป็นผล มันยอมแพ้ในนาทีต่อมา
ก้นของฮัสกี้ยิ่งลงมากองอย่างแสดงให้เห็นว่ามันกําลังเข้าสู่ห้วงนิทรา
แมววิญญาณมองภาพตรงหน้าก่อนส่ายหัว “แค่แปปเดียวสถานการณ์ก็ย่ําแย่ไปขนาดนี้ซะแล้ว”
เสียวอรี่ออกมาจากห้องน้ําหลังอาบน้ําเสร็จ เธอหันไปมองรอบห้องก่อนตะโกนเรียก “ฟิชบอล อยู่ที่ไหน”
ฟิชบอลพยายามโบกอุ้งเท้าไปมาอยู่ใต้ก้นของฮัสกี้เรียกความสนใจของเสียวอวี่
“ฟิชบอล ออกมานี่เลย ทําไมเสียงดังเอะอะแบบนี้” เสียวอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาส่อแววโกรธ ร่างกายราวกับมีออร่าบางอย่างกําลังพวยพุ่ง
“แล้ว 250 หยวนของฉันหายไปไหน”
ฮัสกี้รู้ว่าฟิชบอลกําลังจะตกที่นั่งลําบากมันเลยรีบตื่นขึ้น
ฟิชบอลที่กําลังโบกขาไปมารีบหยุดก่อนหดขาแอบอยู่หลังก้นของฮัสกี้ โดยที่เสียวอวี่ไม่ทันสังเกต