Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 149
Chapter 149 จุดอ่อน
” หายตัว โจมตี หายตัว” โฮห้าวชางวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของจาวเหยา
“ตอนหายตัวครั้งแรกหายไปในพริบตา แต่ครั้งที่สองหมุนหายไป พลังประเภทไหนกันนะ” โฮห้าวชางมองตรงไปข้างหน้า ไม่มีใครอยู่ในห้อง เขาลูบคางอย่างใช้ความคิด ” พอโจมตีครั้งแรกก็ซ่อนตัว หลบไปรอจนกว่าจะโจมตีครั้งต่อไปงั้นเหรอ”
“ยังไงก็ตาม ตราบที่ฉันใช้เกราะป้องกันของแอรีส เจ้านั่นก็ทําอะไรเราไม่ได้ คนที่ชนะก็คือฉัน” เขาหันไปออกคําสั่ง “ฟูจิน ไปหาตัวเจ้านั่นมา”
แมวไทยขนสีดําร้องเหมียวเชิงตอบรับ เมื่อสิ้นเสียง คลื่นลมแรงขนาดใหญ่ก็พัดออกมาจากร่างของมันก่อนจะกระจายออกไปรอบห้องโถง
ดูเหมือนว่าแมวไทยตัวนี้จะสามารถควบคุมและบังคับลมได้ด้วยผิวหนังของมัน มันเปลี่ยนความว่างเปล่าในอากาศให้เป็นกระแสลมพัดไปรอบๆ ห้องโถงเพื่อหาตัวจาวเหยา
เพียงไม่กี่วินาทีมันก็สามารถค้นหาตามทุกซอกมุมได้ทั่วทั้งหมด แต่ก็ยังไม่เจอตัวอีกฝ่าย
ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ทั้งเสียงหวีดหวิวของอาวุธที่พุ่งผ่านอากาศมาทางโฮห้าวชาง ลุกกระสุนและดาบยาวอีก 12 เล่มพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกัน แต่มันก็ถูกหยุดไว้ราวกับมีกําแพงที่มองไม่เห็นขวางกั้นกลางอากาศก่อนร่วงกราวตกลงพื้น
ระหว่างที่เวลาหยุดเดิน จาวเหยาฉวยปืนมาจากพ่อบ้านเชียและควานหาดาบยาวทั้งหมดที่เขาสะสมเก็บไว้ในมิติกระเพาะออกมา
อีกครั้ง จาวเหยาหมุนหายกลับไป โฮห้าวชางเริ่มขบกรามแน่น
“โจมตีเหมือนเดิม แล้วหายไปด้วยวิธีเดิม” โฮห้าวชางสังเกตบางสิ่งได้ “จุดที่เจ้านั่นออกมาจะเป็นจุดเดียวกับตอนที่หายไป”
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่รู้ถึงมิติกระเพาะพิเศษของจาวเหยา หลังจากรับการโจมตีสองครั้ง เขารู้ เพียงว่าจุดที่จาวเหยาหายไปเป็นเหมือนกับประตูเข้าออก มันจะต้องเป็นจุดเดียวกันอย่างแน่นอน
เขาส่งสายตาเป็นสัญญาณให้แมวไทยก่อนชี้ไปยังจุดที่จาวเหยาหายตัวไป ฟูจิน แมวไทยตัวเดิมอ้าปากคําราม มีกระแสลมลูกใหญ่พุ่งออกมาจากปากของมันและพัดไปยังตรงจุดที่จาวเหยาหายไป
“หม?” โฮห้าวชางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อเห็นฟูจินหยุดโจมตีเขาก็หันไปสั่ง “ใช้พลังของเธอไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้านั่นจะโผล่ออกมา” เขายังคงคาใจในการใช้พลังของจาวเหยา
6 วินาทีผ่านไป จาวเหยาก็ได้รับการต้อนรับจากกระแสลมลูกใหญ่หลังจากออกมาจากมิติกระเพาะ
แม้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วมากกว่าเดิมเพียงใดก็ยังคงต้องใช้เวลาในการสลับจากพลังของลูกฝุ่นไปใช้พลังหยุดเวลาของมัจฉะอยู่ดี ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนแรงลมกระแทกบริเวณอกจนทิ้งรอย
หากเขาใช้เวลานานกว่านี้จะต้องเป็นแผลหนักกว่านี้แน่
“เจ็บชะมัด!” เขากัดฟัน มองไปยังโฮห้าวชาง “เจ้านั่นรู้จุดอ่อนของพลังลูกฝุ่นแล้วงั้นเหรอ”
แต่การโจมตีทั้งสองครั้งของเขาก็ทําให้รู้ระยะการป้องกันของอีกฝ่าย
“ในระยะรัศมี 3 เมตร ลูกกระสุนผ่านเข้าไปไม่ได้ พลังภาพลวงตาของอลิซาเบธก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน” จาวเหยาเหยียดยิ้ม ” แต่คนเราก็ต้องหายใจอยู่ดี”
จาวเหยาหยิบซองผงพริกปาปริก้าและผงเลมอนออกมาก่อนโปรยมันทั้งหมดไปทางโฮห้าวชาง
หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกประตูไปก่อนสลับใช้พลังของลูกฝุ่นและดูดตัวเองกลับเข้าไป
แม้เขาจะไม่รู้ว่าที่โฮห้าวชางโจมตีเขาได้จะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเขารู้เรื่องมิติกระเพาะ จาวเหยาก็ไม่อยากเสี่ยงทั้งนั้น เขาหลบออกมาให้พ้นสายตาของโฮห้าวชางก่อนใช้พลังดูดตัวเองกลับเข้าไป
โฮห้าวชางเห็นจาวเหยาได้รับการโจมตีเต็มๆ ก่อนหลบไปซ่อนโดยออกไปจากห้องโถง ก่อนที่เขาจะตอบสนองอะไร ทั้งผงพริกและผงเลมอนก็ต่างปลิวกระจายมาทางเขา เขาสูดมันเข้าไปอย่างเต็มที่ แถมยังเข้าตาของเขาอีกด้วย
“นี่มันอะไร” เขารู้สึกเผ็ดแสบทั้งตาทั้งจมูก เขาจามออกมาเสียงดัง เกราะป้องกันของเขาปรากฏวาบออกมาก่อนปัดผงทั้งหมดออกไป
นี่เป็นพลังที่เขายืมมาจากแอรีส เขาสามารถปัดทั้งการโจมตี รังสีและสิ่งของใดๆก็ตามออกไปข้างนอกได้โดยมีตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
รวมถึงลูกกระสุน ไฟ และพลังพิเศษด้วย
ตราบใดที่เขาไม่ต้องการให้มีสิ่งใดเข้ามาใกล้ก็สามารถปัดมันออกไปได้ทั้งหมด รวมถึงพลังภาพลวงตาของอลิซาเบธ
เขาทําได้กระทั่งขยายอาณาเขตเกราะป้องกันของเขา มันจะหยุดทุกสิ่งอย่างที่ลอยเข้ามาทางเขาและร่วงลงไปกับพื้น
แต่กระนั้นเขาก็ยังต้องใช้อากาศหายใจ เขาจึงยังต้องการการไหลเวียนและอนุภาคอากาศให้อยู่รอบๆตัวเขา
“เจ้าบ้านั่น มันรู้จุดอ่อนนี้ได้ยังไง!” โฮห้าวชางแค้นใจขณะไอออกมาอย่างต่อเนื่องจนน้ําตาเริ่มซึม
แม้ผงปาปริก้าจะใช้กันทั่วไปในการทําอาหาร ความเผ็ดไม่ได้ขึ้นอยู่กับต่อมรับรส แต่เป็นความรู้สึกที่ได้รับจากกระบวนการทางเคมี
หากสูดผงเข้าไปในร่างกายเป็นจํานวนมากก็อาจทําให้ตายได้
ผงเลมอนเองหากสูดเข้าไปจํานวนมากและไม่ทําการรักษาก็อาจทําให้ตาบอดได้ในภายหลัง
“เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ แต่ยังไม่ดีพอ!” โฮห้าวชางขบกรามแน่นอย่างข่มความเจ็บปวด “แอรีส ระหว่างที่ลูซิเฟอร์รักษาก็ป้องกันฉันด้วย!” เขาสั่ง
ไอรีสรับพลังคืนมาก่อนใช้เกราะป้องกัน ลูซิเฟอร์วางอุ้งเท้าบนตัวโฮห้าวชางก่อนให้เขายืมพลังฟื้นฟู
ด้วยพลังแห่งแห่งการฟื้นฟูทําให้โฮห้าวชางเริ่มรักษาตัวเองจากผลที่เขาได้รับจากผงปาปริก้าและผงเลมอนที่สูดเข้าไป ทั้งยังขับผงทั้งหมดออกไปจากร่างกายได้อีกด้วย
” เพียงพลังของแอรีสก็ทําให้เราแข็งแกร่งมากแล้ว เมื่อผสานเข้ากับพลังฟื้นฟูของลูซิเฟอร์ ทําให้ฉันเข้าใกล้การอยู่ยงคงกระพันมากขึ้น”
โฮห้าวชางหลับตาลง ขอบตายังมีน้ําตาไหลซึม “ต้องพุ่งสมาธิไปที่การรักษาก่อน ต้องขอบคุณที่เรารู้จุดอ่อนนี้ของแอรีส ต่อไปฉันจะไม่ปล่อยให้อนุภาคขนาดใหญ่ใดๆ เล็ดลอดเข้ามาได้อีก”
โฮห้าวชางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีการโจมตีใดทะลุเกราะของเขามาได้ แต่จาวเหยาทําเขาไว้แสบมาก เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
และจาวเหยาก็ไม่ปล่อยให้เขารักษาตัวอย่างสงบ