Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 147
Chapter 147 ดราก้อนบอล
” ข้อความจากโรโพลี่”
จาวเหยาอ่านข้อความพลางชิ้นใจ “เจ้านั่นทําโทรศัพท์ของตัวเองให้ล่องหน พวกที่จับตัวไปก็ไม่รู้เรื่องนี้”
เขารีบตอบข้อความกลับทันที “โรลี่โพลี่ ตอนนี้อยู่บนรถของพวกนั้นเหรอ? มองเห็นนอกหน้าต่างไหม บอกป้ายถนนหรืออะไรที่เป็นจุดสังเกตใหญ่ๆ หน่อย”
จาวเหยาหันไปมองทางเสี่ยวฉือยู่ที่ยังคงนอนหลับก่อนอุ้มเธอลงมาข้างล่าง เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีบาดแผลใดๆ เขาใช้ภาพลวงตาก่อนปลุกเธอ
เสี่ยวฉือยู่ดิ้นไปมา มองซ้ายมองขวาอย่างตื่นกลัว ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เห็นดังนั้นจาวเหยาก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนกลับไปยังรถของเขา
แมววิญญาณตัดสินใจตามจาวเหยาไปด้วย มันเองก็หน้านิ่วคิ้วขมวด รู้สึกไม่ดีเช่นกัน
“อลิซาเบธ เธอจะตามไปทําไมกัน” มันคิด “จะบอกโฮห้าวชางดีไหมนะ ไม่สิ ถ้าบอกไปโฮห้าวชางต้องจับทุกแมวตัวไว้แน่ แต่เราจะหยุดพวกนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง”
แมววิญญาณคิดไม่ตกระหว่างจะบอกโฮห้าวชางหรือหยุดพวกจาวเหยาด้วยตัวคนเดียว
“ถ้ามันต้องจบที่ฉันโดนตี้บละก็ อย่างน้อยก็ช่วยอลิซาเบธเอาไว้ได้” มันเริ่มฉีกยิ้ม กว้าง “แล้วฉันก็จะได้เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาว” มันคิด
ขณะเดียวกัน จาวเหยารีบเหยียบคันเร่งทันทีที่ก้าวขาขึ้นรถ
เขาคอยมองหน้าจออยู่เป็นระยะเพื่อไม่ให้พลาดการแจ้งเตือนใดจากโรลี่โพลี่
” ทางด่วน XX?”
“อุโมงค์ XX?”
โรลี่โพลี่มองป้ายข้างทางที่รถตู้วิ่งผ่าน จาวเหยานึกภาพตามว่านั่นเป็นเส้นทางไปยังชานเมือง
เขารีบเหยียบคันเร่งจนความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เขาสามารถพุ่งผ่านไฟแดงด้วยการรับรู้ที่เฉียบคมและพลัง 2 ดีกว่า 1 ทําให้เขามาถึงชานเมืองได้อย่างรวดเร็ว
ผมทองเลี้ยวรถขึ้นทางด่วนพลางฮัมเพลงตลอดทางไปแมนชั่นของโฮห้าวชาง
ขณะติดไฟแดงก็เห็นใครคนหนึ่งเดินออกมากลางถนน
ผมทองหรี่ตาเพื่อมองให้ชัด “นั่นจาวเหยาไม่ใช่เหรอ” เขาพูด
อะพอสเซิลอีกสามคนหันขวับไปทางที่ผมทองพูด หัวหน้าพ่อบ้านเซี่ยก็เพ่งมองตาม “ไม่รู้ว่าฉลาดหรือโง่กันแน่ที่มาหาเราถึงที่แบบนี้”
ผมทองหัวเราะก่อนว่า “ไอ้นี่มันบ้าว่ะ โคตรจะมือใหม่ โผล่หัวมาถึงที่” ว่าแล้วก็เหยียบเท้าลงคันเร่ง รถตู้พุ่งไปทางจาวเหยา
” แถวนี้ไม่มีกล้องวงจรด้วย ชนมันให้ตายไปเลยดีมั้ย” ผมทองพูดเสียงเย็น
“เรายังไม่รู้ว่าแมวแผ่นดินไหวอยู่ไหน จัดการได้แต่อย่าเพิ่งให้ตาย” หัวหน้าเซี่ยสั่งเสียงเรียบ
เมื่อได้ยินดังนั้นผมทองก็เบ้ปาก แม้อย่างไรเขาก็ต้องทําตามนั้น
“ทุกคนเตรียมตัว ถ้ามันหลบรถ อีก 3 คนที่เหลือรีบลงไปจัดการ ส่วนผมทองรออยู่ที่รถ” หัวหน้าเซี่ยสัง
รถตู้ยังคงเร่งความเร็วแม้ว่าจะเข้าใกล้จาวเหยาแล้วก็ตาม อีกเพียงไม่กี่วินาทีก็จะถึงตัวอีกฝ่าย ผมทองเลียริมฝีปาก แผ่รังสีแห่งความเลือดเย็นออกมา
หัวหน้าเซี่ยยังคงสีหน้าเดิม เขาหยิบปืนพกออกจากกระเป๋า
สี่ตารู้ม่านตาหดเล็ก เขากําลังรู้สึกประหม่า
อาเทา ชายผมล้านเหยียดยิ้ม ในหัวกําลังคิดเรื่องการสังหาร
ขณะที่ทุกอย่างกําลังดําเนินไป จาวเหยาเพียงมองรถตู้นิ่งงัน ไม่รู้สึกถึงความกังวลถึงรถที่กําลังพุ่งเข้าหาตัวเอง
ทันใดดวงตาทั้งสี่คู่มองมาทางจาวเหยา ก่อนเห็นแสงสีแดงส่องวาววับบนนัยน์ตาของเขา
ผมทองเสียการควบคุมร่างกายในทันที มือของเขาเริ่มหมุนพวงมาลัยเองไม่สามารถห้ามได้
การเปลี่ยนทิศทางกระทันหันทําให้รถตู้กระเด็นไปในอากาศ มันหมุนวนไปมาไปทางจาวเหยา หลังตกลงมาที่พื้น
เมื่อรถตู้เข้ามาใกล้จนเกือบชน จาวเหยาอ้าปาก กําลังจะดูดรถตู้ให้เข้าไป ก่อนที่เขาจะเห็นเงาบางสิ่งพุ่งออกมาก่อน
ร่างกายของสี่ตาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นเหล็ก ทั้งยังเห็นอากาศบางส่วนกําลังหมุนวนรอบร่างกายของอาเทา
ผมทองยังคงขับรถต่อไปแม้ว่าพื้นจะกลายเป็นท้องทะเล ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอะพอสเซิลที่สามารถเปลี่ยนพื้นให้เป็นของเหลวและสามารถเคลื่อนไหวในนั้นได้
ร่างกายของสี่ตากลายเป็นเหล็กอย่างสมบูรณ์ มันส่งเสียงก้องแก๊ง
อาเทาวิ่งพุ่งออกมาทันทีที่ร่างกายเขาถึงพื้น หากไม่ใช่เพราะรูปร่างของเขาแล้วละก็คงมีคนนึกว่าเขาเป็นไอรอนแมนก็ได้
จาวเหยามองพลังพิเศษทั้งสามตรงหน้า ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว “พวกนี้เป็นคนของโฮห้าวชาง?”
“จาวเหยา เหมือนแกจะเข้ามาหยามผิดคนแล้วละ” ทันใดพื้นใต้เท้าของจาวเหยาแปรเปลี่ยนเป็นของเหลวจนตัวเขาเริ่มจมลงไป
เมื่อเห็นจาวเหยากําลังจมลง หัวหน้าเซี่ยรีบยกปืนขึ้นมา เล็งไปที่หัวของจาวเหยา “แมวแผ่นดินไหวอยู่ที่ไหน” เขาถาม
ทั้งสี่ตาและอาเทาต่างลอบถอนใจเมื่อเห็นว่าพวกเขาเป็นคนคุมสถานการณ์ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรถตู้ทั้งคันหายไป แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของจาวเหยาเมื่อเห็นว่าผมทองสกัดเขาได้อย่างรวดเร็ว
หัวหน้าเซี่ยลั่นไกปืน ลูกกระสุนห่างจากหน้าจาวเหยาเพียงไม่กี่นิ้ว เขาพุ่งตัวออกไป กดปืนตรงท้องของจาวเหยา “นัดต่อไปฉันจะยิงไส้แกให้กระจุย เชื่อสิว่าฉันทําให้แกเลือดไหลจนตายได้”
จาวเหยากลับตอบด้วยรอยยิ้มเย็น “มั่นใจกับของเล่นชิ้นนี้มากงั้นสิ” เขาตอบ
หัวหน้าเซี่ยหรี่ตา ขมวดคิ้ว “กวนตีนนักนะไอ้หนู” เขากัดฟัน
ทันใด ไฟสีทองก็ลุกท่วมร่างของจาวเหยา
“เคยดูดราก้อนบอลหรือเปล่า?”
“ว่าไงนะ?”
ทั้งสามต่างตกใจกับสิ่งที่เห็น พวกเขาต่างสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่มาจากพื้น เสียงสายลมหวีดคําราม
หัวหน้าเซี่ยที่อยู่ใกล้จาวเหยาที่สุดปลิวกระเด็นไปกับสายลมสีทองราวกับใบไม้โดนลม หัวกระแทก เจ็บไปทั้งกระดูกสันหลัง อวัยวะฉีก เลือดไหลจนเป็นกองบนพื้น
จาวเหยากระแทกกําปั้นลงพื้นจนแตกออกเป็นสองฝั่ง เผยให้เห็นผมทองที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ในสภาพอ้าปากค้าง
ผมทองแทบไม่เชื่อสายตา จาวเหยาจับหลังคออีกฝ่ายก่อนจับเขวี่ยงออกไปกลางอากาศ
จาวเหยาเสื้อแขนออกไปทางผมทองที่กระเด็นออกไปไกล ก่อนแสงสีทองจะพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา แสงสีทองกระทบร่าง อีกฝ่ายระเหยกลายเป็นไอ
” หนี!” หัวหน้าเซี่ยได้สติทั้งยังเห็นพลังที่แท้จริงของจาวเหยา สิ่งเดียวที่ควรทําคือหนีไปให้พ้น
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจนเขาต้องหันไปมอง เขาเห็นจาวเหยาหายวับไปปรากฏตัวหน้าสี่ตาและปล่อยหมัดใส่อีกฝ่าย
ไม่ทันที่หมัดของเขาจะกระทบอีกฝ่ายก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง ก่อนที่ร่างสี่ตาจะแตกออกเป็นเสี่ยง
หมัดของจาวเหยาแยกกระทั่งแผ่นดินออกเป็นสองฝั่ง ทําลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
อาเทาตัวสั้นเป็นเจ้าเข้า “ยอมแพ้! ฉันยอมแพ้!” เขาร้อง
แสงสีทองส่องวาบในดวงตาของจาวเหยา “โทษที งานนี้ไม่มียกธงขาว”
แสงสีทองถูกยิงออกมาจากดวงตา มันพุ่งใส่ตัวอาเทาจนระเหยหายไป
ไอสีขาวลอยฟังจากความร้อนสูงของแสงนั้น มันยังมีรอยไหม้อยู่บนพื้นไกลไปอีก 10 เมตร
“สัตว์ประหลาด!” หัวหน้าเซี่ยตกใจตะโกนออกมา เขาไม่เคยคิดว่าจะมีมนุษย์คนไหนมีพลังมากมายขนาดนี้ เขาพลางสะดุดพลางคลานหวังจะกลับไปยังแมนชันของโฮห้าวชาง