Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 141
Chapter 141 วังวน
“พระเจ้า เป็นฝีมือเจ้าแมวแผ่นดินไหวนั่น” อิซาเบลล่าผิวปาก เธอรู้สึกความสั่นไหวอย่างรุนแรงที่ปลายเท้า ผู้คนต่างวิ่งออกจากอาคารที่กําลังทรุดตัวต่างโซซัดโซเซราวกับกําลังเหยียบอยู่บนฟองน้ําที่ไม่มั่นคง
หลินเฉินเข่าทรุดลงหนึ่งข้างจากเหตุการณ์ตรงหน้า
ข้างๆ เขาเป็นเด็กผู้หญิงผูกผมหางม้าอยู่กับเด็กชายร่างท้วมอีกคน มีห้าคนวิ่งหนีออกไปได้ด้วยพลังจากซูเปอร์แคท
ทั้งหมดเป็นอะพอสเซิลที่สารวัตรโฮรับตัวมา พวกเขาทั้ง 8 คนเพิ่งได้รับภารกิจให้มาจับตัวแมวแผ่นดินไหววันนี้เอง
อะพอสเซิลทุกคนถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและได้รับพลังมาจากมิลค์ หมายความว่าพวกเขามีพลังแบบเดียวกับหลินเฉิน ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่าพวกเขามีพลังที่มั่นคงสามารถควบคุมได้โดยง่าย และพลังนี้ก็มีไว้เพื่อต่อกรกับแมวแผ่นดินไหวด้วย
” หัวหน้าทีมหลิน สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
เด็กหนุ่มร่างท้วมเหงื่อท่วมตั้งแต่หัวจรดเท้า ” ผมกําลังจะเข้าสู่ความตาย เมื่อไหร่กําลังเสริมจะมากันครับ?” เขาว่า
“เจ้าบ้า จะพาคนเข้ามาเพิ่มอีกทําไม” เด็กสาวผมหางม้าบ่น “ถ้าพวกนั้นมาปรากฏตัวที่นี่ แล้วแมวแผ่นดินไหวตกใจจนเพิ่มระดับความรุนแรงเป็น 8 ริกเตอร์ที่เมืองเจียงไฮ่ขึ้นมาจะทํายังไง? หัวหน้าทีมหลิน คุณจัดการศัตรูไหวไหม?”
“ครับ” หลินเฉินตอบ
แมวส่วนใหญ่มีนิสัยค่อนข้างขี้อาย ไม่ว่าสิ่งใดที่ต่างไปจากปกติเพียงเล็กน้อยก็ทําให้พวกมันตกใจได้ทั้งนั้น มีเพียงกลุ่มซูเปอร์แคทเพียงน้อยนิดที่ไม่ตื่นตกใจง่ายอย่างแมวทั่วไป แต่ทีมของหลินเฉินก็ไม่อยากพนันกับสิ่งนั้นมากนัก พวกเขาไม่รู้ว่าแมวแผ่นดินไหวนั้นอารมณ์อ่อนไหวเพียงใด
หากแมวแผ่นดินไหวเกิดตกใจจนใช้พลังใหญ่ขึ้นมา ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวนั่นละที่จะลำบาก
กี่ล้านชีวิตที่จะได้รับผลกระทบ ไม่มีใครสามารถตอบได้
พวกเขาไม่เสี่ยงทําการออกค้นหาระยะกว้างเนื่องจากไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่นหรือเกิดความไม่สงบในที่สาธารณะ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงต่างปฏิบัติงานแบบลับๆ ในชุดนอกเครื่องแบบ และเมื่อพบเป้าหมายจึงค่อยส่งต่อหน้าที่ให้อะพอสเซล และเจ้าหน้าที่ตํารวจก็คอยรอดูสถานการณ์อยู่บริเวณนอก และเมื่อจําเป็นจะเข้ามาจับตัวแมวแผ่นดินไหวทันที
ระหว่างการลอบโจมตี หลินเฉินสามารถยิงกระสุนยาสลบใส่แมวแผ่นดินไหวได้ แต่ก่อนที่มันจะสลบก็ใช้พลังเสียก่อน เป็นผลให้อาคารพังลงมา
เมื่อหลินเฉินนึกย้อนไปขณะเกิดความวุ่นวายในอาคาร ความเสียหายเริ่มจากเกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรง เหล่าอะพอสเซิลเริ่มวิตกกังวลราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นทําลายทุกสิ่งออกเป็นสองส่วน
ทันใดนั้น สกอตติชโฟลด์ตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากซากปรักหักพัง มันโก่งหลัง ขนตั้งชัน พุ่งตัวออกมาด้วยสายตาดุดัน มองตรงมายังดวงตาของหลินเฉิน
ชั่วพริบตาที่สก็อตติชโฟลด์ตัวนั้นวิ่งออกมา หลินเฉินก็ปรี่เข้าไปตั้งสายฟ้าทมิฬ เขายื่นมือออกไปคว้าแมวเอาไว้ด้วยความเร็วไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ในบรรดาอะพอสเซิลที่ได้รับพลังแห่งความเร็วมา หลินเฉินเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
พลังที่สามารถสร้างแผ่นดินไหวใต้นั้นอันตรายเกินไป หลินเฉินจะไม่เปิดโอกาสให้มันได้ใช้พลังนั้นเด็ดขาด
ขณะที่ฝ่ามือกําลังจะสัมผัสกับแมวตัวนั้น ตัวของมันก็สั่นเล็กน้อยก่อนจะตกลงพื้น มันหลับตา ลมหายใจยังปกติ
หลินเฉินผงะหลังในทันใด เขานึกขึ้นได้ “ยาสลบเพิ่งออกฤทธิ์เหรอ?” หลินเงินผ่อนลมหายใจ อุ้มสก็อตติชโฟลด์ตัวนั้นเข้ามาในอ้อมแขนก่อนหันไปส่งให้เด็กสาว “ฉันเคยบอกพวกเธอแล้วนะ ว่าพวกเธอเคลื่อนไหวกันช้าเกินไป” เขาพูดกับทั้งสองเมื่อเห็นทั้งคู่ต่างขาหยุดอยู่กับที่เหมือนโดนรากผูกไว้ตอนที่แมวปรากฏตัวออกมา
“ขอโทษครับ” เด็กร่างทั่วมกัมหัวขอโทษอย่างละอาย
หลินเฉินพยักหน้ารับ
อย่างไรเด็กคนนั้นก็ยังไม่ได้จบการศึกษาจากสถาบันตํารวจ หากไม่ใช่เพราะศักยภาพของเขาที่เหมาะกับอะพอสเซิล เขาคงไม่ต้องถูกดึงตัวมาทําภารกิจก่อนเรียนจบแบบนี้
“รายงานเบื้องบนแล้วให้พวกเขาส่งคนมารับแมวด้วย”
เมื่อได้รับคําสั่ง เด็กสาวผมหางม้าก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมโทรหาสารวัตรโฮทันที
ทันใดนั้น เสียงปืนดังขึ้น โทรศัพท์ของเด็กสาวระเบิด อะพอสเซิลคนอื่นที่รัฐบาลส่งมาต่างซ่อนตัวในทันที
“เกิดอะไรขึ้น? นั่นใคร?” หลินเฉินตะโกน เขามองเห็นพื้นเริ่มละลายเป็นของเหลว มีชายใส่หน้ากาก 3 คนโผล่ขึ้นมาจากพื้นเหลวนั้น
หนึ่งในชายสวมหน้ากากถือป็นอยู่ในมือ เขาวิ่งตรงมายังหลินเฉิน
ขายโลหะตรงมายังเด็กสาวผมหางม้า อีกคนที่เหลือวิ่งเข้าหาเด็กหนุ่ม
ดูจากชายที่มีผิวเป็นโลหะกับความสามารถทําให้พื้นดินกลายเป็นของเหลว เห็นได้ชัดว่า คนพวกนี้เป็นอะพอสเซิลของโฮห้าวซาง
หลินเฉินครักปืนออกมาพร้อมกับยิงกระสุนยาสลบไปยังชายที่พุ่งเข้าหาเขา แต่อีกฝ่ายกลับกระโดดหลบได้อย่างรวดเร็วก่อนวิ่งตรงเข้ามา
“หึ ตั้งใจจะประชิดตัวฉันงั้นเหรอ ฉันก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ” หลินเฉินยักไหล่ เขาห่วงสก็อตติชโฟลด์ที่วางอยู่บนพื้น เขาใช้พลังพุ่งตัวเข้าไปหาชายใส่หน้ากากราวสายฟ้าทมิฬ ก่อนที่ชายสวมหน้ากากจะตั้งรับได้ หลินเฉินก็ยิงกระสุนใส่เข้าที่ท้องของอีกฝ่าย ก่อนจะยิงตามไปอีก 3 นัด
ตามด้วยหมัดที่ปล่อยใส่หน้า คอ และอกของอีกฝ่ายสามครั้ง
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใน 0.3 วินาที มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถตั้งรับการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน
“มันจบแล้ว”
เมื่อหลินเฉินคิดว่าเขาทําให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ ชายสวมหน้ากากก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะ ก่อนจะพูดเหมือนกับหลินเฉิน “มันจบแล้ว” เขาพูดก่อนจะดึงสลักระเบิดมือออก
“อะไรนะ?” หลินเฉินผงะกับความอึดของอีกฝ่ายก่อนจะตกใจกับการกระทําบ้าบินนั้น
“บ้าเอ๊ย!” เขากระโดดหลบด้วยความเร็วสูงสุด ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวราวกับลม แต่ชายสวมหน้ากากกลับคว้าชายเสื้อของเขาไว้ได้ แต่หลินเฉินก็สามารถหลบหนีได้โดยทิ้งชายเสื้อที่ขาด
แต่การกระทํานั้นของชายสวมหน้ากากก็ทําให้หลินเฉินหนีได้ช้าลง
ก่อนเสียงระเบิดดังกระหึ่ม คุณสามารถมองเห็นคลื่นสั่นสะเทือนที่เกิดจากระเบิดได้เลยทีเดียว พวกเขาค่อยๆ จับตัวหลินเฉินได้แม้อยู่กลางอากาศ
ชายสวมหน้ากากกระเด็นลอยออกไปเนื่องจากแรงระเบิด ภาพตรงหน้าหลินเฉินกลายเป็นสีดํามืดเมื่อเขาตกลงสู่พื้น เสียงหวีดดังก้องขึ้นในหัว แขนขาอ่อนแรง สติของเขาเลือนลางไปชั่วขณะ
” หัวหน้าทีมหลิน!”
ทั้งเด็กหนุ่มเด็กสาวต่างหันกลับมามองฉากระทึกตรงหน้า พวกเขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเห็น แต่ก็ยังต้องรับมือกับเหล่าชายสวมหน้ากากที่กําลังโจมตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่ทําให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าคือร่างของชายสวมหน้ากากที่โชกไปด้วยเลือดกลับลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาส่ายหัวไปมาก่อนที่บาดแผลตามตัวจะเริ่มสมานเข้าหากันอย่างปาฏิหาริย์…. เขาเดินตรงไปยังสก็อตติชโฟลต์ที่นอนอยู่