Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 140
Chapter 140 การกิจเพื่อแมวแผ่นดินไหว
จาวเหยาพร้อมกับการต่อสู้อย่างมากเมื่อเขาตระเตรียมทุกอย่างไว้ในมิติพิเศษภายในท้อง
“ภารกิจนี้จะต้องหยุดพวกองค์กรแมวขโมยได้แน่”
“ฉันจะต้องจัดการเจ้าโฮห้าวชางเสียก่อน”
เมื่อเขาใช้สัมผัสทั้ง 5 ได้อย่างยอดเยี่ยมก็ไม่ต้องกังวัลเรื่องการปกปิดตัวตนของตัวเองอีกต่อไป
คืนหนึ่ง จาวเหยาตัดสินใจพามัจฉะและอลิซาเบธไปที่แมนชันของโฮห้าวชาง
แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นไม่อยู่ที่บ้าน หลังรออยู่ทั้งคืนจนเกือบถูกยุงดูดเลือดแทบหมดตัว โฮห้าวชางก็ยังไม่กลับมา
“บ้าจริง ไอ้คนรวยนั่นเก่งแค่ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่องจริงๆ!” จาวเหยาเกาขาที่โดนยุงกัดจนเริ่มทนไม่ไหว ในใจพลันนึกอยากจะถล่มแมนชันของเจ้าหมอนั่นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
มัจฉะที่นอนอยู่ในกระเป๋าบ่นพึมพำ “จะรอไปถึงเมื่อไหร่จาวเหยา? ฉันเบื่อที่จะอยู่กับยัยอ้วนขนปุยนี่จะตายอยู่แล้ว!”
อลิซาเบธรีบตวัดขาตบมัจฉะทันที “จะต้องให้ย้ำอีกกี่รอบ ว่าฉันแค่ขนหนา ไม่ได้อ้วน!”
“ฉันว่าเราน่าจะต้องกลับบ้านกันก่อนแล้วละ” จาวเหยาล้มเลิก กลับบ้านด้วยสภาพตาโหลช้ำ เขามาอีกครั้งในคืนถัดมา แต่โฮห้าวชางก็ยังคงไม่กลับบ้านอีกเช่นเคย
เขาเหนื่อยที่จะรอ ตัดสินใจใช้พลังภาพลวงตาแฝงตัวเข้าไปในแมนชัน จากการแอบฟังแม่บ้านคุยกันก็พบว่าโฮห้าวชางจะไม่อยู่บ้านเป็นเวลาสองอาทิตย์ แต่เขาไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่หรืออีกฝ่ายไปที่ไหน
เขายังคงพาแมวไปด้วย และไม่มีใครรู้เลยว่าพวกนั้นอยู่กันที่ไหน
“บ้าจริง เจ้าหมอนั่นไปทำอะไรอยู่กันนะ เจ้าพวกคนรวยนี่ว่างกันเสียจริง ไม่รู้เสียแล้วว่าการพักผ่อนที่บ้านนั้นสบายขนาดไหน เอาแต่ออกไปเที่ยวเล่นผลาญเงินไปวันๆ!”
นัยน์ตาของจาวเหยาเกิดไฟลุกท่วมด้วยความโกรธก่อนจะตัดสินใจกลับบ้าน เขาไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากต้องเปลี่ยนเป้าหมายออกไปตามหาแมวแผ่นดินไหวแทน
“หรือว่าเจ้าโฮห้าวชางมันออกไปตามหาแมวแผ่นดินไหว? แต่ช่างเถอะ ฉันจะต้องเจอแมวแผ่นดินไหวก่อนจะไปจัดการกับเจ้านั่น!”
…
หลายวันต่อมา ณ ทางด่วนแถบชานเมืองเจียงไฮ่ พานาเมร่าคันหนึ่งชะลอความเร็วลง
จาวเหยามุ่งหน้ามาทางทิศใต้พร้อมกับมัจฉะและอลิซาเบธ
ตามที่เขาสืบหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและสอบถามมาจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าศูนย์กลางของแผ่นดินไหวนั้นมาจากทางใต้ของเจียงไฮ่
หลังจากล้มเหลวในการตามหาโฮห้าวชาง จาวเหยาก็หันมาตามหาแมวแผ่นดินไหวแทน แต่ก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่ก็แอบไปที่แมนชันของโฮห้าวชางอีกครั้งและพบว่าอีกฝ่ายก็ยังคงไม่กลับบ้าน และครั้งนี้แม้ว่าเขาจะไม่สามารถหาแมวแผ่นดินไหวเจอ แต่เขาคิดว่าอาจจะพบบางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นอะพอสเซิ่ล
จาวเหยามาถึงเมืองเก่าที่เพิ่งได้รับการบูรณะใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้รับข่าวลือว่าบ้านหลังเก่าแก่หลังหนึ่งยุบตัวลงเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่แน่ว่าศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอาจจะเป็นที่นี่ก็ได้ จาวเหยาต้องลองเสี่ยงดู
เขานำพานาเมร่าจอด ณ มุมสงบหนึ่งของสวนก่อนสะพายกระเป๋าแมวขึ้นบ่าลงมาจากรถ “มัจฉะ อลิซาเบธ มานี่” เขากระซิบ
มัจฉะกระโดดเข้าไปทันที แต่อลิซาเบธกลับขมวดคิ้ว “กระเป๋านี่ชักจะเล็กเกินไปแล้วนะ ฉันไม่อยากเข้าไปอยู่ที่เบียดๆ แบบนั้นหรอก”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเธอน่ะอ้วน!” มัจฉะเย้ย
“หยุดบ่นแล้วเข้ามาก่อนได้ไหม” จาวเหยาจับอลิซาเบธยัดเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นจึงใช้พลังดูดพานาเมร่าเข้าไปในท้อง ก่อนเดินตรงเข้าไปในเมือง
“โชคดีนะที่ที่นี่เป็นเมืองเก่าๆ ไม่มีกล้องวงจรปิดติดไปทั่ว”
จาวเหยาเดินตรงเข้าไปโดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีสายตาสองคู่จับจ้องเขาอยู่จากตึกเล็กหลังหนึ่ง
“เมืองนี้กลิ่นแมวแรงจริงๆ” จาวเหยาเลิกคิ้วก่อนสูดดมกลิ่นไปมา
ภายในตึกเล็กหลังนั้น ชายวัยกลางคนเลิกคิ้วสูง “ผู้ชายคนนี้ คนที่นายท่านโฮให้ออกตามหา…”
“เจ้าของคาเฟ่แมวเหรอ? หมอนั่นก็น่าจะเป็นอะพอสเซิ่ลเหมือนกัน” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบพลางหัวเราะเบาๆ “หมอนั่นก็มาที่นี่ด้วย หรือว่าจะมาตามหาแมวแผ่นดินไหวเหมือนกัน? ผมว่าเขาประเมินความสามารถของผู้ชายคนนี้สูงเกินไปแล้วละ” เขามองตามจาวเหยาก่อนเลียริมฝีปากพูดเรียบๆ “เอาเลยไหม?”
เขาปิดตาข้างหนึ่ง ส่องผ่านมือที่ทำเป็นรูกลมมองตามจาวเหยาไป “กล้ามากนะที่เดินดุ่มๆ มาแบบนี้ ไม่มีการปลอมตัวอะไรสักนิด แถมยังแบกแมวมาด้วยอีกต่างหาก มือสมัครเล่นสุดๆ แค่ 5 วิฉันก็จัดการหมอนั่นหมอบแล้ว”
“นายท่านโฮบอกว่าอย่าทำอะไรที่เป็นการดึงความสนใจมาที่กลุ่มของเรา ภารกิจเรามีแค่ตามหาแมวแผ่นดินไหวเท่านั้น แต่ยังไงก็ตาม รายงานเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่า” คนสูงวัยกว่าพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ออกมา
…
ณ ตึกอีกแห่งภายในเมืองเดียวกัน โฮห้าวชางรับโทรศัพท์เสียงเรียบ “มีอะไร”
“จาวเหยาเข้ามาที่เมืองครับ เท่าที่เห็นมาแบบไม่มีการป้องกันตัวใดๆ ทั้งสิ้น ให้จัดการเลยไหมครับ”
“ปล่อยไปก่อน” โฮห้าวชางตอบ “รักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ ถ้ามีอะไรผิดปกติรายงานฉันทันที” พ่อบ้านทำสัญญาณมือบางอย่าง โฮห้าวชางเลยรีบตัดบท “ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ เท่านี้ก่อน”
“ว่ามา”
พ่อบ้านตอบกลับในทันที “นายท่าน หลินเฉินกับพรรคพวกดูเหมือนจะระบุที่ตั้งของแมวแผ่นดินไหวได้แล้วครับ”
นัยน์ตาของโฮห้าวชางส่องประกายก่อนเขาจะเอ่ยปากออกคำสั่ง “เตรียมตัวให้พร้อม เราปล่อยแมวแผ่นดินไหวไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้”
พ่อบ้านมีท่าทีลังเลก่อนพูดต่อ “นายท่าน การจับตัวแมวแผ่นดินไหวค่อนข้างเสี่ยงกับทางเรามาก”
“ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่แมวแผ่นดินไหวมาอยู่กับฉัน ฉันก็จะมีพลังทำลายเมืองเจียงไฮ่ได้ในพริบตา ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องศิโรราบให้กับฉัน” ราวกับไฟกำลังลุกโชนในดวงตา “นี่ยังเป็นการปฏิวัติระหว่างความสัมพันธ์กับคนและแมวด้วย”
…
ขณะเดียวกัน เด็กสาวผมทองกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองออกไปจากอาคารหลังหนึ่งในเมืองเก่าแห่งนี้ เธอมองไปรอบๆ อย่างละเอียดเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติ
เด็กสาวสวมเสื้อกล้าม มีขาอันเรียวยาวจากส่วนสูง 180 ซม. เธอมีชื่อว่าอิซาเบลล่า เป็นอดีตสายลับจาก CIA เลยมีความสามารถโดดเด่นอย่างมาก
มุมปากเด็กสาวยกยิ้มขณะสอดส่องไปรอบๆ เมือง “ทริปนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้นะเนี่ย”
แมวสีดำที่เดินอยู่รอบๆ ตัวเธอมองไปยังอลิซาเบธ “เฮ้ขายาว ฉันหิวแล้ว เมื่อไหร่จะได้กินข้าวสักที”
น่าเสียดายที่อิซาเบลล่าไม่เข้าใจในสิ่งที่แมวดำพูด เธอเพียงลูบหัวของมันไปมา “ลูซี่ เป็นเด็กดีนะ ถ้าเราจับแมวตัวนี้ได้เรารวยเละแน่ CIA จะต้องยอมควักเงินพันล้านให้ฉัน”
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่ มันเป็นเสียงอาคารยุบตัวต่างหาก อิซาเบลล่ารีบหันกล้องไปทางต้นเสียงทันทีก่อนมองเห็นว่ามีเงามืดวิ่งกระจัดกระจายออกมาจากซากความเสียหายตรงนั้น