Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 138
วันต่อมาหลี่ไต้ส่งข้อความหาติ้งจี่ไหเพื่อให้มั่นใจว่าเขาว่างอยู่ก่อนที่จะโทรไปหาเขาในตอนที่ได้รับการยืนยันว่าว่างเเล้ว
“หลี่ไต้ อะไรเนี่ย ทีหลังโทรมาเลยก็ได้นะไม่ต้องพิม”โค้ชติ้งดูเหมือนจะอารมณ์ดีอยู่
“โค้ชติ้งครับ มีเรื่องที่ผมอยากจะให้ช่วยนิดนึง ผมอยากเขาโครงการฝึกทีมชาติอะครับ!”หลี่ไต้ตอบกลับ
“ก็สมัครเลยซิ เดี๋ยวฉันจะออกไปต้อนรับเป็นคนเเรกเอง!”โค้ชติ้งเปลี่ยนโทนเสียงเเล้วพูด “รึว่าลืมสมัครจนหมดเขตไปเเล้วเหรอ?”
“ผมไม่ได้ลืมสมัครครับ เเต่คือชื่อผมไม่ได้อยู่ในรายชื่อ พวกเขาเลือกคนอื่นเเทนหน่ะครับ”หลี่ไต้พูด
“นายบอกว่านายไม่ได้ถูกเลือกเหรอ?”โค้ชติ้งดูเเปลกใจ “ฮูจินหลงบอกฉันมาว่านายไปฝึกให้กับคนที่รวยๆหน่อย ที่ตอนนี้เข้ามาฝึกอยู่ในทีมชาติของเรา เขามีพรสวรรค์มากเลยนะ มากจนฉันละอยากจะเอามาเข้าทีมตัวเองเลย นายทำผลงานมาดีขนาดนี้ยังไม่โดนเลือกอีกเหรอ? มีใครเก่งกว่านายอีกรึไง? ใครกันละ?”
“เออ เขาเป็นหลานของรองหัวหน้ากรมการกีฬาของเรานี้ละครับ”หลี่ไต้ไม่อยากบอกชื่อ
ติ้งจี่ไหเป็นคนที่อยู่ในวงการนี้มานาน เขาเลยเข้าใจในทันทีว่า”หลานของรองหัวหน้า”มันคืออะไรโดยที่ไม่ต้องให้หลี่อธิบายเพิ่ม
“เข้าใจละ” โค้ชติ้งไม่พูดอะไรเพิ่ม หรือไม่เเสดงความสงสารหลี่ไต้ เขาพูด “เก็บของเเล้วเตรียมตัวมาที่ทีมชาติเถอะ รอข่าวดีได้เลย!”
“ขอบคุณมากครับโค้ชติ้ง”หลี่ไต้พูดด้วยความจริงใจ เขารู้ว่านี้หมายถึงโค้ชติ้งตั้งใจจะช่วยเขาเเล้ว
“เเค่ขอบคุณหน่ะยังไม่พอหรอกนะ มานวดให้ฉันด้วยตอนที่มาเมืองฉิง ช่วงนี้มันฝนตกบ่อยเเล้วหมอนรองกระดูกของฉันมันก็จะปวดทุกทีที่เย็นหน่ะ…”
…
ฉวงซูฉีเดินเข้ามาในโรงอาหารอย่างอารมณ์ดี
“เชฟหวางเอาปลาทอดอีกตัวนึง นั้นละ เอาตัวทางซ้าย!”ฉวงพูดเเล้วชี้ไปที่ปลาทอดสีทองในถาด
“ดูอารมณ์ดีจังนะโค้ชฉวง ไปทำอะไรมาละหื้ม?”เชฟหวางยิ้มให้เขาเเล้ววางปลาลงบนจานของฉวง
“เเน่นอนซิ อีกไม่นานฉันคงคิดถึงอาหารของนายเเน่ๆเลย”ฉวงพูดอย่างดีใจ
“ได้เลื่อนตำเเหน่งเหรอ”เชฟหวางถาม
“ก็ไม่เชิงอย่างงั้นหรอก เเต่ฉันเเค่ได้มีโอกาสไปฝึกกับทีมชาติหน่ะซิ!”ฉวงซูฉีตอบดังๆอย่างตั้งใจ เขากำลังอวดอยู่เลยอยากให้ทุกคนได้ยินชัดๆ
ฉวงอวดต่อ “เดี๋ยวจะมีโครงการฝึกโค้ชสำหรับกีฬากรีฑา ฉันลงทะเบียนไว้เเล้ว ฉันจะไปเข้าในอีกไม่กี่วันนี้”
โค้ชที่อยู่ข้างหลังโค้ชฉวงขัดจังหว่ะ “โค้ชฉวง นายได้รับเลือกไปโครงการฝึกทีมชาติเเล้วเหรอ? ดีจริงๆ ต้องเลี้ยงน้ำพวกฉันเเล้วละ!”
“ใช่เเล้ว เลี้ยงน้ำเเล้วไปฉลองกัน!”
“โค้ชฉวงจะได้ฝึกกับทีมชาติงั้นเหรอ! ต้องเลี้ยงเหล้าเเล้วไปฉลองฉวงเดี๋ยวนี้เลย!”
โค้ชคนอื่นเริ่มเดินเข้าหาเขา พวกเขาไม่ได้ยินดีกับฉวงจริงๆหรอก เเค่อยากให้ฉวงขายหน้าเฉยๆ
“เอออ…”ฉวงซูฉีเเค่อยากอวดเฉยๆ พอถึงเรื่องต้องจ่ายตังเขาก็ขี้งกทันที เขาเลยพยายามสลัดให้หลุดโดยพูด “ทางทีมชาติยังไม่ได้ส่งคำยืนยันมา เเต่เพราะว่าทางกรมการกีฬาเขตเขาเลือกฉันไว้เเล้วมันเลยค่อนข้างเเน่นอนหน่ะ”ฉวงซูฉีหยุดพูดเเล้วรีบไปหาที่นั่ง เขากังวลว่าพวกนี้จะมาบอกให้เลี้ยงเหล้าอีก พอเขาเดินผ่านหลี่ไต้ ฉวงไม่ลืมที่จะจ้องเขม็งไปที่เขา
จะเข้าทีมชาติงั้นเหรอ เหอะ? เเกคิดว่าเเกเป็นคนเดียวที่จะเข้าทีมชาติได้เหรอวะ? ฉันก็เข้าได้โว้ย!หลี่ไต้ เเกต้องอยู่ที่นี้ไปตลอดชีวิตส่วนฉันจะได้ไปเข้าทีมชาติในอีก2วัน! พอคิดอย่างนี้เเล้ว ฉวงก็ดีใจเเล้วเงยหน้าขึ้นเเล้วทำหน้าอวดเบ่ง ซึ่งทุกคนที่เห็นรู้สึกเหมือนเป็นหน้าของหมาที่ได้ขึ้นเครื่องบินมากกว่า
หลังจากที่ฉวงกินข้าวเสร็จเเล้วออกจากโรงอาหารไป บางคนก็เริ่มการนินทา
“มันก็เอาเเต่พึ่งลุงของมันละว้า ตัวมันเองคนเดียวกระจอกจะตาย!”
“ฉันได้ยินมาว่าตอนเเรกพวกเขาวางเเผนว่าจะให้หลี่ไต้ไปเข้าโครงการนี้ พวกนายก็รู้นี้ว่าเขาเก่งทั้งบู๊เเละบุ๋น เเต่ตาลุงของฉวงดันไปเปลี่ยนชื่อกลายเป็นฉวงซูฉีเเทน”
“ฉันละสงสารหลี่ไต้จริงๆ เขาเป็นโค้ชที่มีพรสวรรค์เเถมยังมีผลงานด้วย เเต่ดันโดนเเย่งโอกาสไปซะงั้นเลย”
“เเล้วพวกเราจะไปทำอะไรได้ละ? ไม่ว่าจะเก่งเเค่ไหนเเต่ก็จะมีคนที่เส้นใหญ่กว่าฟาดหน้าเราล้มอยู่ดีเเหล่ะ ในเเง่ดีหน่อยก็คือหลี่ไต้จะย้ายไปอยู่ทีมเขตเเล้ว เพราะงั้นเขาคงไม่เจอหน้าฉวงในการฝึกรายวันเเล้วละ!”
หลี่ไต้ดูสงบดี เเต่คนอื่นก็รู้สึกได้ถึงความโกรธภายในตัวเขา
ฉวงซูฉี ยิ่งเเกไปสูงเท่าไร เเกก็จะตกลงมาเจ็บเท่านั้น เเกคงหัวเราะได้เเค่ตอนนี้เเหล่ะ เเต่ฉันจะทำให้รู้ ว่าหัวเราะที่หลังมันดังกว่าเมื่อทีมชาติตัดสินมาเเล้ว
…
ในออฟฟิศของกรมการกีฬา พนักงานหนุ่มกำลังเปิดระบบเคลื่อนย้ายธุรกิจ เขาอยากจะเช็กว่ามีอะไรใหม่ไหม
มันมีประกาศของทางรัฐบาลที่มีต่อสมาคมปิงปอง ไม่ค่อยสำคัญเท่าไรเเต่ฉันต้องปริ้นมันออกมาก่อนละกัน
มันมีประกาศสำคัญเกี่ยวกับการเเข่งชิงแชมป์ยิงปืน ฉันต้องส่งให้กับทีมยิงปืนเเล้ว
ประกาศรับสมัครของทีมยกน้ำหนัก ฉันก็จะส่งให้กับทีมยกน้ำหนัก
เเล้วนี้คือรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายของโครงการฝึกโค้ชรุ่นใหม่ของกีฬากรีฑา ไหนดูซิว่ามีใครอยู่ในรายชื่อบ้าง ฉันไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใครบ้าง ยกเว้นคนที่อยู่ในเขตของเรา ที่เราเลือกหลี่ไต้เอาไว้ ฉันจะได้ส่งให้กับทีมกรีฑา
ทันทีที่พนักงานนั้นกดเม้าขวา เขาก็หยุดชะงักทันที
“เดี๋ยวก่อนซิ หลี่ไต้เหรอ? เป็นไปไม่ได้ซิ ทำไมถึงเป็นหลี่ไต้ละ? ฉันจำได้ว่าต้องเป็นหลานของรองผจก.ซิที่ได้รับเลือก เเละรองผจก.ก็เข้ามากำชับด้วยตัวเองเลยด้วย ฉันพิมพ์ชื่อของหลานเขาลงในรายชื่อด้วยตนเองด้วย เเล้วก็ส่งให้สมาคมกรีฑาด้วยตัวเองอีก ทำไมถึงเป็นหลี่ไต้ได้ละ?”
พนักงานเริ่มเหงื่อเเตกพลัก เขากังวลว่าเขาจะทำอะไรผิดพลาดเอง เเล้วถ้าเขาพลาดเขาโดนรองผจก.เล่นงานเเน่ๆ!
พนักงานคนนั้นเปิดกล่องขาออกของอีเมล เเล้วพบอีเมลที่เขาส่งไปก่อนหน้านี้
ฉวงซูฉี หลานของรองผจก. ฉันก็เขียนชื่อถูกเเล้วนี้หว่า! ฉวงซูฉี เช็ก! ถูกจริงๆนี้ ฉันไม่ได้ทำพลาดอะไร
พนักงานหายใจเข้าลึกๆเเล้วถ่ายรูปอีเมลด้วยโทรศัพท์ของเขา
พนักงานเริ่มกังวลในนาทีต่อมาว่า เขาไม่รู้ว่าจะบอกรองผจก.ยังไงดี
ตอนนี้เขาออกเดินทางไปทำธุระที่ทางใต้ เขาอาจจะกลับมาในอีก2วัน ฉันต้องหาวิธีบอกเขาให้ได้! —-อาาาาา!!! ชั่งเเม่ง ฉันรายงานผจก.ใหญ่ก่อนละกัน พนักงานคนนั้นใช้โทรศัพท์โทรเข้าออฟฟิศผู้จัดการ