Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 135
วันต่อมาฮูจินหลงได้ออกไปเเล้วหลี่ไต้ก็เริ่มให้ความสนใจกับโปรเเกรมฝึกเยาวชนกรีฑาชาติที่จินหลงได้พูดไว้ก่อนหน้านี้
หลี่ไต้หาข้อมูลทางออนไลน์ เเต่หาอะไรที่เกี่ยวข้องกันกับโครงการนี้ไม่ได้เลย มันไม่มีทั้งเว็บหลักของสมาคมกรีฑาด้วย เพราะอย่างนี้ หลี่ไต้จึงตัดสินใจที่จะถามกับบิ่นหลูโดยตรง เพราะว่าเขาเป็นโค้ชของทีมกรีฑาเยาวชน เขาก็น่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง
ในออฟฟิศของสนามฝึกกรีฑา
“โปรเเกรมฝึกกรีฑาชาติเหรอ?”บิ่นหลูย้ำ “ฉันว่าฉันเคยได้ยินมันที่ไหนน้าา ขอนึกดูก่อน…”บิ่นหลูขมวดคิ้วตอนที่เขาคิดซักพัก ก่อนที่จะโงหัวขึ้นเเบบนึกออก “ฉันจำได้เเล้ว! มันเป็นน ..อะไรนะ ครั้งสุดท้ายที่จัดมันตั้ง5ปีที่เเล้ว ตั้งเเต่ก่อนฉันจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าโค้ชอีก นั้นมันเป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ! ถ้านายได้รับเลือกจากทีมชาติ เเล้วชื่อของนายไปอยู่ในโครงการนั้น นั้นหมายความว่านายพร้อมที่จะเข้าทีมชาติเเล้ว อีกอย่าง ตอนที่ทีมชาติจะเลือกโค้ชดีๆเข้าไป พวกเขาจะเริ่มไล่จากรายชื่อในโครงการนั้นละ นี้มันเป็นเหมือนทางลัดเข้าทีมชาติเลยนะ!”
บิ่นหลูนั่งตัวตรง จากนั้นก็ถามต่อ “เเล้วนึกไงมาถามเรื่องนี้เนี่ย? นั้นมันตั้ง5ปีที่เเล้วละนะ ถ้าดูตามชื่อเเล้ว ฉันเดาว่าเเผนนี้มันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง”
หลี่ไต้พูดตอบกลับตรงๆ เขาบอก “โค้ชฮูจินหลงบอกผมมาอย่างงั้น เขาบอกว่าโครงการฝึกครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น เเละอีกไม่ช้าทางกรมจะประกาศอีกที เขาบอกให้ผมไปเข้าร่วมด้วย”
“งี้ก็ดีอะซิ!”บิ่นหลูยิ้มแล้วพูดต่อ “ฉันจำได้ว่าโครงการนี้มันสำหรับโค้ชที่ยอดเยี่ยมอายุไม่เกิน30ปี นายพึ่งจะอายุ24-25เองใช่ไหมละ? อายุเลยไม่ใช่ปัญหาของนายละ ถ้านายอยากไปจริงๆ เดี๋ยวฉันจะตามข่าวประกาศให้ ฉันจะบอกนายทันทีที่เริ่มสมัคร”
“ขอบคุณมากครับโค้ช!”หลี่ไต้พูดอย่างดีใจ
หลี่ไต้เกรงว่าความเป็นมิตรของพวกเขาจะหายไปถ้าเขาออกไปเร็วๆนี้หรือย้ายไปทีมหลัก เเต่ตอนนี้เขารู้เเล้วว่าเขาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เเล้วก็ได้ ยังไงบิ่นหลูก็ยังดูเเลเขาเหมือนเป็นพวกพ้องกันอยู่ดี
“ไม่มีใครเก่งเรื่องการฝึกกีฬาเท่านายเเล้วตอนนี้ มันเเน่นอนอยู่เเล้วว่าเราต้องส่งนายไป ฉันจะช่วยอย่างสุดเเรงนะ ลองโทรไปหาหัวหน้าโค้ชกรีฑาทีมเขต ชูเหว่ยตงด้วย เเล้วลองขอให้เขาช่วยอีกเเรง”บิ่นหลูพูดต่อ
“โค้ชชูกับผมพึ่งจะรู้จักกันเองนะครับ ผมคง..”
เเน่นอนว่าหลี่ไต้ไม่เเน่ใจว่าชูเหว่ยตงจะช่วยเขาไหม เพราะพวกเขายังไม่ได้รู้จักอะไรกันดีเท่าไรเลย
“นายจะไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมชูเหว่ยตงเเล้วนี้ เเล้วนายยังจะกังวลว่าเขาจะไม่ช่วยอีกหรอ? อีกอย่าง ถ้านายได้ไปมีชื่ออยู่ในโครงการนั้นนะ นายก็จะได้ทรัพยากรการฝึกดีๆมากขึ้นด้วย ชูเหว่ยตงไม่ใช่คนโง่นะ ทำไมเขาจะไม่ช่วยละ
มันใช่เวลาเกินครึ่งเดือนกว่าประกาศจากทางโครงการฝึกนักกรีฑาชาติจะมาถึงกรมการกีฬา เเล้วกรมการกีฬาก็โพสต์ลงในเว็บไซต์ทันทีเพื่อให้โค้ชทุกคนดาวโหลดกันได้ ในนั้นจะมีเอกสารการสมัครสำหรับคนที่สนใจ พอเสร็จเเล้วก็สามารถไปส่งได้ที่สำนักงานกรมการกีฬาเขตได้เลย ทางกรมการกีฬาจะเลือกโค้ชมาเพียงคนเดียวจากทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าจะมีเเค่คนๆเดียวเท่านั้นที่ได้มีโอกาสเข้าทีมชาติ
ก็อย่างที่ฮูจินหลงบอก มันมีที่”จำกัด”
ทุกคนรู้ว่าโอกาสงามๆเเบบนี้มันไม่ได้มีกันง่ายๆ คนที่ได้จะมีโอกาสได้รับการฝึกโดยทีมชาติ มันก็เหมือนหมอหนุ่มที่มีโอกาสได้ไปฝึกในโรงบาลระดับท๊อปๆ หมอหนุ่มคนนั้นคงต้องทุ่มสุดเเรงเพื่อโอกาสนั้นๆเเน่ๆ
เเต่โชคร้ายที่มีคนจำนวนไม่มากที่จะมีคุณสมบัติตรง การจำกัดอายุ”ไม่เกิน30″นั้นส่วนมากก็จะกวาดโค้ชได้ไปเกือบ90%เเล้ว
ยิ่งเลเวลของทีมสูงเท่าไร โค้ชก็ยิ่งเเก่มากขึ้นเท่านั้น โค้ชเป็นอาชีพที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ ก็เหมือนกับอาชีพหมออีกเเล้ว ยิ่งเเก่ยิ่งดี สำหรับโค้ชช่วงที่รุ่งที่สุดคงเป็นช่วงอายุ40กลางๆ-50
ในช่วงอายุนั้น พวกเขาก็จะเริ่มที่จะมีประสบการณ์ในด้านความเป็นผู้นำ เเล้วก็ยังมีเเรงมากพอในการลงสนามพื้นที่จริง ถ้าพวกเขาหนุ่มกว่านี้ พวกเขาก็ยังขาดประสบการณ์ เเละถ้าพวกเขาเเก่เกินไปกว่านี้ พวกเขาก็จะมีเเรงไม่พอในการอยู่ในพื้นที่ฝึกนานๆ
โค้ชหลายๆคนเริ่มต้นมาจากการเป็นนักกีฬามืออาชีพ สำหรับพวกเขาเเล้ว มันเป็นเรื่องปรกติที่จะเกษียรตอนอายุ30กว่าๆ เเล้วพอถึงจุดนั้น พวกเขาก็จะกลายมาเป็นผู้ช่วยโค้ชเเล้วค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เมื่อพวกเขาเก็บประสบการณ์มามากพอเเล้วมีผลงานมาบ้าง ถึงตอนนั้นเขาก็อายุเกิน40พอดี ซึ่งไม่สามารถเข้าโครงการฝึกครั้งนี้ได้
มันจะมีโค้ชมีกี่คนหรอกที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฝึกนี้ได้ หมายความว่าหลี่ไต้ไม่มีคู่เเข่งเยอะ
เเละเเน่นอนว่ามีนักกีฬาบางคนที่เกษียรก่อนเวลา ประมาณอายุ20กว่าๆพวกเขาก็เริ่มการเป็นโค้ชเเล้ว เเต่ถึงอย่างนั้น พอเป็นหนุ่มก็หมายความว่ายังขาดประสบการณ์หรืออย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีโอกาสมากพอที่จะเข้าทีมเขตได้ โค้ชหนุ่มๆส่วนมากเลยต้องมาทำงานอยู่ในทีมเยาวชนซัก7-8ปีก่อนถึงจะไปฝึกในทีมอื่นได้
หลี่ไต้ได้เปรียบตรงที่ตอนนี้เขาเป็นโค้ชหลักของทีมกระโดดไกลอยู่เเล้ว
โค้ชคนอื่นที่ผ่านเกณอย่าอายุน้อยกว่า30นั้น เเล้วนำทีมเองอยู่ ไม่มีใครเก่งไปกว่าหลี่ไต้เลย ในขณะที่นักกีฬาภายใต้การคุมของหลี่ไต้ทำลายสถิติของประเทศชาติในรุ่นu16 โค้ชคนๆอื่นยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพานักกีฬาตัวเองไปลงสมัครเลย.
…
หวางเพ็งจะอายุ27ปีในปีนี้ 2ปีก่อนหน้านี้เข้าได้สมัครสอบคัดเลือกบุคลากรหลังจากที่เขาจบปริญญาโท เขาได้สมัครเป็นตำเเหน่งโค้ชฟิตเนสในทีมกีฬาเขต เเล้วเขาก็เป็นที่1ในผู้สมัครเกือบ100 เเล้วก็กลายเป็นโค้ชฟิตเนสในทีมกีฬาเขตในที่สุด
หวางเพ็งเป็นคนที่ทะเยอทะยาน เขาไม่ได้อยากเป็นโค้ชฟิตเนสไปตลอดชีวิต
เขาดาวโหลดใบสมัครทันทีที่มันเปิดรับสมัคร เเล้วก็วางเเผนที่จะเข้าในโครงการฝึกนั้น
หวางเพ็งเดินไปในโซนรับสมัครด้วยความมั่นใจโดยมีเอกสารอยู่ในมือ
ฉันมีปริญญาโทในทฤษฏีทางการฝึก ส่วนคนอื่นๆส่วนมากจะเป็นเเค่ปวส.จากโรงเรียนเฉพาะทาง ฉันว่าฉันจะได้เข้าโครงการฝึกนี้เเหล่ะ!
คิดอย่างนั้นหวางเพ็งก็ยิ้มอย่างมั่นใจ
เขาเดินไปที่ออฟฟิศเเล้วเคาะประตูห้อง จากนั้นก็เดินเข้าไปเเล้วพูด “สวัสดีครับ ผมมายื่นใบสมัครครับ”
“ใบสมัครโครงการฝึกใช่ไหมคะ?”พนักงานรับใบสมัครมาเเล้วยิ้ม
“ขอโทษนะครับ เเต่มีคนที่สมัครเยอะไหมครับ?”หวางเป็งถาม
“ไม่เยอะคะ เเค่4คนรวมคุณด้วยเเล้ว”คนๆนั้นตอบ
“เเค่4คนเองเหรอครับ?น้อยมากเลยนะครับเนี่ย”หวางเพ็งตกใจ เขารู้ว่าคงไม่ค่อยมีใครผ่านเกณฑ์การรับสมัครเยอะ เเต่โค้ชในทีมเขตก็มีเยอะมากเลยนะ ทำไมถึงมีเเค่4คนมาเข้าสมัครละ
“นี่มันเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกกับทีมชาติเลยนะ นี้มันเป็นโอกาสดีมากเลยนะครับ ทำไมถึงยังไม่มีใครมาอีกละ?”หวางเพ็งพึมพัม
“ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มากันหรอก แต่พวกเขาไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองมากพอ พวกเขาคิดพวกเขาคงไม่ได้รับเลือกหรอก!” คนๆนั้นหัวเราะแล้วพูด “ฉันว่าคุณคงยังไม่รู้ใช่ไหมคะ แต่หลี่ไต้จากทีมกรีฑาเยาวชนจะมาเข้าร่วมด้วย ฉันคิดว่าเขาน่าจะได้รับเลือกโดยทีมชาติแน่ๆ!”
“หลี่ไต้เหรอ? ผมว่าผมเคยได้ยินชื่อเขาจากไหนนะ”หวางเพ็งถามต่อ “เขาใช่โค้ชที่ทำลายสถิติประเทศในการแข่งกีฬาเยาวชนครั้งที่แล้วรึเปล่า
“ใช่แล้วจะเป็นใครซะอีกละ? เด็กอัจฉริยะที่ทำลายสถิติประเทศแล้วโดนทีมชาติเอาตัวไป หลี่ไต้ถือว่าทำได้ยอดมากเลยนะ เขาต้องเป็นคนที่ได้รับการฝึกจากทีมชาติแน่ๆ!”
หวางเพ็งหงุดหงิดจนแทบอยากจะเอาใบสมัครคืน
การฝึกนั้นเน้นที่ความสามารถทางกีฬาจริงๆ ปริญญาโทของหวางเพ็งนั้นไร้ประโยชน์ไปเลยถ้าเทียบกับสถิติของจริง