Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 133
ฮูจินหลงเป็นโค้ชของทีมชาติกระโดดไกลในทีมกรีฑาอีกที เขาเคยเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมมากในตอนยังหนนุ่ม เขาเป็นคนที่ทำลายสถิติกระโดดไกลแล้วก็ได้เหรียญทองอาเชี่ยนเกมกับชิงแชมป์อาเชี่ยนมา ได้รับกล่าวขานว่าเป็นนักกระโดดไกลมือ1ของเอเชีย
หลังจากเกษียรแล้ว ฮูจินหลงก็ย้ายตัวเองมาเป็นโค้ช แล้วก็ฝึกนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมอีกหลายคน มีมากกว่า1คนในนั้นที่ฝึกได้ระดับA ในแรงค์การจัดอันดับของกีฬาโอลิมปิค ซึ่งสำหรับคนเอเชียมันไม่ง่ายเลยที่จะได้ระดับA
รอบนี้แน่นอนว่าฮูจินหลงเป็นคนที่มาที่เมืองฉิงเฉิงด้วยตัวเอง เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับนักกีฬาอัจฉริยะที่กระโดดได้7.84เมตรตั้งแต่อายุ16 แล้วก็ทำลายสถิติของชาตรุ่นU16เขาเลยตัดสินใจที่จะไปหาฝางไฮควานด้วยตัวเอง
การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นต้อนรับการมาของฮูจินหลงเมื่อเขาเดินทางมาถึงเมืองฉิงเฉิงวันนั้นพวกพนักงานระดับล่างของกรมการประเทศก็ยังเป็นพนักงานระดับสูงได้ในที่นี้ ฮูจินหลงเป็นถึงหัวหน้าโค้ชของทีมชาตเมื่อเขามาถึงทีมเยาวชนเขตแบบนี้เขาจึงได้รับความสนใจจากหัวหน้ากรมการกีฬาเขต
“ต้อนรับอย่างอบอุ่นให้กับคณะโค้ชจากทีมชาติ ที่มาเยี่ยมเยือนและแนะนำพวกเรา”
บิ่นหลูมองไปที่ป้ายสีแดงที่แขวนอยู๋กลางอากาศ พยายามจะส่งฝางไฮควานไปให้ถึงทีมชาติ
ฉันเป็นโค้ชทีมเยาวชนมาตั้งหลายปี แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันสามารถพานักกีฬาไปทีมชาติได้ คิดอย่างงั้นบิ่นหลูตะโกนบอกกลุ่มต้อนรับสุดเสียง “กระตือรือร้นหน่อยพวกเรา ทีมชาติกำลังจะมาแล้ว!”
ตอนที่บิ่นหลูพูดอย่างนั้น ก็มีรถเมล์คันเล็กๆขับมาช้าๆ รถคันนี้มาจากกสำนักงานกรมการกีฬาเขต ถึงแม้ว่าทีมชาติจะมาเพื่อฝางไฮควานก็ตาม แต่กรมการกีฬาเขตก็ต้องเป็นองกรณ์แรกที่เข้าไปต้อนรับ
“อยู่นี้เอง!”บิ่นหลูต้อนรับทุกคน รถคันนั้นจอดแล้วประตูรถก็เปิดออก คนที่ออกมาคนแรกเป็นเจ้าหน้าที่กรม ต่อจากนั้นก็เป็นโค้ชฮูจินหลง
“นั้นคือโค้ชฮู เขาดูอ้วนขึ้นกว่าครั้งที่แล้วที่มาหน่อยๆ”โค้ชอาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น
“รู้จักโค้ชฮูเหรอครับ?”โค้ชหนุ่มถาม
“ฉันอะรู้จักเขา แต่เขาคงไม่รู้จักฉันหรอก ฉันจำได้ว่าเมื่อ20ปีก่อนโค้ชฮูชนะการแข่งกระโดดไกลของอาเชี่ยนเกม หนังสือพิมพ์ตีข่าวเรื่องนี้ออกมาตั้งแต่หน้าแรกยันหน้า3เลยนะ”โค้ชแก่ตอบกลับ
“ดูโค้ชทีมชาติพวกนั้นซิ โคตรเท่เลย พวกนั้นดูเปล่งประกายมาก ฉันเป็นเหมือนไดโนเสาร์เลยถ้าเทียบกับพวกเขา!”ใครซักคนอวยขึ้นมา
“แน่นอน พวกเขาเป็นถึงโค้ชอย่างเป็นทางการของทีมชาติเชียวนะ ฉันยังไม่เคยคิดเลยนะว่าฉันจะได้มีโอกาสไปแตะเป็นโค้ชทีมชาติซักครั้งในชีวิต
“ลุงแก่ไปสำหรับการไปเข้าทีมชาติแล้วละ พวกเขาคงไม่เอาพวกนกแก่ๆพวกเราไปหรอก ฉันว่าหลี่ไต้อาจจะเป็นคนเดียวในทีมเราที่มีโอกาสก็ได้!”
หัวข้อการสนทนาจู่ๆก็เปลี่ยนไปที่หลี่ไต้ เมื่อฉวงซูฉีได้ยินบทสนทนานี้ เขาก็โกรธขึ้นมาจริงๆ
ทีมกระโดดไกลหน่ะมันเป็นของฉัน! มันควรจะเป็นของฉันซิ! ฉวงซูฉียังคงหงุดหงิดกับเรื่องทีมกระโดดไกลของเขา ไม่ไกลจากเขาเท่าไร บิ่นหลูกับฮูจินหลงก็คุยกันนิดหน่อย ก่อนที่บิ่นหลูจะแนะนำให้รู้จักกับเจ้าหน้าที่2คน ก่อนที่จะเรียกหลี่ไต้ออกมาข้างหน้า
“นี้คือหลี่ไต้ครับ เป็นโค้ชทีมกระโดดไกล ฝางไฮควานอยู่ใต้การฝึกของหลี่ไต้ครับ”บิ่นหลูแนะนำ
ทางทีมชาติมาที่นี้เพื่อมาดูตัวฝางไฮควาน ในฐานะที่เป็นโค้ชของฝางไฮควาน หลี่ไต้เลยได้รับความสนใจพอๆกัน ระหว่างที่ทีมชาติมาเยือนนี้ พวกเขาก็ต้องนำเสนอการฝึกด้วย เช่นมาดูการฝึกแบบปรกติของฝางไฮควาน หลี่ไต้ก็รับบทเด่นในช่วงนั้นด้วย
“อ้าวหลี่ไต้ใช่ไหมนั้น?”ฮูจินหลงจำหลี่ไต้ได้ทันที
ฮูจินหลงรู้จักกับหลี่ไต้อยู่แล้ว เพราะว่าหลี่ไต้เคยไปทำงานชั่วคราวอยู่ที่ศูนย์ฝึกเป๋ยโข่วเมื่อประมาณปีที่แล้ว ฮูจินหลงก็อยู่ที่ศูนย์ฝึกนั้นเวลาเดียวกัน
สำหรับพนักงานที่ถูกโอนย้ายชั่วคราวส่วนมาก ฮูจินหลงมักจะไม่ค่อยสนใจเพราะยังไงก็ต้องลืมๆไปอยู่ดี แต่กับหลี่ไต้นี้มันแตกต่างกัน ในวันแรกหลังจากที่ย้ายมา เขาโดนสั่งให้ไปฝึกให้หลินเฟ่ยเหลียงโดยตรง แล้วจากนั้นมา ฮูจินหลงก็สนใจหลี่ไต้เป็นพิเศษ
แล้วหลังจากจบช่วงยืมตัว3เดือนแล้วพนักงานคนอื่นๆก็เริ่มกลับกันหมด มีแต่หลี่ไต้ที่ขออยู่ต่ออีกเดือนนึง เพราะอย่างนี้ ฮูจินหลงเลยมีความประทับใจในหลี่ไต้แล้วจำเขาได้ แต่ไอ้ความจำเขาได้เนี่ย ไม่ได้มากไปกว่าการที่เขาทำตัวเด่นขึ้นมา ที่เขาจำได้ก็มีแค่ว่าเป็นพนักงานชั่วคราวที่ขออยู่ต่ออีกเดือนนึง ชื่อหลี่ แล้วที่เหลือก็จำไม่ได้แล้ว
“คุณฮู เราเจอกันอีกแล้วนะครับ”หลี่จับมือฮูจินหลงแล้วยิ้ม
“พวกเขารู้จักกัน หลี่ไต้รู้จักโค้ชฮูจากทีมชาติ!”
คนอื่นๆหน้าเหวอกันไปตามๆกัน โค้ชฮูเป็นคนที่น่านับถือในทีมชาติ ส่วนหลี่ไต้เป็นแค่โค้ชทีมเยาวชนธรรมดาๆ มันมีช่องว่างระหว่างกันเยอะมาก แต่พวกเขาก็ยังเคยโคจรมาเจอกันครั้งหนึ่ง
ฮูจินหลงรู้ว่าคนอื่นๆตกใจเลยเริ่มอธิบาย “หลี่ไต้เคยทำงานอยู่ในทีมชาติมาพักหนึ่งหน่ะ เขาทำงานได้ดีแล้วก็ไม่เสียเวลาเปล่าเลยตลอดช่วงเวลาหลายเดือนในทีมชาติ แล้วตอนนี้ดูเหมือนว่าหลังจากจากทีมชาติไปได้ไม่ถึงปี เขาก็ได้ฝึกนักกีฬาอัจฉริยะขึ้นมาแล้ว! นักกีฬาอัจฉริยะที่ทำลายสถิติรุ่นU16ของประเทศได้ไงละ”
ตอนที่ฮูจินหลงพูด ตาเขาเปล่งประกายด้วยความหยิ่งทะนง เหมือนกับเขาจะบอกแบบแปลไทยเป็นไทยว่า “เป็นไงละ ทีมชาติโหดขนาดไหน โค้ชธรรมดาแค่ย้ายมาทำงานแค่ไม่กี่เดือนในทีมชาติ พอกลับไปทำตำแหน่งเดิมแล้ว เขาก็สามารถทำลายสถิติชาติได้เลย!”
“หลี่ไต้เคยอยู่ทีมชาติงั้นเหรอ?”
“ยอดไปเลย! ฉันเป็นโค้ชมามากกว่า10ปียังไม่เคยเห็นหน้าประตูทีมชาติเลยด้วยซ้ำ!”
“ไม่เเปลกใจเลยว่าทำหลี่ไต้ฝึกเก่งได้ถึงขนาดนี้ ตอนที่เขาอยู่ทีมทุ่มน้ำหนัก เขาก็เก่งมาก เเล้วพอมาตอนนี้กับทีมกระโดดไกล เขาก็พาทีมกระโดดไปได้ไกลจริงๆ กลายเป็นว่าเขาเก่งขึ้นได้เพราะไปศึกษาจากทีมชาติมานี้เอง!”
“ไม่เเปลกใจเลยว่าทำไมหลี่ถึงได้เก่งขนาดนี้ตั้งเเต่ยังหนุ่มยังเเน่น เขาเคยทำงานให้ทีมชาตินี้เอง”
โค้ชคนอื่นๆในทีมเยาวชนไม่รู้ว่าหลี่ไต้เป็นเเค่พนักงานที่ถูกยืมไปให้ทีมชาติ ดังนั้นหลังจากที่ฮูจินหลงพูดเเบบนั้น หลี่ไต้ก็ได้รับความเคารพมากขึ้น
ตอนนี้ประสบกาณ์ที่มีกับทีมชาติทำให้เขาส่องประกาย
พวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ไต้ถูกโอนไปเพื่อไปทางงานจิ้บจ้อย เเต่ฮูจินหลงรู้ว่าหลี่ไต้เป็นแค่คนทำงานยิบย่อยเท่านั้น เ้ต่เขาเลือกที่จะไม่พูดออกไป เพราะการทำให้หลี่ไต้ดูดี ก็ทำให้ทีมชาติดูดีไปด้วย
บิ่นหลูจำขึันมาได้ว่าใบสมัครของหลี่ไต้ที่ยื่นมาเคยเขียนไว้ว่าเคยไปเป็นโค้ชเเลกเปลี่ยนที่ทีมชาติ เเต่บิ่นหลูไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะส่วนมากงานพวกนี้จะสะท้อนความสามารถที่เเท้จริงออกมาทางการฝึกรายวันมากกว่า เพราะอย่างนี้ บิ่นหลูเลยลืมเรื่องนี้ไปสนิท
เเต่กลายเป็นว่าระหว่างที่หลี่ไต้เเลกเปลี่ยนไปนั้น เขาทำงานได้ดีมากจนฮูจินหลงจำเขาได้ทันที หลังจากคิดอย่างงั้นเเล้ว บิ่นหลูก็ยิ่งประทับใจในตัวหลี่ไต้มากขึ้น
เเต่ก็ยังมีคนคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่
งานกระจอกๆในทีมชาติก็อวดได้เหรอ? ฉวงซูฉีเบ๊ปากเป็นรูปเท้าด้วยความอิจฉา
คอยดูเถอะ ถ้าฉันมีโอกาสนะ ฉันจะเข้าทีมชาติบ้าง! ฉวงคิดลับๆ
เเล้วเมื่อพนักงานของกรมการกีฬามาเจอเเล้วได้ยินมาว่าหลี่ไต้เคยอยู่ทีมชาติมาก่อน เขาก็ดูอึ้งเหมือนกัน เเล้วก็พูดกับบิ่นหลูว่า “โค้ชหลู ทีมของคุณนี้เต็มไปด้วยพรสวรรค์ที่ซ่อนเล้นจริงๆ โคเชหลี่ก็สามารถฝึกนักกีฬาอัจฉริยะได้ตั้งเเต่ยังหนุ่มยังเเน่นเเบบนี้เพราะว่าเขาไปเรียนวิชามาในทีมชาตินี้เอง ผมเชื่อว่าหลี่ไต้คงได้เรียนอะไรมาจากโค้ชฮูเยอะเเน่เลย!”เจ้าหน้าที่นั้นมองไปที่ฮูจินหลงตอนที่พูดนั้น
เห็นได้ชัดเลยว่าเขาพยายามจะประจบฮูจินหลงทำให้ดูเขายิ่งใหญ่หน่อย
ฮูจินหลงยักไหล่ “ผมคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก หลี่ไต้ไม่ได้อยู่กับผมในทีมชาติ” เเล้วเมื่อฉวงได้ยินเเบบนั้นก็ขำเเตก
“รู้อยู่เเล้วเชียวว่าหลี่ไต้ต้องไปทำงานกระจอกๆในทีมชาติ อะไรทำให้คิดว่าเขาจะได้ไปอยู่กับโค้ชฮูวะ”ฉวงพูดเสียงเบาๆ ถึงเเม้ว่าเสียงนั้นจะเบาเเต่ทุกคนก็ได้ยินทุกคำ
“วินาทีต่อมา ฮูพูดต่อ “ตอนที่หลี่ไต้อยู่ทีมชาติ เขาทำงานให้กับโค้ชติ้ง!”
ฮูบอกเพิ่มเติมเผื่อคนที่ไม่รู้ว่าโค้ชติ้งคือใคร เลยเติมว่า “โค้ชติ้ง ติ้งจี่ไฮนั้นละ!”
รอยยิ้มของฉวงหายไปทันที เขารู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอีกรอบ