Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 122
สิ้นเดือนสิงหาคมมาเยือนอย่างรวดเร็ว การแข่งขันกีฬาเยาวชนเขตก็เริ่มต้นขึ้นในวันที่29 มีนักกีฬาทั้งหมด36คนเข้าร่วมการแข่งในรายการกระโดดไกล และพวกเขาก็มาจากต่างแดนต่างเมืองกันในเขตฮั่นเบ และการแข่งขันครั้งนี้ดูท่าจะดุเดือดน่าดู ทุกคนเริ่มต้นจากการไปแข่งในรอบควอริฟาย โดยนักกีฬา36คนจะถูกแบ่งเป็น2กลุ่ม และจะได้กระโดดคนละ3ครั้ง นักกีฬา12คนที่ดีที่สุดจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป กฎนี้มันเป็นกฎเดียวกับกีฬาโอลิมปิค
ฝางไฮควานถูกวางไว้ในกลุ่มAในควอริฟายนี้ โดยเขาต้องเข้าสนามก่อน มันเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนี้ ทำให้เขากังวลนิดหน่อย หลี่ไต้พยายามจะปลอบเขาแล้วพูด “ใจเย็นๆนะ นายเก่งสุดอยู่แล้ว”
หลี่ไต้ไม่ได้โม้แต่อย่างไร แต่เขาได้ตรวจสอบนักกีฬารอบๆไว้หมดแล้ว ไม่มีใครเก่งเท่าฝางไฮควานเลย ความสามารถของนักกีฬาส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าระดับนักกีฬาระดับ1หมดเลย
นักกีฬาทีมชาติระดับ1ในกีฬาต่างๆนั้น นักกีฬาต้องผ่านการทกสอบในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ รวมถึงการแข่งระดับชาติ หรือการแข่งที่ถูกจัดโดยสมาคมกีฬากรีฑาแห่งชาติหรือNTFA และต้องเข้าแข่งงานกีฬาที่ถูกจัดโดยหน่วยงานของเขตพื้นที่ ถ้าใครอยากเป็นนักกีฬาระดับผู้เชี่ยวชาญจริงๆ พวกเขาก็ต้องเขาร่วมและชนะในการแข่งกีฬาก่อน เพราะว่าแค่เข้าร่วมงานกีฬาที่จัดโดยเขตอย่างเดียวมันประเมินไม่ได้
เอาจริงๆแล้วกีฬาเยาวชนเขตในรุ่นU18 นักกีฬาระดับ1ก็ถือเป็นนักกีฬาระดับสูงที่สุดแล้วเพราะว่าในระดับผู้เชี่ยวชาญทางกีฬาจะไปเข้าร่วมในการแข่งU20มากกว่า
ฝางไฮควานเป็นนักกีฬาระดับ2ที่มีพรสวรรค์ระดับA และด้วยการฝึกของหลี่ไต้ เขาได้หลุดจากคำว่านักกีฬาระดับ1ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หลี่ไต้เชื่อว่าฝางไฮควาน จะถึงขั้นมีความสามารถของผู้เชี่ยวชาญกีฬาระดับท๊อปได้ ด้วยแรงระเบิดพลังของเขา
แต่ไฮควานดวงซวยไปนิดนึง เขาได้กระโดดเป็นคนแรก หมายความว่าเขาเป็นคนแรกที่ต้องขึ้นสังเวียน
“เอาหน่า!ใจเย็นๆแล้วคิดถึงท่าที่ฝึกมาเอาไว้ อย่าพลาดละ นี้มันเป็นการกระโดดครั้งแรก เป้าหมายของนายคือจบมันอย่างลื่นไหล”หลี่ไต้ให้กำลังใจ มันเป็นแค่การกระโดดแรก หลี่ไต้เลยคาดหวังในฝางไฮควานต่ำ เขาแค่หวังว่าฝางคงจะไม่ทำอะไรเกินตัวแล้วบาดเจ็บ
ฝางไฮควานขึ้นมายังเขตวิ่ง ห้อมล้อมด้วยสายตาของนั่งแข่งและโค้ชที่จ้องเข้ามา เพราะว่าเข้าเป็นคนแรก มันก็ไม่แปลกเลยว่าทุกคนจะมองมาที่เขา โค้ชบางคนเริ่มที่จะกระซิบกันเองเกี่ยวกับเขา
“คนแรกส่วนมากจะไม่ค่อยมีดวงหรอก วัยรุ่นพวกนี้ยังไม่ได้มีประสบการณ์มากพอ แล้วก็มักจะตื่นสนามใหญ่ๆได้ง่าย มันก็ยากที่จะทำฟอร์มได้ตามปรกติสำหรับคนที่เป็นคนแรก”
“นักกีฬาคนนี้มาจากทีมเยาวชนเขต เขาต้องเก่งเอาเรื่องแน่ๆ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ส่งมาแข่งหรอก”
“ไม่แน่ใจอะ ฉันพึ่งเห็นข้อมูลเมื่อกี้ เขาอายุแค่16ปีเอง”
“16ปีเองเหรอ? ทำไมเด็กจัง! ฉันเดาว่าฉันมาที่นี้เพื่อลองไปแตะมาตรฐานดู อายุแค่16มันยังไปได้ไกลนะ เขาต้องเป็นนักกีฬาที่ดีได้แน่ๆ”
อายุที่จำกัดสำหรับการเป็นนักกีฬาเยาวชนคือ16-18ปี ถ้าคนที่มีอายุมากกว่า18ปีจะไปเข้าการแข่งในรุ่นU20หรือการแข่งของผู้ใหญ่ แต่ถึงแม้ว่ากฎจะระบุไว้ว่านักกีฬา16-18ปีสามารถแข่งได้ แต่เกือบทั้งหมดของผู้เข้าแข่งอายุ18ปี จะมีน้อยคนที่อายุ17ปี อย่าไปพูดถึงอายุ16เลย
สำหรับคนธรรมดา มันจะมีความต่างระหว่างการพัฒนากล้ามเนื้อเระหว่างช่วงอายุ16-18ปี สำหรับนักกีฬา การพัฒนาร่างกายถือว่าเป็นส่วนสำคัญ นักกีฬาหลายๆคนจะมีร่างกายเป็นผู้ใหญ่ในช่วงอายุ18ปีในขณะที่อายุ16ปีนั้นถ้าเทียบกับนักกีฬาที่เด็กกว่าแล้วจะแข็งแรงกว่าแค่เพียงเล็กน้อย และเพราะอย่างนั้น ผู้เข้าแข่งส่วนใหญ่ในกีฬาเยาวชนเลยอายุ18ปี ถ้าพวกเขาลงแข่งในอายุ16ปี พวกเขาก็จะขาดความสามารถทางร่างกายลงไปเยอะ
และพอได้ยินว่าไม้แรกของการแข่งอายุแค่16ปี ทุกคนก็เลยเลิกสนใจในการกระโดดของฝางไฮควาน เพราะในสายตาของพวกเขา นักกีฬาอายุ16ปีมันเป็นเหมือนทางผ่าน ความสามารถของเขาไม่เข้าตาเลย
ไฮควานสูดหายใจลึกๆก่อนจะเริ่มวิ่ง ด้วยความที่เป็นนักกีฬาเกรดเอและมีแรงระเบิดพลังที่ยอดเยี่ยม +กับวงแหวนระเบิดพลัง เขาพึ่งไปเหมือนติดจรวด
“ร…เร็ว”บางคนพูด วินาทีต่อมา ฝางไฮควานพึ่งไปถึงบอร์ดกระโดดและกระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ
ฝางไฮควานกังวลมาก เขากังวลว่าเขาจะกลาดไปเหยียบเส้นเขาเลยกระโดดไม่เต็มบอร์ด นิ้วโป้งเขาห่างจากขอบบอร์ดเยอะพอสมควร
มันไม่ใช่การออกตัวที่ประสบความสำเร็จมากนัก นักกีฬากระโดดไกลมืออาชีพทุกคนรู้วิธีการใช้บอร์ดกระโดดให้เต็ม แต่ฝางไฮควานทำไมได้เพราะกังวลมากเกินไป
แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อการทะยานขึ้นของเขา เขาโบยบินเหมือนนก แล้วก็เริ่มวิ่งไปบนอากาศด้วยแขนและขาของเขา และเมื่ออกตัวมาแล้ว เขารู้สึกได้ถึงอดรีนารีนที่มันพุ่งพล่านไปทั้งตัว เขาไม่กังวลอีกต่อไปแล้ว
“ฟิ้ววววว!”ตัวของฝางไฮควานตกลงมา เขาเหยียดขาตึงไปข้างหน้าและเตะทรายลอยไปบนอากาศ ทรายพวกนั้นก่อตัวเป็นคลื่นหมอกสีเหลืองลอยขึ้นมา ฝางไฮควานใช้เอวของเขายืนขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เลวเลย ไม่มีจุดผิดพลาดใหญ่ๆเลย”โค้ชคอมเม้น ในขณะเดียวกัน เขาหันไปที่เส้นบอกตำแหน่งนอกทรายแล้วเขาก็ตกใจ
“7เมตร!! เขากระโดดได้ไกลกว่า7เมตร ไม่ใช่แค่ไกลกว่านิดเดียวด้วย!”เขากลืนน้ำลาย
นักกีฬาที่กระโดดได้ดีกว่า7เมตรจะได้รับการคัดเลือกให้ผ่านรอบควอริฟายทันทีแม้จะเป็นการแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ส่วนในการแข่งกีฬาเยาวชนเขตแค่6.60เมตรก็สามารถทำให้นักกีฬาไปอยู่บนท๊อป12คนแล้ว ถ้าตามมาตรฐานแล้ว นี้เป็นการรับรองการเข้ารอบของฝางไฮควานเลย
ผู้คุมประกาศคะแนนของเขา “7.33”เมตร!”
มาตรฐานของนักกีฬาชาติลำดับ1ในการแข่งกีฬาคือ7.30เมตร ไฮควานสามารถไปเป็นนักกีฬาลำดับ1ได้เลยถ้าเขาเอาคะแนนไปยื่น
“ได้ยินรึเปล่า 7.33เมตร!! เขาแตะถึงมาตรฐาน!”
“โชคดีอะไรขนาดนั้น! เขาทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่กระโดด”
ไฮควานมองไปที่คนรอบๆที่กำลังอิจฉาเขา ผู้เข้าแข่งส่วนมากมาที่นี้เพื่อจะเป็นนักกีฬาลำดับ1 แต่ไฮควานกลับดูไม่เป็นสุขนัก เขาเดินกลับมาหาหลี่ไต้ด้วยความหงอย “โค้ช ผมทำได้ไม่ดีเท่าไรเลย”
“เอาหน่า ไม่เป็นไรหรอก นี้มันแค่รอบควอริฟาย แล้วตอนนี้นายก็ได้เข้ารอบต่อไปแล้วนะ”หลี่ไต้พูด
7.33เมตรไม่ใช่คะแนนที่ดีของฝางไฮควาน แต่หลี่ไต้รู้ว่าอย่างน้อย20ใน36ของนักกีฬาทั้งหมดจะไม่มีทางทำคะแนนได้มากกว่า7เมตรแน่ๆ