Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 118
คุณสูกลับไปที่ๆเขามา หลี่ไต้ยังคงคิดถึงเรื่องบัตรทองนั้นอยู่ สำหรับเขา มันก็เป็นเงินก้อนโต มันเยอะว่าเงินเดือนทั้งปีของเขาอีก เขาคงมีความสุขกับชิวิตได้ถ้ามีเงินก้อนนั้น
แต่เขาก็ยังคิดว่าเขาทำถูกแล้ว มันไม่ถูกที่จะรับเงินมาแบบนั้น
“ผมไม่เคยคิดเลยว่าพ่อผมจะซื้อน้ำใจคุณ แต่ที่ผมอึ้งกว่าคือคุณปฏิเสธเงินของเขาเนี่ยละ!”ฝางไฮควานพูดแล้วหัวเราะ
“หมายความว่ายังไง หลี่ไต้ถาม
“พ่อผมทำแบบนี้ตลอดละ เขาต้องการให้ทุกๆคนฟังเขา แล้วในความคิดของเขา เงินคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะโน้มน้าวใจคนมาทำงานให้เขา”ไฮควานพูดแบบประชดประชัน
“มันก็ได้ผลอยู่นะ นายรู้ไหม ตอนแรกฉันเกือบจะรับบัตรทองแล้ว”หลี่พูดแล้วตบบ่าของไฮควาน”เอ้า อย่านอกเรื่อง กลับมาฝึกต่อ!”
…
เลขาของผจก.ฝางยกกองเอกสารมาให้เขา “ผู้จัดการครับ รบกวนเซนเอกสารพวกนี้ด้วยนะครับ”
“วางไว้ตรงนี้”ผจก.กำลังตั้งสมาธิกับเอกสารทางการเงินของเขาอยู่ เขาเลยไม่เงยหน้ามา
“ผจก.ครับ มีอีกเรื่องนึงที่ผมคิดว่าคุณน่าจะสนใจ โค้ชหลี่จากทีมเยาวชน ปฏิเสธบัตรทอง68888หยวนของเราครับ”เลขาพูด
“ปฏิเสธเหรอ?”ผจก.เงยหน้าเงินแสดงความสนใจ “เขาไม่มีทางได้เงินมากขนาดนั้นในการเป็นโค้ชได้นี้ ผมเดาไว้ว่าเงินทั้งปีของเขาก็ยังน้อยกว่าบัตรทองนั้นเลย แต่เขาก็ยังปฏิเสธข้อเสนอหรอ? หื้ม น่าสนใจ ดูเหมือนว่าฉันจะดูถูกเขาไปหน่อย งั้นก็ได้!”
…
สำหรับหลี่ ของขวัญนั้นมันก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิต อีกไม่นานเขาก็ลืมมันได้ แล้วกลับมาโฟกัสกับการฝึก ฝางไฮควานพัฒนาไปได้ไกลมาก เขาเหนือกว่าลูกทีมคนอื่นในเวลาเพียงแค่2อาทิตย์ของการฝึก หลังจาก1เดือนผ่านไป เขาก็มีความสามารถพอๆกับนักกีฬาผู้ใหญ่แล้ว
ระหว่างการฝึกนี้ ไฮควานให้ความเคารพหลี่มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเขาพัฒนามาได้ขนาดนี้เพราะหลี่ เขาเลยเคารพหลี่มากกว่าโค้ชคนอื่น
เพราะว่าพ่อของเขาเป็นคนรวย ไฮควานเลยมีโอกาสที่จะได้การฝึกดีๆ เขาไม่เพียงแต่ได้รับการฝึกจากโค้ชของทีมเขตฮั่นเบ แต่รวมถึงโค้ชของทีมชาติด้วย แต่ที่เขาจำได้คือ ไม่เคยมีใครช่วยให้เขาพัฒนาได้เร็วขนาดนี้เลย
สำหรับไฮควานแล้ว หลี่นวดได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ทุกครั้งที่หลี่นวดเขา ไฮควานจะรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้พลังกลับมา มีครั้งนึงระหว่างการฝึกของไฮควาน เขาพลาดท่าบาดเจ็บที่หัวเข่า ไฮควานเลยคิดว่าจะพักแล้วไปหาหมอ แต่หลี่นวดให้เขาแค่ครึ่งชั่วโมงแล้วเขาก็หายดี และหลังจากนั้น ไฮควานก็ชื่นชมหลี่ จากก้นบึ้งของหัวใจ
หลี่ก็พอใจกับไฮควานเช่นกัน ไฮควานฝึกอย่างจริงจังมาก เขาไม่ได้แสดงความหยิ่งยโสเหมือนเด็กพ่อรวยส่วนมาก แต่กลับกัน เขากับขยันมากกว่าคนอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะเหนื่อยแทบตายแต่เขาก็ยังดิ้นรนอยู่ หลี่เคยคิดนะว่าเด็กพ่อรวยอย่างไฮควานไม่มีทางทนความลำบากได้ แต่เขาสำผัสได้ถึงเขาหลงใหลและความดื้อดึงของไฮควาน เวลาผ่านไป ทั้งคู่ก็ทำงานด้วยกันดีขึ้นเรื่อยๆ
…
วันหนึ่งระหว่างการเบรก ไฮควานนั่งอยู่ตรงมุมและพักอยู่
“ไฮควาน รู้สึกเป็นไงบ้าง? โอเคใช่ไหม? ฉันจะเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกอีกนะ”หลี่นั่งพูดข้างๆไฮควาน
“ผมโอเคครับ ผมทำได้”ไฮควานพูดอย่างหนักแน่น
“เอาตรงๆนะ ความหนักในการฝึกของนายมันหนักระดับผู้ใหญ่แล้ว หรือบางทีอาจจะหนักกว่าผู้ใหญ่บางคนด้วย” หลี่หยุดคิดซักนิด แล้วต่อ “ถ้าเริ่มไม่ไหวบอกฉันได้นะ ฉันจะได้ปรับให้”
“เอาระดับไหนก็เอาเลยครับ ผมทำได้มากกว่านี้อีก ผมอยากลองฝึกหนักเหมือนนักกีฬาทีมชาติดูครับ”ไฮควานพูด
“การฝึกของทีมชาติมันหนักกว่านี้เยอะ ยิ่งนักกีฬาเก่งเท่าไร ก็ต้องฝึกหนักมากเท่านั้น เอาหลินเฟ่ยเหลียงเป็นตัวอย่างก็ได้ ความเข้มข้นของการฝึกเขาอยู่ในระดับที่เรียกว่านรกยังดูซอฟไปเลย”หลี่พูด
“อย่ามาอำผมเล่นหน่าโค้ช ผมไม่เชื่อหรอก!”ไฮควานพูด “ผมอายุ16แล้วนะ ไม่ใช่เด็กแล้ว บอกความจริงมา”
“นั้นละความจริง! รู้รึเปล่าตอนนี้เมื่อปีที่แล้วฉันเป็นโค้ชฟิตเนสให้กับหลินเฟ่ยเหลียงตอนที่อยู่ศูนย์ฝึกเป๋ยโข่ว! ไม่เชื่อใช่ไหม ได้! งั้นเอารูปไปดู”หลี่ไต้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดรูปถ่ายหมู่กับหลินเฟ่ยเหลียง
รูปภาพเอาจริงๆเป็นเครื่องมือการอวดที่ดีที่สุดของหลี่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู๋ทีมทุ่มน้ำหนัก เขาก็อวดรูปพวกนี้ให้ทีมเขา แล้วทุกคนก็สรรเสริญเขากันหมด วันนี้ก็คงเหมือนกัน
“นี้มันเขาจริงๆด้วย โค้ช ผมไม่คิดว่าคุณจะเก่งขนาดนี้!”ไฮควานตะลึง เขามองหลี่เปลี่ยนไป
“อะแน่นอน! ถ้าฉันเข้มไม่พอฉันจะไปเป็นโค้ชของหลินได้ไงละ! เชื่อเปล่าว่าฉันนะมันอยู่เหนือมาตรฐานของทีมชาติอีกนะ”หลี่พูดอย่างมั่นใจ
“ผมเชื่อละ”ไฮควานคล้อยตามกับคำพูดทันที เขายังคงจ้องรูปภาพที่หลี่ให้ดูอยู่
“อิทธิพลของดารานี้มันดีจริงๆ! ไม่แปลกเลยที่คนชอบอวดรูปถ่ายคู่กับดารา มันโคตรได้ผลเลย”หลี่คิดอย่างเป็นสุข เขาบอกไฮควาน”ก็ความสามารถของนายหน่ะยังไปไม่ถึงจุดนั้นหรอก ฉันแนะนำว่าให้นายฝึกหนักด้วยปริมาณแค่นี้ไปซักพักแล้วลืมการฝึกแบบทีมชาติไปก่อน นายยังไม่พร้อมหรอก”
“ผมต้องสู้เพื่อแม่ผม!”ไฮควานพูด
“พ่อนายไม่สนับสนุนนาย แต่แม่นายสนับสนุนว่างั้น?”หลี่พูดธรรมดา
ไฮควานพยักหน้าแล้วนึก “ตอนที่ผมอยู่ป.4 มีวันหนึ่งครูพละให้เราฝึกกระโดดไกลแล้วผมก็ได้ที่1 ไม่มีใครกระโดดไกลเท่าผม ครูพลับอกว่า ผมมีพรสวรรค์ด้านนี้ เลยสอนท่าแบบมืออาชีพให้ หลังจากนั้นมา ผมก็เสพติดการกระโดดไกล ผมอยากจะเป็นนักกีฬาระดับโลก ส่วนพ่อของผมมักจะยุ่งอยู่กับงาน เขามักจะไปทำงานต่างถิ่นหรือไปที่อื่นตลอด ทุกครั้งที่ผมตื่น เขาก็ไปแล้ว และทุกคืนที่ผมหลับ เขาก็จะกลับมา ถึงแม้ว่าเราจะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ผมก็ไม่ได้เห็นเขามาเป็นอาทิตย์เลย”
“แม่ของผมก็รู้ว่าผมรักการกระโดดไกลมา เธอชวนโค้ชหลายๆคนมาสอนผม จ้างคนงานมาขุดบ่อทรายสร้างห้องฟิตเนสให้ผม เธอยังขอให้โค้ชจากทีมชาติมาสอนผมด้วย”
“แม่นายรักนานมากเลย”หลี่พูด แต่ก็แอบคิดว่าทำไมคนรวยมันดีจังวะ
ไฮควานพูดต่อ “ตอนแรกๆพ่อก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับงานอดิเรกผมเหรอ แต่หลังจากนั้นเมื่อผมโตขึ้น เขาก็เริ่มไม่เห็นด้วย เขาคิดว่าผมจะเสียเวลากับอะไรผิดๆ และสิ่งที่ผมควรทำคือตั้งใจเรียน เขาอยากจะส่งผมไปอังกฤษ แต่ผมไม่อยากไป ผมอยากจะอยู่ในสิ่งที่ผมรัก พ่อผมคิดว่านี้เป็นความผิดของแม่ทั้งหมด ที่เธอเสี้ยมผมมากเกินไป และด้วยเหตุผลห่วยๆนั้นแหล่ เขาเลยทะเลาะกับแม่”
“งั้นนายก็เลยต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองงั้นซิ?”หลี่รู้ว่าไฮควานจะสื่ออะไร
“ใช่ครับ! ผมอยากจะพิสูจน์ว่าผมไม่ได้มาเล่นๆ ผมมาเพื่อเอาจริง และผมก็อยากที่จะเป็นนักกระโดดไกลมืออาชีพด้วย ผมอยากจะเป็นนักกีโดดไกลที่เก่งที่สุด! ผมจะได้บอกให้พ่อรู้ได้ ว่าแม่คิดถูกมาเสมอ และแม่เป็นคนที่ช่วยผมประสบความสำเร็จได้! ความสำเร็จที่พ่อไม่เคยคิดถึง”ไฮควานพูดด้วยความเร่าร้อน ดวงตาของเขาฉายแววดุดันออกมา
หลี่เข้าใจไฮควาน เด็กชายที่ดิ้นรนไม่ใช่เพียงเพราะความฝันของเขาอย่างเดียว แต่เพื่อแม่ของเขาด้วย เขาพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่าแม่ของเขาเป็นแม่ที่วิเศษที่สุด ตรงข้ามกับคนที่ให้ความรักด้วยเงินตรา
“ฉันเชื่อนายนะ! ว่านายทำได้!” หลี่ไต้ยืนขึ้นแล้วตบบ่าไฮควาน “สู้ต่อไป แล้วพยายามให้ถึงที่สุด ปลายเดือนนี้มีการแข่งกีฬาเยาวชนเขต เขาจำกัดจำนวนผู้เข้าแข่งแต่ฉันมีแผนว่าจะส่งชื่อนายไป ชนะการแข่งซะแล้วทำให้พ่อนายรู้!”