A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 47
เมอร์ลินที่ขี่ม้าไม่เก่ง เขาได้อาศัยรถม้าขับพามาส่งเขาที่ปราสาทวิลสัน เขาได้เปิดม่านออกและเห็นปราสาทจากไกล ๆ
ทันใดนั้นเอง กลิ่นคาวเลือดได้ลอยเข้ามาพร้อมกับลมหนาว สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที เขาได้หันไปพูดกับแพรตต์ว่า
“ลุงแพรตต์หยุดก่อน!!”
ทางเพรตต์ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเลือดเช่นกัน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดทันที
“คุณชายกลิ่นมันมาจากทางปราสาทวิลสัน!!”
หลังจากที่ระบุที่มาได้แล้ว เมอร์ลินก็ไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป เขาได้กระโดดพุ่งไปข้างหน้าและเมื่อเขามาถึงปราสาท เขาได้เห็นซากศพนอนกองอยู่รอบ ๆ ลานของของปราสาท พวกเขาล้วนเป็นคนรับใช้กับองครักษ์ที่เขาคุ้นเคยอย่างดีในปราสาทวิลสัน
“บ้าเอ๊ย!!” เมอร์ลินสบถออกมา เขากับแพรตต์รีบเข้าไปในปราสาททันที
“นี่นายยังไม่ตายอีกเหรอเมอร์ลิน ยังอุตส่าห์กลับมาที่นี่อีกนะ” ทีรอธนำของคนออกมาและพบกับเมอร์ลินอย่างรวดเร็ว
*แคว๊ง*
ทั้งสองฝ่ายชักดาบขึ้นมา บรรยากาศในตอนนี้ตึงเครียดอย่างมาก
“ทีรอธ!! เมซี่ส์อยู่ไหน!!” ใบหน้าของเมอร์ลินดูเคร่งขรึม เขาได้กวาดตามองซากศพบนพื้น เขาไม่เจอเมซี่ส์เลย
ทีรอธไม่ตอบ แต่เขาแสดงท่าทีที่ตื่นเต้นออกมาแทน เขาชี้ดาบไปที่เมอร์ลินและพูดกับชายชุดขวาที่สวมชุดเกราะสีเงินข้าง ๆ เขาว่า “ท่านนักรบศักดิ์สิทธิ์นั่นเขา ลูกชายของวิลสัน!!”
ทั้งสองเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่เจสันส่งมา พวกเขาสบตาและตะโกนออกมา “เราจะจัดการเขาให้เอง!!”
ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็เปล่งแสงออกมา พวกเขาเป็นนักดาแสงระดับหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาจัดการเมอร์ลิน
เมอร์ลินที่ได้เห็นการฆ่าฟันที่ไร้มนุษยธรรมนั่นทำให้เขาเดือดดาลไปด้วยความโกรธแค้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ทีรอธอย่างดุร้ายโดยไม่สนนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังมาหาเขา
“ออกไปให้พ้นทางของฉัน!!” เมอร์ลินพุ่งไปหาทีรอธ
เนื่องจากการฝึกท่าทางจากประติมากรรมนูนลึกลับ ทำให้คุณสมบัติทางกายของเขาไม่ด้อยไปกว่านักดาบธาตุระดับแรกเลย เผลอ ๆ อาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งนี้ทำให้เขาพุ่งมาไกลมาก
นักรบศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองต่างประหลาด พวกเขารู้ว่าเมอร์ลินไม่ใช่นักดาบธาตุแค่พละกำลังของเขามันเหนือกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้
แต่สิ่งที่พวกเขาต้องประหลาดใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พวกขาได้เห็นลูกไฟสองลูกที่ปรากฏรอบตัวของเมอร์ลิน
*หวู่ม!*
เมอร์ลินชี้นิ้วไปข้างหน้า จากนั้นลูกไฟได้พุ่งไปหานักรบศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
“แย่แล้ว!! ที่มันเวทมนต์คาถาของพวกนอกรีต!!”
แม้แต่พวกเขาจะรู้จักเวทมนต์แต่มันก็สายไปแล้วที่จะไหวตัวทัน
เมอร์ลินที่เชี่ยวชาญในการควบคุมลูกไฟ เขาสามารถบังคับไปไหนก็ได้ตามที่ต้องการ
แม้แต่นักดาบธาตุระดับสามยังหลบไม่ได้ นับประสาอะไรกับนักดาบธาตุระดับหนึ่ง
*ตูม! ตูม!*
ลูกไฟสองลูกได้พุ่งไปที่หน้าอกของนักรบศักดิ์สิทธิ์ ชุดเกราะเบาของพวกเขาไม่สามารถต้านทานเปลวเพลิงอันร้อนระอุได้
จากนั้นแสงบนร่างของนักรบศักดิ์สิทธิ์ได้สลายหายไปพร้อมกับร่างกายที่ล้มลงไปนอนบนพื้น
แค่ในพริบตา นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งได้ตายไปด้วยน้ำมือของเมอร์ลิน จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาทีรอธ
ทางทีรอธได้ตกตะลึง ตัวเขาได้ตกใจและหยุดนิ่งไป ส่วนพวกอัศวินที่อยู่ข้าง ๆ ทีรอธ แม้พวกเขาจะหวาดกลัวแต่ก็ยังแสดงความกล้าหาญในการปกป้องเขา
สำหรับอัศวินพวกนี้ที่ไม่ได้เป็นแม้แต่นักดาบธาตุ เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์ให้สิ้นเปลือง เขาแค่ระดมหมัดใส่พวกเขาแค่นี้พวกเขาก็นอนไปกองบนพื้นแล้ว
“บ้าเอ๊ย!! อย่าเข้ามานะเจ้าปีศาจ!!” ตอนนี้ทีรอธไม่เหลือคนที่จะมาปกป้องเขาแล้ว
“ทีรอธ เมซี่ส์อยู่ไหน” เมอร์ลินย่างสามขุมเดินไปหาทีรอธ เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ในขณะเดียวกันก็มีลูกไฟที่ร้อนระอุปรากฏขึ้นข้าง ๆ ตัวของเขา
ทีรอธจ้องมองไปที่ลูกไฟอย่างหวาดกลัว เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไต่อไปดี
เมอร์ลินต้องการจะคว้าร่างของทีรอธไปสอบสวน ทันใดนั้นเอง อัศวินหลายคนได้เข้ามาในปราสาท พวกเขาได้พุ่งเข้ามาโจมตีเมอร์ลิน
ทีรอธได้นำอัศวินมาราว ๆ 200นาย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าอัศวินที่เมอร์ลินนำมา
ถึงจะมีจำนวนที่มากกว่าแต่มันก็ดูไร้ค่าในสายตาเมอร์ลิน เขาได้หันไปมองพวกอัศวินที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วนสายที่เย็นชา
“ระเบิด!!”
*ตูม!!*
เมอร์ลินชี้นิ้วไปที่อัศวินที่อยู่ใกล้ที่สุดและลูกไฟได้พุ่งไปหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ระเบิดด้วยพลังจิตของเมอร์ลิน
ด้วยแรงระเบิดของลูกไฟ ทำให้อัศวินนอนไปกองบนพื้นพร้อมกับชุดเกราะที่พังยับเยิน
ส่วนอัศวินที่อยู่ใกล้เคียงต่างกรีดร้องโหยหวนจากแผลไฟไหม้
ณ ตอนนั้นเอง แพรตต์ได้ชักดาบออกมาและสั่งการให้อัศวินกว่า 100นาย เข้าทำการโจตีอัศวินของทีรอธ แม้ว่าจะมีจำนวนที่น้อยกว่าแต่พวกเขาก็มีจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ลุกโชน นอกจากนี้พวกเขายังได้การสนับสนุนจากเมอร์ลินที่เป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ ทำให้พวกเขาเอาชนะได้อย่างง่ายดายและมีอัศวินบางส่วนได้ทิ้งอาวุธและหนีไป
ปราสาทวิลสันในตอนนี้เต็มไปด้วร่างของอัศวินและคนรับใช้ของปราสาทวิลสัน สภาพไม่ต่างจากนรกบนพื้นเลย
“คุณชายเมอร์ลิน”
แพรตต์ได้เดินมาหาเมอร์ลินพร้อมกัยชุดเกราะที่เปียกโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าของเขาก็มีเลือดเปื้อนเช่นกัน ไม่รู้ว่ามันเป็นเลือดของศัตรูหรือของเขาเอง
“เจอเธอมั้ย?”
“คุณชายเมอร์ลิน ผมได้ทำการตรวจสอบศพทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่พบศพของคุณหนูเมซี่ส์เลย นอกจากนี้ยังไม่พบศพของพ่อบ้านและมาดามด้วย” แพรตต์กล่าวอย่างโล่งอก
ตราบใดที่ยังไม่พบศพแสดงพวกเขายังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้ทีรอธได้นอนอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาขาวซีดเพราะเขากลายเป็นเชลยของเมอร์ลิน
เมอร์ลินจ้องมองทีรอธและยิ้มอย่างเย็นชา เขาหันกลับมาพูดกับแพรตต์ว่า “ลุงแพรตต์ ผมจะฝากทีรอธกับคุณ ผมอนุญาตให้ลุงทำอะไรก็ได้ตามที่ลุงต้องการเลย”
“คุณชายเมอร์ลินโปรดไว้วางใจ สำหรับชีวิตทั้ง 148ของคนในปราสาท ผมจะจัดการชำระหนี้จากเขาเอง”
ทีรอธที่ได้ยินอย่างเขาก็เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวขึ้นมา
เมอร์ลินไม่สนใจทีรอธอีกต่อไป เขามุ่งตรงไปยังห้องของเลห์แมน เขาพอจะเดาได้ว่าเมซี่ส์และคนอื่น ๆ คงจะไปซ่อนตัวที่นั่น…
“ทำไมไม่มีเสียงอะไรเลย”
เมซี่ส์ที่ยังซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินได้พูดขึ้นมาเบา ๆ เธอได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากก่อนหน้านี้แต่อยู่ ๆ เสียงพวกนั้นก็หายไปอย่างกะทันหัน
พ่อบ้านได้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “คุณหนูเมซี่ส์ เราควรรออีกสักหน่อย อาจมีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาอาจไปที่อื่นชั่วคราว เราควรอยู่เฉย ๆ ที่นี่เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
เมซี่ส์พยักหน้าเห็นด้วย เธอได้ค่อย ๆ ผ่อนคลายร่างกายลง หลังจากที่ตึงเครียดมาพักใหญ่
*ครึ่ก! ครึ่ก!*
ทันใดนั้นเอง ทางเข้าห้องใต้ดินได้ถูกเปิดออกช้า ๆ
“แย่แล้ว พวกเขาเจอที่ซ่อนแล้ว!!”
เมซี่ส์หายใจเข้าลึก ๆ และตั้งดาบขึ้น เธอพร้อมที่จะสู้จนตัวตายและพาพวกเขาตายพร้อมกับเธอด้วย
ร่างหนึ่งได้เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ เมซี่ส์ได้พุ่งเข้าโจมตีอย่างไม่ลังเล เธอได้พุ่งเข้าไปแทงเบื้องหน้าอย่างดุเดือด
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame