A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 43
รถม้ายังคงเคลื่อนที่ต่อไป แม้เมอร์ลินจะไม่ออกไปมองข้างนอกแต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้มันเคลื่อนด้วยความเร็วสูงโดยเขารับรู้ได้จากแรงสั่นสะเทือนภายในรถม้า
*แคร๊ง!! ครืดดดด*
ทันใดนั้นรถม้าก็ได้หยุด ประตูรถม้าได้ถูกเปิดออกสายลมหนาวได้พัดเข้ามา
“ท่านพ่อ” เมอร์ลินมองอย่างสงสัยเพราะคนที่เปิดประตูออกคือเลห์แมน พ่อของเขา
เลห์แมนพยักหน้าเล็กน้อยและปืนเข้าในไปรถม้า ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วเขาดูดีขึ้นมาก
“ท่านพ่อ อาการบาดเจ็บเป็นอย่างบ้าง?” เมอร์ลินไปที่บาดแผลที่ท้องของเลห์แมน
“พ่อไม่เป็นไร มันก็แค่ถาก ๆ เท่านั้น” เลห์แมนกล่าวเล็กน้อย ก่อนจะเงียบไป เขาจ้องมองเมอร์ลินชั่วขณะและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เมอร์ลิน ลูกก็โตมากแล้วและสามารถดูแลครอบครัวได้ พ่อมีบางอย่างที่จะบอกกับลูก”
“อะไรเหรอครับ ท่านพ่อ”
“มันเกี่ยวข้องกับแผนการใหญ่ของพวกศาสนจักร ลูกมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้” เลห์แมนกล่าวด้วยแววตาที่จริงจัง
เมอร์ลินส่ายหัวออกมา เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาพอจะเดาได้ว่ามันต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแน่นอน ไม่อย่างนั้นเลห์แมนคงไม่เร่งรีบกลับเมืองถึงขนาดนี้
สำหรับศาสนจักรแล้ว พวกเขาเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงส่งในอาณาจักรแห่งแสง รวมไปถึงอาณาจักรเล็ก ๆ อีกสองสามแห่งที่เชื่อในเทพแห่งแสง โดยพวกเขาจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของประชาชนในอาณาจักรทั้งหมด
เมอร์ลินคิดไม่ตกว่าเหตุใดที่ทำให้ทางโบสถ์เทพแห่งแสงถึงต้องการจะยึดครองเมืองเล็ก ๆ อย่างแบล็กวอเตอร์และดูเหมือนพวกเขาจะวางแผนกันมาเป็นอย่างดีด้วย
“เรื่องนี้เป็นความลับที่ลับมากที่สุดเท่าที่พ่อพอจะรู้มา ในหลายปีมานี้อิทธิพลของศาสนจักรนั้นทรงอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากจะมีอิทธิพลแล้วพวกเขายังมีกองกำลังเป็นของตัวเองด้วย ด้วยเรื่องนี้จึงทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจระหว่างราชวงศ์กับศาสนจักร แต่เนื่องด้วยพวกโบสถ์เติบโตเร็วเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้ดึงพวกขุนนางระดับกลางและระดับล่างจำนวนมากมาเข้าเป็นพวกจึงทำให้อำนาจของศาสนจักรนำหน้าราชวงศ์ไปแล้ว”
เมอร์ลินพยักหน้า เขาคิดว่ากองกำลังของศาสนจักรคงจะเป็นพวกนักรบศักดิ์สิทธิ์ นอกจากจะมีแต่นักดาบแสงแล้วก็ยังมีนักดาบธาตุอื่น ๆ เต็มใจที่จะอยู่ภายใจโบสถ์ นั่นจึงเหตุผลที่ทำให้กองกำลังของพวกเขาขยายไปได้ไกลขนาดนี้
“ความทะเยอทะยานของพวกโบสถ์นั้นไม่อาจหยุดยั้งได้และในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเริ่มสำแดงแสนยานุภาพแล้ว แม้ว่าพ่อจะไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงแต่พ่อพอจะคาดเดาได้ว่า พวกศาสนจักรต้องการจะโค่นล้มราชวงศ์แห่งแสงและตั้งตัวเองเข้ามาปกปรองอาณาจักรแทน”
สีหน้าของเมอร์ลินได้ตกตะลึงทันทีที่ได้ฟังเสร็จ เขาได้นึกถึงบางประเทศที่เขารู้จักซึ่งพวกเขาได้ใช้กฎศาสนามาใช้ในการปกครองประเทศ
ดูเหมือนว่าจุดมุ่งหมายของศาสนจักรจะไม่ต้องการเป็นเพียงผู้นำทางจิตวิญญาณอีกต่อไปแต่ต้องการที่จะก้าวเข้ามาปกครองอาณาจักรอีกด้วย
ตอนนี้อาณาจักรแห่งแสงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว
เมื่อเห็นการแสดงออกของเมอร์ลิน เลห์แมนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
“เมอร์ลิน อีกเดี๋ยวจะเกิดความโกลาหลขึ้นในอาณาจักร พวกเราต้องรีบกลับไปที่เมืองแบล็กวอเตอร์ให้เร็วที่สุด เราต้องช่วยทุกคนที่อยู่ในปราสาทวิลสัน”
ความทะเยอทะยานของศาสนจักรนั้นอาจนำภัยมาสู่ตระกูลของเขา ดังนั้นโอดล์จึงต้องการรีบกลับไปช่วยเมซี่ส์ มาดามหน้าอกใหญ่ พ่อบ้านและบริวารคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในเมืองแบล็กวอเตอร์และหนีไปยังที่ปลอดภัย
เมอร์ลินแปลกใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเลห์แมนจะไม่พูดเรื่องที่เขาเป็นพ่อมดเลย เขาทำราวกับลืมเรื่องนั้นไปแล้ว
แต่ถึงยังเมอร์ลินก็รู้วึกว่าเขาจำเป็นต้องเล่าเรื่องนี้ในพ่อของเขาฟัง
“ท่านพ่อครับ อาจารย์ของผมนั้นพ่อมดจากอาณาจักรแบล็กมูนแต่ตอนนี้เขาได้ตายไปแล้วด้วยน้ำมือของพ่อมดจากโบสถ์”
จากนั้นเมอร์ลินก็อธิบายเรื่องราวของชายชราอีธานให้โลก์ฟัง
“เมอร์ลิน พ่อต่อสู้กับอาณาจักแบล็กมูนมาเป็นเวลาหลายปี พ่อได้เห็นพวกพ่อมดมากมายที่นั่น พวกเขาล้วนมีพลังที่แข็งแกร่งเหนือคนทั่วไป แม้แต่นักดาบธาตุก็ไม่อาจต่อกรได้ มีเพียงพ่อมดเท่านั้นที่จะสามารถสู้กับพ่อมดได้” เลห์แมนหยุดพูดชั่วคราว จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “พ่อภูมิใจมากนะที่ลูกได้เป็นพ่อมด พ่อเชื่อว่าลูกจะช่วยให้ตระกูลของเราอยู่รอดปลอดภัย”
หลังจากที่เลห์แมนกล่าวเสร็จ เขาก็หันหลังและออกจากรถม้า
เมอร์ลินได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดีที่พ่อของเขาพบเห็นอะไรมากมาย เขาจึงมีทัศนคติที่แตกต่างจากที่ทางศาสนจักรคาดหวังให้เป็น
เขาไม่ได้มองว่าพ่อมดเป็นคนนอกรีตที่ชั่วร้ายแต่มองว่าเป็นผู้แข็งแกร่งมีที่พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่
เมอร์ลินได้เปิดม่านกั้นออก เขามองเห้นท้องฟ้าที่ค่อย ๆ มืดลง อัศวินหลายเริ่มจุดคบไฟให้แสงสว่าง
หากพวกเขาเดินทางต่อด้วยความเร็วประมาณนี้ พวกเขาจะถึงเมืองแบล็กวอเตอร์ในวันพรุ่งนี้
ตอนนี้เมอร์ลินรู้สึกหมดแรงอย่างมากเนื่องเขาได้ใช้พลังจิตจำนวนมากในการสร้างคาถาที่สองขึ้นมา เขาจึงเอนตัวไปนอนและหลับตาเพื่อพักผ่อน
เขาจำเป็นต้องฟื้นพลังเวทย์กับพลังจิตให้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะถึงเมืองในวันพรุ่งนี้
…
เมืองแบล็กวอเตอร์ เช้าวันนี้หิมะก็ยังตกลงมาเช่นเคย มันชั้นน้ำแข็งเกาะอยู่ตามบ้านเรือน
สิ่งที่แตกต่างจากเดิมคือถนนแทบจะไร้ผู้คนราวกับเมืองร้างเลย
ตรงประตูเมือง มีผู้มากมายยืนอออยู่ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดเป็นพ่อค้ารายย่อย ทุกคนต้องการจะออกไปข้างนอกเมืองแต่ด้วยเหตุบางอย่างจึงทำให้ประตูถูกปิดอย่างแน่นหนา
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมประตูไม่เปิด”
“เมื่อคืนฉันเห็นอัศวินหลายคนเข้ามาข้างใน ฉันก็ไม่รู้เหมือนว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ประตูจะเปิดเมื่อไหร่”
หลายคนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้แต่ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงในการปิดประตูครั้งนี้
“ระหรือจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่เมืองแบล็กวอเตอร์…”
บางคนที่ฉลาดและมีประสบการณ์ พวกเขารู้ตัวทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นและรีบกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame