A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 439
Chapter 439 : แพ็คเกจก่อสร้างพื้นที่กินอาหารกลางแจ้ง!
ลูกค้ารอบ ๆ พากันหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ตัวเธออ้วนท้วนและน่ารักมากจนเป็นไปไม่ได้เลยที่คนจะไม่ชอบเธอ
เด็กผู้หญิงเปิดตาข้างหนึ่งขึ้นอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ เพื่อแอบดูพ่อของเธอก่อนที่จะหลับตาลงในทันทีเมื่อพบว่าพ่อของเธอกําลังมองมาที่เธอ รอยยิ้มจนใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนเป็นพ่อในขณะที่เขาหันไปมองไอศกรีมในมือของเคนนี่เขาลังเลอยู่ไม่นานก่อนที่จะยอม “เอาล่ะกินพุดดิ้งเต้าหูนี้ก่อนจากนั้นก็กินข้าวผัดสักหน่อยแล้วพ่อจะสั่งไอศกรีมให้”
“จริงเหรอคะ?” เด็กผู้หญิงลืมตาขึ้นมามองพ่อของเธอในทันที
“พ่อเคยโกหกหนูด้วยเหรอ?” ชายคนนั้นมองเธอด้วยรอยยิ้ม
“เย้! ขอบคุณค่ะพ่อ!” เด็กผู้หญิงรีบลุกขึ้นนั่งแล้วรับช้อนมาจากพ่อของเธอก่อนที่จะตักพุดดิ้งเต้าหูคําใหญ่เข้าปากในทันที
หวังว่าตอนกลับไปถึงบ้านฉันจะไม่ต้องคุกเข่าบนกระดานซักผ้านะ คนเป็นพ่ออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นในขณะที่เขามองไปที่ลูกสาวตัวน้อยของเขา เขาไม่สามารถปฏิเสธเธอได้เลยดังนั้นเธอจึงได้รับสิ่งที่เธอต้องการเสมอ
งั้นนี่ก็คือรสชาติของไอศกรีมราคา 200 เหรียญทองแดงสินะ มันแตกต่างจากบิสกิตที่ขายในราคาหนึ่งเหรียญทองแดงโดยสิ้นเชิง มีอาหารที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อแบบนี้อยู่ในโลกนี้จริงๆถ้าฉันมีเงินมากพอฉันจะกินอีกสัก 10 อย่างเลย หลังจากที่กินไอศกรีมจนหมดเคนนี้ก็มองกรวยกระดาษในมือของเขาด้วยสีหน้าโหยหาเล็กน้อยเขาหยิบกระเป๋าเงินของเขาออกมาก่อนที่จะยกมือขึ้นเพื่อแสดงท่าทีว่าเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินแล้ว
“นี่ครับ 200 เหรียญทองแดง” เมื่อแซลลี่เดินเข้ามาเคนนี่ก็ส่งกระเป๋าเงินของเขาให้เธอด้วยท่าที่ประหม่าเล็กน้อย คงไม่มีลูกค้าคนไหนของร้านอาหารที่จะจ่ายค่าอาหารด้วยเหรียญทองแดงจํานวนมากขนาดนี้อีกแล้ว
“สักครู่นะคะ” แซลลี่รับกระเป๋าเงินของเขามาและเริ่มนับเหรียญทองแดงข้างใน หลังจากนั้นเธอก็เก็บเหรียญทองแดงทั้งหมดลงในกระเป๋าใบเล็กแล้วพยักหน้าให้เคนนี่ในขณะที่เธอพูด “200 เหรียญทองแดงครบค่ะ”
“ขอบคุณครับ” เคนนี่พยักหน้าก่อนที่จะรับกระเป๋าเงินเปล่ากลับแล้วเดินออกจากร้านมาเมื่อเขามองกลับไปที่ร้านอาหารเขาก็ยิ้มออกมาและพูดกับตัวเองอย่างจริงจัง “ฉันจะเป็นช่างทําผมที่ดีที่สุดในร้านและกลายเป็นช่างทําผมที่ดีที่สุดในเมืองเคออสให้ได้ เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะมากินอาหารทั้งสามมื้อที่นี่ทุกวันเลย”
หลังจากสัญญากับตัวเองเคนนี่ก็จากไปและรีบกลับไปที่ร้านทําผมที่เขาทํางานอยู่
หลังจากที่จบมื้อเช้า ลูกค้าหลายคนที่ลองกินไอศกรีมก็ยอมสยบให้กับของหวานที่เย็นฉ่ําชนิดนี้ถึงแม้ว่าความเย็นของมันจะไม่ส่งผลอะไรมากนักในตอนเช้าแต่พวกเขาก็หยุดกินมันไม่ได้!
ในขณะที่ดิคัสกําลังจะจ่ายเงินค่าอาหารเขาก็หันไปหาแม็กซ์และถามว่า “คุณแม็กซ์ ผมอยากจะเอาไอศกรีม ลับไปฝากลูกชายของผม ผมซื้อมันกลับไปได้มั้ย?”
“เป็นไปได้ถ้าคุณเป็นนักเวทน้ําแข็ง แต่ไอศกรีมจะละลายเร็วมากในอุณหภูมิปกติดังนั้นเราจึงไม่ขายมันแบบกลับบ้าน คุณสามารถพาเขามาที่นี่ได้ในวันหยุด” แม็กซ์ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“เข้าใจล่ะ ดูเหมือนว่าผมคงต้องทําแบบนั้นล่ะ” ดิคัสพยักหน้าด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยกนิ้วให้แม็กซ์และพูดว่า “คุณแม็กซ์ ร้านอาหารของคุณจะกลายเป็นร้านที่โด่งดังที่สุดในลานเอเดนอย่างแน่นอน”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” แม็กซ์ตอบรับด้วยรอยยิ้มบาง
หลังจากที่หมดช่วงเวลาอาหารเช้แซลลี่และยาเบะมิยะก็ออกจากร้านอาหารไปพร้อมกันเพราะว่าพวกเธอวางแผนที่จะไปซื้อเสื้อผ้าด้วยกัน
หลังจากที่พวกเธอออกไปแม็กซ์ก็เปิดประตูและมองไปที่พื้นที่ว่างด้านนอกในขณะที่เขาถามระบบในใจ “ระบบพื้นที่บริเวณหน้าร้านอาหารเป็นของฉันแล้วนับว่าฉันทําภารกิจเสร็จแล้วใช่มั้ย?”
ร้านอาหารมามี่ตั้งอยู่ที่มุมในสุดทางตะวันตกของลานเอเดนและห่างจากคุกบาสเทียแค่กําแพงสูงห้าเมตรกั้น
แน่นอนว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ติดกับคุกบาสเทียแต่มันก็ยังมีระยะห่างระหว่างอาคารทั้งสองกว่า 20 เมตรและมีการปลูกต้นไม้เพื่อบังสายตาเอาไว้ถึงสองแถวใกล้ ๆ กับกําแพงทําให้มองเห็นได้ไม่ชัดนักว่าร้านอาหารอยู่ติดกับคุก
สําหรับระบบความปลอดภัยภายในนั้น หลังกําแพงสูงเป็นคูน้ําที่ลึก 10 เมตรและมีกับดักที่อันตรายถึงชีวิตอยู่นับไม่ถ้วนถัดจากคูน้ําไปยังมีกําแพงกั้นอยู่อีกห้าชั้นล้อมคุกบาสเที่ยข้างในเอาไว้
นอกจากนี้คุกบาสเทียยังแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนบนดินและส่วนใต้ดิน ส่วนบนดินเป็นที่คุมขังของอาชญากรระดับต่ําซึ่งก่ออาชญากรรมมาค่อนข้างน้อย อาชญากรที่ทรงพลังทั้งหมดหรือผู้ที่ก่ออาชญากรรมที่โหดเหี้ยมมามากจะถูกขังไว้ในส่วนใต้ดิน ส่วนที่ลึกที่สุดของเรือนจํานั้นลึกแค่ไหนนั่นคือสิ่งที่มีแค่ผู้คุมและท่านเจ้าเมือง เท่านั้นที่รู้
ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับ 10 ที่ทรงพลังก็ไม่สามารถหลบหนีออกมาจากคุกบาสเทียได้นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจํานวนอาชญากรระดับ 10 ในคุกบาสเทียนั้นมีจํานวนมากถึงสองหลักและส่วนใหญ่เป็นอาชญากรสงครามจากสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นอาชญากรที่ก่อคดีร้ายแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ไม่มีใครในทวีปนอร์แลนด์ที่กล้าท้าทายกฎหมายของเมืองเคออสและนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมอาชญากรระดับ 10 ถึงถูกขังอยู่ในคุกบาสเทียมานานหลายปี
เมื่อ 15 ปีก่อนท่านโรแลนด์จากวิหารสีเทาเคยนําทีมผู้อาวุโส 10 คนไล่ล่าอาชญากรระดับ 10 จากเมืองเคออสไปจนถึงเกาะมังกรซึ่งที่นั่นเป็นที่ที่อาชญากรถูกฆ่าตาย แต่ทั้งกลุ่มก็ถูกล้อมและขังอยู่ที่นั่นหลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองไมเคิลก็ระดมกองกําลังทั้งหมดเพื่อโจมตีเกาะมังกร กองทัพนําโดยเขาและอาจารย์ใหญ่โนแวนและในที่สุดเกาะมังกรก็พ่ายแพ้และถูกบังคับให้ปล่อยตัวพวกเขาออกมา
หลังจากเหตุการณ์นั้นกฎหมายของเมืองเคออสก็กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งทวีปนอร์แลนด์และไม่มีใครกล้าเมินเฉยอีก
หลังจากนั้นก็มีกฎถูกเพิ่มเข้ามาในเมืองเคออสโดยระบุว่ามังกรทุกตัวที่มีระดับต่ํากว่า 9 จะต้องกลายร่างเป็นมนุษย์ก่อนที่จะเข้าเมืองเคออสและพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นมังกรในขณะที่อยู่ภายในเมืองยกเว้นว่าจะมีเหตุการณ์อะไรพิเศษเกิดขึ้น ไม่งั้นพวกเขาจะถูกขับไล่ออกจากเมืองและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองเคออสไปตลอดกาล
แม็กซ์ละความสนใจจากกําแพงคุกบาสเทีย พูดได้ว่าผู้นําที่มีความสําคัญทุกคนในเมืองเคออสนั้นเป็นนักอุดมคติมาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเมืองผู้ต้องการให้ผู้คนเท่าเทียมกันและต้องการสร้างเมืองให้เป็นที่หลบภัยของทุกคนหรือว่าเป็นครูใหญ่ที่ต้องการนําการศึกษามาสู่ทุกคน พวกเขาพยายามทําให้อุดมคติและความเชื่อของพวกเขากลายเป็นจริงโดยไม่สนว่าคนอื่นในโลกจะคิดว่ายังไง
ต้องยอมรับเลยว่าถ้าไม่มีพวกเขาเมืองเคออสแห่งนี้ก็จะไม่ใช่สถานที่ที่น่าดึงดูด รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม็กซ์
พื้นที่ระหว่างกําแพงคุกและร้านมีความกว้างประมาณห้าถึงหกเมตรซึ่งเพียงพอสําหรับการวางชุดโต๊ะสี่ที่นั่ง
“ติ้ง! ขอแสดงความยินดีกับการได้รับสิทธิ์ในการตั้งพื้นที่กินอาหารกลางแจ้ง!คุณปฏิบัติตามข้อกําหนดและพื้นที่สามารถรองรับที่นั่งได้ถึง 16 ที่นั่งดังนั้นภารกิจจึงเสร็จสมบูรณ์!รางวัลภารกิจ:แพ็คเกจก่อสร้างพื้นที่กินอาหารกลางแจ้ง!”เสียงของระบบดังขึ้น
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ดังนั้นแม็กซ์จึงสั่งระบบในใจ “เอาล่ะงั้นตอนนี้ก็สร้างให้ฉันเลยแล้วกัน”
“ขออภัย ร้านอาหารมีระดับต่ําเกินไปดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่จะขยายตัว” ระบบตอบด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูน่ารังเกียจ