A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 422
Chapter 422 : ถ้านายเลี้ยงฉันจะไป
“อื้มม เข้าใจแล้วค่ะ เมื่อหนูโตขึ้นหนูจะเอาชนะคนเลวคนนี้ด้วยตัวเอง!” เอมี่พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจังเธอหยิ่งเหรอ?
ไม่ เธอแค่มั่นใจ
ทั้งอาจารย์และศิษย์ต่างก็เป็นคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกัน
กลุ่มปีศาจและมังกรมองดูเอมและมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา สาวน้อยที่ที่อายุแค่สามหรือสี่ขวบคนนี้กําลังจะกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในอนาคตอันใกล้
เธอเป็นคนที่อูเรี่ยนและครัสซูยอมรับเป็นลูกศิษย์ การที่ทําให้คู่ปรับตลอดการทั้งสองคนยอมร่วมมือกันได้เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเธอไม่ใช่เด็กน้อยที่ไร้ความสามารถ
ฟ็อกซ์กัดฟันด้วยความเจ็บปวดและไม่กล้ามองไปที่เอมและอูเรี่ยนอีกเพราะว่าเขากลัวว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
ย้อนกลับไปตอนที่เขาเจอกับอูเรี่ยนเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนเวทมนตร์น้ําแข็งที่ทรงพลังของอเรี่ยนนั้น ทําให้เขาชอกช้ํามาก ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นและมีความมั่นใจว่าช่องว่างระหว่างพวกเขาได้ลดลงไปมากแล้ว แต่หลังจากที่ถูกกระแทกลงไปกับพื้นด้วยฝ่ามือเดียวเขาก็สัมผัสได้ถึงความห่างชั้นที่ไม่สามารถไล่ตามได้
ยังไงซะอูเรี่ยนกับครัสซูก็ต้องตาย เมื่อถึงเวลานั้นไม่มีทางที่เด็กเหลือขอนจะมีพลังมากพอที่จะจัดการกับฉัน…สายตาของฟ็อกซ์เต็มไปด้วยความดุร้ายในขณะที่เขาคิดกับตัวเอง ฉันจะทรมานเธอและพ่อของเธอจนกว่าจะตาย!
ไมเคิลวางธนูของเขาไว้ในรถม้าก่อนที่จะกระโดดลงมาด้วยรอยยิ้ม “อูเรี่ยน คุณจะเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ มั้ย?”
“นายคิดว่าฉันดูเหมือนปีศาจไม่ก็มังกรเหรอ?” อูเรี่ยนตอบคําถามของไมเคิลอย่างกวน ๆ
“ไม่ว่าเมื่อไหร่คุณก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขันเหมือนเคยเลยนะ ดูเหมือนว่าครั้งหน้าฉันจะต้องเชิญคุณไปดื่มด้วยกันซะแล้วสิ” ไมเคิลหัวเราะเบา ๆ
“ถ้านายเลี้ยงฉันจะไป” อูเรี่ยนตอบอย่างไร้อารมณ์ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ร้านน้ํายาเวทมนตร์ของเขา
ความเย็นยะเยือกในอากาศลดลงในทันทีที่เขาจากไป ทุกคนพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถึงแม้ว่าตัวแทนของเผ่ามังกรและเผ่าปีศาจจะเคยเจอกับสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่มีระดับ 10 มามากแต่พวกเขาไม่เคยรู้สึกกดดันแบบนี้มาก่อนในชีวิต
“ฉันขอโทษสําหรับเหตุการณ์นี้ด้วยนะแม็กซ์ ฉันควรจะส่งคนจากปราสาทเจ้าเมืองมาล่วงหน้าเพื่อต้อนรับแขกพวกนี้” ไมเคิลหันมาหาแม็กซ์ด้วยสีหน้าขอโทษ
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่หวังว่าคุณจะระมัดระวังในการเลือกแขกมาที่ร้านอาหารของผมให้มากกว่านี้ มีแขกบางคนที่ที่นี่เราจะไม่ต้อนรับ” แม็กซ์พยักหน้าอย่างสงบ เขาไม่ได้โกรธแต่เขาก็ไม่ยอมให้มันผ่านไปเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในย่านที่อยู่อาศัยสําหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิตไมเคิลมีงานยุ่งมาก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทําไมเขาถึงลืมส่งคนมาที่ร้านอาหารของเขาล่วงหน้า
“ฉันจะทําให้แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” ไมเคิลพยักหน้าก่อนที่จะหันไปมองฟอกซ์ที่กําลังพยายามลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่เขาพูดเตือน “ฟ็อกซ์ ตอนนี้คุณถือว่าเป็นตัวแทนของเผ่ามังกรดังนั้นผมจะไม่ไล่คุณไป แต่ผมขอเตือนคุณนะว่าที่นี่คือเมืองเคออส คุณต้องปฏิบัติตามกฎของเมืองเคออส เราให้ความสําคัญกับความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก เพราะงั้นถ้าคุณทําแบบนี้อีกปราสาทเจ้าเมืองและวิหารสี เทาจะไม่มีความปราณีใด ๆ อีก”
สีหน้าของฟ็อกซ์อึมครึมลงแต่สุดท้ายเขาก็ต้องก้มหน้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่มีอํานาจอย่างไมเคิล “ผมเข้าใจแล้วครับ”
ไมเคิลมองมือที่มีเลือดออกของฟ็อกซ์แล้วพูดต่อ “ถ้าอาการบาดเจ็บของคุณรุนแรงเกินไปคุณไม่ต้องเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมสามารถเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ได้” ฟ็อกซ์ส่ายหน้าในขณะที่เขากวาดมือซ้ายผ่านมือขวาและเสกน้ําแข็งมาปกคลุมแผลของเขาเอาไว้และทําให้ดูเหมือนว่าเขาสวมถุงมือที่ทํามาจากน้ําแข็ง
อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของฟ็อกซ์ไม่ได้จํากัดอยู่แค่รูที่มือ ไม่งั้นเขาคงจะพึ่งแค่ความสามารถในการฟื้นตัวที่มีอยู่ในตัวของมังกรเพื่อรักษาแผลของเขาแทนที่จะใช้น้ําแข็งเพื่อปิดผนึกมันเอาไว้ชั่วคราว
ไมเคิลเหลือบมองมือของฟ็อกซ์ก่อนที่จะหันมาหาแม็กซ์ด้วยรอยยิ้ม “แม็กซ์ พวกเราเข้าไปกันเลยได้มั้ย?”
“ได้ครับ” แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและจูงมือเอมี่เดินเข้าไปในร้าน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบฟ็อกซ์แต่เขายอมให้ไมเคิลจองร้านอาหารทั้งร้านแล้วดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะขัดขวางพวกเขาเพราะว่าเรื่องก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นก็มีรถม้าอีกสองสามคันที่มีตราสัญลักษณ์ของปราสาทเจ้าเมืองมาถึง เมื่อพวกมันจอดเจ้าหน้าที่สองสามคนที่มีกองเอกสารอยู่ในอ้อมแขนก็รีบลงมาและวิ่งมาที่ร้านอาหาร
ร้านอาหารไม่ได้ใหญ่มากแต่การตกแต่งนั้นดูดีมาก ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าทําไมท่านเจ้าเมืองไมเคิลถึงเลือกที่นี่เป็นสถานที่จัดการประชุม แดรกคูล่าเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาในร้านอาหาร
“ยินดีต้อนรับค่ะ” ยาเบะมิยะทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ได้ยินคําพูดของจิงซ์ก่อนหน้านี้เธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอรู้สึกดีมากที่มังกรทองไม่ได้ดูถูกลูกครึ่งมังกรเพราะว่าพ่อของเธอเป็นมังกรทอง
แซลลี่พยักหน้าเพื่อแสดงท่าที่ว่าต้อนรับพวกเขา เธอไม่ได้ชอบแวมไพร์ที่กระหายเลือดมากนักแต่ก่อนหน้านี้แดรกคูล่าพยายามที่จะช่วยแม็กซ์และเอมีดังนั้นเธอมีความประทับใจที่ดีกับเขา
“สวัสดีคนสวย ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าทําไมท่านเจ้าเมืองไมเคิลถึงเลือกที่จะจัดการประชุมที่นี่ ที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านอาหารที่ได้รับการตกแต่งมาเป็นอย่างดีแต่ยังมีพนักงานเสิร์ฟที่สง่างามและสวยงามอยู่ที่นี่ด้วย” ตาของแดรกคูล่าเป็นประกายขึ้นมาในทันทีที่เขาเห็นพวกเธอทั้งสองคน เขาโค้งคํานับเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเพื่อทักทายพวกเธอ
หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในร้านอาหารแล้วไมเคิลก็หันไปมองแม็กซ์ด้วยสีหน้าขอบคุณ “แม็กซ์ ขอบคุณสําหรับสิ่งที่นายทําเพื่อครอบครัวของคนงานเหมืองที่เสียชีวิตเมื่อเช้านี้นะ นายช่วยชีวิตคนเอาไว้มากและนําแสงสว่างมาสู่เมืองนี้”
แม็กซ์มองไมเคิลด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่เขาพูด “ผมแค่ผ่านทางไปเท่านั้น ปราสาทเจ้าเมืองและวิหารสีเทาต่างหากครับที่เป็นคนช่วยเหลือพวกเขาจริง ๆ อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะทําให้คนที่มีชีวิตถูกกดขี่รู้ว่าพวกเขาไม่ควรยอมแพ้และตราบใดที่พวกเขาขอความช่วยเหลือใครบางคนจากภายนอกจะเต็มใจยื่นมือเข้าไป ช่วยเหลือพวกเขา”
“นายมีคําแนะนํามั้ยว่าฉันควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?” ไมเคิลมองแม็กซ์ด้วยสีหน้าจริงจัง คําพูดที่แม็กซ์ ฝากแบรนลี่มาบอกเขาทําให้เขาตกใจอย่างมาก นี่ไม่ใช่คําพูดที่พ่อครัวธรรมดาจะพูดออกมาได้
แม็กซ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ “ผมไม่คิดว่าพวกมันเป็นคําแนะนําหรอกนะครับ พวกมันเป็นแค่ความคิดเห็นของผมเท่านั้น ผมคิดว่าปราสาทเจ้าเมืองและวิหารสีเทาน่าจะสร้างองค์กรร่วมที่มีหน้าที่รับการร้องเรียนจากสาธารณะ ถ้าคนในเมืองได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมพวกเขาสามารถไปที่องค์กรนั้นเพื่อยื่นรายงานและขอความช่วยเหลือได้แทนที่จะยอมรับชะตากรรมและรอความตาย แน่นอนว่าเพื่อให้องค์กรนี้ประสบความสําเร็จปราสาทเจ้าเมืองและวิหารสีเทาจะต้องรักษาความเป็นกลางและคอยตรวจสอบกันและกัน ไม่งั้นมันจะกลายเป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยการโกงและสร้างความเสียหายต่อคนในเมืองของเราเพิ่มอีก”