ไหปีศาจ - บทที่ 1092 ดวงตามรณะ
บทที่ 1092
ดวงตามรณะ
ในป่าหวงชา
เวลาจะทำให้หลายอย่างเจือจางลง
เช่น คราบเลือดบนผืนทรายสีเหลืองทั่วทั้งทะเลทราย
แต่มีหลายอย่างที่ไม่จางหาย เช่น สิ่งที่อยู่เบื้องหลังคราบเลือดเหล่านี้
ผ่านการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ดูเหมือนว่าเจตจำนงของมนุษย์ทั้งหมดจะรวมกันเป็นหนึ่ง และทุกที่ก็เตรียมที่จะต่อสู้กับนรกมนตราอย่างแข็งขัน
แม้ว่าจะมีเสียงจากความไม่ลงรอยกันเป็นครั้งคราว แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ระงับมันไว้ได้
มนุษย์แบบนี้ช่างน่ากลัวและแข็งแกร่ง
มีบรรยากาศจาง ๆ ของการปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์นับหมื่นในสมัยโบราณ
ในวันนี้ในป่าหวงชา
จู่ ๆ ชายชราที่มีเคราสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นและลอยอยู่ในอากาศ เขาถือไม้เท้าและมีผมสีขาว
อารมณ์เหมือนเซียนในตำนาน
มีเต่าสีทองขนาดเท่าฝ่ามือติดตาม
ไม่ว่าชายชราจะก้าวไปข้างหน้าเร็วอย่างไร มันก็ยังสามารถก้าวตามเขาได้
”เจ้ากำลังจะทำอะไร?” เต่าสีทองถาม
ชายชราพูดอย่างแผ่วเบา “ด้วยพลังของเจ้า เจ้าคงสามารถปลดผนึกกิเลนได้”
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเกลียดมนุษย์จริง ๆ นะ”
“บาปทั้งหมดเกิดจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถ้าไม่มีมนุษย์ โลกก็จะสงบสุขอย่างแท้จริง”
เต่าสีทองส่ายหัว “ข้ารู้จักเจ้ามา 20,000 ปี วิธีการของเจ้าวิเศษมาก แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ เจ้าก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าความยืดหยุ่นของมนุษย์นั้นน่ากลัวมากแค่ไหน”
“ไม่ ข้าไม่เชื่อหรอก พวกมนุษย์ได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว”
“ใช่ พวกเขาทำได้แค่ฆ่าตัวตายเท่านั้นแหละ ข้าก็ไม่ค่อยยินดีกับการกระทำของเจ้าหรอก แต่ข้าจะช่วยเจ้าเป็นครั้งเห็นแก่ที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี” เต่าสีทองกล่าว
เห็นได้ชัดว่าเต่าสีทองตัวนี้ไม่ธรรมดา
อายุอย่างน้อยก็ 20,000 ปี
และมันก็เท่าเทียมกับภูติไห ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
คนหนึ่งคนและเต่าหนึ่งตัวมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของ ป่าหวงชา
หลังสงครามครั้งใหญ่ โลกก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง และพลังชีวิตก็แทบจะหายไป มันไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่เป็นเหมือนทะเลทรายที่รกร้างว่างเปล่า
ในใจกลางทะเลทราย ทะเลทรายสีเหลืองค่อย ๆ ควบแน่นตรากิเลนขนาดใหญ่
ตรากำลังลอยขึ้นมา แสดงให้เห็นทรายดูดที่แปลกประหลาด
นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เฮาทิ้งไว้บนโลก
มันถูกใช้ผนึกปรมาจารย์ปีศาจแปดตน
“อันที่จริง ข้าคิดว่าไปทำลายผนึกอีกอันมันอาจจะมีประโยชน์มากกว่า” เต่าสีทองพูดขึ้นมาทันที
ภูติไหส่ายหัว “ไม่ ผนึกนั่นไม่เสถียรมาก มันจะพังได้ทุกเมื่อ ซึ่งมันไม่จำเป็นเลย และมนุษย์ก็ได้เตรียมการรับมือมากมาย ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมีโอกาสรอดไปได้เป็นครั้งที่สอง”
เป็นการดีกว่าที่จะเปิดผนึกแปดปรมาจารย์ปีศาจ
เต่าสีทองไม่ได้พูดอะไรอีก
ลวดลายลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมันเริ่มลอยออกมา ราวกับกลายเป็นวัตถุ แล้ววาดออกไประหว่างสวรรค์และโลก เปล่งความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวออกมา
ตรากิเลนสั่นสะเทือน
มันมีความสามารถในการปลดผนึกกิเลนจริง ๆ
ในขณะนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น
“ในที่สุดเจ้าก็โผล่ออกมาภูติไห!”
จู่ ๆ ลั่วอู๋ก็ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า เบื้องหลังก็มีกลุ่มของพวกเขาอยู่กันครบทุกคน
ต่อจากนั้นก็มีผู้ที่ทรงพลังขนาดที่ทำให้มิติสั่นสะเทือนได้ปรากฏขึ้น
ผู้บัญชาการหลิงหลง หลงเซีย และหลี่ชิ
ว่าที่สามระดับจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏตัวขึ้น
ภูติไหขมวดคิ้วเล็กน้อย “เป็นไปได้ยังไง?”
สามคนนี้ควรจะเก็บตัวอยู่ พวกเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ถ้าพวกเขาไม่รู้แผนการทั้งหมดนี้อยู่ก่อน พวกเขาจะตอบสนองได้อย่างไร
ลั่วอู๋จ้องไปที่ภูติไห “ข้าเดาไว้ว่าเจ้ากำลังจะทำลายผนึก ถ้าเจ้าไม่รู้สึกว่าปลอดภัยจริงเจ้าก็จะไม่เคลื่อนไหวแบบนี้ ผู้บัญชาการหลิงหลงและหลงเซี่ยยังคงติดต่อกับโลกภายนอกแม้ว่าพวกเขาจะเก็บตัวอยู่ก็ตาม”
ภูติไหเป็นปัญหาร้ายแรง
ถ้าเราไม่จัดการเขา ก็จะมีภัยระดับนรกมนตราอื่นแน่นอน
ดังนั้นลั่วอู๋จึงเตรียมรับมือกับภูติไห
และวันนี้ก็เป็นวันที่จะลงมือ
“เป็นความผิดของข้าจริง ๆ ที่จัดการเจ้าไม่ทันเวลา” ภูติไหพูดเบา ๆ
แม้แต่ในเวลานี้ เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย
ลั่วอู๋ยิ้มเยาะ
เขาไม่ต้องการจัดการเขาด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ ภูติไหไม่สามารถลงมือด้วยตัวเองได้
“หึ ยังไงครั้งนี้ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าหนีไป” ลั่วอู๋จ้องไปที่ภูติไหและพูดว่า “กลับไปอยู่ในไหปีศาจเสียเถอะ”
ดวงตาของภูติไหกวาดสายตามองผู้คนทั้งหมด “ระดับกึ่งจักรพรรดิถึงสามคนเลย ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่นี่ยังไม่เพียงพอที่จะกำจัดข้าหรอกนะ”
หลังจากนั้นเต่าสีทองก็ยืนขึ้น
“ข้าบอกแล้วว่าจะช่วยเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย” เต่าสีทองกล่าว
“ข้ารู้แล้ว” เขาตอบ
เป็นผลให้เต่าสีทองขยายตัวและกลายเป็นเต่ายักษ์ที่น่ากลัว มันสูงถึง 100 เมตร ดูงดงามมาก โดยเฉพาะกระดองเต่าที่เป็นสีทอง ในชั่วพริบตา ดูเหมือนโลกทั้งใบจะเปลี่ยนไป
ผู้บัญชาการหลิงหลงรู้สึกประหลาดใจ
“ซวนหวู่รึ?” หลงเซี่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ผู้บัญชาการหลิงหลงและหลี่ชิส่ายหัว
คนหนึ่งมีพลังของพยัคฆ์ขาว อีกคนก็มีพลังของมังกรแก่นแท้ และพวกเขาก็คุ้นเคยกับซวนหวู่มาก ตรงหน้าพวกเขาคือเต่าตัวใหญ่ทรงพลังและไม่ธรรมดา แต่ก็ยังแตกต่างจากซวนหวู่ในตำนานอยู่เล็กน้อย
และซวนหวู่ก็มีรูปร่างเหมือนเต่าผสมงู ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เต่าตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเราแน่นอน
และลั่วอู๋ก็เคยชินกับมัน
ทุกครั้งที่เขาได้พบภูติไห เขาก็มีสัตว์ประหลาดอยู่รอบตัวเสมอ
หลายปีผ่านไป เขาไม่รู้ว่าเขาได้เจอสัตว์ร้ายมากี่ตัวแล้ว
เขาสามารถใช้พลังวิเศษของเขาเองเพื่อทำข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวได้ตลอดเวลา
เต่าสีทองพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าก็เป็นหนี้ภูติไหก้อนใหญ่อยู่ ได้โปรดอย่าจัดการเขา มิฉะนั้นข้าคงจะต้องลงมือ”
เต่าสีทองตัวนี้มีกลิ่นอายที่น่ากลัวราวกับกำลังจะถล่มท้องฟ้าทั้งหมด มีพลังในการย้อนกลับหยินและหยางได้ทุกเมื่อ
มันอยู่ห่างจากระดับจักรพรรดิที่แท้จริงเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น
โดยพื้นฐานแล้วพลังการต่อสู้ของมันเทียบเท่ากับจักรพรรดิเทียม
“หึ เจ้าคงไม่คิดว่าเราจะกลัวเจ้าหรอกนะ” ผู้บัญชาการ หลิงหลงกล่าวอย่างกับไม่เคยรู้ว่าความกลัวคืออะไร
แม้แต่ตอนเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้า พวกเขาก็ไม่ถอย
ตอนนี้จะมากลัวเต่าตัวใหญ่ได้อย่างไร
พวกผู้บัญชาการหลิงหลงสามมือด้วยกัน และเข้าต่อสู้กับเต่าตัวใหญ่
ด้วยความโกลาหลของโลกบนหลังของมัน เต่ายักษ์ทำให้ทั้งทะเลทรายสั่นสะเทือน แม้แต่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวบนท้องฟ้าก็สั่นสะท้าน แม้ว่ามันจะตัวใหญ่ แต่มันก็สามารถบดขยี้ทุกสิ่งได้
และทั้งสามคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
หมัดแห่งความโกลาหลเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งหมัดที่ยิ่งใหญ่ ฝ่าฝืนกฎแห่งสวรรค์และโลก
ดาบพยัคฆ์ขาวรวบรวมพลังวิญญาณแห่งการสังหารสัตว์ร้าย และฟันศัตรูทั้งหมด
การแปลงกายมังกร มังกรทั้งห้าตัวรวมกลับเป็นหนึ่ง ปรากฏพลังของมังกรแก่นแท้อีกครั้ง และทุบจักรวาล
ลมปราณแห่งความสยดสยองผัวพันกัน
นี่คือสถานที่ที่ตั้งผนึก หรือก็คือมันจำกัดการทุ่มพลังของพวกผู้บัญชาการหลิงหลงสามคน มิฉะนั้นทุกสิ่งจะแตกสลายออกอย่างสมบูรณ์และมีโอกาสมากที่จะไปทำลายตรากิเลนด้วย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ภูติไหก็รู้ว่าแผนของวันนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจากไป
”หยุดนะ!” ลั่วอู๋กระตุ้นไหปีศาจ ไหทองแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นทั่วท้องฟ้า ปล่อยบรรยากาศอันกว้างใหญ่ออกมา “เข้าไปซะ”
แต่ภูติไหก็หลุดพ้นจากแรงดูดของไหปีศาจได้อย่างง่ายดายและทำลายมิติทันที
“คราวหน้าข้าจะพยายามฆ่าเจ้าก่อน” ภูติไหจ้องลั่วอู๋
ดวงตาของลั่วอู๋เปลี่ยนเป็นสีแดงและหัวเราะในทันใด “เจ้าไปแตะดวงอาทิตย์ยังง่ายกว่าหาวันที่จะฆ่าข้าได้เสียอีก”
วินาทีถัดมา อีกาสีดำตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา ทั้งร่างของเขาเป็นสีดำ และดวงตาของเขาเป็นสีแดง ราวกับว่ามันเป็นสัญญาณแห่งความตายที่เขาไม่มีทางหนีรอดไปได้
สัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูง อีกามรณะ
ทักษะระดับ S [ดวงตามรณะ]
ทักษะนี้ไม่มีพลังพิเศษอะไร
แต่มันสามารถทิ้งเครื่องหมายที่ลบไม่ได้บนตัวคู่ต่อสู้
ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถหนีไปจากสายตาของผู้ร่ายได้
นี่คือไพ่ใบสำคัญของลั่วอู๋
อีกามรณะเป็นสัตว์วิญญาณที่หายาก และความแข็งแกร่งของมันก็ไม่สูง ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครรู้จัก ลั่วอู๋ค้นพบวิธีนี้เพื่อจัดการกับภูติไหหลังจากตรวจสอบข้อมูลมากมาย
เขามีความสามารถในการหลบหนีมากมายไม่ใช่รึ?
งั้นดวงตามรณะนี้ก็สามารถเปลี่ยนทักษะหลบหนีทั้งหมดของเขาให้กลายเป็นเงาตามตัวได้
ใบหน้าที่สงบนิ่งของภูติไหเปลี่ยนไปในที่สุด
เพราะเขาพบว่าตัวเองไม่สามารถหนีไปด้วยมิติได้